ตอนที่แล้วตอนที่ 95 กลายร่างเป็นหนู สะกดรอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 97 สถานการณ์พลิกผัน ทารกผู้น่ากลัว

ตอนที่ 96 ตัวประกัน


ตอนที่ 96 ตัวประกัน

  

“ให้ลูกน้องของนายซ่อนตัวก่อน  อย่างเพิ่งเคลื่อนไหวเด็ดขาด”

เนื่องจากไม่แน่ใจว่าผู้มาเยือนนั้นเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู  ดังนั้นหลังจากที่ฮวางซางเกิดความลังเลขึ้น  จึงได้ให้ทารกคนนั้นออกคำสั่งให้ซอมบี้ทารกเหล่านั้นซ่อนตัว

ถึงอย่างไรซอมบี้ทารกเหล่านั้น ก็น่ากลัวแปลกประหลาดมากเกินไป  หากคนทั่วไปพบเห็นก็คงจะเข้าโจมตีอย่างแน่นอน  ถึงตอนนั้นก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นขึ้น

แต่ป้องกันไว้ก่อนก็ดี  จากนั้นฮวางซางก็ยกปืนกลที่ตั้งอยู่หน้าประตูค่ายกลพลเรือนขึ้นมา พร้อมกับแบกกล่องกระสุนอีกสองกล่องขึ้นมาด้วย  ก่อนจะหันไปพูดกับจูเก๋อโหย๋วหลงว่า

“นายพาเจ้าทีเร็กซ์ไปซ่อนตัวก่อน  มีคนมา  ระวังตัวด้วย”

“อื้อ!”

ไม่ว่าจะเป็นการลอบยิงในโรงยิมก่อนหน้านั้น  หรือหลังจากที่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในโรงพยาบาลในเมืองก็ตาม  เรื่องราวเหล่านี้ก็ทำให้จูเก๋อโหย๋วหลง เข้าใจความน่ากลัวของมนุษย์ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลกนี้ ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว  ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของฮซางซาง เขาก็พาเจ้าทีเร็กซ์ไปซ่อนตัวอย่างไม่ลังเลทันที

เมื่อเป็นแบบนี้ หน้าประตูค่ายพลเรือน ก็เหลือเพียงฮวางซางที่มือข้างหนึ่งก็อุ้มเด็ก  ส่วนอีกข้างก็ถือปืนเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม   ปืนกลนี้สำหรับฮวางซางแล้ว จะมีหรือไม่มีก็ได้

หลังจากที่จูเก๋อโหย๋วหลง พาเจ้าทีเร็กซ์ไปซ่อนตัวได้ไม่นาน  ความรู้สึกถึงภัยอันตรายบางอย่าง ก็ปรากฏขึ้นมาในใจของฮวางซางทันที  หลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

ตึงตึงตึง!

หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้นแล้ว  กระสุนแต่ละลูกก็พุ่งออกมาจากป่าไม้ที่หนาแน่นนั้น แล้วพุ่งตรงเข้าใส่ฮวางซางทันที

แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะยังไม่ได้ต้องการคร่าชีวิตฮวางซางแต่อย่างใด  เพราะว่าถึงแม้ว่า จะมีกระสุนพุ่งออกมาจากป่าไม้ เป็นจำนวนมากก็ตาม  แต่ส่วนใหญ่แล้ว กลับพุ่งไปยังตำแหน่งแขนและขาทั้งสองข้างเป็นส่วนใหญ่

แต่ฮวางซางที่ได้ทำการเตรียมการป้องกันเอาไว้แล้ว ก็ย่อมไม่ถูกยิงอย่างง่ายดายแต่อย่างใด  ดังนั้นแทบจะพริบตาเดียว ที่เสียงปืนดังขึ้น  เขาก็กลิ้งตัวไปด้านข้างปืนกล  เพื่อหลบหลีกกระสุนเหล่านั้น

วินาทีต่อจากนั้น อีกฝ่ายก็เปลี่ยนทิศทางการโจมตีทันใด  เพียงแต่กระสุนที่ยิงมาเหล่านั้น กลับถูกกระสอบทรายที่ตั้งเป็นฐานกำบังอยู่ด้านนอกปืนกลนั้นแทน  ถึงแม้ว่ากระสอบทรายเหล่านั้นจะแตกกระจายก็ตาม แต่กลับไม่สร้างบาดแผลให้กับฮวางซางสักนิดเดียว

“พอแล้ว!”

ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายยิงมาก่อน  แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น ฮวางซางจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ระงับความต้องการที่จะโจมตีกลับไปเอาไว้ในใจ  แล้วซ่อนตัวอยู่ในฐานปืนกลนั้น ก่อนจะตะโกนออกไปด้วยความโกรธเคือง

“พวกนายเป็นใคร ทำไมถึงต้องยิงฉัน!”

“ทำไม?”

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง  เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นก็ดังออกมาจากในป่าทันที

“ฉันถามนายหน่อยว่า นายคือคนที่ฆ่าพี่ชายของฉันไช่ไหม? หากนายจำไม่ได้  งั้นฉันจะช่วยเตือนความจำนายให้ นายยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในโรงยิมของเมืองเหลียนได้ใช่ไหม!”

“ที่แท้ก็พวกนายเอง!”

ทำไมฮวางซางจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงยิมไม่ได้ละ  ดังนั้นใบหน้าของเขาก็ปราฏรอยยิ้มแห่งความเยือกเย็น ขึ้นมาทันใด  หลังจากนั้นก็ทำการเล็งปืนกล ไปในทิศทางที่มีเสียงดังออกมา โดยไม่โผล่หัวออกมาแต่อย่างใด จากนั้นก็เหนี่ยวไกปืนอย่างรวดเร็ว

บึมบึมบึมบึมบึมบึมบึม!

วินาทีต่อจากนั้น เสียงระเบิดอันรุนแรงก็ดังขึ้น กระสุนปืนกลขนาดใหญ่เหล่านั้น ได้ยิงพุ่งออกไปจากปากกระบอกปืน หลังจากนั้นก็กราดใส่ท่ามกลางเสียงปืนเหล่านั้นทันที

ต้องบอกว่า อานุภาพของปืนกลนั้นน่ากลัวมากจริงๆ หลังจากที่ห่ากระสุนเหล่านี้พุ่งออกไปแล้ว  ก็กราดใส่สิ่งกีดขวางตลอดเส้นทางด้วย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นไฟจราจรที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์  ทั้งหมดถูกกระสุนที่น่ากลัวนี้กราดใส่จนแตกกระจาย กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยไปในทันที

แต่ที่น่าแปลกก็คือ กลับไม่มีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้นมา แต่อย่างใด เพียงแต่เสียงปืนของอีกฝ่าย หยุดลงเท่านั้น ราวกับหลบหลีกไปอยู่ที่แห่งอื่น อย่างไรอย่างนั้น

แก็กแก็กแก็ก!

ภายใต้การกราดยิงอย่างบ้าคลั่งโดยไม่เกรงกลัวใด ๆนี้  กระสุนปืนกล่องหนึ่ง ก็ถูกฮวางซางใช้จนหมดลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งภายในปืนก็เกิดเสียงแก๊กแก๊กของความว่างเปล่าอีกด้วย

นี่คือหนึ่งในข้อเสียของปืนกล กระสุนปืนนั้นหมดเร็วเกินไป!

ภายใต้สถาณการณ์ที่อับจนปัญญานี้  ฮวางซางก็ทำได้แค่เพียง วางทารกคนนั้นไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็หยิบกล่องกระสุนอีกกล่อง ขึ้นมาเตรียมการใส่กระสุนเข้าไป

แต่ในตอนนั้นเอง  การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็บังเกิดขึ้น  เงาดำกลุ่มหนึ่ง กลับปรากฏขึ้นมาอย่างประหลาด ภายในฐานปืนกลที่ฮวางซางอยู่ในตอนนี้  หลังจากนั้นก็กลายร่างเป็นชายชุดดำ พร้อมกับกวัดแกว่งอาวุธแปลกๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นกริชและโซ่ตรวนขึ้นมา จากนั้นก็แทงไปบนแผ่นหลังของฮวางซางอย่างโหดเหี้ยม

เจ้านี่คิดอยากจะกำจัดฮวางซาง!

ต้องพูดว่า พลังเหนือมนุษย์ของชายชุดดำคนนี้ ประหลาดมากจริงๆ ไม่เพียงแต่จะไปมาอย่างไร้ร่องรอยแล้ว  อีกทั้งยังไม่เกิดเสียงอีกด้วย  ต่อให้เป็นฮวางซาง ก็ไม่มีทางหลบหลีกการโจมตี ที่ทั้งแปลกประหลาดและทั้งสามารถคร่าชีวิต ของเจ้าคนนี้ได้หรอก!

ผลัวะ!

แต่ในช่วงพริบตาเดียว ที่ชายชุดดำคนนี้ ใช้กริชในมือแทงไปบนแผ่นหลังของฮวางซาง  สำแสงสีดำกลุ่มหนึ่ง กลับเปล่งประกายออกมา จากตัวของฮวางซางอย่างฉับพลัน  และได้ทำการขัดขวางปลายแหลมของกริชนั้นไว้!

“อะไรกัน?”

เมื่อเห็นว่ากริชของตัวเอง ไม่สามารถทะลุลำแสงสีดำประหลาดๆนี้ไปได้  ชายชุดดำคนนี้ ก็อึ้งงันไปอย่างเห็นได้ชัด

แต่เจ้านี่เป็นนักฆ่าที่น่ากลัวมากคนหนึ่ง  ดังนั้นหลังจากที่โจมตีไม่สำเร็จ  เขาก็กระแทกไปบนพื้นอย่างไม่ลังเลใด  จากนั้นก็ถอยร่นไปด้านหลัง พร้อมกับเหวี่ยงโซ่ตรวนผสมกริชนั้นออกไป  จากนั้นก็พันเด็กทารกคนนั้นเอาไว้  กระชากออกมาเบาๆ เพื่อให้ทารกคนนั้น มาอยู่ในมือของตัวเอง

หลังจากนั้นเขาก็ใช้กริชมาจ่อบนหัวของทารกคนนั้น  จากนั้นก็หันไปพูดกับฮวางซางด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“วางอาวุธลง ไม่งั้นฉันจะฆ่าเจ้าเด็กผีนี้แน่”

ถึงแม้ว่าเขาจะมาเพื่อแก้แค้น ให้กับพี่น้องของตัวเองก็ตาม  แต่กลับไม่ได้สูญสิ้นสติปัญญาแต่อย่างใด  ในใจของเขารับรู้ได้อย่างชัดเจน  ในเมื่อฮวางซางสามารถฆ่าชายหัวล้านคนนั้น ในสถาการณ์ตัวต่อตัวได้  ศักยภาพที่แท้จริงของเขา ก็ย่อมไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด  หากต้องสู้กันขึ้นมา ถึงพวกเขาจะชนะ แต่ก็ต้องแลกมันมากับการบาดเจ็บอย่างแน่นอน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงใช้ประโยชน์จากเด็กทารกคนนี้ มาจัดการกับฮวางซางยังไงละ

“ก็ได้....”

ถึงอย่างไรสำหรับคนที่ไม่ใช่กองทัพทหาร  ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นทางการมาก่อน อย่างฮวางซาง การติดตั้งกระสุนคงเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก สำหรับเขามาก ดังนั้นเขาจึงทิ้งปืนกลในมือเอาดื้อๆ  หลังจากนั้น ก็หันไปมองชายชุดดำคนนั้น ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“นายคิดว่าไงละ?”

“คิดว่าไง? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนว่าฉันอยากให้นายตายไง!”

เมื่อเห็นฮวางซางวางอาวุธลง  ชายชุดดำคนนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาทันที

“นายฆ่าพี่ชายของฉัน นายคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปอย่างนั้นเหรอ ?  ฉิว หลาวซื่อ!”

บึม!

หลังจากที่ชายชุดดำคนนี้ ตะโกนออกไปสุดเสียงแล้ว ใต้พื้นดินของฮวางซางก็แยกออกอย่างฉับพลัน  หลังจากนั้นฉิว หลาวซื่อที่กลายร่างเป็นมนุษย์หนู ก็พุ่งออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน ที่เขาขุดเอาไว้อย่างรวดเร็ว  พร้อมกับเล็บยาวๆที่แหลมคมนั้น ก็คว้าไปที่ลำคอของฮวางซางทันที

“หึหึหึ  คิดไม่ถึงล่ะสิว่าปู่ฉิวของนาย จะขุดอุโมงค์ได้ด้วย?”

หลังจากที่ควบคุมฮวางซางได้แล้ว ฉิวหลาวซื่อก็หัวเราะอย่างโหดร้ายออกมา

“จริงๆแล้ว  เราสองคนก็ไม่ได้มีความแค้นต่อกันหรอก แต่ใครที่ทำให้ลูกพี่เป้าไม่พอใจ  ฉันฉิวหลาวซื่อก็จะไม่มีวันปล่อยมันไปเหมือนกัน”

“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ออกมากันเถอะ!”

เมื่อเห็นฉิวหลาวซือใช้กรงเล็บ จ่ออยู่ที่จุดอ่อนของฮวางซางอยู่  ชายชุดดำก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ  หลังจากนั้นก็กวัดแกว่งมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา

วินาทีต่อจากนั้น เสียงดังกรอบแกรบๆก็ดังขึ้นมา  นักโทษที่ติดอาวุธครบมือ ก็พุ่งออกมาจากป่าเหล่านั้น  ก่อนจะเข้ามาโอบล้อมฮวางซางไว้  แล้วก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าลิกเกอร์สองตัว ก็ประโดดพุ่งออกมาจากป่าไม้ ก่อนจะไปจับอยู่ที่ต้นใม้สองต้น   หลังจากนั้นก็หันหน้าไป และดมกลิ่นกลางอากาศ ราวกับได้มีอะไรบางอย่าง ที่ไม่ชอบมาพากล

แต่ถึงอย่างไร เจ้านี้ก็ไม่มีความสามารถในการสื่อสาร กับเจ้าลิกเกอร์ได้เหมือนพี่ใหญ่หลงนั้น  ดังนั้นจึงย่อมไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ ในใจของเจ้าลิกเกอร์  บวกกับความสนใจทั้งหมดของพวกเขา ก็ตกไปอยู่ที่ฮวางซางด้วย  ดังนั้นสุดท้ายจึงพลาดโอกาสสุดท้ายนี้ไป

“หึหึ.....”

ในขณะที่มองไปทางนักโทษสีหน้าโหดเหี้ยม ร่างกายแข็งแรงกำยำ  เดินออกมาจากป่าไม้รอบทิศทาง  ฮวางซางก็ยิ้มออกมาอย่างฉับพลัน

ง่วงก็ต้องมีหมอนจริงๆ  ดูเหมือนว่าโชคของตัวเองจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว

“ยิ้มยิ้มยิ้ม  ยิ้มทำซากอะไร!”

เมื่อเห็นฮวางซางยังยิ้มได้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เพื่อแสดงถึงความภักดีของตัวเอง ฉิวหลาวซื่อคนนั้นก็เปล่งเสียงออกมาทันที

“ขืนยังยิ้มอีกครั้งข้าจะควักลูกตานายออกมา เข้าใจไหม?”

“นายคือผู้มีพลังเหนือมนุษย์คนใหม่ ที่เพิ่งจะเข้าร่วมทีมของพวกเขาใช่ไหม?”

เมื่อเผชิญหน้ากับการคุกคามของฉิวหลาวซื่อ  ฮวางซางกลับหันหน้าไปมองเขาทันที

“ใช่แล้วจะทำไม  ถึงยังไงวันนี้ก็เป็นวันซวยของนาย  ปู่ฉิวอย่างฉันจึงได้รับหน้าที่เป็นครั้งแรก แล้วนายก็คือคนแรกที่ได้รับสิทธิ์นั้น”

ฉิวหลาวซื่อหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา

“ฉันขอบอกให้นายทำตัวนิ่งๆไว้ดีกว่า  ถึงอย่างไรนายก็ต้องตายอย่างแน่นอน แต่เจ้าเด็กผีนั้นก็ยังอาจจะมีชีวิตต่อไป”

“หึ ฉิวหลาวซื่อ นายนี่ยิ่งพูดจาไร้สาระมากขึ้นเรื่องแล้วนะ”

และในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำกลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“เจ้าสารเลวคนนี้ฆ่าพี่ชายของฉัน ฉันจะฆ่ามันทั้งครอบครัว!”

เมื่อพูดจบ ชายชุดดำคนนั้นก็จับทารกขึ้นมา เตรียมโยนให้กับเจ้าลิกเกอร์สองตัวนั้น

“อย่า!”

เมื่อเห็นการกระทำของชายชุดดำนั้น  ฉิวหลาวซื่อกลับตะโกนออกมาทันใด

“ลูกพี่เป้า เจ้าเด็กผีนี้อาจจะไม่เหมือนกับเขา อีกอย่างเขาก็ยังเล็กขนาดนี้ ยังไม่รู้เรื่องรู้ความเลย  พวกเราไม่จำเป็นต้องฆ่าเขาก็ได้มั้ง?”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉิวหลาวซื่อก็เกิดความลังเลขึ้นเล็กน้อย  หลังจากนั้นก็พูดต่อว่า

“อีกอย่างพี่ใหญ่หลงก็เคยบอกไม่ใช่เหรอพวกเราต้องรวบรวมผู้รอดชีวิตให้มากที่สุด  ถ้านาย.....”

“หุบปาก!”

แต่ทว่ายังไม่ทันที่ฉิวหลาวซื่อจะพูดจบ  ชายชุดดำคนนั้นกลับตะโกนออกไปด้วยความโกรธเคือง

“ฉิวหลาวซื่อ ดูท่าแล้วนายกำลังสับสนอยู่นะ?  นายอยู่ในสถานะอะไร  และฉันอยู่ในสถานะอะไร  ฉันต้องให้นายมาสอนเหรอ?”

“แต่ว่า”

เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเคืองของชายชุดดำนั้น ใบหน้าที่ทั้งอ้วนท้วมและดูน่าขบขันนั้น ของฉิวหลาวซื่อก็หวาดกลัวขึ้นมาทันใด แต่หลังจากนั้นก็กัดฟันกรอด แล้วพูดขึ้นว่า

“ลูกพี่เป้า นายก็น่าจะไว้หน้าฉิวหลาวซื่อบ้าง อย่ามั่วมาจุกจิกกับเด็กผีนั้นเลย  ฉันสัญญา  นายเอาเด็กนั้นให้กับฉันเถอะนะ  ฉันจะทำให้เขาเชื่อฟังอย่างว่านอนสอนง่ายเลย !”

“ไว้หน้าบ้าอะไรของนาย!”

เมื่อเห็นฉิวหลาวซื่อ พยายามโต้แย้งกับตัวเอง เพื่อเด็กนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ชายชุดดำคนนั้นก็ระเบิดความโกรธขึ้นมาทันใด

“พี่ใหญ่หลงพูดไม่ผิดเลย คนแบบนายมักจะแสดงออกว่ากล้าหาญและโหดร้าย แต่จริงๆแล้วภายในนายมันอ่อนแอไร้ความสามารถ ดังนั้นเขาจึงให้ฉันพานายมาจัดการเรื่องเหล่านี้ เพื่อหวังจะให้ขัดเกลานาย  แต่นายก็ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของชายชุดดำคนนั้น ก็ยิ่งเย็นยะเยือกมากขึ้น

“นายคิดให้ดีๆ  ภรรยาและลูกของนายอยู่ที่นั้นกับพวกเรา   หากนายเมตตาสงสารเด็กผีคนนี้ มากกว่าผู้หญิงและเด็กนั้น จนขัดคำสั่งของฉันและพี่ใหญ่หลง เมื่อนายตายไป ใครจะมาเมตตาสงสารภรรยาและลูกของนายละ?”

“ฉัน......”

เมื่อคิดถึงภรรยาและลูก ที่อยู่ภายในเรือนจำนั้น ใบหน้าของฉิวหลาวซื่อ ก็ปรากฏสีหน้ากระวนกระวายใจขึ้นมาทันใด

จริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นคนเลวอะไรหรอก  เพียงแค่เขาต้องอยู่ในเรือนจำนั้น  ดังนั้นเขาจึงต้องแกล้งทำเป็นดูโหดร้าย  เมื่อเป็นเช่นนี้  ในเวลานี้เมื่อเขาเห็นชายชุดดำคนนั้น ต้องการฆ่าเด็กที่เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นาน  การเสแสร้งของเขาจึงพังทลายลง  ความลังเลภายในใจและมโนธรรมที่ยังไม่ถูกทำลาย ก็ทำให้เขาตกลงไปสู่ความกระวนกระวายใจลึกๆทันที

“หึ เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้.....”

ในขณะที่ฉิวหลาวซื่อกำลังกระวนกระวายใจอยู่นั้น ฮวางซางกลับหัวเราะออกมา

“ในเมื่อเป็นแบบนี้......งั้นก็ยินดีด้วย นายชนะใจตัวเองแล้ว!”

“อะไรกัน?”

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ฉิวหลาวซื่อและชายชุดดำคนนั้นก็อึ้งงันไป

“นายคิดว่าเจ้าเด็กน้อยที่จับไว้อยู่ จะสร้างความกริ่งเกรงให้แก่ฉันได้เหรอ?”

ในขณะที่มองไปยังท่าทางอึ้งงัน ของฉิวหลาวซื่อและชายชุดดำคนนั้น ฮวางซางก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมาทันใด

“ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เข้าใจผิด  เจ้าเด็กนั้นไม่เคยเป็นจุดอ่อนของฉัน แต่เป็น.......อาวุธสังหารของฉัน !”

วินาทีต่อจากนั้น  สายตาของฮวางซางก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด ลำแสงสีขาวได้เปล่งประกายออกมา ก่อนจะตะโกนออกไปสุดเสียงว่า

“ลงมือ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด