ตอนที่ 75 กระสุนเลี้ยวโค้ง
ตอนที่ 75 กระสุนเลี้ยวโค้ง
ตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลแห่งนี้ ไม่ได้ถือว่าสูงมากนัก มีเพียงไม่กี่ชั้นเท่านั้น ดังนั้นไม่นานฮวางซางก็พุ่งตรงไปถึงยอดตึก แล้วมาถึงหน้าประตูของดาดฟ้าได้ในที่สุด
แต่ในช่วงพริบตาเดียวที่ฮวางซางเตรียมจะพังทลายประตูนั้น เขากลับเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
มือปืนคนนั้นได้เห็นเขาพุ่งขึ้นมาบนตึกผู้ป่วยในแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตรียมการป้องกันเอาไว้ ถ้าเขาบุ่มบ่ามพุ่งเข้าไปแบบนี้ เขาอาจจะถูกลอบยิงจากมือปืนคนนั้นก็เป็นได้
ถึงตอนนั้นเมื่อถูกยิง ถึงแม้ว่าจะมีพลังเกราะกาสาวพัสตร์และเสื้อเกราะกันกระสุนปกป้องตัวเองอยู่ก็ตาม แต่เกรงว่าอาจจะไม่สามารถต้านทานอานุภาพอันน่ากลัวของกระสุนเหล่านั้นได้!
เมื่อคิดได้ดังนี้ ดวงตาของฮวางซางก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ตัดสินใจไม่พุ่งเข้าไป แต่กลับหมุนตัวไปอีกทางแทน เมื่อมาถึงหน้าต่างบานหนึ่งของยอดตึก เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปยังตำแหน่งของกำแพงด้านนอก แล้วออกแรงยึดท่อระบายน้ำบนผนัง จากนั้นก็ปีนเข้าไปอย่างเงียบๆที่สุด!
การเคลื่อนไหวบนกำแพงแบบนี้ ไม่ถือว่ายุ่งยากลำบากนัก อย่างน้อยคนทั่วไปก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาก่อน ถึงจะสามารถทำแบบนี้ได้ แต่สำหรับฮวางซางที่มีสมรรถภาพเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 10 เท่า จึงสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย
ไม่นาน ฮวางซางก็ปีนอย่างเงียบๆที่สุดขึ้นมาถึงดาดฟ้าจนได้ แล้วเป็นเวลาเดียวกับที่เขากวาดสายตาไปรอบๆดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว เพื่อค้นหาศัตรู
แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริง ๆ ในสถานที่ห่างจากเขาออกไปประมาณ 15 เมตร ชายหนุ่มสวมใส่ชุดลายพรางพร้อมกับถือปืนไรเฟิลกระบอกหนึ่งไว้อยู่ในมือกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น และเล็งปากกระบอกปืนไปที่ประตูทางเข้าออกเพียงหนึ่งเดียวของตึกผู้ป่วยใน ซึ่งเป็นประตูเดียวกับที่ฮวางซางเตรียมจะถีบประตูนั้นออกไปก่อนหน้านั้นด้วย!
เพียงแค่มีคนพุ่งเข้าไป เจ้าหนุ่มคนนั้นก็จะเหนี่ยวไกปืนทันทีอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นก็คงจะไม่มีใครสามารถหลบหลีกการยิงครั้งนี้ได้ ในสภาพแวดล้อมที่คับแคบแบบนี้
แน่นอน แม้แต่ฮวางซางก็ไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในใจของฮวางซางจึงเกิดความรู้สึกดีใจขึ้นมา จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วออกแรงกำหมัดด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วพุ่งพรวดออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วราวกับเสือชีตาร์ พุ่งตรงเข้าไปหาเจ้าหนุ่มที่ถือปืนไรเฟิลอยู่ในมือคนนั้นทันที!
ศักยภาพของฮวางซางในตอนนี้ ภายใต้การระเบิดความเร็วทั้งหมดออกมา ระยะห่างสั้นๆแค่เพียง 15 เมตรเขาก็สามารถเข้าไปถึงตัวคนๆนั้นได้ โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ!
แต่ทว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ถึงแม้ว่าระดับความเร็วของฮวางซางจะเร็วมากก็ตาม แต่การตอบสนองของมือปืนคนนั้นกลับไม่ช้าเลยเช่นเดียวกัน
ในช่วงเวลาที่ฮวางซางกระโดดเข้าไปหมายจะโจมตีใส่เจ้านั่นอยู่นั้น มือปืนคนนั้นก็สัมผัสได้ถึงภัยอัตรายบางอย่าง หลังจากนั้นก็หมุนตัว แทบจะไม่ต้องทำการเล็งแต่อย่างใด ปืนไรเฟิลที่ถืออยู่ในมือก็ได้เหนี่ยวไกพุ่งตรงเข้ามาหาฮวางซางทันที!
บัง!
พริบตาเดียว กระสุนขนาดใหญ่นัดนั้นก็พุ่งออกมา ตรงเข้ามาหาฮวางซาง
แต่ฮวางซางได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะวิ่งไม่เร็วกว่ากระสุนที่มีความเร็วเช่นนี้ก็ตาม แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาทำได้เพียงแต่เพิ่มความเร็วให้มากกว่า ความเร็วของการเปลี่ยนทิศทางปากกระบอกปืนของเจ้านั้นก็เท่านั้น
ดังนั้นในช่วงพริบตาเดียว ที่ปืนไรเฟิลได้เปลี่ยนทิศทางการโจมตี ขาขวาของฮวางก็ได้เตะออกไป จากนั้นก็ใช้ขาซ้ายกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลบหลีกกระสุนนัดนั้น ก่อนพุ่งตรงเข้าไปหามือปืนไรเฟิลคนนั้นอย่างต่อเนื่อง!
“ชิบหายละ!”
เมื่อเห็นฮวางซางหลบหลีกการยิงของตัวเองได้ ใบหน้าที่ทาลายพลางอยู่เต็มหน้าของมือปืนไรเฟิลคนนั้น ก็ปรากฏสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันใด เห็นได้ชัดว่ามันกำลังคาดเดาผลลัพธ์หลังจากที่ถูกฮวางซางใกล้เข้ามา
แต่ถึงแม้ว่ามือปืนไรเฟิลคนนี้จะเคร่งเครียดแค่ไหนก็ตาม แต่กลับยังคงไม่แสดงอาการลนลานแต่อย่างใด ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น เขาก็ใช้ปืนไรเฟิลกระบอกนั้น ทุบใส่ฮวางซางอย่างไม่ลังเลทันที พร้อมกับถอยตัวไปด้านหลัง ก่อนจะชักปืนสั่นสองกระบอกออกมาจากเอว แล้วยิงใส่ฮวางซางอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเผชิญหน้ากับปืนไรเฟิลที่ถูกเหวี่ยงออกมา ฮวางซางทำได้แค่เพียงหลบหลีกไปด้านข้างเท่านั้น พร้อมกับแผ่พลังจิตวิญญาณทั้งหมดออกมา เพื่อสร้างการป้องกันให้กับพลังเกราะกาสาวพัสตร์ให้สูงขึ้น หลังจากนั้นก็ ใช้ปืนเล็กยิงโจมตีใส่ปืนไรเฟิลกระบอกนั้น ก่อนพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
อานุภาพของปืนสั้นนั้น เทียบไม่ได้กับปืนไรเฟิลแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ วินาทีต่อจากนั้นกระสุนปืนที่ยิงพุ่งเข้าหาฮวางซางก็ถูกเปลวไฟสีฟ้าขัดขวางไว้ หลังจากนั้นมันก็ถูกหลอมจนกลายเป็นของเหลว ไหลรินลงไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ฮวางซาง ได้ไล่ล่ามาถึงด้านหน้าของมือปืนคนนั้น ก่อนจะยกมือขวาเอื้อมไปจับปืนไรเฟิลกระบอกนั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากมายก็ตาม แต่กลับยังพอมีสติปัญญาอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะเอาชีวิตของมือปืนคนนี้ แต่กลับพยายามจับเป็น เพื่อเค้นถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์
“ระดมยิง!”
แต่ทว่าในขณะที่มือขวาของฮวางซาง กำลังยื่นออกไปจับมือปืนที่อยู่เบื้องหน้าในตอนนั้น มือปืนคนนั้นกลับตะโกนออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นรัศมีสีทองก็เปล่งแสงออกมาจากตัวของเจ้านั้น ก่อนจะผสานเข้าไปในปืนสั้นสองกระบอกนั้นทันที
ปังปัง!
วินาทีต่อนั้น กระสุนปืนสั้นที่มีแสงสีทองเรืองรองสองนัดนั้นก็ยิงพุ่งออกมาหาฮวางซาง
“ผู้มีพลังเหนือมนุษย์? !”
เมื่อเห็นภาพนั้น รูม่านตาของฮวางซางก็หดลง จากนั้นก็ใช้ความแข็งแรงของร่างกายทำการหลบหลีกทันที
ความสามารถของเขานั้น ไม่ได้กลัวอะไรกับการยิงของปืนสั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ละก็ เขาก็คงไม่กล้าบุ่มบ่ามต้านทานกระสุนนัดนั้นอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรพลังเหนือมนุษย์ในโลกนี้ ก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากอยู่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าพลังเหนือมนุษย์ของเจ้าหนุ่มคนนี้คืออะไร แล้วถ้าหากเป็นพลังเหนือมนุษย์ ที่ทำให้ถึงแก่ความตายอะไรแบบนั้น การเอาตัวเองเข้าไปต้านทานก็เท่ากับพาตัวเองไปตายชัดๆ!
แต่สิ่งที่ยังถือว่าเป็นความโชคดีก็คือ ระดับการตอบสนองของฮวางซางนั้นเร็วกว่ามือปืนคนนี้ ดังนั้นในช่วงพริบตาเดียวที่เจ้ามือปืนคนนี้แผ่พลังเหนือมนุษย์ออกมา เขาก็ได้ใช้พลังจิตวิญญาณถึงขีดสุดไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถหลบหลีกปากกระบอกปืน และหลบหลีกกระสุนที่ยิงออกมาได้ตั้งแต่ครั้งแรก !
แล้วก็ยังพูดได้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องเร็วกว่ากระสุน เขาแค่ต้องเคลื่อไหวให้เร็วกว่าปากกระบอกปืนของอีกฝ่ายก็เท่านั้น!
แต่ทว่าภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กลับทำให้ฮวางซางตกตะลึกอย่างมาก!
ในช่วงพริบตาเดียวที่ฮวางซางทำการหลบหลีกกระสุน ที่ยิงออกมาสองนัด แล้วพุ่งเข้าไปหาเจ้ามือปืนคนนั้น กระสุนสองนัดนั้นกลับดูเหมือนได้รับพลังบางอย่าง อย่างฉับพลัน วิถีกระสุนที่ยิงพุ่งเขามาเป็นเส้นตรงนั้น กลับแปรเปลี่ยนเป็นเส้นโค้งอย่างพิสดารและรวดเร็ว แยกออกเป็นซ้ายและขวา แล้วพุ่งเข้ามาใส่ฮวางซางทันที !
กระสุนเลี้ยวได้ด้วยเหรอ?
ฉันเชื่อความชั่วร้ายของนายแล้ว!
เมื่อเห็นภาพนั้น รูม่านตาของฮวางซางก็หดลงทันที แต่ยังไม่ทันรอให้เขาได้สติกลับมาแต่อย่างใด กระสุนที่ส่องแสงสีทองเรืองรองสองนัดนั้นก็พุ่งตรงมาบนตัวเขา หลังจากนั้นก็หมุนเจาะอย่างรวดเร็ว จนทะลวงเข้ามาในเปลวไฟสีฟ้า แล้วสุดท้ายก็เจาะเข้าไปในเสื้อเกราะกันกระสุนของเขา
ฉึก!ฉึก!
วินาทีต่อจากนั้น เสียงแตกหักอันรุนแรงก็ได้ดังขึ้น ฮวางซางสัมผัสได้ถึงพลังการโจมตีอย่างมหาศาล ที่พุ่งเข้ามาถึงหน้าอกของเขา จากนั้นความเจ็วปวดอย่างรุนแรง ก็แผ่ขยายออกมาอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำ!
กระสุนทั้งสองนัดนั้น ได้ยิงทะลุผ่านพลังเกราะกาสาวพัสตร์และเสื้อเกราะกันกระสุน จากนั้นก็ทะลุเข้าไปในตัวของเขาแล้ว!
“อ่า!!! ตายซะเถอะ!
แต่ถึงอย่างไรสมรรถภาพร่างกายของฮวางซางก็เหนือกว่าคนทั่วไปมาก อีกทั้งอานุภาพของกระสุนทั้งสองนัดหลังจากที่พุ่งทะลุผ่านพลังเกราะกาสาวพัสตร์ และเสื้อเกราะกันกระสุน รวมถึงร่างกายอันแข็งแกร่งก็ถูกทำให้ลดลงไปมาก ถึงแม้ว่าจะทะลุเข้ามาถึงตัวของฮวางซางก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถคร่าชีวิตของฮวางซางในเวลานั้นได้
และในเวลาเดียวกัน ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายออกมาจากภายในร่างกาย ก็ทำให้ฮวางซางตะโกนออกมาด้วยความโกรธเคือง หลังจากนั้นก็ชักกริชสองด้าม ที่อยู่บนเอวออกมาอย่างไม่ลังเล กวัดแกว่งมันขึ้นมา แล้วก็ปากริชสองด้ามนั้นใส่เจ้ามือปืนนั้นทันที!
ปังปังปัง!
พูดได้ว่า ระดับการตอบสนองของมือปืนคนนี้เร็วมากทีเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับกริชที่ถูกปาเข้ามา เขาก็ทำการเปลี่ยนทิศทางปากกระบอกปืนทันที แล้วยิงใส่กริชสองด้ามนั้นอย่างรวดเร็ว
ภายใต้การยิงของเจ้ามือปืนคนนี้ ไม่นานกริชทั้งสองด้ามนั้นก็ถูกเขายิงจนร่วงหล่นลงมากองกับพื้น และเป็นเวลาเดียวกับที่ฮวางซางได้ชักกริชที่เคลือบพิษอันสุดท้ายออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับกริชอันสุดท้าย เจ้ามือปืนคนนี้ก็เตรียมการยิงอีกครั้ง ตั้งใจให้ร่วงหล่นเหมือนกับด้ามอื่นๆ แต่ในตอนนั้นเอง ปืนสั้นทั้งสองกระบอกของเขา กลับเกิดเสียงแก๊กแก๊กขึ้นมาทันใด!
หลังจากที่ผ่านการยิงมาก่อนหน้านั้นแล้ว ปืนสั้นทั้งสองกระบอกของเขาก็หมดกระสุน!
ในเวลานี้ หากคิดจะเปลี่ยนคลิปกระสุนก็คงจะไม่ทันการณ์แล้ว!
เมื่อจนปัญญา เจ้าหนุ่มมือปืนคนนี้ ก็ทำได้เพียงแค่หลบหลีกเท่านั้น แต่มันยังช้าไปเล็กน้อย วินาทีต่อจากนั้น เสียงแตกหักอันหวาดเสียวก็ดังขึ้น ฮวางซางได้ใช้กริชที่เคลือบพิษอันสุดท้ายแทงเข้าไปบนแขนซ้ายของมือปืนคนนี้ จนเลือดสดๆพุ่งกระจายออกมา
แต่หลังจากนั้น อาการชาอย่างรุนแรงก็เริ่มกระจายตัวออกไป บนแขนซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บของเจ้าหนุ่มมือปืนคนนี้ ราวกับกระแสน้ำ ไม่นานก็ทำให้เขาตกอยู่ในอาการอัมพาตไปทั่วทั้งตัว!
“แม่งเอ๊ย!”
เมื่อเห็นว่าพิษที่เคลือบอยู่บนกริชนั้นเริ่มออกฤทธิ์ แล้วทำให้เขาเกิดความรู้สึกชาไปทั่วทั้งตัว ฮวางซางก็ถ่มน้ำลายที่ปนเลือดแล้วตะโกนด่าออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเจ้ามือปืนคนนั้นทีละก้าวๆ
แต่เมื่อเขาเดินมาถึงด้านหน้าของหนุ่มมือปืน และเตรียมที่จะเค้นถามเจ้าหนุ่มมือปืน ถึงเรื่องที่มาทำลายโรงพบาบาลแห่งนี้ มือปืนที่ตกอยู่ในอาการชาทั่วทั้งร่างก็ตะโกนออกมาก่อน
“มาสิ เจ้าสัตว์ร้ายอย่างนาย ไอ้คนโง่เง่าเต่าตุ่น มาสิ ลงมือเลย!”
“วันนี้ฉันอยู่ในมือนายแล้ว ฉันยอมแล้ว อยากฆ่าก็ฆ่าให้สะใจได้เลย!”
“แต่นายอย่าหวังว่าฉันจะร้องขอชีวิต เราทหารเทียนฉาว จะไม่ยอมก้มหัวให้กับศัตรูตลอดไป อดีตก็ไม่ ตอนนี้ก็ไม่ หลังจากนี้ก็ไม่!”
“วันนี้นายฆ่าเพื่อนทหารของฉัน แล้วก็ฉันอีกหนึ่งคน แต่จงจำได้ว่า ถึงวันนี้นายจะฆ่าคนๆหนึ่งไปแล้ว แต่หลังจากนี้อีกหลายคนจะมาแก้แค้นนายแทนฉัน ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่ง นายจะต้องชดใช้หนี้ ด้วยเลือดของนายเท่ากับวันนี้!”
“ทหารเทียนฉาว จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเหยียดหยาม!”
เมื่อพูดจบ มือปืนคนนั้นก็หลับตาลง แล้วอยู่ในท่าทางที่นิ่งสุขุม
ร่างกายของเขานั้นสั่นเทาเล็กน้อย และน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุดเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพิสูจน์ว่า เขาจะไม่หวาดกลัวต่อความตายอย่างที่เขาได้พูดไว้
“บัดซบ!”
แต่ทว่า ในเวลาเดียวกัน เมื่อได้ยินคำพูด และมองไปทางมือปืนคนนี้ ก็ได้เห็นเครื่องหมายทหารเลือนลาง บนชุดลายพรางบนตัวนั้น ดูเหมือนฮวางซางจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสี แล้วอดสบถออกมาไม่ได้
ระหว่างเขากับมือปืนคนนี้ ดูเหมือนจะลงมือกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด!
หรือว่ามือปืนคนนี้ก็คือคนในกองทัพ จึงได้ทำการยิงใส่ตัวเองเนื่องจากเข้าใจผิดว่า ตัวเองเป็นพวกของฆาตกรกลุ่มนั้น?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในใจของฮวางซางก็เกิดความรู้สึกแย่ๆขึ้นมาทันใด!
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง..
งั้นก็โครตสุดแสนจะบัดซบมากทีเดียว!