ตอนที่แล้ว63 สังหารทุกอย่างที่ขวางหน้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป65 โกสต์ดราก้อน-7

64 พายุฝนที่เทกระหน่ำลงมา


64 พายุฝนที่เทกระหน่ำลงมา

เมื่อเกาเย่ได้แสดงความใจกว้างออกมา มันทำให้ผู้เข้าแข่งขันหลายรู้สึกนับถือ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงหลายๆคน

แต่ชายหนุ่มที่ตั้งใจจะสร้างความยุ่งยากให้กับเกาเย่ กลับต้องผิดหวังกับคำตอบที่ได้ เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายและเริ่มยุแยงเฮ่อเหลียนเลี่ยแทน

“เฮ่อเหลียนเลี่ย ฉันได้ยินมาว่านายกับหลี่เย้าอยู่โรงเรียนเดียวกัน แล้วพวกนายสองคนก็ยังมีเรื่องไม่ลงรอยกันด้วย นายพอจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยได้ไหม?”

ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่มาจากเมืองที่อยู่รอบๆเมืองฝูเกอ พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะหาเรื่องกลั่นแกล้งเฮ่อเหลียนเลี่ย เหล่าผู้ชมต่างก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นเรื่องสนุกกันทั้งนั้น ดังนั้น ในคำพูดของชายคนนี้ จึงไม่มีความเคารพอยู่สักเท่าไร กลับกันเขากำลังใช้คำพูดที่ยั่วยุเฮ่อเหลียนเลี่ยอย่างถึงที่สุด

ใบหน้าของเฮ่อเหลียนเลี่ยขาวซีด เขากัดริมฝีปากจนจมลึก ฝ่ามือที่กำแน่น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล!

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะฉีกยิ้มและพูดออกมาอย่างฝืนใจว่า “ก่อนหน้านี้ ฉันกับหลี่เย้ามีเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่เราก็จบเรื่องนั้นไปแล้ว ความสามารถของหลี่เย้าพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่เดือนกว่าเท่านั้น เขาถือเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนซื่อเซียวที่สองของเรา แล้วฉันก็ชื่นชมความพยายามของเขามาก หากใครมีเรื่องไม่พอใจเขาก็คงจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก! ขอโทษด้วยนะ ฉันคงต้องขอตัวก่อน ฉันอยากจะไปเข้าห้องน้ำหน่อยน่ะ”

เฮ่อเหลียนเลี่ยเดินฝ่าฝูงชนออกมา โดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ตั้งคำถามอีก เขาวิ่งเยาะๆไปยังห้องน้ำ ด้วยท่าทางราวกับคนที่กำลังพยายามจะหนีออกไป

“แหวะ!”

ภายในห้องน้ำ เฮ่อเหลียนเลี่ยไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว เขารู้สึกมวนท้องจนต้องอาเจียนออกมา เขาอาเจียนจนมีอาการเวียนศีรษะ ราวกับเขามีอาเจียนแบบนี้ทุกวันจนกรดในกระเพาะออกมาด้วย

“หลี่เย้า!”

เฮ่อเหลียนเลี่ยเงยหน้าขึ้น หลังจากที่อาเจียนเป็นเวลานาน ดวงตาของเขาก็แดงก่ำ สภาพของเขาในเวลานี้ ดูซูบผอม, อิดโรย, และบ้าคลั่ง เขาดูไม่ต่างไปจากปีศาจร้ายตัวหนึ่งเลย

“หลี่เย้า แกมันไอ้ขยะ! ในตัวแกมีแต่ของเสีย! อย่าให้ฉันมีโอกาสก็แล้วกัน! ถ้าฉันมีโอกาสเมื่อไหร่ ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ฉันจะใช้ทุกอย่างที่ฉันมีจัดการจนกระทั่งแกตายลงไป! จนกว่าแกจะตาย!”

