ตอนที่แล้วเซียนเหนือวิถี บาทที่ 121 (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเซียนเหนือวิถี บาทที่ 123 (ฟรี)

เซียนเหนือวิถี บาทที่ 122 (ฟรี)


บาทที่ 122

หงเซียวกับจินหลินนั้นฝึกการต่อสู้แบบนักลอบสังหารมานานนับตั้งแต่อยู่กับสำนักคุ้มภัย กระทั่งการจัดการกับหัวหน้าค่ายโจรเซียนมารก็ยังใช้วิธีนี้ ดังนั้นหากใครคิดจะมาคิดลอบสังหารพวกเขา ก็เหมือนกับการควงขวานต่อหน้าลู่ปัง

ไม่นานนักจินหลินกับหญิงสาวทั้งสี่ก็ประคองคนอีกสี่คนลอยออกมาจากบ้าน สี่คนเขตแก่นปราณซึ่งตอนนี้ถูกเข็มปักไว้บนลำคอทุกคน นั่นคือฝีมือของจินหลินทั้งหมด

จินหลินพาคนสี่คนมาหาหงเซียว แต่สามเด็กสาวพากันลอยตัวขึ้นไปบนหลังคาลากคนที่ส่งเสียงโวยวายก่อนถูกทำให้เงียบอีกสี่คนลงมา

คนสิบสี่คน นับว่ามีมากพอที่จะเป็นทรัพยากรให้พวกหญิงสาวทั้งเจ็ดได้รับดวงวิญญาณกันคนละสองดวง

ร่างจิตเทียมของหงเซียวแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์เลยในตอนนี้ นอกจากการสอดแนม การสร้างยันต์และงานหยิบฉวยเล็กๆน้อยๆ เพราะว่ามันมีพลังเพียงเขตชีพจรปราณระดับหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันหงเซียวมักจะพบปะแต่ผู้คนในเขตชีพจรปราณระดับสูงและเขตแก่นปราณ

“อ๊ากกก” หญิงสาวโคจรพลังร่ายคาถาและในจังหวะสุดท้ายที่เธอจะรับดวงวิญญาณ กระบี่ของเธอก็ทิ่มเข้าไปในหัวใจของชายผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกขึงติดผนัง

ร่างของเธอพลันมีหมอกทะลักออกมาปกคลุมอย่างบางเบา เธอหันมากล่าวด้วยเสียงกรีดแหลมว่า “สำเร็จแล้ว”

หญิงสาวที่เหลือพยักหน้า บางคนก็มีท่าทีหวาดหวั่น แต่พวกเธอก็เข้าไปหาชายที่ถูกขึงร้องโหยหวนบนผนังทีละคนและกลับออกมาด้วยร่างหมอก

หญิงสาวคนสุดท้ายใช้ร่างของคนที่ถูกลากมาจากหลังคา

“เพลงกระบี่ของข้าไม่อาจใช้ได้แล้ว” หญิงสาวที่ถือกระบี่พยายามทำท่ากระบี่ แต่ก็มีแต่ท่วงท่ากระบี่ แต่พลังที่ใส่เข้าไปนั้นไม่มีอีกต่อไป

“ข้าก็ด้วย วิชาข้าถูกปิดกั้น” เธอกล่าว

“เช่นนั้นก็ฝึกวิชาต่อไป” หงเซียวแนะนำ

พวกเธอไม่เกรงใจ ใช้ร่างของเจ็ดคนที่เหลือ รวมเขตแก่นปราณทั้งสี่เป็นเครื่องสังเวยนำวิญญาณมาเป็นส่วนหนึ่งของหมอกปีศาจ พวกเธอทั้งหมดล้วนเลือกกรงเล็บปีศาจ เพราะเป็นวิชาการต่อสู้เดียวที่เหลืออยู่

อย่างไรก็ตามกรงเล็บปีศาจเป็นเพียงการเปลี่ยนนิ้วให้กลายเป็นกรงเล็บไม่มีกระบวนท่า แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยพวกเธอก็สามารถมีอาวุธสำหรับต่อสู้ในเวลานี้

“ตาพวกเราแล้ว” หงเซียวกล่าว “คนเหล่านี้ฝึกวิชาหมอกปีศาจ ดังนั้นจะต้องมีวิญญาณอย่างต่ำสามดวงบนตัว เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความสูญเสียดังนั้น ข้าจะฝึกวิชากรงกักวิญญาณก่อน”

กรงกักวิญญาณเป็นวิชาที่ใช้หมอกรอบตัวเป็นกับดัก ดักวิญญาณที่เข้ามาในเขตหมอกไม่ให้หนีออกไปได้ เป็นหนึ่งในวิชาที่จารึกไว้บนเสาในตำหนักศิษย์นอก

หงเซียวร่ายคาถาสลายร่างจิตเทียมที่มีเหลือเฟือเติมหมอกให้หนาหนักกว่าเดิม เรียนรู้วิชากรงกักวิญญาณ

บรรดาหญิงสาวเมื่อได้พลังของหมอกปีศาจแล้ว พวกเธอก็เห็นดวงวิญญาณมากมายทั่วบริเวณบ้าน พวกเธอจึงเข้าใจได้ว่าทำไมหงเซียวจึงรู้เรื่องผู้บุกรุก และเมื่อหงเซียวใช้ดวงวิญญาณเรียนรู้วิชาจึงกลายเป็นเรื่องปกติไปในทันที

จริงแล้วที่พวกหงเซียวไม่ใช้วิชาหมอกวิญญาณในการต่อสู้กันก็เพราะว่ากลัวหญิงสาวทั้งเจ็ดตื่นกลัว

ต่อเมื่อพวกเธอได้ร่างหมอกแล้วพวกเขาจึงเปิดใช้งานร่างหมอกบ้าง

เมื่อเรียนรู้กรงกักวิญญาณแล้ว หงเซียวก็ยืนคอยคุ้มกันให้บรรดาหญิงสาวทั้งเจ็ดจัดการกับคนที่บุกโจมตีพวกเขาตอนออกมาจากตำหนักศิษย์นอก

หญิงสาวคนหนึ่งร่ายคาถาก่อนใช้กรงเล็บแทงเข้าไปในกระโหลกของคนที่นอนอยู่บนพื้น เธอดึงดวงวิญญาณอีกฝ่ายออกมาเรียนรู้วิชาที่สาม กรงกักวิญญาณ ขณะที่ชายคนนั้นตาย วิญญาณอีกสี่ดวงก็ลอยออกมา แต่เพราะว่ากรงกักวิญญาณของหญิงสาวเพิ่งเริ่มสร้าง ดังนั้นวิญญาณสี่ดวงนั้นก็พยายามที่จะหนีไป แต่ก็ถูกดักเอาไว้ภายในกรงกักวิญญาณของหงเซียว

อย่างไรก็ตามพวกมันเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก บรรดาหญิงสาวทุกคนพยายามอยู่นานก่อนที่จะจับวิญญาณทั้งสี่ดวงได้ พวกเธอจึงพากันบ้างเรียนวิชาวิญญาณใต้กรงเล็บ บ้างก็เรียนวิชาหมอกกลืนวิญญาณ

วิญญาณใต้กรงเล็บมีไว้สำหรับเรียกจับวิญญาณที่อยู่ในระยะ เมื่อวิญญาณนั้นถูกเรียกมันก็จะลอยมาที่มือของผู้จับ แต่ถ้าเป็นวิญญาณที่มีเจ้าของ วิญญาณเหล่านั้นก็จะไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของวิชานี้หรือกรงกักวิญญาณ

วิชาหมอกกลืนวิญญาณนั้นจะทำให้พวกเธอสามารถเก็บกักวิญญาณไว้ใช้ในอนาคตได้ภายในถุงพิเศษที่สร้างขึ้นมาจากวิชานี้ด้วยหมอก

ชายอีกคนตกตายภายใต้เงื้อมมือของพวกเธอ เช่นเดียวกันชายคนนี้ก็มีวิญญาณติดตัวอยู่สี่ดวงเช่นเดียวกัน แต่ครั้งนี้พวกเธอจับวิญญาณได้อย่างง่ายดายก่อนจะแจกจ่ายกัน

ชายคนที่สามก็มีวิญญาณสี่ดวง ส่วนชายคนสุดท้ายที่ถูกจับโดยจินหลินนั้นมีห้าดวง เมื่อแบ่งปันระหว่างหญิงสาวทั้งเจ็ดแล้วต่างก็ได้รับกันคนละสามดวง ลงตัวพอดี และตอนนี้พวกเธอแต่ละคนจึงมีดวงวิญญาณทั้งหมดห้าดวง ซึ่งพวกเธอได้นำไปเรียนรู้วิชาอื่นที่เหลือ ได้แก่

วิชาหมอกพายุ ที่จะส่งยังทิศทางใดๆสามารถใช้ทำการรบกวนอายตนะของคนในนั้นและใช้แทนอายตนะของตนเองได้

วิชาร่างหมอกจำแลง สร้างหมอกขึ้นมาเป็นร่าง ทำให้ศัตรูสับสนว่าร่างไหนเป็นร่างจริง

วิชาสลับร่างจำแลง สามารถแลกเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างร่างจริงและร่างจำแลงได้ อาจจะเรียกว่าเป็นวิชาตัวเบาประเภทเคลื่อนที่ระยะใกล้ของร่างหมอกก็ได้

วิชาวิญญาณสายหมอก วิชาที่ทำให้ร่างหมอกสามารถเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงในสายหมอก ถือเป็นวิชาตัวเบาประเภทเคลื่อนที่ระยะไกลของร่างหมอก

ในขณะที่หญิงสาวทั้งเจ็ดจัดการกับคนเหล่านั้น หงเซียวกับเด็กสาวก็ใช้วิญญาณจากร่างจิตเทียมทำการพัฒนาตนเองไปจนครบทุกวิชา แน่นอนว่าพวกเขาเรียนวิชาหมอกปีศาจด้วย

วิชาหมอกปีศาจกับหมอกวิญญาณมีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง มีวิธีการโคจรปราณต่างกันเพียงเล็กน้อยและใช้จุดเก็บกักวิญญาณต่างกัน เมื่อหงเซียวและบรรดาเด็กสาวสำเร็จวิชาหมอกปีศาจ ระยะของหมอกของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ระยะของหมอกนั้น เมื่อใช้หมอกปีศาจหรือหมอกวิญญาณเพียงอย่างเดียวจะมีระยะหมอกบางๆห่างจากตัวที่ห้าเมตรที่วิญญาณหนึ่งดวง เมื่อได้วิญญาณเพิ่มก็จะมีระยะเพิ่มอีกห้าเมตร แต่เพราะว่าใช้ร่วมกันสองวิชาทำให้ระยะทั้งหมดกลายเป็นยี่สิบเมตร

และเมื่อใช้ทั้งหมอกปีศาจและหมอกวิญญาณร่วมกัน วิชาอื่นๆทั้งแปด และวิชาดรรชนีหมอกวิญญาณก็จะเพิ่มความสามารถอีกเท่าตัว ส่วนจะเพิ่มความสามารถตรงไหนนั้นก็ขึ้นกับเฉพาะวิชาไป

ยังไม่เพียงแค่นั้น เมื่อสองวิชานี้ใช้ร่วมกันก็จะทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเพิ่มพูนเป็นเท่าตัวด้วยเช่นกัน

หลังจากที่พัฒนาตนเองจนครบแล้ว หงเซียวก็แบ่งวิญญาณของร่างจิตเทียมให้กับหญิงสาวทั้งเจ็ดด้วย

เวลายามค่ำคืนของพวกเขาผ่านไปเช่นนั้น

ยามเช้า คนเจ็ดคนที่หลอมวิญญาณครบเก้าดวง และอีกห้าคนที่หลอมวิญญาณสิบเอ็ดดวงอันเป็นผลมาจากหมอกวิญญาณและดรรชนีหมอกวิญญาณ ก็ก้าวออกมาจากบ้านที่เพียงได้อาศัยอยู่แค่สองคืน

พวกเขานั่งรออยู่ที่หน้าบ้านเพื่ออาหารหนึ่งมื้อก่อนที่จะเข้าไปเป็นศิษย์ใน เมื่อกวาดสายตาไปยังทุกที่ทาง ก็จะพบเห็นซากศพทั่วทุกแห่งหน

ทหารปีศาจมาถึง กลุ่มหนึ่งทำการแจกจ่ายกล่องอาหาร ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งทำการลากศพไปใส่รถล้า และทำความสะอาดคราบเลือดและคราบต่างๆจนหมดจด

พวกหงเซียวนั่งกินอาหารอย่างเงียบๆท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันอันขมุกขมัว นานครั้งจะได้ยินเสียงโหยหวนมาสักครั้งหนึ่งก่อนจะคืนกลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง

พวกเขากินอาหารก่อนเข้าไปยังเขตศิษย์ใน เพราะว่าไม่รู้ว่าที่นั่น พวกเขาที่เป็นระดับต่ำสุดจะต้องเจออะไรบ้าง

วางกล่องอาหารกันครบทุกคนแล้ว หงเซียวก็พยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ติดตามด้วยหญิงสาวและเด็กสาว พวกเขาเปิดใช้สภาพของหมอกและก้าวเท้าออกจากเขตศิษย์นอก

เดิมทีแล้วนอกเขตศิษย์นอกจะเป็นหมอกสลัวมองอะไรแทบไม่เห็นสำหรับพวกเขา แต่ว่าตอนนี้พวกเขาล้วนเห็นชัดเจนถึงเขตอื่นๆ ป้ายเขตศิษย์ในเด่นหราอยู่บนพื้นเบื้องหน้าของเส้นทางหลักที่มุ่งลึกเข้าไปข้างใน ขณะที่แยกอีกแยกขวามือด้านตรงข้ามเขตศิษย์นอกนั้นเป็นเพียงแยกตันที่ลึกเข้าไปไม่กี่เมตร

พวกเขาเดินเข้าสู่เขตศิษย์ใน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด