GE446 โอสถมิติ [ฟรี]
ด้วยความแข็งแกร่งของหนิงฝานยามนี้ เขาสามารถสังหารอสูรดวงจิตแรกเริ่มได้ในพริบตา
เมื่อสังหารวาฬมังกรจนหมด เขาโบกมือ นำเอาแก่นอสูรของพวกมันทั้งหมดมาเก็บเอาไว้
คนของเผ่าปีศาจยักษ์ยังคงตกตะลึงจนไม่กล้าหายใจ
พวกมันทุกคนรู้จักซัวหมิง รู้ว่าเป็นตัวตนที่ไม่มีผู้ใดในทะเลไร้สิ้นสุดกล้ายั่วยุ เหตุใดพวกมันจะไม่รู้จัก
นอกจากชื่อเสียงในทะเลไร้สิ้นสุดแล้ว สถานะผู้อาวุโสแห่งวิหารพิรุณ และผู้ที่ได้รับความเมตตาจากหยุนเทียนเฉว ยิ่งทำให้สถานะของหนิงฝานดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก
ยิ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยังมีข่าวลืออีกเรื่องเกี่ยวกับหนิงฝาน นั่นคือเขาเป็นพันธะมิตรกับตระกูลซัว นั่นยิ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญในทะเลไร้สิ้นสุดหวาดกลัวหนิงฝานเข้าไปอีก
ทั้งวิหารพิรุณ ทั้งตระกูลซัว สองขุมกำลังที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังหนุนหลังซัวหมิง!
จากผู้ไม่มีชื่อเสียงใดๆในทะเลไร้สิ้นสุด ค่อยๆไต่เต้าก้าวมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดคนที่ 8 ของทะเลส่วนใน นอกจากนี้ ยังมีข่าวลืออีกว่า ซัวหมิงสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดัแปลงในการต่อสู้ของเผ่าหกปีก ยิ่งทำให้ชื่อเสียงในด้านลบของเขาน่ากลัวยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เผ่าหกปีกยังได้ปล่อยข่าวต่างๆนาๆของหนิงฝานออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นหนิงฝานเข้าร่วมเผ่าหกปีกบ้าง เป็นผู้ปกครองของเผ่าหกปีกบ้าง สังหารลู่เจี่ยเฟินที่ผสานดวงจิตกับทาสจนบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงบ้าง มีทาสไร้ดัดแปลงอยู่ 4 ตนบ้าง และอีกสารพัด...
นั่นทำให้ทุกคนในทะเลไร้สิ้นสุดรู้จัก และหวาดกลัวหนิงฝานอย่างที่สุด
นอกจากทาสแล้ว ยังมีสาวงามที่เป็นกำลังให้หนิงฝาน ซึ่งนางคนเดียวแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 4 คน
ดังนั้นต่อให้เป็นขุมกำลังใหญ่ หรือมีประวัติยาวนานแค่ไหน ก็ไม่ผู้ใดกล้ายั่วยุหนิงฝาน
ความตายของลู่เจี่ยเฟินทำให้วังผนึกอสูรของมันถูกลบออกจากทะเลไร้สิ้นสุดถาวร
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน จึงเหลือเพียง 7 คนอีกครั้ง
เซ่าชวนและคนเผ่าปีศาจยักษ์ คาดไม่ถึงว่าพวกตนจะได้เห็นผู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างหนิงฝานด้วยตาตัวเองแบบนี้
การที่พวกมันได้พบหนิงฝานนับเป็นเรื่องดี เพราะจากชื่อเสียงแล้ว หนิงฝานไม่ได้แตกต่างจากเผ่าปีศาจอย่างพวกมัน
เซ่าชวนพยายามขบคิดถึงสาเหตุที่หนิงฝานยื่นมือช่วย และคิดออกได้เพียง 3 ข้อ
หนึ่ง คือหนิงฝานต้องการโสมน้ำแข็ง 3 หมื่นปี จึงตั้งใจจะสังหารพวกมันทั้งหมดเพื่อช่วงชิง
สอง คือหนิงฝานเพิ่งสังหารลู่เจี่ยเฟินและทำลายรากฐานของวังผนึกอสูรไป ซึ่งเป้าหมายต่อไปก็คือเผ่าปีศาจ เหตุที่ยื่นมือเข้าช่วยพวกมันจึงสมควรเป็นเพราะ จะอ่านความทรงจำเพื่อล้วงความลับ
และสาม หนิงฝานชื่นชอบการเข่นฆ่า แต่คร้านที่จะสังหารในแบบทั่วไป จึงได้เล่นกับพวกมัน โดยเก็บพวกมันไว้สังหารสุดท้าย
ในทะเลไร้สิ้นสุดแห่งนี้ ผู้ที่ฝึกฝนจนบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มหรือแก่นทองคำได้นั้น ย่อมไม่ใช่คนโง่ เซ่าชวนคิดได้ถึง 3 ข้อนั้น มันก็ยิ่งหวาดกลัว
มันได้ดีใจเพียงชั่วครู่ว่ารอดจากวาฬมังกร แต่กลับไม่อาจรอดพ้นจากมือหนิงฝานได้
แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดว่าการที่หนิงฝานยื่นมือช่วย ไม่ได้เป็นเพราะอยากสังหารพวกมัน
แต่ก็ไม่แปลกที่ผู้คนมักจะคิดแบบนั้น เพราะชื่อเสียงของหนิงฝานชวนให้คิดแบบนั้น ไหนจะเข่นฆ่าศัตรูราวกับผักปลา ไหนจะมีวิธีสังหารที่โหดเหี้ยม
“ใครเป็นผู้นำพวกเจ้า?” หนิงฝานกล่าวถามพลางจ้องมองคนเหล่านั้นด้วยสายตาเย็นชา แววตาของเขาราวกับมองทะลุจิตใจของพวกมัน
“พวกข้าคือคนของเผ่าปีศาจยักษ์ รับหน้าที่หาสมุนไพร… ข้ามีนามว่า เซ่าชวน เป็นผู้นำกลุ่ม พวกข้าต้องขอบคุณท่านหมิงจริงๆที่ช่วยชีวิตพวกข้าเอาไว้”
เมื่อได้ยินหนิงฝานกล่าวถาม ยังไม่ได้ลงมือสังหารอย่างที่มันคิดไว้ มันจึงเร่งกล่าวและคารวะอย่างนอบน้อม มันสัมผัสได้ว่าหนิงฝานไม่ได้ตั้งใจจะสังหารพวกมัน แม้ไม่รู้ว่าหนิงฝานทำไปเพราะเหตุใด แต่มันก็ยังรู้สึกดีใจ
คนอื่นๆจึงสะกดความกลัว และเร่งคารวะหนิงฝานตาม
“พวกเจ้ารู้จักข้าด้วยเหรอ?” หนิงฝานประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าชื่อเสียงในทะเลไร้สิ้นสุดของเขาจะดังขนาดนี้
“ชื่อของท่านรู้จักไปทั่วโลกใบนี้ ฉะนั้น จะมีใครในทะเลไร้สิ้นสุดที่ไม่รู้จักท่าน” เซ่าชวนกล่าว
หนิงฝานนิ่งเงียบและหันมองไปยังโสมน้ำแข็ง 3 หมื่นปีที่อยู่บนไหล่เซ่าชวน
เซ่าชวนหัวใจเต้นรัว มันเริ่มวิตกว่าหนิงฝานอยากจะได้โสมของมัน
“เจ้าบอกว่าจะเอาโสมน้ำแข็ง 3 หมื่นปีไปรักษาคุณหนูของเจ้าเหรอ? คุณหนูของเจ้าคือฟงฉุ่ยเยวียนหรือเปล่า?” หนิงฝานกล่าวถาม
“ขอรับ” มันตอบพลางก้มหน้า หากหนิงฝานอยากได้สมุนไพรจริงๆ มันคงไม่กล้าขัด
“นางป่วยเป็นอะไร?”
“อาการป่วยของนางค่อนข้างแปลก อยู่ๆร่างกายของนางก็ร้อนผ่าวโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องหาสิ่งที่เย็นอย่างโสมน้ำแข็งมาดับร้อน ยามนี้ท่านชวี่ได้เทียบเชิญคนของเกาะโอสถมาโดยมีเงื่อนไขว่า หากผู้ใดสามารถสามารถปรุงโอสถรักษานางได้ จะได้ ‘โอสถมิติ’ เป็นรางวัล… โสมน้ำแข็งที่ข้าหามาได้นี้สามารถช่วยรักษาอาการของนางได้เพียงชั่วคราว ข้าต้องขอท่านหมิง อย่าได้คิดช่วงชิงสมุนไพรนี้ไปเลย...” เซ่าชวนกล่าว จากที่มันได้พูดคุยกับหนิงฝาน มันสัมผัสได้ว่าหนิงฝานไม่ได้เลือดเย็นอย่างที่ได้ยิน ดังนั้นมันจึงกล่าวออกไปตรงๆว่าไม่อยากให้หนิงฝานชิงสมุนไพรไป
แต่สิ่งที่มันไม่รู้ คือหนิงฝานไม่ได้สนใจสมุนไพรของมันแม้แต่น้อย
ฟงฉุ่ยเยวียนเป็นพี่สาวที่สู่ฉุ่ยหลิงนับถือ หากโสมน้ำแข็งนั่นช่วยรักษานางได้ เหตุใดหนิงฝานต้องช่วงชิง สิ่งที่หนิงฝานสนใจคือโอสถมิติมากกว่า
เพื่อจะช่วยเหลือฟงฉุ่ยเยวียนแล้ว ท่านชวี่ได้ร้องขอนักปรุงโอสถจากเกาะโอสถไป โดยมีรางให้เป็นโอสถมิติ
โอสถมิติคือโอสถผันแปรที่ 6 ขั้นกลาง จะช่วยให้ผู้ที่ถึงจุดตีบตัน ทะลวงจุดตีบตันได้ และยังช่วยเพิ่มความเข้าใจในพลังมิติด้วย
หากผู้ที่กินโอสถนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น จะทำให้บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ไม่ยาก แต่หากผู้ที่กินเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลาง จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ยกระดับไปยังขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงได้ง่ายขึ้น
คาดไม่ถึงว่าท่านชวี่จะยอมนำโอสถล้ำค้าแบบนั้นออกมาเพื่อช่วยบุตรสาวของตน
ระหว่างทางที่มา หนิงฝานก็พบนักปรุงโอสถอยู่หลายคน พวกมันต่างเร่งมุ่งหน้ามายังเผ่าปีศาจยักษ์ หากหนิงฝานจำไม่ผิด นักปรุงโอสถเหล่านั้นทรงพลัง มีทั้งนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 และ 4
“โอสถมิติ… เยว่เอ๋อร์เองก็ถึงจุดตีบตันในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นแล้ว อีกก้าวเดียวนางจะบรรลุขั้นกลาง ข้าต้องเอาโอสถนั่นมาให้เยว่เอ๋อร์”
“ฟงฉุ่ยเยวียนเป็นพี่สาวของฉุ่ยหลิง ต่อให้ข้าไม่เห็นแก่หน้าฉุ่ยหลิง ยังไงข้างก็ต้องเข้าร่วมงานปรุงโอสถเพื่อช่วยนางอยู่แล้ว ยิ่งงานครั้งนี้มีโอสถมิติเป็นรางวัล ข้ายิ่งไม่พลาด”
“แต่ว่า… เผ่าปีศาจยักษ์ที่ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเผ่าปีศาจอื่นๆถึงกลับเผยว่าตนเองมีโอสถมิติ นับว่ากล้าหาญไม่น้อย… โอสถระดับนี้ในโลกพิรุณมีเพียงไม่กี่คนที่ปรุงได้ หากเรื่องนี้ทราบไปถึงหูของบางขุมกำลังในโลกพิรุณ พวกมันคงเร่งมาช่วงชิง เผ่าปีศาจยักษ์ไม่กลัวเหตุการณ์แบบนั้นหรือไง?”
“แต่ในเมื่อมันกล้าทำแบบนั้น แสดงว่าเผ่าปีศาจยักษ์คงไม่ธรรมดาอย่างที่คิด...” ดูเหมือนหนิงฝานจะต้องระวังเผ่าปีศาจยักษ์เอาไว้บ้าง
หากเทียบกับเผ่าเนตรปีศาจและเขาคู่ หนิงฝานรู้สึกว่าเผ่าปีศาจยักษ์น่าจะทรงพลังกว่า เพียงแต่พวกมันเก็บตัวเงียบ ไม่ทำอะไรเอิกเริกเหมือนสองเผ่านั่น
“เจ้าวางใจเถอะ ข้าและเผ่าปีศาจมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ข้าไม่คิดชิงสมุนไพรของเจ้าหรอก แต่ว่า ข้าอยากได้ข้อมูลของงานปรุงโอสถ ข้าเองก็เป็นนัปรุงโอสถคนหนึ่ง อยากให้เจ้าสลักข้อมูลลงในแผ่นหยกให้ด้วย...”
“ขอรับ! ผู้เยาว์จะทำให้ผู้อาวุโสทันที!”
เมื่อรู้ว่าหนิงฝานไม่ได้คิดสังหาร และไม่ได้คิดช่วงชิงโอสถไปจากพวกมัน เซ่าชวนก็มีความสุขเป็นอย่างมาก มันเร่งนำแผ่นหยกที่สลักข้อมูลงานปรุงโอสออกมาแล้วยื่นให้หนิงฝาน
เดิมทีเซ่าชวนไม่เชื่อว่างานปรุงโอสถจะดึงดูดนักปรุงโอสถที่เก่งกาจได้มากพอ เพราะการปรุงโอสถไม่ได้ง่ายขนาดนั้น น้อยนักที่จะมีคนสนใจ ผู้คนส่วนใหญ่จึงสนใจฝึกวิชาเสียมากกว่า ย่อมไม่อาจสงบใจฝึกฝนการปรุงโอสถได้
ดังนั้นเรื่องที่หนิงฝานเป็นนักปรุงโอสถมันจงไม่ค่อยเชื่อ แต่ถึงหนิงฝานจะพูดอะไร ขอแค่ไม่สังหารมันก็พอแล้ว ดังนั้นมันจึงมองข้อมูลของงานให้อย่างไม่ลังเล
หนิงฝานรับแผ่นหยกมายังไม่ได้อ่าน แต่กลับต้องขมวดคิ้ว
บนท้องนภาทางตะวันตก มีเสียงเย้ยหยันดังมา
“โอ้! ที่แท้สหายเต๋าซัวหมิง ผู้อาวุโสคนใหม่แห่งวิหารพิรุณ เจ้าเองก็มาร่วมงานปรุงโอสถด้วยเหรอ?”
“คาดไม่ถึงว่าศิษย์ของเทพกระบี่อาภรณ์ขาวจะยอมทิ้งกระบี่ แล้วหันมาปรุงโอสถแทน… น่าสนใจจริงๆ”
“นับถือ… นับถือ… ไม่รู้ว่าการปรุงโอสถของท่านหมิงบรรลุระดับไหนแล้ว… ผันแปรที่ 2 หรือ 3? ฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้ดูแคลนท่านนะ การปรุงโอสถต้องปรุงด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ปีศาจที่รู้จักแต่การเข่นฆ่าสังหารไม่อาจก้าวเดินในเส้นทางของการปรุงโอสถได้หรอก”
ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย เอื้อมมือคว้าจับไปบนท้องนภา เปลวเพลิงสีดำก่อตัวเป็นกรงเล็บ ฉีกกระชากหมู่เมฆที่อำพรางกาย
กรงเล็บเพลิงทมิฬทรงพลังเทียบเท่าการจู่โจมของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น น้ำในทะเลรัศมีแสนลี่ปั่นป่วน มิติรอบข้างถูกฉีก เงาร่างของชายชรา 5 เผยสีหน้าตกตะลึง!
พวกมันทั้ง 5 คือนักปรุงโอสถที่โดดเด่นของวังสวรค์แดง ที่ผู้ติดตามขององค์ชายเจ็ด แต่ละคนเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ขั้นสูงสุด อีกเพียงก้าวเดียวจะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5
ก่อนที่หนิงฝานจะได้เป็นผู้อาวุโสวังสวรรค์ของหยุนเทียนเฉว เขาสังหารคนของวังสวรรค์แดงไป ทำให้พวกมันชอบมาหาเรื่องเขา
แม้พวกมันจะไม่กล้าแก้แค้นซึ่งหน้า แต่พวกมันก็มักจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามเสมอ
แม้พวกมันจะเป็นนักปรุงโอสถระดับสูง แต่ระดับพลังไม่นับเป็นอันใด อยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงเท่านั้น
การจู่โจมทีทรงพลังของหนิงฝานเมื่อครู่ พวกมันไม่มีทางรอด
พวกมันก็กำลังจะมุ่งหน้าไปยังเผ่าปีศาจยักษ์ แต่เมื่อผ่านมา พวกมันเห็นหนิงฝานกำลังช่วยเซ่าชวน แต่เมื่อพวกมันจดจำหนิงฝานได้ จึงอยากพูดจาถากถางก่อนจะไป
แต่ไหนแต่ไร วังสวรรค์แดงขององค์ชายเจ็ดและ และวังสวรรค์ของหยุนเทียนเฉวก็ไม่ถูกกันอยู่แล้ว จึงมักมีเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆ
แต่การถากถางของพวกมันจะนำมาซึ่งการถูกสังหาร ทำให้พวกมันไม่กล้าพูดจาแบบนั้นอีก
มันโหดเหี้ยม! มันบ้าเหมือนหยุนเทียนเฉว! มันสามารถสังหารคนได้ในทันที คนที่น่ากลัวอย่างมันจะยั่วยุไม่ได้เด็ดขาด
หากพวกมันรู้ว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมขนาดนี้ พวกมันจะไม่ล้อเลียนเด็ดขาด
ในชั่วพริบตานั้นเอง ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์พุ่งผ่านท้องนภามา แรงกดดันของฝ่ามืออยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง เข้าปะทะกับกรงเล็ยของหนิงฝาน
“ฝ่ามือเพลิงไร้ลักษณ์!”
หนิงฝานเคยเห็นวิชานี้และเคยได้ศึกษา มันคือวิชาระดับไร้ดัดแปลงขั้นต้นของวิหารพิรุณ แม้ระดับของวิชาไม่ได้สูงมาก แต่หากอยู่ในมือของผู้ที่ควบคุมเพลิงได้อย่างดี มีความเข้าใจในวิชา ย่อมทำให้ฝ่ามือทรงพลังกว่าทั่วไปมาก
หากเจ้าของฝ่ามือเมื่อครู่บรรลุวิชาขั้นสูง น่าจะสู้กับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นสูงได้
ฝ่ามือสีทองและกรงเล็บเข้าปะทะกันดังสนั่น พลังทั้งสองสายหักล้างกันไป
ชายชราในอาภรณ์สีทองปรากฏตัวเบื้องหน้านักปรุงโอสถทั้ง 5 เมื่อชายชราหันไปมองคนของตน พบว่าทั้งหมดล้วนบาดเจ็บสาหัส แววตาจึงแปรเปลี่ยนเย็นชา
แม้ชายชราจะช่วยชีวิตคนของตนเอาไว้ได้ แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
ชายชราจ้องมองหนิงฝานด้วยสายตาเย็นชา
“ข้าคือคนของวังสวรรค์แดง ส่วนเจ้าคือคนของวังสวรรค์… พวกนี้แค่พูดจาไม่ดี ถึงกับจะต้องฆ่าแกงเลยหรือไง!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คนของเจ้าซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆ ล้อเลียนถากถางผู้อื่น เท่ากับจงใจหาเรื่อง ต่อให้ตายก็สมควรแล้ว”
“ฮึ่ม! ปากดีนักนะเด็กน้อย ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งทัดเทียมขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น แต่สำหรับข้ายังไม่ควรค่าให้กล่าวถึง หากกษัตริย์พิรุณไม่ออกคำสั่งว่าห้ามลงมือกับเจ้า ป่านนี้ข้าคงสั่งสอนเจ้าไปแล้ว”
ชายชรากล่าวพลางนำคนของมันไปยังเผ่าปีศาจยักษ์
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ชายชราเมื่อครู่แข็งแกร่งทัดเทียมราชามังกร หากมันไม่สอดมือเข้ามายุ่ง เขาคงสังหาร 5 คนนั้นไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็ดี เพราะอย่างน้อยพวกมันทุกคนก็บาดเจ็บสาหัส
หากใครก็ตามที่รนหาที่ตาย เขาก็ไม่เกี่ยงที่จะฆ่าพวกมัน
“วังสวรรค์แดง...”
ดูเหมือนความขัดแย้งระหว่างวังสวรรค์และวังสวรรค์แดงจะซับซ้อนกว่าที่คิด
เขารู้ว่าบางครั้งหยุนเทียนเฉวก็ถูกกษัตริย์พิรุณทำโทษ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ในวังของหยุนเทียนเฉวจะถูกคนของวังอื่นไม่พอใจเช่นเดียวกัน
แม้จะกล่าวว่าวิหารพิรุณคือขุมกำลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งในโลกพิรุณ แต่ข้างในก็เน่าเฟะเช่นกัน
ในขณะที่หนิงฝานขบคิด เซ่าชวนที่อยู่ใกล้ๆก็นิ่งอึ้ง
ทั้งมันและคนของมันเห็นหนิงฝานลงมือหมายสังหารคนของวังสวรรค์แดง กรงเล็บเพลิงเมื่อครู่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว พวกมันเกือบจะได้เห็นการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงแล้ว
ไกลออกไป หลิงคงและเฟินซื่อสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังที่รุนแรง พวกนางจึงเร่งตามมา
เมื่อมาถึง พวกนางมองหนิงฝานด้วยสายตาเป็นกังวล
การปรากฏตัวของพวกนางทำให้คนของเผ่าปีศาจยักษ์ตกตะลึงซ้ำ และเร่งก้มหน้าไม่กล้ามอง
หากไม่ใช่คนเสียสติ ย่อมมองออกว่าสตรีสองคนนี้เป็นของหนิงฝาน แล้วแบบนั้น ใครเล่าจะกล้ามอง?
“แตงกวาน้อย เกิดอะไรขึ้น! ข้าสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลัง อีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็อยู่จุดสูงสุดของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง”
“เจ้าวางใจเถอะ แค่เรื่องเล็ก… คนของหมาเฒ่านั่นหาเรื่อง ข้าก็เลยกัดมันกลับเท่านั้น”
หนิงฝานยิ้ม เขาไม่ได้เล่าว่าอีกฝ่ายเป็นของวิหารพิรุณ แล้วหันกลับไปกล่าวกับเซ่าชวน
“พวกข้าต้องไปเผ่าปีศาจยักษ์ คงต้องรบกวนสหายน้อยนำทางให้”
“ขอรับ! ได้นำทางให้ท่านหมิง นับเป็นเกียรติของข้ายิ่งนัก!”
สหายน้อย...หนิงฝานเรียกเซ่าชวนว่าสหายน้อย
อายุกระดูกของหนิงฝานเพียง 500 ปี แต่เซ่าชวนปาเข้าไป 1000 ปีแล้ว
ในโลกของผู้ฝึกตนจัดลำดับความอาวุโสด้วยระดับพลังก่อน จากนั้นจึงเป็นอายุกระดูก ดังนั้นการที่หนิงฝานเรียกเซ่าชวนว่าสหายน้อยจึงไม่นับเป็นเรื่องผิด
เซ่าชวนเร่งจัดการนำเอาซากร่างของคนในเผ่า และซากร่างของวาฬมังกรกลับเผ่าไปด้วย
สำหรับหนิงฝานแล้ว ร่างของอสูรเหล่านี้ไม่เป็นประโยชน์ แต่สำหรับเซ่าชวน นับเป็นวัสดุที่สามารถนำไปทำเป็นสมบัติได้
ก่อนจะออกเดินทาง เซ่าชวนได้นำเรือลำหนึ่งออกมา เพื่อพาหนิงฝานโดยสารไป
แต่เมื่อได้เห็นความเร็วของมันที่อยู่ในระดับดวงจิตแรกเริ่ม หนิงฝานจึงส่ายหน้า
“เรือของพวกเจ้าช้าเกินไป”
หนิงฝานสะบัดมือ เปลวเพลิงสีดำปรากฏขึ้นโดยรอบ โอบอุ้มเอาคนทั้งหมดมุ่งไปยังเผ่าปีศาจยักษ์อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาไม่ได้ใช้ปีก แต่ความเร็วก็เกือบจะใกล้เคียงขอบเขตไร้ดัดแปลง
ความเร็ว 7 หมื่นลี้ของเขาทำให้คนของเผ่าปีศาจยักษ์ตื่นเต้น ตั้งแต่เกิดมาพวกมันเคยได้สัมผัสกับความเร็วระดับนี้มาก่อน ประสบการณ์ในครั้งนี้จึงนับว่าล้ำค่ากับพวกมันมาก
พวกมันจินตนาการว่าหากหนิงฝานเร่งความเร็วเต็มกำลัง จะเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดไหน
“แตงกวาน้อย เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” หลิงคงเห็นหนิงฝานกำลังครุ่นคิดจึงกล่าวถาม
“ข้าคิดถึงเรื่องของเผ่าปีศาจยักษ์ และคิดถึงฉุ่ยหลิง” หนิงฝานยังคงไม่เข้าใจในเผ่าปีศาจยักษ์ เขารู้ว่าเผ่าปีศาจยักษ์ยังเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้
เมื่อได้ยินว่าหนิงฝานกำลังคิดถึงสตรีอื่น หลิงคงขมวดคิ้วและแทบอยากจะเยียบเท้าหนิงฝาน
“ข้าคิดเรื่องของเจ้าด้วย… ข้าจะนำของขวัญบางอย่างมาให้เจ้า” หนิงฝานขบคิดเรื่องงานโอสถด้วย
“ของขวัญอะไร?” เมื่อได้ยินว่าหนิงฝานจะนำของขวัญมาให้ ใบหน้าไม่พอใจก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม แตงกวาน้อยกลับรู้วิธีเอาใจนาง
“ความลับ” หนิงฝานไม่บอก ปล่อยให้นางต้องคาดเดาต่างๆนาๆ ซึ่งนางไม่พอใจ
นางไม่อยากจะเชื่อว่าสตรีที่ทรงพลังอย่างนางจะต้องมาอยู่ใต้อาณัติของหนิงฝาน... ดูเหมือนคืนนี้นางคงต้องสั่งสอนเขาแล้วว่าอย่าแกล้งนางแบบนี้!