ตอนที่ 60 หนึ่งเดือน หมีทลายพสุธา
หนึ่งเดือนไม่นับเป็นอันใดสำหรับนักเชิดหุ่นที่มีอายุขัยโดยเฉลี่ยหนึ่งร้อยกว่าปี แต่หนึ่งเดือนที่ศิษย์ห้องเรียนคนเถื่อนใช้เวลาในเทือกเขาไร้ขอบเขตคือหนึ่งเดือนที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!
“พี่ใหญ่เฟย เราพบรังมันแล้ว!”
โม่ข่ารีบวิ่งมาหาป๋ายเสี่ยวเฟย ความตื่นเต้นมีให้เห็นทั่วใบหน้า เทียบกับโม่ข่าผู้ไร้ความมั่นใจหนึ่งเดือนก่อน ใบหน้ายามนี้ของเขามีร่องรอยของการเติบโตเล็กน้อย ทุกอิริยาบถไม่ปรากฎให้เห็นความเยาว์วัยอีกต่อไป
“อยู่ที่ไหน?”
ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกประหลาดระคนดีใจ เขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เพราะอย่างไรเสียเขาก็มีประสบการณ์มากอยู่แล้ว
“ประมาณห้ากิโลเมตรทางทิศตะวันออกจากที่นี่ หวู่จื๋อและฟางเย่กำลังเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่!”
โม่ข่าไม่กล่าววาจาไร้สาระสักคำ นิสัยเหลาะแหละเลอะเทอะไม่มีให้เห็นแม้แต่ร่องรอย
“ส่งสัญญาณเรียกทุกคน พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้! ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้มันหนีไปได้!”
เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยจบ โม่ข่าหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่มีรูปลักษณ์ประณีตออกมา และเมื่อเขาดึงลง แสงสีขาวแพรวพาวพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภาฉีกทะลวงกระชากอากาศเสียงดังบาดหู
ไม่ถึงสามนาที อีกสิบสองคนที่เหลือมารวมตัวกันทีละคน ทีละคน นอกจากหวู่จื๋อและฟางเย่ที่กำลังเฝ้าสังเกตุการณ์แล้ว เมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขา ความแตกต่างของทั้งกลุ่มในยามนี้กับเดือนก่อนชัดเจนเป็นอย่างมาก
บนใบหน้าทุกคนล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ การได้ใช้ชีวิตในเทือกเขาไร้ขอบเขตเป็นเวลาหนึ่งเดือนช่วยขัดเกลาให้พวกเขายืดหยุ่นปรับตัวกับสถานการณ์โดยรอบได้ไวและขจัดสิ่งที่ไม่ควรมีออกไป
“หวู่จื๋อและฟางเย่พบหมีทลายพสุธาสองตัว วันนี้เป็นวันสุดท้ายและพวกเราต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้ได้!”
สุ้มเสียงของป๋ายเสี่ยวเฟยแฝงความเกลียดแค้น คนอื่นที่เหลือไม่ต่างไปจากเขาเท่าใดนัก
หมีทลายพสุธา สัตว์อสูรระดับวิญญาณ ส่วนใหญ่จะอยู่ด้วยกันสองตัว ถึงแม้พวกมันจะเป็นหมีแต่กลับมีความเจ้าเล่ห์ที่หมีไม่ควรมี ยิ่งกว่านั้นพวกมันถึกทนและแรงเยอะเป็นอย่างมาก ทำให้พวกมันเป็นดั่งราชันของสัตว์อสูรระดับต่ำ
ยิ่งกว่านั้น หมีทลายพสุธาสองตัวนี้ได้ปะทะกับกลุ่มป๋ายเสี่ยวเฟยสามคราแล้ว!
ครั้งแรกคือครึ่งเดือนก่อนตอนที่พวกเขากำลังประลองกลุ่มกันอยู่ ทั้งสิบหกโดนหมีอัดจนเละ และหากไม่ใช่เพราะเสวี่ยอิ่งยื่นมือเข้ามาช่วย อาจต้องมีคนตกตายไปบ้าง
ครั้งที่สองคือสามวันหลังจากนั้น ฟางเย่เป็นคนพบพวกมัน ป๋ายเสี่ยวเฟยจัดการวางแผนล้อมตี การปะทะครานั้นกินเวลานานที่สุดระหว่างพวกเขา หนึ่งในสองหมีถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสพร้อมกับสือเฉินและหวู่จื๋อ ทั้งสองฝ่ายถอนตัวออกจากสนามรบ
บาดแผลของหวู่จื๋อและสือเฉินฟื้นฟูหนึ่งอาทิตย์ต่อมา และป๋ายเสี่ยวเฟยได้นำห้องคนเถื่อนล้อมตีพวกมันอีกครา ครั้งนั้นหมีทลายพสุธาไม่ได้ต่อต้านมากนัก พวกมันเลือกที่จะหนี ป๋ายเสี่ยวเฟยและพวกไม่ได้ไล่ตามไปเนื่องเพราะเหตุผลทางด้านสมรภูมิโดยรอบ
วันนี้คือวันสุดท้ายของการฝึก หมีทลายพสุธาสองตัวนั้นอยู่ในอันดับชิงหลัวถึงหนึ่งเดือนเต็ม!
ทั้งแค้นใหม่และเก่า นี่คือศึกสุดท้ายที่จะตัดสินว่าพวกเขาจะล้างแค้นได้สำเร็จหรือไม่
ทั้งกลุ่มเคลื่อนที่ไปในป่าหนาทึบโดยไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย จังหวะฝีเท้าของพวกเขาราวกับเป็นทหารที่ผ่านการฝึกอบรมพื้นฐาน ไม่ถึงยี่สิบนาทีพวกเขาก็มาถึงจุดหมาย ไม่มีใครสักคนตกหล่นอยู่รั้งท้าย!
“พวกมันยังอยู่ในถ้ำ แผลของหมีตัวนั้นหายดีแล้วและพวกมันเพิ่งกลับจากการล่าอาหาร”
หวู่จื๋อรายงานสถานการณ์โดยไม่พูดมากความ ป๋ายเสี่ยวเฟยเงี่ยหูฟังพลางสำรวจอาณาบริเวณรอบด้าน
“สือเฉิน เจ้าพาจูนั่วกับต้วนอีอีไปรอที่แม่น้ำทางด้านซ้ายป้องกันไม่ให้มันหนี ฉิงหนาน ฟางเย่ พวกเจ้าทั้งสองมองหาเนินสูงคอยช่วยเหลือยามจำเป็น ที่เหลือเข้าไปกับข้า!”
ไม่จำเป็นต้องเตรียมการมากมายให้ยุ่งยากเพราะในฐานะศัตรูคู่แค้นเก่า ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้ไส้รู้พุงของหมีทลายพสุธาหมดแล้ว
สือเฉินและคนอื่นเคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่งของตนอย่างรวดเร็ว คนที่เหลือวิ่งตามป๋ายเสี่ยวเฟย
ในเวลานี้ หมีทลายพสุธาสองตัวราวกับสัมผัสได้ถึงบางอย่าง พวกมันชะโงกหัวขึ้นพร้อมกัน แต่ไม่มีความคิดจะกระโจนออกมา
หนึ่งคน ไม่สิ หนึ่งหมีสามารถต่อต้านทั้งกองทัพได้หากอยู่ในถ้ำ ถ้าป๋ายเสี่ยวเฟยและพวกกล้าจู่โจมพวกมันข้างในจริงๆ พวกเขาต้องตายแน่นอน
และป๋ายเสี่ยวเฟยไม่โง่ถึงขนาดนั้น
ในมือเขาถือลูกบอลทรงกลมสองลูกก่อนจะเขวี้ยงเข้าไปในถ้ำสุดแรงเกิด ไม่นานนักมันก็ระเบิดกลายเป็นกลิ่นฉุนรุนแรง
ประสาทสัมผัสด้านกลิ่นของสัตว์อสูรเหนือกว่ามนุษย์มาก หมีทลายพสุธาทั้งสองกล้ำกลืนฝืนทนชั่วครู่ก่อนจะไม่มีทางเลือกนอกจากละทิ้งรัง ทั้งสองคำรามลั่นพุ่งกระโจนออกมา
ทางเข้าของถ้ำไม่ได้ใหญ่มากนัก พวกป๋ายเสี่ยวเฟยจึงได้รับมือกับหมีทลายพสุธาหนึ่งตัว
“ต้าหมิง เสี่ยวหมิง!!”
