ตอนที่ 29 : ราชาของข้ากลับมาแล้ว
การที่ต้องเจอกับคำถามหินๆของผู้เล่นทั้งห้าคน เปลวไฟในตาของทูตก็ค่อยๆลุกโชนขึ้น ด้วยการตวัดมือของเขาเพียงครั้งเดียว ไอหมอกสีดำก็ปรากฏขึ้นรอบๆ ขังห้าคนนั้นไว้ด้านในก่อนที่จะยกพวกเขาขึ้นลอยบนอากาศ
“พวกเจ้าทั้งหมดรู้ถึงสาเหตุการตายของท่านผู้นำสูงสุดที่ประจำการอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” ทูตวิญญาณถามลองเชิงด้วยหวังว่าจะได้คำตอบ
เบอร์เซิร์กเกอร์หัวหน้าทีมดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเขาได้พบว่าเขานั้นไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้ เขาได้มองไปที่เพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างหมดหนทาง
“ฮะ? พ่อค้าลึกลับอยากจะโชว์ความสามารถก่อนจะขายงั้นเหรอ?”
“แค่ก...บอส ผมเองก็ไม่เคยเจอเขามาก่อนเหมือนกัน ผมเลยไม่รู้ว่ากระบวนการมันจะต้องเป็นยังไง”
“งั้น...เราควรจะชมเขาหน่อย ให้เขาดีใจหน่อยไหม? เผื่อเขาจะลดราคาให้เรา?”
เมื่อได้ยินบทสนทนาของผู้เล่น ทูตวิญญาณก็หมดหวังที่จะได้คำตอบ มันตวัดมืออีกครั้ง ไอหมอกดำเริ่มพรั่งพรูขึ้นมาและพบลง บดขยี้ผู้เล่นทั้งห้าคนลงเป็นเศษๆ
พลังจิตหายไปอย่างลึกลับอีกครั้ง ทูตวิญญาณแสดงออกถึงความครุ่นคิด ในพริบตาเขาได้กลายร่างเป็นเงามืดและมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์แห่งความตายด้วยความเร็วแสง
...
ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ เป่ยลี่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด เธอเป็นผู้ที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงและคอยรีพอร์ทให้กับลู่หวู่อย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าชานาจะส่งคนเข้ามาตรวจสอบแล้ว จริงๆแล้วทูตวิญญาณมันมาจากที่ไหนกันแน่?”
เป่ยลี่ท้าวคางลงบนหลังมือในขณะที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ ในปากก็คบเคี้ยวขนมไปด้วย
“ทูตวิญญาณเป็นตำแหน่งที่อยู่ลองลงมาจากผู้นำสูงสุดแห่งภูตผีภายใต้ราชาแห่งภูตผีและมีหน้าที่ในการรวบรวมวิญญาณหยินเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นพวกเดียวกัน ราชาและผู้นำสูงสุดแห่งภูตผีจะมีทูตวิญญาณที่คอยรับใช้ ความแข็งแกร่งของพวกมันก็แตกต่างกัน แต่มันก็เชี่ยวชาญในเรื่องคาถาการสังเวยเลือด”
“วิญญาณหยิน? มันคืออะไร?” ลู่หวู่ถามด้วยความสงสัย
“ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่คล้ายๆกับเงินในโลกแห่งความจริงนะ แต่คนทั่วไปก็ไม่สามารถควบควมพลังวิญญาณพวกนี้ได้ และเป่ยฉีเองก็มีดินแดนมากมายที่ผลิตวิญญาณหยินด้วย มันแตกต่างจากวิญญาณทั่วไปคือมันเป็นเหมือนกับวัตถุดิบที่ใช้ในการบ่มเพาะพลังอีกทั้งยังสามารถเอาไปใช้สร้างอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆได้อีกด้วย คือมันเอาไปใช้ได้หลากหลายมาก นั่นคือที่นายต้องรู้เอาไว้”
ลู่หวู่พยักหน้า “แปลว่าราชาและผู้นำแห่งภูตผีไม่ได้ครอบครองพื้นที่บริเวณคฤหาสน์แห่งความตายเพราะว่าบริเวณนี้มันไม่ได้ผลิตวิญญาณหยิน?”
