ตอนที่ 84 พันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์
ตอนที่ 84 พันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์
"เวรละ!"
ในขณะที่มองไปทางทีเร็กซ์ ที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายจนถึงขีดจำกัดนั้น ฮวางซางก็เงียบขรึมขึ้นมาทันใด
ตอนนี้กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า กลับไร้เรี่ยวแรงใดๆที่จะต่อต้านแล้ว!
แต่ยังดี ที่ในตอนนี้ไม่ได้มีเขาต่อสู้เพียงคนเดียว!
หวือ!
ในชั่วพริบตาเดียวที่เจ้าทีเร็กซ์ พุ่งเข้ามาด้านหน้าของฮวางซาง พร้อมกับอ้าปากกว้างๆ พยายามที่จะกัดฮวางซางให้ฉีกขาดอยู่นั้น ร่างหนึ่งกลับลอยตัวขึ้นไปบนอากาศ แล้วร่วงหล่นลงไปบนหลังของเจ้าทีเร็กซ์ตัวนั้นทันที!
ผู้มาเยือนคนนี้ คือจูเก๋อโหย๋วหลงนั้นเอง!
หลังจากที่กระโดดขึ้นไปบนหลังของเจ้าทีเร็กซ์แล้ว จูเก๋อโหย๋วหลงก็ใช้มือทั้งสองข้าง โดยที่ไม่สนใจความเจ็บปวดแต่อย่างใด เขากัดฟันกรอด มือข้างหนึ่งจับบนคอของเจ้าทีเร็กซ์ไว้ เพื่อยึดตัวเองให้มั่นคง ส่วนอีกข้างก็จับกริชเคลือบพิษไว้แน่น แล้วมองไปทางบาดแผลที่ฮวางซางเหลือทิ้งไว้ให้ก่อนหน้านั้น ก่อนจะเสียบลงไปบนตัวของเจ้าทีเร็กซ์อย่างโหดเหี้ยมทันที!
ฮือ!
ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายออกมาจากลำคอ ทำให้มันอดส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด ออกมาไม่ได้ จากนั้นก็ดิ้นพล่านอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจฮวางซางอีก พยายามสลัดให้จูเก๋อโหย๋วหลง ร่วงหล่นลงมา!
มันรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าไม่ทำให้เจ้ามนุษย์นี้ร่วงหล่นลงมาจากหลังได้ สถานการณ์นั้น มันก็จะยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ อีกทั้งอาการชาภายในร่ากายของมัน ก็ยิ่งทำให้มันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันรุนแรงมากยิ่งขึ้น !
แต่ทว่า จูเก๋อโหย๋วหลง ที่ไม่ได้มีโอกาสจับเจ้าทีเร็กซ์นี้ได้ง่ายๆ จะยอมปล่อยมือไปง่ายๆอย่างนั้นอีกเหรอ?
ไม่ว่าเจ้ามีแร็กซ์จะดิ้นพล่านแค่ไหน เขาก็ยังคงจับคอของเจ้าทีเร็กซ์ไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กริชด้ามนั้นเสียบเข้าไปบนบาดแผล บนคอของเจ้าทีเร็กซ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เพียงแต่จะทำให้บาดแผลนั้นขยายแล้วเท่านั้น อีกทั้งยาพิษที่เคลือบอยู่บนกริชนั้น ก็ค่อยๆกัดกร่อนบนร่างกายของเจ้าทีเร็กซ์ทีละนิด ทำให้ระดับพลังการต้านทานของมันค่อยๆลดลงไปเรื่อย ๆ !
ฮือ!
ไม่นาน เจ้าทีเร็กซ์ก็รับรู้ได้ว่า การใช้วิธีการธรรมดา ไม่สามารถทำให้เจ้ามนุษย์คนนี้ ร่วงหล่นลงมาได้ ดังนั้นมันจึงเริ่มกระแทกเข้ากับศูนย์การค้าแห่งนี้อย่างบ้าคลั่งแทน พยายามกระแทกอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้จูเก๋อโหย๋วหลงร่วงลงมา
"อ่าาาาาาาา!"
การกระแทกอย่างรุนแรงแต่ละครั้งๆ ทำให้จูเก๋อโหย๋วหล งเกิดบาดแผลขึ้นเต็มตัว จึงอดที่จะกรีดร้องออกมาไม่ได้
แต่เนื่องจากจูเก๋อโหย๋วหลง เคยสามารถพาจางเฟิ้งและเด็ก ๆทั้งกลุ่มเอาชีวิตรอด ท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลกออกมาได้ จิตใจและความทรหด ย่อมเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะถูกกระแทก จนร่างกายถลอกปอกเปิก เลือดพุ่งออกจากปาก เลือดเนื้อของแขนทั้งสองข้างก็บาดเจ็บสาหัสก็ตาม แต่เขากลับไม่ปล่อยมือแต่อย่างใด ยังคงกัดฟันต่อไป อดทนต่อความเจ็บปวด แล้วใช้กริชเสียบไปบนบาดแผลของเจ้าทีเร็กซ์อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งคนทั้งไดโนเสาร์ จึงตกอยู่ในสงครามบั่นทอนกำลังกัน มาดูกันว่าคนจะหมดพลังก่อนไดโนเสาร์ หรือไดโนเสาร์จะหมดพลังก่อนคนกันแน่!
แต่สิ่งที่ยังถือว่าโชคดีก็คือ ฤทธิ์ของนั้นอาการชามันดีกว่าที่ฮวางซางคิดไว้!
หลังจากที่จูเก๋อโหย๋วหลง ใช้กริชแทงไปบนเจ้าทีเร็กซ์หลายต่อหลายครั้งแล้ว พิษที่อยู่บนปลายมีด ก็ได้แพร่กระจายเข้าไปในตัวของเจ้าทีเร็กซ์เกือบทั้งหมด ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของมันแปรเปลี่ยนเป็นช้าลงมากยิ่งขึ้น!
บวกกับบาดแผลบนคอด้านหลังของมันก็ยิ่งขยายกว้างมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เลือดสดทะลักออกมา อย่างบ้าคลั่งอีกด้วย ในที่สุด เจ้าทีเร็กซ์ตัวนี้ก็หมดแรง จนล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหนักหน่วง เหลือเพียงลมหายใจรวยรินเฮือกสุดท้ายเท่านั้น!
วินาทีต่อจากนั้น จูเก๋อโหย๋วหลง ก็ใช้กริชด้ามนั้นเตรียมจะเสียบเข้าไปในดวงตาของเจ้าทีเร็กซ์ ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดแสดงออกถึงความเย็นชาออกมา
“ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสนายอีกครั้ง!”
“หนึ่ง คือนายต้องทำพันธสัญญากับฉัน กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน ฉันสัญญาหลังจากนี้นายจะแข็งแกร่งขึ้น!”
“สอง ก็คือฉันจะฆ่านาย หลังจากนั้นก็กินแกนพลังของนายซะ!”
“ตอนนี้ จะยอมสยบหรือตาย!”
เมื่อพูดจบ จูเก๋อโหย๋วหลง ก็ใช้มือซ้ายลูบเลือดที่อยู่บนตัว จากนั้นเลือดสดนั้น ก็เกิดการเคลื่อนไหวอย่างประหลาดๆขึ้นมา กลายเป็นอักขระคาถาที่ซับซ้อนไปมา จากนั้นมันก็รวมตัวกันบนฝ่ามือของจูเก๋อโหย๋วหลง!
และในเวลาเดียวกัน กริชที่อยู่ในมือขวาของจูเก๋อโหย๋วหลง ก็ได้ยื่นไปข้างหน้า จนเกือบจะเสียบเข้าไปในดวงตาของเจ้าทีเร็กซ์
ฮือ!
เจ้าทีเร็กซ์คือไดโนเสาร์ที่มีสติปัญญาที่ฉลาดที่สุด และเนื่องจากเป็นเช่นนี้ มันถึงได้เพิ่มความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ในขณะที่มองไปทางกริชที่ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ๆด้ามนั้น ดวงตาลึกๆของเจ้าทีเร็กซ์ ก็ฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นหัวของมันก็เอียงไปทางฝ่ามือซ้ายของจูเก๋อโหย๋วหลง ด้วยความระมัดระวัง!
หวือ!
วินาทีต่อจากนั้น ลำแสงสีเลือดก็ส่องแสงออกมา จากฝ่ามือของจูเก๋อโหย๋วหลงทันใด หลังจากนั้นก็ผสานเข้าไปในตัวของเจ้าทีเร็กซ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะสลายหายไป
และในเวลาเดียวกัน บาดแผลที่อยู่บนหลังของเจ้าทีเร็กซ์ ก็ปรากฏแสงสีแดงอ่อนๆขึ้น หลังจากนั้นมันก็สมานกันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่บาดแผลสมานกันเรียบร้อยแล้ว อาการชาภายในร่างกายของเจ้าทีเร็กซ์ ก็มลายหายไปด้วยเช่นกัน แววตาอันดุร้ายของมันก็ค่อยจางไป
พันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์!
“เฮ้อ......”
เมื่อพันธสัญญาเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะไม่สามารถทรยศต่อกันได้ ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น จูเก๋อโหย๋วหลงจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจยกใหญ่ หลังจากนั้นก็กลิ้งลงมาจากแผ่นหลังของเจ้าทีเร็กซ์ พร้อมกับหายใจหอบออกมา เพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด แล้วหันไปพูดกับเจ้าทีเร็กซ์ว่า
“นายไปรักษาการณ์อยู่ตรงทางเข้าของศูนย์การค้า อย่าให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ชนิดอื่นและซอมบี้เข้ามาโดยเด็ดขาด!”
ฮือ!
ถึงแม้ว่าในใจจะเกิดอารมณ์โกรธเคืองอยู่ก็ตาม แต่ภายใต้การใช้พลังในการทำพันธสัญญาในเวลานี้ มันก็ทำได้เพียงส่ายหน้าไป แล้วพุ่งตรงไปยังทางเข้าออกของศูนย์การค้าอย่างรวดเร็วทันที
“ดีมาก......”
เมื่อเห็นเจ้าทีเร็กซ์จากไปอย่างว่าง่าย ฮวางซางจึงได้ถอนหายใจยาวๆออกมา ใบหน้าซีดเผือดได้ปรากฏรอยยิ้มลำบากใจออกมาในเวลาเดียวกัน
“วันนี้เป็นวันที่ซวยมากจริงๆ การประลองฝีมือวันนี้ก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด จริงๆเลย.....”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮวางซางก็ส่ายหน้า หลังจากนั้นก็หันไปยิ้มกับจูเก๋อโหย๋วหลง ที่เปื้อนไปด้วยเลือดทั้งตัว ด้วยความลำบากใจพลางพูดขึ้นว่า
“แต่ก็ยังถือว่ามีความโชคดี ในความโชคร้ายอยู่เหมือนกันนะ พลังความแข็งแกร่งของเจ้าวิลอซิแรปเตอร์ ตัวนั้นไม่ได้อ่อนด้อยกว่าเจ้าไทแรนท์ทั่วไปสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังฉลาดมากอีกด้วย มีวิลอซิแรปเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยง ต่อไปพวกเราก็คงใช้พวกมันต่อกรกับพวกอันธพาลเหล่านั้น ได้โดยง่ายแล้ว”
“อื้อ รอให้ฉันฟื้นคืนสภาพเดิมก่อน ฉันจะทำให้มันวิวัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น ถึงตอนนั้นมันก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด”
ถึงแม้ว่าจูเก๋อโหย๋วหลง จะเพิ่งเสี่ยงตายมาก็ตาม แต่เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของเจ้าวิลอซิแรปเตอร์ตัวนั้น ใบหน้าอ่อนวัยของเขา ก็ปรากฏสีหน้าตื่นเต้นออกมาโดยไม่รู้ตัวทันที
“เอาละ กินของนี่ก่อน เติมพลังสักหน่อย ฉันหิวจะตายแล้ว......”
ในขณะที่มองไปยังท่าทางตื่นเต้น ของจูเก๋อโหย๋วหลง ฮวางซางก็ยิ้มขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นก็หยิบถุงขนาดใหญ่ ที่จูเก๋อโหย๋วหลงโยนมาให้ก่อนหน้านั้นขึ้นมา แล้วล้วงไปหยิบอาหารประเภทเนื้อกระป๋องต่างๆขึ้นมา แล้วเริ่มอ้าปากกว้างกินมันลงไป
หลังจากที่เขามีประสบการณ์ ทำสงครามที่แสนลำบากกับตั้วลั่วมาก่อน จนร่างกายเกือบจะไร้เรี่ยวแรง แล้วยิ่งเมื่อสักครู่ก็ใช้วิชาลับที่เกินขีดจำกัดไปอีก จึงทำให้ยิ่งอ่อนแอมากลงไปอีกเป็นเท่าตัว พลังงานคือสิ่งจำเป็นที่สุดในเวลานี้ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องพยายามเสริมสร้างพลังเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้มากที่สุด!
หลังจากที่เสริมสร้างรากฐานของ 《วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่ง》รวมถึง《บันทึกความเป็นความตายหยินหยาง》ให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว สมรรถภาพร่างกายของฮวางซาง ก็ฟื้นฟูเร็วขึ้นอย่างผิดมนุษย์มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการย่อยสลายเรียกได้ว่าน่ากลัวถึงขีดสุดมากเช่นเดียวกัน!
ทุกคนต่างรู้ว่า ยิ่งคนที่มีสมรรถภาพที่แข็งแกร่ง กินมากเท่าไหร่ ระบบการย่อยก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารโบราณ หรือนักกีฬาปัจจุบัน ต่างก็กินมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า แต่สมรรถภาพร่างกายของฮวางซางกลับยิ่งเหนือกว่าคนเหล่านี้ ดังนั้นในเวลานี้ เขาจึงดูเหมือนกับสัตว์เทาเที้ย ในเทพนิยายจีนโบราณที่กินเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันอิ่มอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าในปากจะถูกยัดเข้าไปมากแค่ไหน เขาก็สามารถกลืนลงไปได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใดด้วย!
จนกระทั่งในตอนสุดท้าย เป็ดราดซอสทั้งตัวก็ถูกเขาเคี้ยวเพียงแค่สองถึงสามครั้ง จนแตกแล้วก็กลืนลงไปหมด หัวเป็ดก็ถูกฟันแหลมของเขาเคี้ยวจนแตกหัก ก่อนกลืนลงท้องไปเช่นเดียวกัน!
เพียงแค่ไม่ถึง 10 นาที ฮวางซางก็กินอาการกระป๋องไปแล้วกว่า 20 กระป๋อง และอาหารอุ่น 23 อย่าง รวมถึงเป็ดอีก3 ตัว และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีก 10 ห่อ จนกระทั่งดื่มน้ำไปอีก 8 ขวดด้วย แทบจะหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จูเก๋อโหย๋วหลงรวบรวมมาได้เลยก็ว่าได้!
หลังจากที่กินอาหารมากมายขนาดนี้แล้ว ใบหน้าของฮวางซางก็เริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆ นั่งลงไปกับพื้น พร้อมกับหลับตาลง เริ่มดูดซับพลังเหนือธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูร่างกายของตัวเองที่เกือบจะแห้งเหี่ยวไป!
การนั่งลงครั้งนี้ ใช้เวลาไป 7 ชั่วโมงเต็มๆ!
หลังจากผ่านไป 7 ชั่วโมงแล้ว ฮวางซางจึงได้ลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็ถอนหายใจยาวๆออกมาอีกครั้ง
การถอนหายใจครั้งนี้ ยาวกว่าครั้งไหนๆ จนกระทั่งใช้เวลายาวนานถึง 3 นาทีเลยทีเดียว และเป็นเวลาเดียวกันกับ ที่แก๊สสีขาวได้พวยพุ่งออกมาจากปากของเขา ซึ่งได้เป่าอาหารกระป๋องและอาหารห่อที่กินไปก่อนหน้านี้ ออกมาตีกันมั่วไปหมดด้วย!
หลังจากนั้น มือทั้งสองข้างของฮวางซางก็พยุงตัวยืนขึ้นมา
“พี่ฮวาง พี่ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?”
เมื่อเห็นการนั่งดูดซับพลังของฮวางสิ้นสุดลง แล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้ง อีกทั้งยังมีเลือดฝาดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า ไม่น้อยอีกด้วย จูเก๋อโหย๋วหลงที่เดิมเฝ้าระวังอยู่นั้น ก็รีบเดินเข้ามาทันใด ก่อนถามคำถามเหล่านี้ขึ้น
ไม่รู้ว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจของเขาถึงได้มีฮวางซางกลายมาเป็นกำลังหลัก และผู้อยู่เบื้องหลังในหัวใจของเขา ดังนั้นเมื่อเห็นฮวางซางไม่เป็นอะไร เขาจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเช่นกัน
“ถึงแม้ว่ายังไม่ได้ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว......”
ฮวางซางยิ้มออกมา หลังจากนั้นก็มองไปทางตั้วลั่ว ที่ยังคงนอนอยู่ไม่ไกลนัก รูม่านตาของเขาก็หดลงทันใด
เนื่องจากร่างกายของตั้วลั่วนั้น ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวไปทั้งตัว!
“เขาตายแล้วหรือ?”
ฮวางวางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นมองไปทางตั้วลั่วที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว ไม่ไหวติงอีกครั้ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด
“ยังหรอก เพียงแค่หลับไป ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นคืนขึ้นมาเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง จูเก๋อโหย๋วหลงก็ส่ายหน้า หลังจากนั้นก็แสดงสีหน้าแห่งความไม่เข้าใจออกมา
“ผมยังไม่ได้ไปดูเขาเลย ทำไมพี่ฮวางถึงได้ถามแบบนี้ละ?”
“บัดซบ ถ้าไม่ตายแล้วนายจะคลุมด้วยผ้าสีขาวทำไม!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจูเก๋อโหย๋วหลง ฮวางซางก็ชักสายตาใส่เขาเล็กน้อยทันที
จูเก๋อโหย๋วหลงยิ้มออกมาอย่างลำบากใจ ก่อนพูดขึ้นว่า
“ผมก็แค่เป็นห่วงว่า พี่ตั้วลั่วจะนอนหนาวอยู่ตรงนั้น อีกอย่างผมก็ไม่กล้าเคลื่อนย้ายเขาด้วย ทำได้เพียงแต่หาผ้ามาคลุมไว้เท่านั้น......”
“ช่างเถอะ ครั้งต่อไปหากยังไม่ตาย อย่าเอาผ้าสีขาวมาคลุมไว้แบบนี้อีก มันเป็นลางไม่ดี.....”
ฮวางซางมองไปทางจูเก๋อโหย๋วหลงอย่างไร้คำพูด หลังจากนั้นก็เดินไปทางตั้วลั่ว แล้วเปิดผ้าสีขาวนั้นออกมา
และก็เป็นอย่างนั้นที่จูเก๋อโหย๋วหลงพูดไว้จริงๆ ตั้วลั่วยังไม่ตาย เพียงแค่ตกอยู่ในอาการสลบไสลเท่านั้น อีกทั้งแขนขาทั้งสี่ของเขา ก็ยังคงสภาพบิดเบี้ยวไว้เหมือนเดิมอีกด้วย!
“ชีวิต!”
ในขณะที่มองไปยังท่าทางอับจนของตั้วลั่ว ฮวางซางก็ได้ถอนใจขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ใช้พลังแห่งชีวิตที่รวบรวมมาได้เพียงเล็กน้อย รวมตัวขึ้นเป็นพู่กันพิพากษา แล้วแตะไปที่ตั้วลั่วเบาๆ
วินาทีต่อจากนั้น แสงสีขาวอ่อนๆก็เปล่งประกายออกมาจากพู่กันพิพากษานั้น ก่อนจะผสานเข้าไปในร่างกายของตั้วลั่ว
หลังจากได้รับการผสานของแสงสีขาวนั้นแล้ว ตั้วลั่วที่ยังคงอยู่ในอาการสลบไสลก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา พร้อมกับลืมตาทั้งสองขึ้นขึ้น
หลังจากนั้น ก็ร้องตะโกนโอดโอย ออกมาอย่างน่าเวทนาในทันที!
แขนขาทั้งสี่ที่หักหมด ร่างกายที่บาดเจ็บแสนสาหัส ความเจ็บปวดเหล่านี้ได้แผ่ขยายขึ้นมาพร้อมกัน?