ด้วยเสียงตะโกนของป๋ายเสี่ยวเฟย พี่น้องหมิงขยับตัวไปบังทางเข้าทันที สองโล่ประสานรวมเป็นหนึ่งอยู่ข้างหน้าโดยมีสองพี่น้องที่ร่างกายบึกบันแข็งแรงกว่าเดือนก่อนอยู่ข้างหลัง
ในอดีตพวกเขาเป็นเพียงนักเชิดหุ่นระดับฝึกหัดและทำได้มากสุดเพียงทนการโจมตีของหมูคำรามสามครา แต่ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในระดับกลางและเก่งกล้าพอจะรับแรงกระแทกของหมีทลายพสุธาโดยตรง!
ปัง!
เสียงกระทบกระทั่งดังลั่นโดยมีหมีทลายพสุธาตะปบโล่ด้วยอุ้งมือ แต่สองพี่น้องยังคงนิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อย หมีทลายพสุธาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอดกลั้นต่อกลิ่นเหม็นโฉ่เจียนตายต่อไป
หลังจากจู่โจมครั้งแรกพลาด หมีทลายพสุธาตัดสินใจใช้ทักษะเฉพาะ ในยามที่ปราณธาตุดินพวยพุ่งออกมา ป๋ายเสี่ยวเฟยเรียกพี่น้องหมิงกลับทันที ‘ถอย!’
หนามขนาดใหญ่พุ่งทะลุออกมาจากดินตรงที่พวกเขาอยู่เมื่อครู่ หากช้ากว่านี้อีกสักครึ่งวินาที ชะตาของต้าหมิงและเสี่ยวหมิงคงต้องกลายเป็นก้อนเนื้อเสียบเป็นแน่แท้
หมีทลายพสุธาสองตัวที่ราวกับเป็นภูเขาขนาดย่อมวิ่งออกจากถ้ำตามกันมา พวกมันรู้สึกมึนงงเพราะถูกป๋ายเสี่ยวเฟยจู่โจมทางประสาทสัมผัสด้านกลิ่น
แต่ในขณะที่พวกมันอยู่ในสภาวะเลวร้าย สภาะของพวกป๋ายเสี่ยวเฟยตรงกันข้ามกับพวกมัน!
ฟางเย่และฉิงหนานที่ซ่อนตัวอยู่ในระยะไกลพลันจู่โจมโดยพร้อมเพรียงแสดงความน่ากลัวของนักเชิดหุ่นสายจู่โจมระยะไกล
ในอีกด้าน หมีทลายพสุธาไม่ได้ไร้ปัญญา ถึงแม้พวกมันจะไม่อาจมองเห็นการโจมตีของฟางเย่และฉิงหนาน สัญชาตญาณสัตว์ป่าสั่งให้พวกมันปกป้องจุดตาย
หมีทลายพสุธาที่กระโจนออกมาตนแรกสูญเสียสมดุลร่างกายทันทีจากลูกปืนของฟางเย่ และศรปราณกำเนิดที่ตามมาภายหลังจู่โจมอย่างแม่นยำในจุดที่ฟางเย่ได้ทำลายการป้องกันไป
“โฮ่ววว!!!!!”
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากปากหมีทลายพสุธา แต่ก่อนที่มันจะได้ตั้งตัว การจู่โจมระลอกถัดไปก็มาถึง
เป็นจู๋ซือซือและชีเว่ยที่พุ่งตัวออกไปครานี้!
หุ่นเชิดตัวแรกของจู๋ซือซือคือรองเท้าบูทสูงถึงน่องสีแดงชาด มันมีความสามารถเพียงอย่างเดียว เร่งความเร็ว!
แต่ความเร็วคือพลัง ความรุนแรงของการจู่โจมในความเร็วสูงสุดของนางเพียงแค่อ่อนด้อยกว่าการโจมตีอย่างสุดกำลังของหวู่จื๋อที่ได้เลื่อนขั้นเป็นนักสู้เท่านั้น!
ในขณะเดียวกัน ชีเว่ยแปลงกายเสร็จสิ้น หุ่นเชิดสายแปลงกายคือตัวตนอันพิเศษที่อาศัยอย่ะระหว่างหุ่นเชิดมีชีวิตและหุ่นเชิดไร้ชีวิต ความสามารถของมันคือการส่งผ่านพลังในกาลก่อนของมันให้เจ้านาย
หุ่นเชิดตัวแรกของชีเว่ยคือวิญญาณของเสือเขี้ยวหิมะระดับวิญญาณ! และพลังของมันยกระดับความสามารถในการควบคุมร่างกายและพลังให้แก่นาง!
ในเวลานี้ จุดที่ทั้งสองเลือกจู่โจมคือขาสั้นของหมีทลายพสุธาตัวแรก!