ตอนที่ 54 เป้าหมาย หมูคำราม!
ชายหนุ่มทั้งสิบเคลื่อนย้ายไปตามตำแหน่งที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจัดเรียง พวกเขารอคอยอย่างเงียบเชียบ ในอีกด้าน หมูคำรามได้ดื่มน้ำจนอิ่ม พวกมันกระจายตัวไปนอนเกียจคร้านอยู่บนพื้นกลุ่มละสองสามตัว แต่ยังมีหมูคำรามสามตัวที่เดินลาดตระเวนคอยรักษาความปลอดภัยให้ทั้งฝูง
ภายในฝูงมีหมูหนึ่งตัวที่มีหมูสี่ตัวรายล้อม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือจ่าฝูง ท้องนภาเริ่มมืดลงเรื่อยๆ และทัศนวิสัยจะยิ่งแย่กว่านี้ในอีกยี่สิบนาที ในเวลานั้นพวกป๋ายเสี่ยวเฟยจะเสียเปรียบเป็นอย่างมากเนื่องเพราะประสาทสัมผัสของพวกเขาไม่ดีเท่าสัตว์อสูร!
หากป๋ายเสี่ยวเฟยจะทำสิ่งใด เขาต้องทำให้ไว!
‘หวังว่าทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี!’
ป๋ายเสี่ยวเฟยพึมพำในใจก่อนจะส่งผ่านปราณกำเนิดใส่ลูกบอลทรงกลมในมือและเขวี้ยงออกไปสุดแรงเกิด ในวินาทีต่อมาเสียงระเบิดราวฟ้าผ่าดังลั่นทั่วบริเวณ ฝูงหมูคำรามตื่นขึ้นมารวมกลุ่มกันโดยพลัน
อย่างไรก็ตามไม่มีวี่แววความเคลื่อนไหวจากรอบด้าน ไม่นานนักจ่าฝูงหมูก็แหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้าส่งผลให้ทั้งฝูงผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันตั้งใจจะย้ายที่แล้ว
เป็นวินาทีนี้เองที่คนผู้หนึ่งเคลื่อนไหว!
ฉิงหนาน!
แสงสีเหลืองห่อหุ้มธนูสั้นสีเขียว สายธนูและศรขนาดจิ๋วพลันก่อตัวขึ้นจากปราณกำเนิด ศรที่ถูกยิงออกไปไร้เสียงให้ได้ยินขัดกับความเร็วของมันเนื่องเพราะศรนี้หาใช่ศรรูปธรรมไม่ ศรปราณกำเนิดเข้าใกล้เป้าหมายอย่างรวดเร็วก่อนจะปักเข้าที่ดวงตาใหญ่โตปานพุงมนุษย์ของจ่าฝูงหมูคำราม!
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากปากมันในขณะนี้เองทั้งฝูงหมูคำรามวิ่งเข้ามาล้อมจ่าฝูงอย่างองอาจไร้ความหวาดกลัว ต้าหมิงแล้วเสี่ยวหมิงถวยโอกาสพุ่งออกมาจากป่าพลางตวาดเสียงดังประดุจหมายเอาชีวิตจ่าฝูงให้สิ้น เป็นช่วงเวลานี้เองที่หมูคำรามใช้ทักษะพิเศษของมัน ฝูงคำราม!
ทั้งสองฝาแฝดหยุดวิ่งในเวลาเดียวกับที่พวกมันคำรามโดยไม่ลังเล มือเอื้อมไปหยิบหุ่นเชิดพลางอ้าปากกว้าง ข้างหน้าทั้งคู่ปรากฎโล่ขนาดใหญ่สูงกว่าร่างกายพวกมันเปล่งแสงด้วยปราณกำเนิด
พวกเขาอ้าปากกว้างเพื่อลดทนผลกระทบของเสียงคำราม เพราะมือทั้งสองไม่ว่างและนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดรองจากการเอามือปิดหู อีกทั้งโล่มหึมายังไม่ใช่วิธีการสุดท้ายของพวกเขาด้วย เมื่อหมูคำรามพุ่งกระโจนเกือบถึงข้างหน้า พวกเขายกโล่มาต่อกัน! แสงสีน้ำเงินพลันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง โล่ในยามนี้ไม่ต่างอันใดไปจากกำแพงเมืองขนาดย่อม!
หุ่นเชิดรวมประสาน!
เป็นเหตุผลหลักที่พวกเขากล้าโอ้อวดว่าสามารถป้องกันการจู่โจมของหมูคำรามได้สามครา! ฝาแฝดแค่นเสียงในลำคอเล็กน้อยเมื่อหมูคำรามตัวแรกกระแทกเข้าใส่โล่อย่างสุดแรง แสงรอบโล่หม่นลงเล็กน้อย
ไม่นานนักหมูคำรามตัวที่สองและสามพุ่งเข้ามาติดกัน ในเวลานี้เองที่ฟางเย่ผู้ซึ่งไม่เคยยิงสิ่งใดที่ห่างจาก 200 เมตรโดน วิ่งเข้าไปข้างหน้า หากอยู่ไกลแล้วยิงไม่โดนเช่นนั้นเขาก็เพียงแค่ต้องเข้าไปใกล้เป้าหมาย!
ฟางเย่กอดปืนยาวที่อกยืนอยู่ข้างพี่น้องตระกูลหมิงพลางอดทนต่อเสียงคำรามก่อนจะเหนี่ยวไกปืน ฉับพลันแสงทรงกลมขนาดเท่ากำปั้นออกมาจากปากกระบอกปืน ยิงกระทบใส่หนึ่งในหมูคำราม
อย่างที่คิด ความรุนแรงของหมูคำรามที่พุ่งเข้ามาไม่อาจเทียบเท่าได้กับหุ่นเชิดปืน บนตัวของมันมีหลุมขนาดใหญ่แทงทะลุลำตัวมันไปได้ครึ่งทาง! ในอีกด้าน หมูคำรามอีกตัวพุ่งชนใส่โล่ของฝาแฝดหมิง!
ในที่สุดโชคก็เข้าข้างพวกเขา พวกมันเลิกคำรามแล้ว! อย่างไรเสียพวกมันก็เป็นแค่สัตว์อสูรระดับป่าเถื่อน พวกมันไม่รู้จักวิธีการผลัดกันใช้ท่วงท่าจู่โจมเพื่อปกปิดช่องโหว่ หลังจากอดทนต่อเสียงคำรามและการจู่โจมของพวกหมู ชายหนุ่มทั้งหลายรู้สึกขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้พวกเขามีเวลาที่ไม่ต้องรับมือกับกระบวนท่าน่ารำคาญพวกนี้อีก
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ช่วงเวลานี้จะคงอยู่อย่างน้อยห้านาที! จ่าฝูงหมูคำรามเลิกส่งเสียงโหยหวนในที่สุด นัยน์ตาข้างเดียวของมันจ้องเขม็งอย่างเคียดแค้นมาที่ฝาแฝดตระกูลหมิงและฟางเย่ จ่าฝูงคำรามอย่างกราดเกรี้ยวส่งผลให้หมูคำรามที่เหลือพุ่งเข้ามาหาพวกเขาทันที
แม้แต่หมูอารักขาข้างกายของมันก็ไม่เว้น!
“วิ่ง!”
การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วว่องไวขึ้นเมื่อไม่มีเสียงคำราม เป็นเวลานี้เองที่ประโยชน์จากการฝึกฝนของเสวี่ยอิ่งแสดงประสิทธิภาพน่าตะลึงออกมา ทั้งสามวิ่งหนีด้วยความเร็วอย่างน้อยสองเท่าจากแต่ก่อน!
ถึงแม้พวกเราจะรวดเร็วสักเพียงใด ไม่มีทางที่จะเร็วไปกว่าสี่ขาของสัตว์อสูรระดับเดียวกับพวกเขาได้ ระยะห่างของทั้งสองกลุ่มหดตัวลงเรื่อยๆ แต่พวกเขายังมีความหวังอยู่ ความหวังที่ว่าคือป่าที่อยู่ข้างหน้า!
เมื่อพวกเขาเข้าไป เสียงกระทบกระแทกต้นไม้ใหญ่น้อยดังมาจากหมูคำรามด้านหลัง หวังหางปรากฎกายขึ้นพอเขาเห็นหมูคำรามเข้าไปในป่า เขาซ่อนตัวอยู่ในน้ำข้างกายจ่าฝูงหมูคำราม! เขาระมัดระวังถึงขนาดเลือกด้านที่ตาบอด
“ทะลวงเกลียวพิฆาต!”
หวังหางก้าวขาวิ่งเข้าหาจ่าฝูง ในมือถือดาบสั้นทรงเกลียวที่ห่อหุ้มด้วยแสงสีแดงชาด
ความร่ำรวยของฟางเย่ไม่เพียงแสดงออกผ่านหุ่นเชิดของเขา กระทั่งหุ่นเชิดของหวังหางยังสูงขนาดนี้! ตั้งแต่วินาทีที่ฟางเย่กระโจนออกมาผ่านไปไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น และเมื่อเขาหยุดวิ่ง หัวของจ่าฝูงหมูคำรามถูกเสียบทะลุด้วยดาบสั้นเสียแล้ว!
ไม่ว่าสัตว์อสูรจะแข็งแกร่งเพียงใด มันมิอาจมีชีวิตต่อไปได้หากถูกแทงเข้าที่หัว ไม่ต้องกล่าวถึงหมูคำรามที่มีระดับเพียงป่าเถื่อน! หวังหางหันกลับไปมองป่าข้างหลังพลางหอบหายใจหนักหน่วง ถึงแม้เขาจะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้วและเขาไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ทางนั้นได้ เขาก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี
เป็นเวลเดียวกับที่การต่อสู้ในป่าดำเนินมาถึงจุดสุดยอด!
“เฉินฮุย!!”
เสียงตะโกนของป๋ายเสี่ยวเฟยดังก้อง เฉินฮุยเรียกไข่มุกแช่แข็งหิมะออกมาทันที ไอเย็นยะเยือกพวยพุ่งออกมาปกคลุมรอบบริเวณ
ก่อนที่การต่อสู้นี้จะเกิดขึ้น ป๋ายเสี่ยวเฟยได้สั่งการให้ทั้งกลุ่มสร้างร่องลึกในต้นไม้หลายต้นรอบๆ บวกกับความจริงที่ว่าต้นไม้พวกนี้เปราะบางลงจากการถูกแช่แข็ง อาณาบริเวณโดยรอบพลันถูกแปรเปลี่ยนเป็นกับดักขนาดกว้าง!
“ตัด!” คำสั่งสุดท้ายหลุดออกมาจากปากป๋ายเสี่ยวเฟย ชายหนุ่มที่เหลือรีบตัดไม้ตามทันที บริเวณโดยรอบพลันเปลี่ยนเป็นกำแพงวงกตไร้ทางเดิน!
และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งเก้าเผยกายต่อครรลองสายตาของฝูงหมูคำราม แต่เรื่องนี้ไม่ส่งผลอันใดต่อพวกเขาแม้แต่น้อย!