ตอนที่แล้วตอนที่ 52 อ่างยากับคนทรยศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 เป้าหมาย  หมูคำราม!

ตอนที่ 53 ความสามารถของชายหนุ่ม!


หลังจากไล่ตามเสี่ยวเอ้ออยู่หลายนาที ไม่นานนักพวกเขาก็พบแม่น้ำที่พวกเขาตักน้ำใส่ถังเมื่อครู่ ป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นคนแรกที่มาถึง เขาตั้งใจจะ ‘สั่งสอน ’ เสี่ยวเอ้อแต่เมื่อเห็นสีหน้าของมันแล้ว ป๋ายเสี่ยวเฟยเงียบปากสายตาจ้องมองไปยังแม่น้ำเบื้องล่าง

ผ่านไปชั่วครู่ชายหนุ่มอีกเก้าก็มาถึง แต่ละคนทำสีหน้าท่าทางเหมือนป๋ายเสี่ยวเฟย ในใจพวกเขาอยากจะบ่น แต่เห็นบรรยากาศแปลกๆ จึงกลืนคำพูดลงไป

“พี่ใหญ่เฟย...”

โม่ข่าเดินมาอยู่ข้างกายป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างฝีเท้าแผ่วเบา เมื่อดูจากที่เขาไม่ได้หอบหายใจเฉกเช่นเมื่อก่อน อ่างยาของเสวี่ยอิ่งกล่าวได้ว่ามีประสิทธิภาพไม่น้อย

“สัตว์อสูรระดับป่าเถื่อน หมูคำราม ดูเหมือนจะมาเป็นฝูง มีทั้งหมดสิบหกตัว”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยเสียงค่อยขณะที่โม่ข่าส่งต่อคำพูดของเขาให้คนอื่นฟัง เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งกลุ่มกระจายตัวอย่างเงียบๆ เพื่อมองดูสัตว์อสูรที่ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าว

หมูคำรามเป็นสัตว์อสูรที่ใช้ชีวิตเป็นกลุ่มและสามารถยกระดับตนเองขึ้นไปถึงระดับพิสุทธิ์ได้เมื่อเติบโตถึงขีดสุด หมูคำรามที่เจริญเติบโตเต็มวัยจะมีน้ำหนัก 250 กิโลกรัมเป็นอย่างน้อยและมีความสามารถพิเศษสมชื่อ คำราม!

หากพวกมันเผชิญหน้ากับศัตรู พวกมันจะคำรามเสียงดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง ช่วงชิงโอกาสตอนที่ศัตรูได้รับผลจากเสียงคำรามเพื่อจู่โจมหรือหนี

ในระหว่างสัตว์อสูรระดับป่าเถื่อนด้วยกัน หมูคำรามจัดได้ว่ารับมือยากที่สุด

“เราไม่ต้องการเยอะขนาดนั้น”

“แค่ตัวเดียวก็พอ!”

นัยน์ตาของต้าหมิงและเสี่ยวหมิงส่องแสงเจิดจ้า ถึงแม้หมูคำรามจะจัดการได้ยาก แต่พวกมันโด่งดังเรื่องเนื้อนุ่ม!

“ข้าสังหารได้หนึ่งตัว แต่ข้าไม่มีหนทางหนีรอดได้อย่างปลอดภัย”

หวังหางปรากฎตัวข้างกายป๋ายเสี่ยวเฟย ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นเขาเป็นฝ่ายพูดก่อนเช่นนี้ อีกอย่างสีหน้าจริงจังของเขาเป็นตัวบ่งบอกว่าเขาไม่ได้โอ้อวด

“หนึ่งตัวไม่พอ ข้าจำได้ว่าเนื้อของหมูคำรามเก็บไว้นานได้หลายวัน ใช่หรือไม่!?”

ใบหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยมีรอยยิ้ม นัยน์ตาเผยให้เห็นความเฉียบคม

เป็นเวลานี้เองที่เสี่ยวเอ้อเห่าเสียงแผ่วเบาออกมา ใบหน้าของป๋ายเสี่ยวเฟยดิ่งวูบทันที

“บัดซบ เจ้าเป็นหมาของข้าหรือของนาง? เจ้าจะไม่แปลงกายเพียงเพราะนางบอก!?”

เมื่อเผชิญหน้ากับมือขวาที่ง้างขึ้นของป๋ายเสี่ยวเฟย เสี่ยวเอ้อเห่าอีกทีอย่างมั่นใจ ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องข่มกลั้นโทสะนี้ไว้

“ก็ได้! ข้าจะไม่พึ่งเจ้า! ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่มีปัญญาจัดการกับหมูไม่กี่สิบตัว!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเรียกทุกคนมารวม ไม่สนใจเสี่ยวเอ้ออีกต่อไป

“ข้าต้องการจัดการหมูพวกนี้ พวกเจ้าไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”

คนทั้งหมดเริ่มชินชากับกระบวนการทางความคิดของป๋ายเสี่ยวเฟยและพวกเขากำลังรอฟังวิธีที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะใช้จัดการกับหมูคำราม

“ก่อนอื่น ข้าต้องรู้ความสามารถของพวกเจ้าทั้งหมดเพื่อจะตัดสินว่าเราจัดการพวกมันได้หมดหรือไม่”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกวาดตามองทุกคน เขาเปิดปากพูดอีกคราเมื่อเห็นพวกเขาเผยสีหน้าตกลงยอมรับ

“ต้าหมิง เสี่ยวหมิง พวกเจ้าป้องกันหมูคำรามวิ่งชนได้หรือไม่? แค่สองทีก็พอ!”

“พวกเรากันได้สาม!”

คู่แฝดไม่ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยผิดหวัง คำตอบของพวกมันเกินความคาดหวังของป๋ายเสี่ยวเฟยไปเสียอีก

“ฉิงหนาน ฟางเย่ หุ่นเชิดจู่โจมระยะไกลของพวกเจ้าเป็นเช่นใด? แม่นยำแค่ไหน?”

ทั้งสองหันหน้ามามองก่อนจะเรียกหุ่นเชิดออกมา

หุ่นเชิดของฉิงหนานเป็นธนูไร้สายขนาดเล็กเท่าปลายแขนสีเขียว ฉิงหนานมีสายห้อยข้อมือเขาอยู่ตลอดและหากเขาไม่พูดอะไรพวกป๋ายเสี่ยวเฟยคงคิดว่ามันเป็นเครื่องประดับจากแดนใต้เป็นแน่แท้

ในอีกด้าน ลูกคนรวยฟางเย่หยิบปืนยาวที่หนักมากจากแหวนมิติออกมา แสงสะท้อนเจิดจรัสดึงความสนใจของทุกคนทันที หุ่นเชิดปืนคือหุ่นเชิดรูปแบบใหม่ที่เพิ่งถูกคิดค้นเมื่อสามสิบปีก่อน ผู้คิดค้นหุ่นเชิดปืนรุ่นแรกได้รับฉายาว่านักสร้างหุ่นเชิดระดับพระเจ้าไปแล้วเพราะความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดปืนยิ่งใหญ่เกินไป!

บางคนถึงกับกล่าวไว้ว่าหุ่นเชิดปืนจะเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามภายในทวีป อย่างไรก็ตามคำทำนายนั้นก็ไม่เป็นจริงเนื่องเพราะหุ่นเชิดปืนมีราคาแพงเหลือเกินหากต้องผลิตเป็นจำนวนมาก!

ขนาดจักรวรรดิยักษ์ใหญ่อย่างสื่อจิงยังไม่มีทรัพย์พอที่จะสร้างกองทัพหุ่นเชิดปืน เป็นเหตุผลนี้เองที่ทำให้หุ่นเชิดปืนกลายเป็นอภิสิทธิ์ของคนรวย

ตัวอย่างเช่น หากปืนยาวของฟางเย่ถูกวางขายในตลาด ราคาขั้นต่ำของมันจะอยู่ที่สิบล้านเหรียญอเมทิสต์! แต่คำพูดต่อไปของฟางเย่แทบทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยกระอักเลือด

“ข้าไม่เคยยิงเป้าหมายห่างจาก 200 เมตรโดน...”

ทุกคนคิดเป็นเสียงเดียวกันทันทีว่า ‘ช่างเสียของโดยแท้!!!’

“แล้วเจ้าล่ะ?”

ความหวังทั้งหมดอยู่ที่ฉิงหนาน

“ในหนึ่งร้อยดอกข้าอาจจะพลาดดอกเดียวหากเป้าหมายอยู่ห่างไป 200 เมตร”

สุ้มเสียงมั่นใจเปิดเผยความภาคภูมิของเขาในฐานะมือธนูชั้นนำ

ป๋ายเสี่ยวเฟยผงกศีรษะอย่างพึงพอใจก่อนจะหันไปทางเฉินฮุย

“เฉินฮุย หุ่นเชิดเจ้าล่ะ?”

ภายใต้สายตาของทุกคน เฉินฮุยหยิบไข่มุกสีขาวหิมะออกมาจากอก ส่งผ่านปราณกำเนิดเข้าไป ทันใดนั้นกระแสเย็นเยียบกระจายตัวออกมา อีกทั้งสีของมันยังเป็นสีม่วง!

“ไข่มุกแช่หิมะ หุ่นเชิดสืบทอดสายน้ำแข็ง เป็นสิ่งที่แม่ข้าเหลือทิ้งไว้ให้”

น้ำเสียงของเฉินฮุยเจือปนความคิดถึง

ถึงแม้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสำหรับเฉินฮุยที่จะเผยอารมณ์เช่นนี้ออกมา ทุกคนก็ยังแสดงความเคารพต่อเขา

“จะเป็นเช่นใดหากเจ้าใช้พลังทั้งหมด?”

คำถามของป๋ายเสี่ยวเฟยตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก เฉินฮุยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะชี้นิ้วไปยังแม่น้ำ

“ข้าสามารถแช่แข็งแม่น้ำนั่นได้มากสุดห้าวินาที”

แต่เฉินฮุยยิ่งตรงไปตรงมายิ่งกว่า เขาให้ตัวอย่างชัดเจน

หลังจากเฉินเอ่ยพูดจบ ป๋ายเสี่ยวเฟยกวาดตามองคนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ถามถึงความสามารถของพวกเขา หวู่จื๋อกับคนอื่นรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่ในใจเล็กน้อย

แต่พอพวกเขาคิดให้ถี่ถ้วน มันไม่มีอันใดต้องถาม ยิ่งโม่ข่าด้วยแล้ว... ทุกคนนิ่งเงียบรอป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างกระวนกระวายขณะที่เขาสำรวจพุ่มไม้ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยกลับมา นัยน์ตาของเขาเผยให้เห็นความมั่นใจ

“พวกเจ้าทั้งหมดต้องจำที่ข้าพูดให้ดี เพราะพวกเราจะไม่มีเวลามาคอยตักเตือนกันอีก หากเจ้าทำพลาดก็ต้องจัดการกันเอาเอง!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวเสียงเคร่งขรึมขณะแจกแจงหน้าที่ให้ทุกคน สิ่งที่พวกเขาต้องนั้นทำง่ายมาก แต่เมื่อพวกเขาสังเกตดีๆ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

‘เขาเพิ่งคิดแผนนี้ขึ้นมา!?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด