ตอนที่ 74 โศกนาฏกรรมของโรงพยาบาลกับมือปืนที่น่ากลัว
ตอนที่ 74 โศกนาฏกรรมของโรงพยาบาลกับมือปืนที่น่ากลัว
เนื่องจากสะพานแขวนของสวนสาธารณะหยู่หู ถูกปลาดราก้อนฟิชตัวนั้น ทำลายจนหมดสิ้น อีกทั้งในน้ำก็ยังมีอันตรายอีกสารพัดรูปแบบด้วย แม้กระทั้งปลาดราก้อนตัวนั้นที่บาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ตายแต่อย่างใดก็ยังอยู่ ดังนั้นเพื่อป้องกันเอาไว้ ฮวางซางและพรรคพวกจึงเปลี่ยนเส้นทางที่อ้อมมากขึ้น แต่กลับเป็นเส้นทางกลับโรงพยาบาลที่ปลอดภัยทีสุด
แต่สิ่งที่ยังถือว่าโชคดีก็คือ เนื่องจากได้รับการปกป้องจากเลือดและหัวกะโหลกของเจ้าไทแรนท์ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับซอมบี้เหล่านั้น จนไม่กล้าเจ้ามาใกล้ อีกทั้งสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ในป่าแห่งนี้ ก็อาจจะถูกกองทัพซอมบี้ดึงดูไปแล้ว ไม่ก็เป็นสัตว์กลางคืน ที่พบได้แค่เฉพาะกลางคืนเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พบกับความยุ่งยากมากมายแต่อย่างใด ยังพอทำให้พวกเขามาถึงบริเวณโรงพยาบาลได้ทันก่อนฟ้ามืด
แค่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เนื่องจากฝนตกห่าใหญ่นั้น ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด ดังนั้นเลือดของเจ้าไทแรนท์ทีใช้ทาอยู่บนร่างกายของพวกเขา เพื่อปกปิดกลิ่นอายของตัวเอง ซึ่งเลือดศพของเจ้าไทแรนท์นั้น กว่าที่พวกเขาเก็บรวบรวมมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก็ได้ถูกใช้จนลดลงไปไม่น้อยแล้วด้วย
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกเขาก็กลับมาถึงในที่สุด!
แต่ว่า...
เมื่อฮวางซางและพรรคพวกได้กลับมาถึงป่าที่อยู่รอบ ๆโรงพยาบาลแห่งนี้ พวกเขากลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือด ที่ปะปนอยู่ในอากาศ นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีควันสีดำ ที่พวยพุ่งออกมาจากทิศทางของโรงพยาบาล ณ ที่ไกล ๆอีกด้วย
"เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!"
กลิ่นเขม่าดินปืนกลางอากาศ และควันดำที่พวยพุ่งออกมาจากที่ไกล ๆ ทำให้ใบหน้าของฮวางซางและพรรคพวกเปลี่ยนสีลงทันที
พวกเขาคิดไม่ถึงว่า พวกเขาออกไปไม่ถึงวัน โรงพยาบาลในเมืองก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว!
"หลิวซิน ตั้งลั่ว จูเก๋อโหย๋วหลง พวกนายดูแลเด็ก ๆเหล่านี้ไว้ ฉันจะไปดูสถานการณ์ในนั้นสักหน่อย!"
ในเมื่อโรงพยาบาลเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ฮวางซางย่อมไม่ยอมพาเด็ก ๆ ที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เข้าไปเด็ดขาด
ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้น หลังจากที่ทิ้งปืนกลรุ่น 89 และกล่องกระสุนไว้กับตั้วลั่วและพรรคพวก และกำชับพวกเขาไว้สองสามประโยคแล้ว ฮวางซางก็กระโดดพุ่งพรวดไปด้านหน้า แล้วเพิ่มความเร็วพุ่งตรงไปทางโรงพยาบาลในเมืองทันที!
ถึงอย่างไรพลังความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการนำปืนกลมาด้วยอยู่แล้ว
"หึ วันสิ้นโลกเฮงซวย..."
ในขณะทีมองไปทางเงาของฮวางซางที่หายลับไปอย่างรวดเร็ว ตั้วลั่วก็อดที่จะส่ายหน้าไม่ได้
สำหรับเขา โรงพยาบาลในเมืองจะต้องเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นอย่างแน่นอน ไม่งั้นคงไม่เกิดเขม่าควันปืนและกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นขนาดนี้หรอก อีกทั้งเมื่อดูจากควันสีดำที่ลอยพวยพุ่งออกมาจากที่ไกล ๆแล้วนั้น น่าจะเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เลยทีเดียว ถ้าหากควบคุมสถานการณ์นั้นได้ละก็ ผู้พันหูและพรรคพวกก็คงจะช่วยกันทำทุกวิถีทางไม่ให้ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามไปอย่างแน่นอน
ตอนนี้หวังแค่เพียงอย่างเดียวก็คือ อย่าให้เซรุ่มเชื้อไวรัสเกิดอะไรขึ้นเลย ไม่งั้นการเสียสละและความพยายามของพวกเขาก่อนหน้านั้นคงจะสูญเปล่า
แต่ไม่นาน ความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ตั้วลั่วคิดไว้นั้นถูกต้อง
หลังจากที่ฮวางซางเข้ามาใกล้โรงพยาบาลเรื่อย ๆ กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเขม่าควันปืนก็แปรเปลี่ยนเป็นเข้มข้นขึ้น ความรู้สึกไม่ดีที่เกิดขึ้นในใจของฮวางซาง ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อฮวางซางกลับมาถึงโพยาบาลแล้ว ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ก็ทำให้ความรู้สึกไม่ดีในใจของเขา กลายเป็นเปลวไฟแห่งโกรธแค้นลุกโชนขึ้นทันใด!"
ศพ!
เลือด!
เขม่าควันปืน เปลวไฟ!
มีทั่วทุกหนแห่ง!
ราวกับว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ผ่านการต่อสู้ที่โหดร้ายมาอย่างไรอย่างนั้น ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเปลวไฟและเขม่าควันปืน สิ่งที่สำคัญที่สุด ซากศพที่กองสุมกันเป็นหลายร้อยศพในโรงพยาบาลแห่งนี้ !
ซากศพเหล่านี้มีทั้งหญิงและชาย และในจำนวนเหล่านั้นก็มีทหารที่สวมเครื่องแบบทหารด้วย!
และสิ่งที่ทำให้ฮวางซางอ้าปากตาค้างคือ นอกจากทหารส่วนน้อยที่ล้มกองกันอยู่หน้าทางเข้าออกโรงพยาบาลแล้วนั้น ซากศพของทหารส่วนใหญ่ก็ล้มลงเป็นแถวยาวอีกด้วย
ซากศพตอนตายของทหารเหล่านี้อยู่ในท่าคุกเข่า มือทั้งสองข้างของพวกเขาถูกมัดไว้ด้านหลัง นอกจากนี้ก็ยังมีรูกระสุนเล็ก ๆจากหัวด้านหลังและบาดแผลฉกรรจ์ที่ระเบิดจนทะลุขนาดใหญ่อยู่บนหน้าผากอีกด้วย นี่คือร่องรอยของการถูกยิงด้วยปืนอย่างทรมาน!
พูดได้ว่า ทหารเหล่านี้ถูกศัตรูจับให้นั่งอยู่ในท่านี้หลังจากที่ถูกจับเป็นเชลยแล้ว หลังจากนั้นก็ทำการยิงพร้อมกันจากด้านหลังของพวกเขา!
วิธีการนี้มันช่างโหดเหี้ยมทารุณมาก และทำให้เขาโกรธแค้นมากเช่นเดียวกัน!
“ใครทำ ฝีมือใครทำกันแน่!”
ฮวางซางนั้นมีความรู้สึกดีกับทหารเหล่านี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารกว่าร้อยนายที่คอยปกป้องและสู้อย่างสุดชีวิตในท่ามกลางหายนะวันสิ้นโลกแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกเคารพอย่างสุดซึ้งอยู่ภายในใจ!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในตอนที่เห็นเหล่าทหารหาญถูกฆ่าตายเช่นนี้ เปลวไฟแห่งความโกรธแค้นในใจของฮวางซางก็ลุกโชนขึ้นมาในพริบตาเดียว แม้แต่สายตาก็เริ่มปรากฏเส้นเลือดเล็กๆขึ้นมา และอยากจะรีบหาตัวผู้บงการเหล่านี้ แล้วทำการสับพวกเขาเป็นหมื่นๆชิ้น!
แต่ในตอนนั้นเอง สายตาของฮวางซางก็ถูกดึงดูดจากบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ไม่ไกล!
นั่นคือกล้องวงจรปิดตัวหนึ่ง!
ในโรงพยาบาลแห่งนี้ต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้อย่างแน่นอน!
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ กล้องวงจรปิดเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว แต่มันมีเกือบทั้งโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้
เมื่อเห็นกล้องวงจรปิดเหล่านี้ ในหัวของฮวางซางก็เปล่งประกายปัญญาออกมาทันใด
ถึงแม้ว่าระบบโทรคมนาคมจะถูกตัดขาดการติดต่อไปแล้วก็ตาม แต่ระบบตรวจตราและควบคุมของโรงพยาบาลกลับยังคงทำงานอย่างปกติ เพียงแค่เขาต้องเอาเทปวิดีโอเหล่านี้ออกมาให้ได้ ซึ่งนั่นก็จะทำให้เขารู้ว่า ในโรงพยาบาลแห่งนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฮวางซางก็รีบตรงไปยังห้องควบคุมของโรงพยาบาลทันที
แต่เมื่อเขาเหยียบเข้าไปเพียงแค่ก้าวแรก ความรู้สึกถึงภัยอันตรายอย่างรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเขาทันที!
ความรู้สึกถึงภัยอันตรายที่รุนแรงเช่นนี้ จนกระทั่งทำให้ฮวางซางเกิดลางสังหรณ์ถึงความตายบางอย่าง ที่ย่างกรายเข้ามาขึ้นภายในใจ ภายใต้การกระตุ้นเตือนของภัยอันตรายที่รุนแรงเช่นนี้ ฮวางซางจึงใช้กำลังทั้งหมดของตัวเองเร่งพลังของตัวเองออกมา จุดเปลวไฟสีฟ้า รวมตัวขึ้นเป็นเกราะกาสาวพัสตร์ คอยปกป้องตัวเองไว้
ปัง!
และในเวลาเดียวกัน เสียงปืนก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน
และในช่วงพริบตาเดียวที่เสียงปืนดังขึ้น กระสุนปืนขนาดใหญ่ลูกหนึ่งก็ได้พุ่งตรงมาทางด้านหน้าของฮวางซาง หลังจากนั้นก็พุ่งยิงใส่เกราะกาสาวพัสตร์บนตัวของฮวางซางอย่างโหดเหี้ยม
บึม!
แต่สิ่งที่ทำให้ฮวางซางยากที่จะเชื่อได้ก็คือ พลังเปลวไฟสีฟ้าทั้งหมดของฮวางซาง ที่สามารถต้านทานกระสุนปืนไรเฟิลที่ยิงเข้ามาในระยะประชิดได้อย่างง่ายดาย กลับไม่สามารถต้านทานกระสุนลูกนี้ได้แต่อย่างใด
หลังจากที่เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง กระสุนที่หมุนด้วยความเร็วราวกับสว่านที่แข็งแรงทนทานได้ลูกนี้ ถึงแม้ว่าจะมีเปลวไฟสีฟ้าขัดขวางอยู่ก็ตาม แต่มันกลับหมุนเจาะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ชั้นของเปลวไฟสีฟ้านี้แตกออก จนเข้าไปข้างในได้ !
“แม่งเอ๊ย!”
เมื่อเห็นพลังเกราะกาสาวพัสตร์ที่รวมตัวด้วยพลังทั้งหมดของเขา ไม่สามารถต้านทานกระสุนลูกนี้ได้ ใบหน้าของฮวางซางก็แปรเปลี่ยนไปทันที หลังจากนั้นก็พยายามหมุนตัวหลบหลีกไปด้านข้างอย่างเต็มกำลัง!
แต่ในช่วงพริบตาเดียวที่ฮวางซางกำลังหมุนตัวหลบหลีกไปด้านข้างอยู่นั้น กระสุนลูกนั้นที่เจาะเข้าไปในชั้นของเปลวไฟสีฟ้าแล้ว ก็ยังคงพุ่งยิงใส่ด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายก็ผ่าทะลุเข้าไปในเสื้อเกราะกันกระสุนบนหน้าอกของฮวางซางในที่สุด!
ฉึก!
พริบตาเดียว เสียงแตกหักอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น เสื้อเกราะกันกระสุนที่ถูกกระสุนลูกนั้นผ่าเข้ามาราวกับใบมีดอันน่ากลัว ได้ถูกแหวกออกจนกลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ เส้นใยที่อยู่ภายในก็ได้ปรากฏออกมา!
บึม!
และในเวลาเดียวกัน กระสุนลูกนั้นก็ถูกฮวางซางหลบหลีกได้จนพุ่งลอยออกไปไกล จนสุดท้ายก็ยิงใส่กำแพงของห้องกิจการแพทย์ห้องหนึ่ง จากนั้นก็ทะลุเข้าไปในห้องลึกๆโดยไม่รู้ว่าพุ่งเข้าไปที่แห่งใดบ้าง ท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังขึ้นอย่างรุนแรง
“บัดซบ!”
ในขณะที่มองไปทางร่องรอยอันน่ากลัวบนเสื้อเกราะนั้น รวมถึงรูขนาดใหญ่บนกำแพงของห้องกิจการแพทย์รูนั้น ใบหน้าของฮวางซางก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นทันที ถ้าหากไม่ใช้พลังเกราะกาสาวพัสตร์ปกป้องเข้าไว้ แล้วก็ความสามารถในการหลบหลีกได้ทันเวลาละก็ ตอนนี้ก็คงจะถูกกระสุนอันน่ากลัวนั้นยิงทะลุตัวไปแล้ว
นี่มันคือปืนอะไรกัน กระสุนอะไร ทำไมถึงได้น่ากลัวเช่นนี้?
หรือว่าเป็นของฆาตรกรคนนั้น?
เมื่อคิดได้ ดวงตาของฮวางซางก็ฉายแววสังหารอย่างเยือกเย็นออกมาทันที
ไม่ว่าคนที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นใครก็ตาม เขาจะต้องทำให้คนเหล่านี้ชดใช้ในสิ่งที่เขากระทำ!
วินาทีต่อจากนั้น ฮวางซางก็กระโดดพุ่งพรวดไปด้านหน้า จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังทิศทางของเสียงปืนที่ยิงออกมาอย่างรวดเร็วทันที
ทางนั้น เป็นประตูข้างของโรงพยาบาล!
แต่ปืนเมื่อสักครู่ ก็ทำให้ฮวางซางเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่จะพาตัวเองพุ่งตรงไปยังทิศทางนั้น อย่างรวดเร็วที่สุดแล้วเท่านั้น อีกทั้งยังเพ่งสมาธิพุ่งไปที่จุดๆนั้นอีกด้วย ในตอนที่เขาพุ่งตัวออกไปนั้น เขาก็ได้เปลี่ยนทิศอย่างต่อเนื่อง ใช้ประโยชน์จากสิ่งก่อสร้าง สิ่งกีดขวางและต้นไม้ปกป้องตัวเอง ไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสยิงโจมตีเขาได้
แต่ไม่นานฮวางซางก็พบว่า ตัวเองนั้นประเมินมือปืนคนนั้นต่ำไป!
ในขณะที่ฮวางซางเพิ่งจะวิ่งออกไปได้ไม่ไกลนัก เสียงปืนอันรุนแรงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นความรู้สึกถึงภัยอันตรายถึงขั้นคร่าชีวิตได้ ก็ปรากฏขึ้นมาในใจของฮวางซางทันที!
เมื่อมีประสบการณ์ก่อนหน้านั้นแล้ว ครั้งนี้ฮวางซางก็ทำการหลบหลีกพร้อมๆกับเสียงปืนที่ดังขึ้น โดยการเร่งพลังทั้งหมดของเขา สร้างการป้องกันด้วยพลังเกราะกาสาวพัสตร์ ที่แข็งแกร่งที่สุด
บึม!
แต่ในช่วงพริบตาเดียว ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าของฮวาซางก็ถูกยิงจนทะลุ เศษไม้จำนวนมากที่ผสมปนเปกับน้ำในต้นไม้ก็ได้ยิงพุ่งกระจัดจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ กระสุนที่แข็งแรงลูกหนึ่ง ก็ได้ยิงผ่านร่างเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พุ่งไประเบิดใส่รถยนต์ที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลังของเขา
ตั้งแต่หายนะวันสิ้นโลกย่างกรายเข้ามาจนถึงตอนนี้ ฮวางซางต้องผ่านการต่อสู้มาหลายต่อหลายครั้ง จนมีหลายครั้งที่ทำให้เขาต้องวนเวียนอยู่ที่ริมขอบเหวแห่งความตาย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์ขั้นวิกฤตก็ตาม แต่เขาก็ยังคงควบคุมอารมณ์ไว้ได้ เมื่อทำการหลบหลีกกระสุนลูกนั้นได้ เขาก็วิ่งพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง!
ไม่ว่าปืนของมือปืนคนนั้น จะเก่งกาจแค่ไหน ขอแค่เพียงให้เขาได้เขาไปใกล้มือปืนคนนั้น เขาก็จะสามารถกำจัดฝ่ายตรงข้ามได้!
สิ่งที่โชคดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ถึงแม้ว่าปืนของอีกฝ่ายจะมีอานุภาพเก่งกาจมากก็ตาม แต่ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่อีกฝ่ายได้ทำการยิงออกมาแล้ว ก็ต้องเว้นระยะไป1วินาที ถึงจะสามารถยิงครั้งที่สองออกมาได้
เวลา1วินาทีนั้น สำหรับคนทั่วไป ไม่ได้มีผลกกระทบแต่อย่างใด แต่สำหรับฮวางซางที่พุ่งเข้าไปหาด้วยความรวดเร็วนั้น เวลาเพียงแค่ 1 วินาที กลับทำให้เขาสามารถวิ่งออกไปได้ไกล2-3 เมตรเลยทีเดียว!
ความเร็วแบบนี้คิดเป็นสามเท่าของแชมป์เปี้ยนวิ่งระดับโลกซะอีก!
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่ได้ทำการหลบหลีกกระสุนนัดที่สาม และที่สี่แล้ว ฮวางซางก็พบมือปืนที่ลอบยิงตัวเองได้ในที่สุด!
อีกฝ่ายหลบซ่อนตัวอยู่ในประตูข้าง ที่อยู่บนยอดตึกของตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
“หานายเจอแล้ว!”
ในขณะที่มองไปทางเงาที่หลบซ่อนตัวคนนั้น ดวงตาของฮวางซางก็ฉายแววเยือกเย็นขึ้นมาทันที จากนั้นก็เพิ่มความเร็วอีกครั้ง แล้วก็ทุบกระจกของอาคารจนแตกกระจาย แล้วพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว!
หลังจากที่เข้ามาในตึกผู้ป่วยใน ฮวางซางก็ใช้บันได วิ่งขึ้นไปบนยอดตึกนี้ด้วยความเร็วถึงขีดสุดทันที!