เป่ยลี่ยัดขนมใส่เต็มปากพร้อมกับตอบมาว่า “ใช่แล้ว แม้ว่าคฤหาสน์แห่งความตายจะเป็นเหมือนเมืองหลวงของเป่ยฉี แต่มันก็ขาดแคลนทรัพยากร”
แม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้แล้วว่าทูตวิญญาณนั้นมีที่มาและแรงกระตุ้นที่ทำให้มันมาในพื้นที่ได้ยังไง ลู่หวู่ก็ยังไม่มีไอเดียในการต่อกรกับมัน เขาจึงได้แต่มองไปที่เป่ยลี่ที่กำลังอัดขนมใส่หน้าของตัวเอง
“ไม่ต้องมามองฉันเลย ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ทูตวิญญาณสามารถเปลี่ยนเป็นเงามืดได้ และด้วยความสามารถของผู้เล่น มันก็ยากที่จะไปต่อกร”
เมื่อได้เห็นว่าเป่ยลี่เองก็ไม่รู้วิธีที่จะรับมือกับปัญหานี้ ลู่หวู่ก็อยู่ในความเงียบ
ในตอนนี้ เป่ยลี่ชี้นิ้วไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “หวู่ ดูนี่ พวกเขากำลังคุยเรื่องนี้กันในฟอรั่ม”
ลู่หวู่ก้าวเท้าเข้ามาและดูที่โพสต์ที่ผู้เล่นเพิ่งจะตั้งขึ้นมาทันที
เมทัลบลู : “มีใครบอกได้ไหมว่าทำไม NPC มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฉันคิดว่าฉันโชคดีแล้วนะที่ได้เจอกับพ่อค้าลึกลับ แต่ก็จบลงด้วยมือป่าวแถมโดนฆ่าอีกต่างหาก บอกฉันทีเถอะ ฉันกำลังตกอยู่ในวิกฤติ”
มีภาพสกรีนช็อตแนบอยู่ใต้โพสต์จากผู้เล่น เผยให้เห็นถึงทูตวิญญาณ
แวร์_อิส_มุนโด : “[หน้าเซ็ง] ไอ้น้อง นี่ปัญญาอ่อนเหรอ? แม้ว่ามันจะดูเหมือนพ่อค้าลึกลับ ช่วยบอกทีเถอะว่าส่วนไหนของมันที่ทำให้นายมั่นใจว่ามันเป็นพ่อค้าจริงๆ? ไม่เห็นเหรอว่ามันคือกระดูก?”
โซดา_วอเทอร์ : “OMG นายเจอมันด้วยเหรอ กลุ่มของฉันสามคนไปเจอมันในหลิวลี่เหมือนกันตอนที่กำลังไปจับสัตว์ นี่มันไม่ใช่พ่อค้าอย่างแน่นอน มันคือลูกกระจ๊อกของหัวหน้าภูตชานา เจอของแข็งเข้าแล้วสิ จริงๆมันก็ถูกแล้วที่พวกนายจะจบด้วยการตาย ฉันคารวะเลย”
มาย_คิวตี้คิง : “ที่ไหน? ลูกน้องชานามันอยู่ไหน? นักเวทย์ผู้นี้มาถึงทักษะศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองแล้ว พร้อมที่จะออกนำกองทัพในเร็วๆนี้ ให้ฉันได้พาทหารหยินไปฆ่ามันหน่อยเถอะ!”
อาโรแกนท์วูล์ฟ ตอบ มาย_คิวตี้คิง : “เฮ้ นักเวทย์น้อย ทำไมอวดดีนักล่ะ อยากจะให้ฉันสั่งสอนด้วยวิชาดาบของฉันหน่อยไหมล่ะ?”
มาย_คิวตี้คิง ตอบ อาโรแกนท์วูล์ฟ : “ในการต่อสู้ตัวต่อตัว นักเวทย์เราไม่เป็นรองใครหรอกนะ พวกเรามันสุดยอดและสังหารเบอร์เซิร์กเกอร์ไร้สมองมานักต่อนักแล้ว นายควรจะภาวนาอย่าให้มาเจอพวกเราในป่าก็แล้วกัน ไม่งั้นคงได้รู้ว่าการตายถี่ๆมันเป็นยังไง”
ซอร์ดสกิล_มาสเตอร์ ตอบ มาย_คิวตี้คิง : “หยุดยกยอตัวเองสักที นักเวทย์สุดยอดในตอนนี้ก็จริง แต่นายไม่รู้หรอกเหรอว่ามันมีความแตกต่างในแต่ละคลาส? รอเปลี่ยนคลาสก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นพวกเขาแค่คนเดียวก็เพียงพอที่จะขยี้พวกนักเวทย์ทั้งหลายแล้ว!”
…
เมื่อได้เห็นคอมเมนต์และการตอบกลับของผู้เล่น ลู่หวู่ทำได้เพียงแค่หัวเราะ ทักษะของนักเวทย์ได้เพิ่มขึ้นมาในตอนหลัง ทำให้นักเวทย์ที่หดหู่มานานกลายเป็นพวกยโส ด้วยทักษะการซัมม่อนทหารหยิน นักเวทย์ที่อยู่ในป่าจึงได้เปรียบในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวอย่างแน่นอน
เมื่อเธอกำลังเลื่อนอ่านคอมเมนต์ในฟอรั่มอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเป่ยลี่ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“มันอยู่ที่นี่ มันอยู่ที่คฤหาสน์แห่งความตาย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความคิดของลู่หวู่ก็ได้เข้าสู่สิงประดิษฐ์และเริ่มการตรวจค้นหาผ่านการเชื่อมต่อระหว่างสิ่งประดิษฐ์กับคฤหาสน์แห่งความตายทันที
เขาเห็นเงามืดลอยอยู่ใกล้ๆกับคฤหาสน์แห่งความตาย มันกำลังมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์
...
เมื่อได้เห็นคฤหาสน์แห่งความตายที่ได้เปลี่ยนโฉมไปแล้ว จิตใจของทูตวิญญาณก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มันไม่อยากจะเชื่อว่าราชาที่ได้ตายไปแล้วจะยังมีชีวิตอยู่ มันมองดูเขาตายด้วยตาของมันเอง อีกทั้งมันยังจดจำความรู้สึกที่กระจัดกระจายของพลังวิญญาณของราชาแห่งเป่ยฉีได้แม่น
ด้วยเหตุนั้น ทูตวิญญาณจึงใช้เวลาโฉบไปมาอยู่สักพักที่หน้าทางเข้า ก่อนที่มันจะกัดฟันและมุงหน้าเข้าไปด้วยความลังเล ตัดสินใจที่จะได้เห็นด้วยตาตัวเอง
เมื่อได้เดินไปรอบๆ ทูตวิญญาณก็ต้องช็อคอีกครั้ง
ดาเมจที่เคยเกิดขึ้นภายนอกของคฤหาสน์แห่งนี้ที่เขาเคยเห็น มันยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้แต่รายละเอียดหรือรอยเล็กๆน้อยๆก็ตาม ถ้าเขาไม่รู้อะไรเขาคงคิดว่าราชาแห่งเป่ยฉีได้กลับมาแล้ว
แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งก่อสร้างทั้งหมดยกเว้นที่เก็บซูทราได้หายไป
แน่นอน นั่นเป็นเพราะว่าลู่หวู่มีเหรียญวิญญาณพอแค่การกู้คืนที่เก็บซูทราเท่านั้น ทูตวิญญาณไม่เคยคิดว่ามันเป็นเพราะว่าลู่หวู่มีเหรียญวิญญาณไม่เพียงพอที่จะกู้คืนสิ่งก่อสร้างพวกคลังเก็บวัตถุดิบหรือคลังอาวุธ
เขาได้เฝ้ามองทูตวิญญาณลอยไปมารอบๆคฤหาสน์แห่งความตาย ลู่หวู่ก็คิดบางสิ่งขึ้นมาได้ ด้วยการควบคุมสิ่งประดิษฐ์ของเขา รูปร่างหนึ่งก็ค่อยๆก่อตัวขึ้นในคฤหาสน์แห่งความตาย
“นั่นใคร!?” ความรู้สึกของการควบแน่นของพลังงานหยิน ทูตวิญญาณก็ได้เพ่งเล็งไปที่นั่นในคฤหาสน์ทันที
“แกคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?” เสียงที่สง่าผ่าเผยดังออกมาจากรูปร่างนั้น
ในตอนนั้น หมอกเมฆปกคลุมท้องฟ้าและพลังงานหยินจำนวนมหาศาลก็ได้เปลี่ยนเป็นพายุทอร์นาโดพัดสาดผ่านคฤหาสน์แห่งความตายอย่างต่อเนื่อง ในตอนนั้น รูปร่างนั้นก็เด่นชัดขึ้น
“ราชาแห่งเป่ยฉี! ไม่.. เป็นไปไม่ได้!” ทูตวิญญาณอึ้ง ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เงยหน้าขึ้นไปมองพลังงานหยินที่กำลังซัดสาดและคำรามกู่ก้องอยู่บนฟ้า ทูตวิญญาณก้มหัวและคุกเข่าลงทันที
“ตู่หยานต้อนรับการกลับมาของราชา!”
“นายรู้ไหมว่าการลงโทษต่อการทรยศคืออะไร?” ลู่หวู่พยายามทำเสียวต่ำที่สุด
เสียงของเขาสะท้อนก้องในคฤหาสน์แห่งความตายผ่านพลังงานหยิน ทำให้ทูตวิญญาณนั้นสั่นกลัวยิ่งกว่าเดิม
“ข้าน้อยผิดไปแล้วและยินดีที่จะตายให้กับบาปที่ข้าน้อยได้กระทำ ข้าน้อยหวังเพียงแค่ราชาจะละเว้นความทุกทรมานของจิตวิญญาณด้วยการพิจารณาจากที่ข้าน้อยได้รับใช้มานานหลายปี!” ทูตวิญญาณตอบด้วยความสั่นกลัว
เมื่อได้ยิน ลู่หวู่ก็หยุดลงด้วยความประหลาดใจ เขาเพียงแค่คิดไอเดียนี้ได้เพราะอยากจะแกล้งมัน แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันจะทำให้ทูตวิญญาณหวาดกลัวได้ง่ายถึงขนาดที่ว่ามันยินดีที่จะฆ่าตัวต่อต่อบาปของมัน