มือทั้งสองข้างของเฮ่อเหลียนเลี่ยจมลึกเข้าไปในกำแพงห้องน้ำ เขาใช้แรงเจาะลงไปในกำแพง และจินตนาการว่ากำแพงคือใบหน้าของหลี่เย้า

เขาเจาะเข้าไปในกำแพงจนเกิดเป็นร่องลึกกว่าสิบจุด แต่ละจุดเต็มไปด้วยเลือดสดๆที่หลั่งออกมา!

......

หลี่เย้าที่เพิ่งจะโดนเฮ่อเหลียนเลี่ยสาปแช่ง ก็กำลังซ่อนตัวอยู่ในจุดเก็บเสบียงที่อยู่ในส่วนลึกของเกาะมังกรปีศาจอย่างสบายอารมณ์

เขาตรวจสอบคะแนนรวมของเขา ผ่านทางหน้าจอโฮโลแกรมที่เสี่ยวจี่ฉ่ายออกมา

ตั้งแต่ที่เขาจัดการระเบิดศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงิน จนเละเป็นจุน อันดับของเขาก็พุ่งขึ้นสู่อันดับที่หนึ่งอย่างมั่นคง มันเป็นไปได้ยากมากที่ตำแหน่งของเขาจะถูกคนอื่นมาสั่นคลอนได้ เพราะคะแนนที่ล้นเหลือของเขาเอง!

ตามจริงแล้ว ในตอนเริ่มต้น ที่หลี่เย้าติดตั้งประตูหลังเอาไว้บนอาร์ติเฟ็กซ์ของเขา เขาไม่ได้คิดวางแผนระยะยาวและลึกซึ้งอะไรเลย ทั้งหมดที่เขาต้องการ ก็คือการฉวยโอกาส และเพื่อให้เขาสามารถแย่งชิงคะแนนมาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ เกาเย่ ซึ่งเป็นอัจฉริยะของทีมสีน้ำเงิน และทีมสีแดงที่ถูกต้อนให้เข้าตาจน ช่วงเวลาเข้าตาจนทำให้เกิดสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และหลี่เย้าก็ถูกบังคับให้ต้องลงมือ

ปฏิบัติการสังหารนี้ ทำให้เขาต้องแบกความเสี่ยงเอาไว้สูงมาก เรื่องของโชคมีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะมันคือการเสี่ยงโชคที่มีความเสี่ยงสูงมาก

เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หลี่เย้าจึงตั้งเวลาระเบิดเอาไว้ครึ่งนาที หากฝ่ายศัตรูพบระเบิดในทันที พวกเขาก็จะมีเวลาที่จะนำระเบิดทิ้งออกไปให้ไกล

ทั้งหมดที่พูดได้ก็คือ โชคนั้นเข้าข้างเขา แม้แต่สวรรค์ก็ยังยื่นมือลงมาช่วยเขา เขามีโชคชะตาที่จะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเชินห่าย!

เมื่อหลี่เย้าได้รับคะแนนมามากพอแล้ว เขาจึงไม่คิดที่จะออกไปสังหารสัตว์อสูรอีก จำนวนของผู้เข้าแข่งขันที่ยังเหลือรอดมีอยู่ไม่มากนัก ทำให้เกาะมังกรปีศาจในเวลานี้ กลายเป็นสรวงสวรรค์ของสัตวอสูรไปแล้ว มีสัตว์อสูรจำนวนหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งขั้นสุดยอด ที่แม้แต่หลี่เย้าก็ยังไม่มั่นใจว่า ตัวเขาจะสามารถจัดการพวกมันได้หรือไม่

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวตอแบบนี้ เขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นมา หากต้องตายในเงื้อมมือของสัตว์อสูร จะทำให้เขาต้องล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า

นอกจากนี้...พายุฝนก็ยังเทกระหน่ำลงมาอีกด้วย

หลี่เย้าเงยหน้าขึ้นและเหม่อมองออกไปไกล ก่อนที่เขาจะทันได้รู้ตัว ท้องฟ้าสีเหลืองขุ่นมัวก็ได้กลายเป็นสีดำสนิทไปแล้ว ท่ามกลางก้อนเมฆที่ดำสนิท สามารถมองเห็นงูสีม่วงส่องประกายแปลบปลาบอยู่บางเบา พร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำรามลั่น

ไม่นาน เม็ดฝนขนาดพอๆกับเม็ดถั่วก็ได้หยาดหยดลงมาอย่างรุนแรงราวกับสามารถเจาะทะลุกะโหลกศีรษะได้

สภาพอากาศภายในท้องมหาสมุทรเปลี่ยนไปในพริบตา ท้องฟ้าที่สดใสและกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เพียงพริบตาเดียว มันก็กลับกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยลมพายุพร้อมกับสายฝนที่สาดกระจายลงมาอย่างรุนแรง เมฆสีดำสนิทม้วนตัวเคลื่อนผ่านเกาะมังกรปีศาจ ราวกับฝูงม้าที่วิ่งตะบึงไปข้างหน้า สายฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นสายพร้อมกับเสียงร้องคำรามสนั่นหวั่นไหว ราวกับจะแยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วน มันมาพร้อมคลื่นลมจากท้องมหาสมุทรที่พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า ราวกับมีคลื่นดาบที่ฟันกระหน่ำลงไปบนเกาะมังกรปีศาจ

ถึงแม้ว่าบนเกาะมังกรปีศาจจะมีต้นไม้ที่สูงใหญ่เทียมฟ้าปกคลุมอยู่ แต่มันก็ยังได้รับผลกระทบจากลมพายุและได้ยินเสียงฟ้าร้องคำราม พายุฝนร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก ตีกระหน่ำลงไปบนร่างกายของคนที่อยู่บนพื้นดิน จนทำให้พวกเขาไม่สามารถเงยหน้าและลืมตาได้ แม้แต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ยังถูกถอนรากถอนโคลนขึ้นมา ลมพายุทำลายล้างพัดผ่านทุกอย่างที่ขวางทางพวกมันอยู่

เมื่ออยู่ต่อหน้าอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เหล่าสัตว์อสูรที่เคยแยกเขี้ยวคำราม และกางเล็บคมกริบ ก็กลับกลายเป็นสงบเสงี่ยมลงไปทันตาเห็น พวกมันแต่ละตัวต่างพากันเสาะหาถ้ำและตัดหน้าผาเพื่อหลบหนีสภาพอากาศที่เลวร้าย

“พายุลมแรงกำลังเคลื่อนผ่านมาทางเกาะมังกรปีศาจ ฉันคิดว่า พายุฝนคงจะตกแบบนี้ไปตลอดทั้งคืน!”

พายุฝนที่พัดผ่านเข้ามา เป็นเหตุให้เรือธงเหลียวหยวนฮ่าวต้องไหวเอนไปมาอยู่กลางอากาศ ผู้ฝึกตนคนหนึ่งได้ลอยตัวออกไปที่ท้ายเรือบิน เขาหรี่ตาลงและสังเกตดูท้องฟ้า เพื่อเสาะหาสาเหตุของมัน

สายฟ้าที่กำลังผ่าลงมาตรงกลางกระหม่อมของเขา กลับถูกกำแพงที่มองไม่เห็นขวางกั้นเอาไว้ให้ห่างจากผู้ฝึกตนไปหนึ่งนิ้ว และกลายเป็นงูสายฟ้าประมาณ 4-5 ตัวเลื่อยไปตามร่างกายของเขา เผยให้เห็นใบหน้าที่ค่อนข้างหล่อเหลา

ภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนท้องฟ้าเหนือเกาะมังกรปีศาจ ต่างก็ได้รับความลำบาก

สุดท้าย สัตว์เลี้ยงปุจิของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับเรือธงเหลียวหยวนฮ่าวได้ การเชื่อมต่อกลายเป็นไม่เสถียร และไม่สามารถรับประกันได้ว่า สถานการณ์ที่เกิดกับผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะถูกส่งไปถึงศูนย์มอนิเตอร์ และเจลจะถูกพ่นออกมาจากตัวปุจิเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทันทีหรือไม่

ความอันตรายในการแข่งขันได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก!

“เราจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการแข่งขันหรือเปล่า?”

ในทันทีที่ผู้ฝึกตนรายนี้เปิดปากพูดออกมา สายฟ้าแล่นแปลบปลาบไปทั่วร่างของเขาก็ถูกดูดกลืนจนไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย เขาเลียริมฝีปากราวกับต้องการมันเพิ่ม และจากนั้น เขาก็พุ่งตัวกลับเข้าไปในเรือบินเพื่อสอบถามเหล่าผู้ฝึกตนคนอื่นๆ

ภายในศูนย์มอนิเตอร์ เหล่าผู้ฝึกตนก็ได้กระซิบกระซาบกันไปมา ก่อนที่จะทำการตัดสินใจในเรื่องนี้ การแข่งขันจะยังคงดำเนินต่อไป และพายุฝนก็จะไม่ส่งผลกับการแข่งขัน

“ในสถานการณ์การรบจริงๆ แม้จะอยู่ในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย มันก็มีโอกาสสูงที่เผ่าอสูรอาจจะไม่หยุดการสู้รบกับฝั่งของเหล่ามนุษยชาติ!”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในชุดสีดำ พร้อมกับหัวกะโหลกของสัตว์อสูรที่พาดอยู่บนไหล่ของเขา ได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่แข็งกระด้าง

“ถูกต้องแล้วล่ะ ถ้าพวกเขาไม่สามารถทนรับสภาพอากาศแบบนี้ได้ แล้วพวกเขาจะยังอยากเป็นผู้ฝึกตนไปเพื่ออะไรอีก? มีแต่จะทำให้กลายเป็นตัวตลกไปซะเปล่าๆ!” ผู้ฝึกตนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นพาดผ่านอยู่เต็มไปหมดส่งเสียงหึออกมาอย่างเย็นชา

ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น บนหน้าจอโฮโลแกรมที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็ได้เกิดเป็นภาพของเส้นสีขาวราวกับหิมะสั่นกระเพื่อมอยู่

ได้เกิดคลื่นแทรกแซงจากพายุฝน จนส่งผลกระทบกับการสื่อสารระหว่างสัตว์เลี้ยงปุจิและศูนย์มอนิเตอร์

“ปัง! ปัง!”

หน้าจอโฮโลแกรมหลายสิบอันได้กลายเป็นสีดำสนิท เห็นได้ชัดว่าการสื่อสารได้ถูกตัดไปอย่างสมบูรณ์

นั่นหมายความว่า ผู้เข้าแข่งขันหลายสิบคนได้ขาดการติดต่อกับศูนย์มอนิเตอร์และไม่อาจจะได้รับความคุ้มครองจากผู้ฝึกตนที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์ได้

“ส่งผู้ฝึกตนยี่สิบกว่าคนลงไปที่เกาะมังกรปีศาจ ให้คอยลาดตระเวนไปรอบๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เข้าแข่งขัน หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ให้มอบสถานะเทียบเท่ากับทหารของสหพันธรัฐคนหนึ่งแก่พวกเขา และเตรียมค่าชดเชยให้กับทางครอบครัวของผู้เสียหายด้วย!”

เหล่าผู้ฝึกตนและเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจากันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานพวกเขาก็ได้ทำการตัดสินใจ...ซึ่งยึดตามการแข่งขันที่เคยเกิดขึ้นในครั้งก่อนๆ

สหพันธรัฐแห่งดวงดาวนั้นสามารถยึดครองดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอย่างดาวเทียนหยวนมาได้ ดินแดนผืนนี้ถูกสร้างมาจาก กองซากศพของเผ่าอสูรและทะเลเลือด ทุกตารางนิ้วของเขตแดนของสหพันธรัฐ ถูกย้อมไปด้วยเลือดเนื้อของเหล่าทหารแห่งสหพันธรัฐและผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วน!

ผู้ฝึกตนคือคมดาบของมนุษยชาติ ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้ฝึกตน จะต้องกล้าเผชิญกับความตายและไม่กลัวที่จะต้องเสียสละชีวิตของตนเอง!

คนที่หวาดกลัวความตาย ก็อย่ามาเป็นผู้ฝึกตนเลย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด