ตอนที่ 97 สถานการณ์พลิกผัน ทารกผู้น่ากลัว
ตอนที่ 97 สถานการณ์พลิกผัน ทารกผู้น่ากลัว
“มีการซุ่มโจมตี!”
ก่อนหน้าหายนะวันสิ้นโลกมาถึง ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่า “ลูกพี่เป้า”เคยเป็นสมาชิกขององค์กรลับแห่งหนึ่งมาก่อน จึงเคยผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของฮวางซาง เขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที จากนั้นร่างกายของเขาก็โอนเอนไปมา พยายามกลายเป็นเงาดำออกไปจากที่นี่
และในเวลาเดียวกัน กริชในมือของเขาก็พุ่งไปด้านหน้า พยายามฆ่าเด็กทารกคนนั้นที่อยู่ในมือทันที
ไม่ว่าเจ้าหนุ่มนี้จะวางท่าใหญ่โตตบตาผู้คนยังไง หรือเด็กทารกคนนี้จะมีอะไรที่น่าประหลาดใจก็ตาม แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาจำเป็นต้องกำจัดเด็กทารกนี้ เผื่อๆไว้!
“แว้!”
แต่ทว่าชายชุดดำคนนี้ประเมินความน่ากลัวของเด็กทารกคนนี้ต่ำไปจริงๆ!
ในช่วงพริบตาเดียวที่ร่างกายของชายชุดดำนั้น เปล่งประกลายแสงสีดำออกมา ก่อนจะค่อยๆก่อตัวเป็นเงาดำ พร้อมกับพยายามฆ่าเด็กทารกคนนี้อยู่นั้น สายตาของเด็กทารกคนนี้ ก็กลับฉายแววสีเลือดออกมา หลังจากนั้นก็กรีดร้องอย่างรุนแรงออกมา
เสียงกรีดร้องนี้ทั้งน่ากลัวและแหลมมาก ถึงขนาดที่ชายชุดดำคนนั้น สัมผัสได้ว่ามีคนใช้ค้อนและกรวยเหล็ก มาเคาะอยู่ในหัวของเขาอย่างโหดเหี้ยมอย่างไรอย่างนั้น พริบตาเดียวในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ที่ยากจะพรรณนาออกมาได้ และการโจมตีที่หนักหน่วง ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว เลือดสดๆไหลออกมาตามตา หู ปาก จมูก ร่างกายที่เดิมที กำลังจะมลายหายไป ก็กลายร่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาใหม่ กริชที่จะเหวี่ยงใส่ทารกคนนั้นก็หยุดลงทันใด
กร๊อบ!
และเนื่องจากหยุดลง เด็กทารกคนนั้นกลับดิ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็อ้าปากเล็กๆนั้นออก ฟันที่ทั้งน่ากลัวราวกับเครื่องย่อยไม้ และทั้งแน่นหนาและแหลมคมก็ปรากฏขึ้นมา กัดไปบนข้อมือซ้ายของชายชุดดำ ที่จับเขาไว้อยู่อย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับออกแรงดึงอย่างรุนแรง
พริบตาเดียว เสียงฉีกขาดอย่างน่าสยดสยองก็ดังขึ้น เลือดเนื้อที่อยู่บนข้อมือ ของชายชุดดำคนนั้น รวมถึงกระดูกเส้นเอ็นก็ถูกเด็กทารกคนนั้นกัดฉีก จนขาดสะบั้น หลังจากนั้นเด็กทารกก็นำเลือดเนื้อและเอ็นข้อมือนั้น กลืนลงไปท่ามกลางเสียงกลืนที่แปลกประหลาดนั้นทันที
หลังจากนั้น เลือดสดๆจำนวนมากได้พุ่งทะลักออกมาจากข้อมือ ของชายชุดดำคนนั้นราวกับน้ำพุทันที !
ในนั้นน่าจะเป็นเส้นเลือดแดง!
“บัดซบ!”
ศักยภาพที่น่าตกใจของชายชุดดำ จนถึงระดับที่ร่างกายสามารถกลายเป็นเงาดำได้ ซึ่งการโจมตีทางกายภาพนั้นจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย แต่ในเวลานี้เขากลับได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส จนมือซ้ายทั้งแขนแทบจะไร้เรี่ยวแรง
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความเจ็บปวดบนมือซ้ายแล้ว ในใจของชายชุดดำในเวลานี้ กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากกว่า ดังนั้น ในเวลานี้เขาจึงอดทนกับความเจ็บปวด ที่แผ่ขยายออกมาจากแขนและในหัวสมองของเขาไว้ แล้วโยนเด็กทารกนั้นออกไปทันที ส่วนตัวเองนั้นก็กลายเป็นเงาดำล่าถอยไป พร้อมกับตะโกนออกไปสุดเสียงว่า
“ฆ่าพวกเขาซะ พวกเขามีแค่ 2 คน อย่าไปกลัว!”
ตึงตึงตึงตึงตึงตึง!
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชุดดำ นักโทษกลุ่มหนึ่งก็ทยอยกันตอบสนองทันที หลังจากนั้นก็กวัดแกว่งอาวุธที่อยู่ในมือยิงกราดใส่ฮวางซางและทารกคนนั้นอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อจากนั้น ท่ามกลางเสียงปืนนั้น กระสุนนับไม่ถ้วนก็ได้ยิงกราดออกไป จนกลายเป็นพายุโลหะขนาดใหญ่ ปกคลุมไปทั่วทั้งตัวของฮวางซางและเด็กทารกคนนั้นทันที
แต่ทว่ามันกลับไร้ประโยชน์!
ในชั่วพริบตาเดียว ที่กระสุนเหล่านั้นร่วงหล่นลงมาบนตัวของฮวางซาง ลำแสงสีขาวก็เปล่งประกายออกมาจากตัวของฮวางซางอย่างฉับพลัน ส่งผลให้กระสุนเหล่านั้นถูกขัดขวางไม่ทะลุเข้ามา ร่างกายของเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
ส่วนอีกด้าน เด็กทารกคนนั้นกลับถูกยิงเข้าเป้า เพียงแต่ผลลัพธ์ไม่เป็นดั่งที่นักโทษเหล่านั้นคาดเดาไว้
หลังจากที่กระสุนเหล่านั้น ยิงพุ่งใส่ร่างกายอันขาวเนียนละเอียด ของทารกคนนั้นแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับเหมือนกับกระสุนยางยิงใส่หนังวัวหนาๆ อย่างไรอย่างนั้น ส่งเสียงแค่เพียงฉึกฉึกออกมาเท่านั้น หลังจากนั้นกระสุนเหล่านั้น ก็ถูกผิวหนังของทารกคนนั้นขัดขวางไว้ ไม่เกิดร่องรอยบาดแผลแม้แต่นิดเดียว
“เป็นไปได้ยังไง? !”
เมื่อเห็นภาพนั้น นักโทษเหล่านั้น รวมถึงชายชุดดำที่เพิ่งถอยออกไปคนนั้น ต่างก็พากันอึ้งงันไป
พวกเขาไม่รู้ศักยภาพของทารกคนนี้มาก่อน อีกทั้งยังแข็งแกร่งกว่าเจ้าไทแรนท์และเจ้าลิกเกอร์ทั่วไปอีกด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะชำนาญด้านการโจมตีจิตวิญญาณมากที่สุดก็ตาม แต่กายเนื้อที่ผ่านการกลืนกิน และวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องนี้ ยังไงก็แตกต่างกันอยู่ดี จึงมีพลังเพียงพอที่จะขัดขวางกระสุนเหล่านั้นไว้ได้
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่กระสุนเหล่านี้ เมื่อมาถึงบนตัวของทารกคนนี้ กลับทำให้เขาสัมผัสรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวด หลังจากนั้นก็แผดเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธเคืองทันที
แว้!
แว้! แว้! แว้!
หลังจากนั้นเสียงร้องแหลมๆ ด้วยความโกรธเคืองของทารกคนี้ก็ดังขึ้น ท่ามกลางป่าไม้ที่เงียบสงัด ในบริเวณรอบๆค่ายพลเรือนแห่งนี้ ก็เกิดเสียงร้องแปลกๆดังออกมาอย่างฉับพลัน หลังจากนั้นเงาสีเลือดจำนวนมาก ก็พุ่งออกมาจากป่านี้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังนักโทษเหล่านั้นอย่างรวดเร็วทันที
"เหลือมนุษย์ไว้เป็นเชลยด้วย!"
เมื่อเห็นภาพนั้น ในใจของฮวางก็ร้อนรนขึ้นทันใด แล้วตะโกนออกไปเสียงดังว่า
"เจ้าลิกเกอร์สองตัวนั้นฆ่าได้!"
เขายังหวังให้นักโทษเหล่านี้ มาเป็นแรงงานให้อยู่ ย่อมไม่ยอมให้ซอมบี้ทารกเหล่านี้ กำจัดพวกเขาเด็ดขาด !
“แว้!”
ทารกคนนี้เชื่อฟังคำสั่งของฮวางซางเป็นที่สุด ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น มันก็ร้องขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ซอมบี้ทารกเหล่านั้นเปลี่ยนทิศทาง แล้วพุ่งไปฆ่าเจ้าลิกเกอร์ทั้งสองตัวนั้นแทน
ซือซือ!
ถึงแม้ว่าเจ้าลิกเกอร์สองตัวนี้ จะมีความกลัวต่อซอมบี้ทารกเหล่านี้ อยู่ในใจก็ตาม แต่พวกมันนั้นได้ถูกพี่ใหญ่หลงควบคุมไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าในใจจะเกิดความกลัว และไม่ยินยอมก็ตาม แต่ก็ทำได้เพียงแต่ฝืนใจ และพุ่งเข้าใส่ซอมบี้ทารกเหล่านั้นทันที
เพียงแต่ว่า.......
ถึงแม้ว่าเจ้าลิกเกอร์จะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งกว่าซอมบี้ทารกก็ตาม แต่ปัญหาคือซอมบี้ทารกเหล่านั้น มีจำนวนมากเกินไป รูปร่างที่เล็ก ๆแบบนี้ กลับมีระดับความเร็วเกินขีดจำกัด อีกทั้งยังเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพลังกัดที่น่ากลัวอีกด้วย ในกรณีที่มันรวมตัวกัน อานุภาพที่แผ่ขยายออกมานั้น ก็น่ากลัวเกินขีดจำกันเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเพียงแค่พริบตาเดียว เจ้าลิกเกอร์ทั้งสองตัวนั้น ก็เป็นเสมือนพืชไร่ที่ถูกตั๊กแตนกัดกิน ท่ามกลางภัยพิบัติตั๊กแตนอย่างไรอย่างนั้น เพียงแค่ถูกซอมบี้ทารก1-2ตัวเข้าโจมตี ซอมบี้ทารกตัวอื่นๆก็ตามกันมา จนปกคลุมไปทั่วทั้งตัว พร้อมกับกัดกินอย่างบ้าคลั่ง
ไม่นาน หลังจากนั้นเสียงกัดแทะและเสียงเคี้ยว ที่ทำให้รู้สึกชาไปถึงกระดูกก็ดังขึ้น เจ้าลิกเกอร์ที่ถูกซอมบี้ทารกปกคลุมทั้งสองตัวนั้น ก็หมดแรงดิ้นพล่านอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ถูกกัดกิน กลืนกิน แม้กระทั้งกระดูกก็ไม่เหลือซาก!
“ซือ...”
ศักยภาพของเจ้าลิกเกอร์นั้น แข็งแกร่งกว่านักโทษเหล่านั้นอย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อเห็นสัตว์ประหลาด ที่พวกเขาเห็นว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการฆ่ามาโดยตลอด อย่างพวกมันยังถูกสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่ง กัดกินไปในชั่วพริบตา นักโทษเหล่านั้นก็อดที่จะสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บเข้าไปไม่ได้ พร้อมกับแสดงสีหน้าหวาดผวาขึ้นมาอย่างฉับพลัน!
“วิ่ง!”
และในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำคนนั้นก็ได้สติ หยุดคิดที่จะต่อสู้กับฮวางซางทันที ก่อนจะกลายเป็นแสงสีดำจางๆ แล้วทำการหลบหนีออกไปให้ไกล แม้แต่ลูกน้องเหล่านี้และฉิวหลาวซื่อก็ไม่สนใจทั้งนั้น!
หวือ!
แต่ทว่าในช่วงพริบตาเดียว ที่ชายชุดดำคนนั้นกำลังกลายเป็นเงาดำ เพื่อทำการหลบหนีอยู่นั้น หางขนาดใหญ่หางหนึ่งกลับฟาดมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง อย่างฉับพลัน แล้วกวาดใส่ชายชุดดำคนนั้นอย่างหนักหน่วงทันที
หวือ!
เพื่อทำการหลบหนีศัตรูที่น่ากลัวเหล่านี้ ชายชุดดำคนนี้ก็ระเบิดพลังออกมาทั้งหมด กลายเป็นสภาวะเลือนลางกับมีตัวตน ดังนั้นถึงแม้ว่าหางยาวนั้นจะกวาดเข้ามาใส่เขา แต่กลับทำได้เพียงทะลุผ่านเงาดำนี้ไปก็เท่านั้น ส่วนเงาดำนี้ก็สั่นเทาเล็กน้อย และเบาบางลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ต้องเสียสิ่งแลกเปลี่ยนไประดับหนึ่งด้วย!
แต่เขาก็ยังจะหนีต่อไป!
“บัดซบ!”
เมื่อเห็นเงาดำนี้หนีไปทั้งๆที่ถูกหางของเจ้าทีเร็กซ์กวาดใส่ จูเก๋อโหย๋วหลงก็อึ้งงันไป หลังจากนั้นก็กระโดดพุ่งพรวดลงมาจากตัวของเจ้าทีเร็กซ์ จากนั้นก็กวัดแกว่งมีดโค้งฟันใส่เงาดำนั้นทันที
หวือ!
แต่ในตอนนั้นเอง เงาดำนี้กลับแยกส่วนกันอย่างฉับพลัน หลังจากนั้นก็กลายร่างเป็นกริชสีดำ พุ่งเข้าไปใกล้จูเก๋อโหย๋วหลง จึงบังคับให้เขาทำได้เพียงแค่กวัดแกว่งมีดไปมาเท่านั้น เพื่อปัดป้องกริชเล่มนั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาพลาดช่วงเวลาแห่งการสังหารไปในที่สุด
“แม่งเอ๊ย!”
เมื่อถูกกริชนั้นพุ่งเข้ามาโจมตี ด้วยแรงปะทะส่งผลให้ จูเก๋อโหย๋วหลงถอยร่นมา แล้วก็กระโดดขึ้นไปบนหลังเจ้าทีเร็กซ์อีกครั้ง เพื่อจะเตรียมตัวไล่ตามต่อไป
แต่ในตอนนี้ ร่างกายที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีดำขาว กลับกระโดดไปด้านข้างด้วยระดับความเร็วที่น่าตกใจ ก่อนตามเงาดำนั้นไปอย่างรวดเร็ว และเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงของฮวางซางก็ดังเข้ามาในหูของเขา
“นายดูเจ้านักโทษเหล่านี้ ห้ามให้เจ้าเด็กฆ่าพวกเขา ฉันจะตามเจ้านั่นไปเอง”
“หึ พี่ฮวางออกม้าเองแล้ว เจ้านั้นต้องตายอย่างแน่นอน!”
เมื่อเห็นร่างของฮวางซางหายเข้าไปในป่าเพียงช่วงพริบตาเดียว จูเก๋อโหย๋วหลงก็หัวเราะขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นก็ลูบไปบนหัวของเจ้าทีเร็กซ์ แล้วพูดขึ้นว่า
“ไปกันเถอะ เราต้องสั่งสอนเจ้าเด็กคนอื่นๆสักหน่อย!”
ฮือ!
เมื่อได้ยินคำพูดของจูเก๋อโหย๋วหลง เจ้าทีเร็กซ์ก็คำรามเสียงต่ำออกมา หลังจากนั้นก็พาจูเก๋อโหย๋วหลง พุ่งตรงไปหานักโทษเหล่านั้นทันที
จริงๆแล้ว ไม่ต้องใช้จูเก๋อโหย๋วหลงลงมือก็ได้ นักโทษเหล่านี้ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียวแล้ว เพราะว่าหลังจากที่ซอมบี้กว่าหนึ่งร้อยตัวเหล่านั้น ได้กลืนกินเจ้าลิกเกอร์สองตัวนั้นไปแล้ว ก็ต่างพากันล้อมพวกเขาเข้ามา และมีเจ้าหนุ่มสองสามคนในกลุ่มของพวกเขา ที่กล้าโจมตีออกไป ก็ได้ถูกซอมบี้ทารกเหล่านี้กัดกินไปเรียบร้อยแล้ว เหลือก็เพียงแต่คนที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเท่านั้น
สำหรับฉิวหลาวซื่อแล้ว ในเวลานี้ซอมบี้ทารกที่ห้อมล้อมกันเข้ามานั้น มีจำนวนมาก บวกกับจูเก๋อโหย๋วหลง ที่ขี่ไดโนเสาร์เข้ามาด้วย เขาก็ย่อมไม่กล้าจะขยับตัวแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน
แต่ยังไงเจ้าหนุ่มก่อนหน้านั้น ก็พูดเอาไว้แล้วว่าจะไว้ชีวิตพวกเขา!
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ฉิวหลาวซื่อก็ได้เกิดความกลัวอยู่พักหนึ่ง ถ้าเมื่อสักครู่เขาไม่ออกปากร้องขอ ให้ “ลูกพี่เป้า” ไม่ฆ่าทารกคนนั้น เกรงว่าจุดจบของเขาในครั้งนี้ก็คง...
เฮ้อ ครั้งนี้คนดีย่อมได้กรรมดีจริงๆ....
“หึ เจ้าเด็กเหล่านี้เก่งมากจริงๆ!”
และในเวลาเดียวกัน ในขณะที่มองไปยังท่าทาง “ว่านอนสอนง่าย” ของนักโทษเหล่านั้น ทัศนะคติของจูเก๋อโหย๋วหลง ต่อซอมบี้ทารกเหล่านี้และทารกคนนั้นก็เปลี่ยนไป
ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กเหล่านี้จะน่ากลัวมากจริงๆก็ตาม แต่ในเวลานี้เมื่อเขายืนอยู่ข้างกายพวกเขา ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงที่อยู่ในใจของเขาก็ลดน้อยลงไปมาก
เพียงแต่วินาทีต่อจากนี้ หลังจากที่จูเก๋อโหย๋วหลงเห็นว่าทารกคนนั้นทำอะไร ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงในใจที่เพิ่งลดน้อยลงเมื่อสักครู่ก็กลับมาอีกครั้ง
เพราะทารกคนนั้น ได้อุ้มหัวกะโหลกที่ยังคงสภาพดี ของเจ้าลิกเกอร์ขึ้นมาเริ่มกัดกินเป็นอาหารมื้อใหญ่ ราวกับได้กินเต้าหู้ อย่างไรอย่างนั้น ทารกได้กัดกินมันสมองและเลือดเนื้อของเจ้าลิกเกอร์ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะคิคิชอบใจออกมาด้วยความพอใจ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มสดใส
มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสแปลกๆ และน่ากลัวอย่างมาก ด้วยรอยเปรอะเปื้อนไปด้วยมันสมองและเลือดของซากศพ ที่น่าสะอิดสะเอียนเหล่านั้นแล้ว ส่งผลให้จูเก๋อโหย๋วหลงตัวแข็งทื่อขึ้นโดยไม่รู้ตัว และกลัวจนตัวสั่นงันงกไปในทันที
เจ้าเด็กนี้ยังคงน่ากลัวเหมือนที่ผ่านมาจริงๆ!