ตอนที่ 27 : มาสเตอร์บีสต์เทมเมอร์
ตอนที่ 27 : มาสเตอร์บีสต์เทมเมอร์
ที่ห้องประชุม ณ สำนักงานใหญ่แพลตฟอร์ม173
ผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากหลากหลายประเทศได้ส่งตัวแทนของบริษัทมาเข้าร่วมประชุมกับบริษัทเจี่ยเต้อ คอร์ปอเรชั่น หวู่กัวอี้ตื่นเต้นจนเอาแต่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูถี่ๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววของลู่หวู่
“คุณหวู่ ผมเกรงว่าเราจะมีเวลาเหลืออีกไม่มาก การประชุมใกล้จะเริ่มแล้ว!”
นี่คือตัวแทนจากเจี่ยเต้อ คอร์ปอเรชั่น เขาเป็นชายอายุกลางคนที่มีมีเอกลักษณ์ สวมแว่นตาใส่สูท
หวู่กัวอี้ถอนหายใจ จนกระทั่งกำลังจะประกาศการเริ่มประชุม ประตูห้องประชุมก็เปิดออก ลู่หวู่และเป่ยลี่ได้เข้ามาในห้องประชุม
เมื่อได้เห็นหวู่กัวอี้ ลู่หวู่หัวเราะเขินๆพร้อมพูดว่า “ฉันเจอรถติด ขอโทษจริงๆที่มาสาย!”
“เชิญนั่งก่อน ทำไมนายพาน้องสาวมาด้วยล่ะ?”
หวู่กัวอี้เชิญลู่หวู่ให้นั่งลงในขณะที่เขาจ้องมองไปที่เป่ยลี่
“น้องสาวฉันไม่ชอบอยู่คนเดียวน่ะ”
จริงๆแล้วลู่หวู่ตั้งใจจะเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง แต่เมื่อเป่ยลี่เห็นเขาออกมา เธอก็ดูเศร้าหมอง เหมือนลูกแกะที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะพาเธอมาด้วย
เมื่อได้เห็นเป่ยลี่ที่นั่งบนตักของลู่หวู่ ทำให้หวู่กัวอี้ค่อนข้างหงุดหงิด แต่ทำได้แค่พูดว่า “เอาหล่ะ โอริชา คุณเริ่มได้เลย”
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หัวตัวประชุมพยักหน้าเมื่อเขาได้ยินสัญญาณการเริ่มต้นการประชุม เขากดรีโมตในมือ ภาพแสดงสามมิติก็ปรากฎขึ้นทันทีที่ตรงกลางของโต๊ะประชุม
เมื่อได้ดูข้อมูลในแผ่นสรุป ลู่หวู่รู้สึกสับสน แต่ผู้พัฒนาคนอื่นๆกลับตั้งใจตรวจดูข้อมูลนั้นอย่างตั้งใจ
“ผมมั่นใจว่าทุกๆท่านรู้ดีอยู่แล้วถึงความสามารถของบริษัทเรา โดยเฉพาะเรื่องของอุปกรณ์เล่นเกมจำลอง เราคือเบอร์หนึ่งของโลก ในตอนนี้เราได้สร้างสิ่งที่เหนือยิ่งกว่าอุปกรณ์เล่นเกมจำลองสำเร็จแล้ว ผมหวังว่าทุกๆคนจะเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายในการประชุมในครั้งนี้ ดังนั้นเราจะเริ่มการอภิปรายกัน”
“ข้อมูลที่แสดงอยู่นี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับยอดขายของอุปกรณ์จำลองเสมือนจริงที่ทางบริษัทของเราได้พัฒนาขึ้น ทุกๆท่านในที่นี้คือผู้พัฒนาเกมชั้นนำแห่งดินแดนมังกร ผมเชื่อว่าถ้าเกมของพวกท่านได้เข้ามาเติมเต็มให้กับบริษัทของเรา นี่จะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการโปรโมทเกมของท่าน…”
ลู่หวู่สัปหงกจากตัวท่านที่กำลังยกยอบริษัทของตัวเองมาร่วมชั่วโมง แต่เป่ยลี่ในฟุบหลับน้ำลายยืดลงไปบนโต๊ะประชุมเรียบร้อยแล้ว
“ในโปรเจคนี้เราจะแบ่งปันผลกำไรกัน พวกเราบริษัทสวอนตกลงเข้าร่วมกับข้อเสนอนี้ อะไรคือเงื่อนไขของท่านอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากได้ฟังบทนำไปแล้ว ตัวแทนจากหลายบริษัทก็คล้อยตาม
“พวกเราขอเพียง 5% จากผลกำไรรายปีเป็นพื้นฐานของข้อตกลงนี้”
“5 เปอร์เซ็น?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในห้องอยู่ในความเงียบ
มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก ตัวแทนบริษัทจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อกับหัวหน้าเพื่อขอคำแนะนำ
“เอิ่ม... ฉันไม่สนใจ!”
ในตอนนี้ เมื่อลู่หวู่พูดออกมา คำพูดของเขาทำให้ทุกคนในห้องประชุมไปพักหนึ่ง
“หืม? ผมขอถามท่านได้ไหมว่าตรงไหนที่ทำให้ท่านไม่พอใจ?”
ตัวแทนจากบริษัทเจี่ยเต้อถามด้วยรอยยิ้ม
“ถ้ามันเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ผมขอปฏิเสธ!” ตอนนี้เป่ยลี่ได้พูดออกมาพร้อมกับขยี้ตา
ห้องชุมประได้เงียบลงอีกครั้ง
“ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย การที่ได้เข้าไปเติมเต็มกับเกมของท่านจะช่วยให้การขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน”
เมื่อลู่หวู่กำลังจะพูดออกไป เป่ยลี่ก็พูดออกมาก่อน “นายไม่สามารถทำแบบนั้นได้เหมือนกัน การที่พูดกันถึงเรื่องของเงินมันทำให้เสียความรู้สึก...”
หวู่กัวอี้รู้สึกละอายใจและแอบดึงกางเกงลู่หวู่เงียบๆใต้โต๊ะ
“ท่านคิดว่ายังไง?” ตัวแทนมองไปที่ลู่หวู่ถามเขา
“ความคิดของน้องสาวผมก็เหมือนความคิดของผม ผมขอปฏิเสธการร่วมมือในครั้งนี้!”
หวู่กัวอี้จ้องด้วยความสับสัน เขาหวังว่าลู่หวู่จะตกลงกับข้อเสนอที่หาไม่ได้ง่ายๆนี้ เขาไม่คิดเลยว่าลู่หวู่จะปฏิเสธมันแบบไม่คิด
ในความคิดของหวู่กัวอี้ ด้วยประสิทธิภาพของแบทเทิลออนไลน์ ถ้าเขาไม่พอใจกับเงื่อนไข เขาก็สามารถต่อรองได้ในอนาคต อย่างมากก็น่าจะลดเปอร์เซ็นส่วนแบ่งลงไปได้ถึงสองเปอร์เซ็นต์ แต่เขาไม่คิดว่าลู่หวู่จะปฏิเสธไปเลย
“ตกลง ในเมื่อท่านได้ตัดสินใจแล้ว ผมเองก็เสียใจแต่ก็เคารพการตัดสินใจของท่าน” ตัวแทนยิ้มและตอบด้วยความสุภาพ
เมื่อปฏิเสธข้อเสนอไปแล้ว ลู่หวู่ก็ลุกขึ้นและได้จูงมือเป่ยลี่ออกจากห้องประชุม
จริงๆเขารู้สึกมั่นใจกับการร่วมมือนี้ เช่นเดียวกับที่ตัวแทนบริษัทได้บอกไว้ มันเป็นข้อเสนอที่วินวินทั้งสองฝ่าย
แต่ถึงอย่างไร ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือบริษัทเจี่ยเต้อนั้นต้องการที่จะเก็บเงินค่าภาษี นั่นทำให้ลู่หวู่รับไม่ได้
แม้ว่าห้าเปอร์เซ็นต์จะดูเหมือนไม่มาก แต่ด้วยความทะเยอทะยานธรรมชาติของลู่หวู่ จากมุมของชื่อเสียงของเกมแบทเทิลออนไลน์จากทั่วโลก จำนวนนี้มันดูเหมือนจะเยอะเกินไป
เรื่องของการขยายฐานผู้เล่นไปในต่างประเทศก็เช่นกัน เขาเองยังไม่ได้รีบร้อนที่จะทำแบบนั้น มันเป็นเพราะว่าเขามั่นใจในแบทเทิลออนไลน์ เขาจึงไม่แบ่งกำไรให้กับใครทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการที่ได้ปฏิเสธหวู่กัวอี้ในการซื้อหุ้นของแบทเทิลออนไลน์
...
หลังจากที่พาเป่ยลี่ขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน เขาก็เปิดคอมพิวเตอร์ของเขาเข้าไปที่หน้าเมนูหลักของเกม ดูสติถิรายวันและตรวจสอบผู้เล่นที่กำลังออนไลน์
หลังจากตรวจดูหน้าหลักแล้ว เขาก็จ้องไปที่ไลฟ์สตรีมที่เด้งขึ้นมาด้านบน
‘ความรุ่งโรจน์ของบีสต์เทมเมอร์ เมื่อพยายามจับสัตว์…’ – 38236 คน กำลังดู
เขาประหลาดใจว่าทำไมคนถึงดูเยอะนัก ลู่หวู่จึงได้เข้าไปที่ชาแนล
เมื่อเขาได้สวมอุปกรณ์และเข้าสู่ไลฟ์สตรีม เขาเห็นฉากที่นักฆ่าชายคนหนึ่งกำลังมุ่งตรงไปที่หมาป่าซอมบี้อย่างเงียบๆ
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ตั้งใจดูให้ดี รอบนี้เราจะใช้กำลังเมื่อกำราบมัน เมื่อมันรู้ว่าไม่สามารถสู้ได้ เราก็จะใช้อาหารมาล่อมัน ผมมั่นใจว่าครั้งนี้จะต้องสำเร็จ”
เมื่อนักฆ่าคนนั้นพูดจบ คอมเม้นต์ต่างๆก็ได้พรั่งพรูออกมาเต็มจอ
“ระวังด้วยนะ ฉันยังพนันว่านายจะล้มเหลว”
“เทพเจ้าแห่งความขยัน มาสเตอร์บีสต์เทมเมอร์ ตายคาไลฟ์สตรีม!”
“นี่เป็นไลฟ์สตรีมที่แย่ที่สุดที่ดูมา จากที่ตามนายมาหลายวัน ฉันก็นับจำนวนที่นายตายไม่ไหวแล้ว ได้โปรดอย่างตายอีกเลย...”
“ความตายไม่มีอะไรต้องกลัว แต่สิ่งที่ควรจะกลัวคือนายเสพติดกับการตาย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายพยายามจับสัตว์ป่าเพื่อเป็นข้ออ้างในการตาย!”
“ฉันคิดว่านายควรจะไปสวนสัตว์และเลื่อนระดับเลเวลขึ้นอีกสักหน่อย อย่าพยายามอีกเลย ฉันกลัวว่าฉันจะขำตายในไลฟ์สตรีมของนาย”
…
คอมเม้นต์มากมายเต็มหน้าจอ พวกเขาไม่คาดหวังให้นักฆ่าจะมาจับสัตว์ป่าได้สำเร็จ
แต่ถึงอย่างไร ชายคนนั้นก็ได้พุ่งเข้าไปหาหมาป่าซอมบี้ ใช้สกิลพื้นฐานของนักฆ่า ชาโดวสเต็ป ต่อยเข้าไปที่หมาป่าซอมบี้เมื่อมันเห็นเขา
ในตอนนั้น นักฆ่าและหมาป่าซอมบี้ได้ต่อสู้พัวพันกัน
เมื่อได้เห็น ลู่หวู่ก็ยิ้มออกมา
หลังจากที่กำราบหมาป่าซอมบี้ เขาก็หยิบเชื่อกที่ทำเองขึ้นมาจากเอวและมัดหมาป่าซอมบี้
จากนั้นเขาก็ทำแบบที่เขาได้พูดเอาไว้ เขาล่อมันด้วยอาหารและได้กดขี่มันด้วยกำลังซ้ำไปซ้ำมา
ในตอนท้าย หมาป่าซอมบี้ก็จากไปด้วยลมหายใจสุดท้าย คอมเม้นต์ต่างๆได้ขอให้เขามีความเมตตาต่อมันและปล่อยมันไป
เมื่อทุกคนคิดว่าเขาจะล้มเหลวในความพยายามที่จะจับสัตว์ป่าในครั้งนี้ มันมีคำใบ้ในสายตาของหมาป่าที่กำลังทุรนทุราย มันก้มหัวลงต่อนักฆ่าเพื่อเป็นสัญญาณของการยอมแพ้
ชายคนนั้นก็แทบจะไม่เชื่อเช่นกัน เขาจึงปลดเชือกที่มันอยู่ด้วยความระมัดระวังพร้อมกับถือมีดอยู่ในมือ ด้วยความกลัวว่าหมาป่าซอมบี้จะโจมตีเขาเมื่อมันมีโอกาส
“วู้ววว”
ผู้ชมต่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหมาป่าซอมบี้มันไม่ทรยศ กลับกันมันถูไถตัวกับขาของเขา
“จับมันได้แล้วเหรอ?”
นักฆ่าคนนั้นไม่เชื่อสายตาของเขา เขาจึงหยิบกิ่งไม้บนพื้นขึ้นมาและปาไปข้างหน้า “ไปเอามา!”
หมาป่าซอมบี้เงยหน้าขึ้นมา มองไปที่นักฆ่าด้วยความสงสัยและสะกิดไปที่ขาของเขา
“ดูเหมือนว่านายจะไม่เข้าใจสินะ แต่ก็ถือว่านายเชื่องแล้ว” มีรอยยิ้มบนในหน้าของนักฆ่า
เมื่อได้เห็นฉากนี้ คอมเมนต์ก็หลั่งไหลออกมาที่ครั้ง
“ฮูเล่! มาสเตอร์บีสต์เทมเมอร์ นายทำได้จริงๆ โคตรเจ๋งเลย เอาหัวใจไปเลย(ส่ง 0.1 เหรียญวิญญาณ)”
“อะไรวะนั่น จากที่ติดตามมานาน คิดว่านายเป็นตัวตลกมาตลอด นายกลายเป็นคนมีความสามารถได้ยังไง?”
“หมาป่าซอมบี้น่าจะเป็นสัตว์ขี่ให้ได้ แค่คิดก็เท่ห์แล้ว ฉันมอบเหรียญวิญญาณที่ฉันมีทั้งหมดสามเหรียญให้นาย(เค้กสามชิ้น)”
“อ้า สุดยอด สัตว์ขี่ตัวแรกได้เกิดขึ้นแล้ว สุดยอดไปเลย!”
“ยินดีด้วย ‘โปเกม่อนมาสเตอร์’ ขนโปเกบอลออกมาให้หมดแล้วเริ่มผจญภัยไปกับการจับสัตว์เลี้ยง!”
…
หน้าจอเต็มไปด้วยคอมเมนต์ต่างๆ รวมไปถึงอิโมจิรูปหัวใจ เค้ก และของขวัญต่างๆ ความสำเร็จในการจับสัตว์ป่าเผยให้เห็นวิธีการเล่นเกมที่แตกต่างของเหล่าเกมเมอร์
จำนวนผู้เล่นมากมายพุ่งไปที่เขตหลิวลี่ ด้วยความต้องการที่จะจับสัตว์ขี่ที่ยอดเยี่ยม