ตอนที่ 67 สงครามการต่อสู้ของสัตว์ร้าย
ตอนที่ 67 สงครามการต่อสู้ของสัตว์ร้าย
“แม่งเอ๊ย!”
ในขณะที่มองไปทางซอมบี้ ที่ทะลักเข้ามาทางหน้าต่างที่แตกกระจายของโรงยิม รวมไปถึงประตูที่สั่นสะเทือนจากการกระแทก อย่างบ้าคลั่งของซอมบี้เหล่านั้น สีหน้าของตั้วลั่วก็แปรเปลี่ยนไป จนยากที่จะอธิบายออกมาได้
เมื่อเปรียบเทียบกับซอมบี้ ก่อนหน้านั้นพวกเขายังรู้สึกว่า สัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้น น่ากลัวและโหดร้ายยิ่งกว่า แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ การโจมตีของเหล่าผีดิบที่พรั่งพรูเข้ามา ราวกับกระแสน้ำอีกครั้ง พวกเขาเพิ่งจะสัมผัสรับรู้ได้ถึง ความน่ากลัวของซอมบี้ที่ไม่ใช่พลังความแข็งแกร่งของพวกมัน แต่เป็นจำนวนที่มหาศาลของพวกมันที่มากมายไม่มีวันหมดสิ้น!
“ทำยังไงดี ตอนนี้ประตูด้านหลังก็ถูกปิดล้อมแล้ว พวกเราออกไปไม่ได้แล้ว!”
เมื่อเผชิญหน้ากลับซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของจูเก๋อ โหย๋วหลง ก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดลงไปมากกว่าเดิม
ตอนนี้ เรื่องที่เขากังวลที่สุด ไม่ใช่ชีวิตของตัวเอง แต่เป็นความปลอดภัย ของเด็กๆเหล่านั้นและจางเฟิ้ง เด็กๆเหล่านี้มองเขาเป็นพี่ใหญ่ เชื่อใจเขา เคารพเขามาโดยตลอด ดังนั้นเขาจะไม่มีวันยอมให้เด็กๆเหล่านั้น เป็นอะไรไปเด็ดขาด!
“ทำยังไงดี? เจ้ามนุษย์แช่เย็น!”
ตั้วลั่วส่ายหน้า หลังจากนั้นก็มองไปทางห้องแต่งตัวผู้ชายแวบหนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้นว่า
“จางเฟิ้ง เธอพาเด็กๆเหล่านั้นไปห้องแต่งตัวอีกห้องหนึ่ง ถ้าฉันไม่เรียกพวกเธอออกมา พวกเธอห้ามออกมาเด็ดขาด แล้วก็ให้เจ้าเด็กดื้อพวกนั้นเงียบๆด้วย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตั้วลั่วก็หยุดไปสักพัก จากนั้นก็พูดต่อว่า
“จำไว้ ห้ามไปห้องแต่งตัวผู้ชายนั้นเด็ดขาด อย่าให้เจ้าแมลงสาบนั้นมาว่าฉันได้!”
“เข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของตั้วลั่ว จางเฟิ้งก็รีบพยักหน้าทันที จากนั้นก็พาเด็กๆเหล่านั้นไปห้องแต่งตัวผู้ชายอีกห้องหนึ่ง
“แม่งเอ๊ย เด็กดื้อพวกนั้นยุ่งยากจริงๆ!”
เมื่อเห็นจางเฟิ้งพาเด็กๆเหล่านั้น ไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกห้องแล้ว ตั้วลั่วก็อดสบถออกมาไม่ได้ จากนั้นก็ใช้ปืนยาวจู่โจมนั้นยิงกราดใส่ซอมบี้สองสามตัวที่พุ่งเข้ามาพลาง สูดลมหายใจเข้าลึกๆไปพลาง จากนั้นก็จับตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ ข้างกำแพงดึงออกอย่างรุนแรง
เอี๊ยด!
จากนั้นเสียงเสียดสีอย่างแสบแก้วหูก็ดังขึ้น ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติตู้นั้นถูกตั้วลั่วลากออกไป จากนั้นก็ลากไปปิดหน้าประตูห้องแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นไว้ เพื่อปิดกั้นทางเข้าห้องห้องนั้น
“หลิวซิน ใช้พลังความเย็นของนายแช่แข็งปิดรูนี้ไว้!”
เมื่อเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้แล้ว ตั้วลั่วก็หันหน้าไปตะโกนใส่หลิวซินอีกครั้ง
“ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของตั้วลั่ว หลิวซินก็รีบมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปด้านหน้าของตู้หยอดเหรียญตู้นั้นอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนขึ้นว่า
“แช่แข็ง!”
ซ่า ซ่า ซ่า!
หลังจากผ่านการต่อสู้ราวกับลูกโซ่มาหลายครั้ง พลังเหนือมนุษย์ของหลิวซินก็ได้บรรลุขึ้นไปอีกขั้น และแข็งกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก ภายใต้การใช้พลังทั้งหมดของเขา ความเย็นยะเยือกก็ได้ทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นน้ำแข็งที่มีความหนาหลายชั้น ปิดรูทางเข้าออกของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีตู้หยอดน้ำตู้นั้นขวางอยู่!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้พวกเขาไม่ต้องเป็นกังวลใจไปได้ชั่วคราว
“เอาละ ทุกคน ต่อไปก็ขอให้ทุกคนสู้กันอย่างเต็มที่!”
เมื่อเห็นทางเข้าออกของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นถูกแช่แข็งปิดกั้นแล้ว ตั้วลั่วก็ถอนลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย จากนั้นก็กราดยิงใส่ซอมบี้เหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
ที่เขาไม่เลือกหลบซ่อนตัวกับจางเฟิ้งและพรรคพวก นั้นเป็นเพราะเขารู้ว่าการพึ่งพลังความเย็นของหลิวซิน และตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติเหล่านั้น ไม่อาจต้านทานซอมบี้เหล่านี้ไว้ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจ ของซอมบี้อยู่ด้านนอก ให้พวกมันไม่พุ่งเข้าไปโจมตีน้ำแข็งนั้น อย่างน้อยก็สร้างความปลอดภัยให้กับเด็กๆเหล่านั้นได้อีกชั่วคราว
ถึงแม้ว่าจะยื้อเวลาไว้ได้เพียงแค่ไม่นาน แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด อะไรมันจะเกิดก็ต้องแล้วแต่ฟ้าลิขิต
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ตั้วลั่วก็อดที่จะหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองไม่ได้
ตัวเองต้องถูกเจ้าแมลงสาบล้างสมอง หรือไม่ก็ถูกแพร่เชื้อบางอย่างใส่แน่ๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อนละก็ เขาคงจะหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวนานแล้ว จะอยู่สู้ตายอย่างโง่เง่าเต่าตุ่นเหมือนเช่นตอนนี้ไปทำไม......
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาหนีรอดออกไปตอนนี้ มันจะเป็นยังไงละ การอยู่ด้านนอกคนเดียว ในช่วงเวลาวันจุดจบโลกเช่นนี้ เกรงว่าก็คงจะมีชีวิตต่อไปอีกได้ไม่นาน....
ช่างเถอะ คิดซะว่าข้าขอทำเรื่องดีๆสักครั้งก็แล้วกัน!
หวังแค่เพียงให้เจ้าน่ารังเกียจนั้นออกมาเร็วๆก็แล้วกัน.......
หลังจากนั้น การยิงโจมตีของตั้วลั่วก็ยิ่งทวีความบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น ภายใต้การยิงอย่างบ้าคลั่งและแม่นยำของเขา ซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆก็ล้มลงไปด้วยปืนของเขา
อีกด้านหนึ่ง หลิวซินและจูเก๋อ โหย๋วหลง ไม่ได้คิดอะไรมากเหมือนกับตั้วลั่ว พวกเขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือพยายามช่วยให้ได้นานที่สุด เพื่อตัวเอง และเพื่อให้เด็กๆเหล่านั้นมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป!
เพียงแต่ว่า การยืนหยัดสู้ต่อภายใต้การโจมตี ของกองทัพซอมบี้เหล่านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าหลิวซิน ตั้วลั่วและจูเก๋อ โหย๋วหลง ทั้งสามคนจะเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ก็ตาม ถึงแม้ว่าทักษะการยิงปืนของหลิวซินและตั้วลั่วจะแม่นยำมาก จนสามารถยิงใส่ซอมบี้เหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วก็ตาม และถึงแม้ว่าสุนัขยักษ์จะมีพลังการต่อสู้จนน่าตกใจ จนสามารถฉีกกัดซอมบี้ราวกับแตงที่ถูกสับและผักที่ถูกหั่นก็ตาม..........
แต่ปัญหาก็คือ ซอมบี้เหล่านี้มีจำนวนเยอะมากจนเกินไป!
แต่ในตอนนี้ ไม่ว่าตั้วลั่วและพรรคพวก จะมีพลังการสังหารอย่างบ้าคลั่งแค่ไหน แต่ดูเหมือนซอมบี้เหล่านี้ จะไม่ได้ลดลงไปแต่อย่างใด ยังคงพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างที่แตกกระจายนั้น อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่หลิวซินและพรรคพวกอย่างต่อเนื่องเช่นกัน !
ภายใต้การโจมตีของกองทัพซอมบี้มหาศาลเหล่านี้ หลังจากที่ผ่านไปได้ไม่กี่นาที กระสุนของหลิวซินและตั้วลั่วก็หมดลง!
ถึงอย่างไร พวกเขาก็ต้องฆ่ามาตั้งแต่โรงพยาบาลในเมือง ตลอดเส้นทาง ก็ผ่านสงครามการต่อสู้มาเป็นจำนวนไม่น้อยเลย บวกกับความบ้าคลั่งของพวกเขาด้วย กระสุนของพวกเขา จึงไม่เพียงพอต่อการใช้ ถึงแม้ว่าจะถูกเตรียมมาไว้เป็นจำนวนมากแล้วก็ตาม !
หลังจากใช้กระสุนจนหมดแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียง ใช้กริชขึ้นมาทำการต่อสู้ต่อไปเท่านั้น!
เมื่อเป็นแบบนี้ ความกดดันที่พวกเขาต้องแบกรับก็เริ่มพุ่งสูงขึ้น จนกกระทั้งถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือของตั้วลั่ว ที่เข้าช่วยหลิวซินและจูเก๋อ โหย๋วหลงหลายครั้ง ในสถานการณ์คับขันเหล่านี้ และช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าสุนัขยักษ์ตัวนั้นละก็ หลิวซินและจูเก๋อ โหย๋วหลง ก็คงจะถูกซอมบี้เหล่านั้นกัดไปแล้ว !
แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายใต้ความกดดันมากมาย และกองทัพซอมบี้เหล่านี้ กำลังกายของพวกเขาก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว และถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะถูกซอมบี้เหล่านี้ฆ่าตายหมดสิ้นแน่!
พูดได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเขาเลวร้ายลงไปมากจริงๆ!
แต่ปัญหาก็คือ ท่ามกลางวันจุดจบโลก สถานการณ์ที่ไม่น่าจะเลวร้ายลง กลับยิ่งเลวร้ายลงไปมากว่าเดิม!
หวือ!
หวือ!
หวือ!
ในขณะที่ตั้วลั่วและพรรคพวก กำลังตกอยู่ในวงล้อมและช่วยต่อสู้กับซอมบี้อยู่นั้น เงาสีเลือดหลายตัวกลับพุ่งเข้ามาใส่หน้าต่างที่แตกกระจาย ของโรงยิมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ตั้วลั่วและพรรคพวกทันที!
และในเวลาเดียวกัน สุนัขยักษ์ที่อยู่ใกล้หน้าต่างที่สุด ก็ถูกเงาสีเลือดตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ หลังจากนั้นก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด!
เจ้าลิกเกอร์!
นักล่าที่มีประสาทการรับกลิ่นเร็วที่สุดขนิดนี้ ก็ได้ถูกความเคลื่อนไหวที่อึกทึกเหล่านี้ดึงดูดเข้ามาในที่สุด !
“บัดซบมาก!”
เมื่อเห็นเจ้าลิกเกอร์ปรากฏตัว ใบหน้าของตั้วลั่วก็เปลี่ยนไปทันที หลังจากนั้นก็รีบชักปืนสั้นที่เหน็บอยู่บนเอวขึ้นมา แล้วยิงใส่เจ้าลิกเกอร์ตัวหนึ่งทันที จากนั้นก็กระโดดพุ่งไปข้างหน้า แล้วกวัดแกว่งกริชพุ่งใส่เจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นทันที!
ภายในโรงยิมแห่งนี้ เต็มไปด้วยซากศพมากมาย บวกกับซอมบี้ที่ทะลักกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พูดได้ว่าสภาพแวดล้อมในตอนนี้ สับสนอลหม่านอย่างมากเลยทีเดียว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าไม่สามารถจัดการเจ้าลิกเกอร์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกละก็ มันที่ได้เปรียบในเรื่องของความเร็วและความชำนาญ จะทำให้พวกเขาที่ตกอยู่วงล้อมของซอมบี้ในตอนนี้ ยากที่จะต่อกรกับเจ้าลิกเกอร์เหล่านั้นได้ !
แต่มีเรื่องที่โชคดีเพียงอย่างเดียวก็คือ เจ้าลิกเกอร์เหล่านั้น เพิ่งจะกลายพันธุ์ได้ไม่นาน พลังความแข็งแกร่งก็ยังห่างไกลจากเจ้าลิกเกอร์ ที่พวกเขาพบเจอในสวนหยู่หูก่อนหน้านั้น แล้วก็ยังไม่สามารถหลบหลีกกระสุนปืนเหล็กได้อีกด้วย ดังนั้นใบหน้าของลิกเกอร์ตัวนั้นก็ถูกตั้วลั่วยิงใส่ จนเละไม่เป็นชิ้นดี ก่อนร่างกายของมันจะหยุดการเคลื่อไหวอย่างรวดเร็ว
แต่ลิกเกอร์เหล่านี้ก็มีความกล้าหาญมาก ต่อให้ได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส มันก็ยังส่งเสียงคำรามออกมา แล้วยิงลิ้นแหลมๆของมันใส่ตั้วลั่วทันที!
และในเวลาเดียวกัน เจ้าลิกเกอร์อีกตัวก็เพิ่มความเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน พุ่งตรงเข้ามาหาตั้วลั่วหมายจะสังหารเช่นเดียวกัน!
“ปลดล็อค!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของลิกเกอร์ทั้งสองตัว ท่ามกลางกองทัพซอมบี้ ตั้วลั่วก็ไม่กล้าแม้แต่จะเก็บพลังเอาไว้แต่อย่างใด เขาตะโกนสุดเสียง จากนั้นก็ระเบิดพลังเหนือมนุษย์ทั้งหมดของเขา ออกมาอย่างเต็มกำลัง
พลังเหนือมนุษย์ของตั้วลั่วนั้นพิเศษมาก พลังเหนือมนุษย์ชนิดนี้สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือพลังความสามารถในการตอบสนอง และสมรรถะภาพร่างกายของตั้วลั่ว จะเพิ่มขึ้นทุกๆด้านในสถานการณ์ปกติ ซึ่งก็พูดได้ว่าพลังของเขานั้นมากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า
แต่ถ้าเข้าสู่สภาวะ “ปลดล๊อค” พลังส่วนที่สองของเขาก็จะถูกเปิดออก พลังความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มากกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้งความสามารถในการตอบสนอง และประสาทการมองเห็น ก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจด้วยเช่นกัน
แต่ภายใต้สภาวะเช่นนี้ เขาจะต้องใช้พละกำลังและพลังเหนือมนุษย์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงจะปลดล็อคแค่เพียงช่วงเวลาคับขันเท่านั้น
แต่ในตอนนี้ พลังส่วนที่สองของตั้วลั่ว ได้ทำการปลดล็อคแล้ว เจ้าลิกเกอร์ที่เดิมทีพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงตัวนั้น ก็แปรเปลี่ยนเป็นช้าลงอย่างฉับพลันราวกับถูกกดสโลว์ไว้ แต่ระดับความเร็วของตัวเขากลับเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
และเมื่อเป็นเช่นนี้ วินาทีต่อจากนั้นตั้วลั่วก็ทำเพียงเอียงคอ หลบหลีกลิ้นยาวของเจ้าลิกเกอร์ ที่พุ่งยิงออกมา หลังจากนั้นก็ใช้กริช ฟันไปบนลิ้นของเจ้าลอกเกอร์นั้นทันที!
พริบตาเดียว เลือดสดจำนวนมาก ก็พุ่งทะลักออกมาจากลิ้นขาด ของเจ้าลิกเกอร์ สาดกระเซ็นเต็มพื้น!
แต่ในช่วงเวลานี้ การเคลื่อนไหวตั้วลั่วกลับไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด ในขณะที่ตัดลิ้นของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้น จนขาดสิ้นแล้ว มือซ้ายของตั้วลั่วที่ได้ทำการเปลี่ยนเป็นปืนสั้น ก็ได้ยิงเข้าใส่เจ้าลิกเกอร์ที่พุ่งออกมา จากด้านซ้ายอย่างต่อเนื่อง กระสุนเหล็กที่ยิงออกไป ได้ทะลุเข้าไปในดวงตาของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้น อย่างแม่นยำ ตรงเข้าไปยังสมอง ส่งผลให้หัวสมองของเจ้าลิกเกอร์ตัวนี้แตกกระจุย!
ในขณะที่ทำการฆ่าเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้น ตั้วลั่วก็ยังคงพุ่งเข้าใส่เจ้าลิกเกอร์ ที่ถูกตัดลิ้นจนขาดตัวนั้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็โจมตีไปทางด้านหน้า โดยการกวัดแกว่งกริชขึ้นมา แล้วแทงไปบนต้นคอของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นอย่างโหดเหี้ยม!
กรอบ!
หลังจากนั้นเสียงแตกหักอันน่าสลดใจก็ดังขึ้น ต้นคอของเจ้าลิกเกอร์ได้ถูกตั้วลั่วแทงจนขาดกระเด็น หัวกะโหลกขนาดใหญ่ก็ได้ลอยตัวออกไปกลางอากาศ ก่อนจะตกลงไปบนพื้นอย่างแรง
“พระเจ้า......”
เมื่อเห็นภาพนั้น จูเก๋อ โหย๋วหลงที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงอย่างมาก
เขาเองก็เคยปะทะกับเจ้าลิกเกอร์ตัวหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ แต่ในตอนนั้นเขาได้ยืมพลังของเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ มาจัดการกับเจ้าตัวนั้น จนเจ้าสุนัขกลายพันธุ์ได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส ยากที่จะฟื้นคืนกลับมาสภาพเดิมได้ ในช่วงเวลานั้นตัวเองได้ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตายเท่ากัน ดังนั้นความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดชนิดนี้ จึงลึกซึ้งมากเช่นกัน
แต่เจ้าลิกเกอร์ทั้งสองตัว ที่เข้าโจมตีใส่ตั้วลั้ว กลับถูกตั้วลั่วฆ่าได้ภายในไม่กี่วินาที....
พลังความแข็งแกร่งแบบนี้ มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
กรอบ!
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงแตกหักอย่างชัดเจนก็ดังขึ้นมาจากอีกด้าน
เมื่อจูเก๋อ โหย๋วหลง มองไปตามเสียงนั้น ก็เห็นเจ้าลิกเกอร์ตัวหนึ่ง ได้ถูกหลิวซินจัดการไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าหลิวซิน จะไม่ได้มีความสามารถในการตอบสนอง และมีประสาทการมองเห็นอย่างน่าตกใจเหมือนตั้วลั่ว แล้วก็ไม่ได้มีพลังความแข็งแกร่งของร่างกาย ที่น่ากลัวเหมือนกับฮวางซางก็ตาม แต่เขากลับมีพลังเยือกเย็นที่แข็งแกร่งถึงขีดสุด เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่เขาได้หลบหลีกการโจมตี ของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นแล้ว เขาก็ใช้มือขวากดลงไปบนหัวของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้น แล้วแช่แข็งหัวของเจ้าลิกเกอร์ตัวนี้ สุดท้ายก็ใช้ปืนยิงใส่หัวของมันจนแตกกระจายอย่างโหดเหี้ยม
พริบตาเดียว ลิกเกอร์ทั้งสี่ตัวที่พุ่งเข้ามา ก็เหลือแค่ตัวที่กำลังกัดกับสุนัขยักษ์ตัวนั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น!
เมื่อเป็นเช่นนี้ ความกดดันของตั้วลั่วและพรรคพวกก็ลดน้อยลงไปไม่น้อย
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ พละกำลังของตั้วลั่วและพรรคพวก ก็ลดลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน อีกทั้งสีหน้าของตั้วลั่วก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น สายตาเคร่งขรึมนั้นก็มองไปทางด้านนอกประตูของโรงยิม ราวกับสังเกตเห็นภัยอันตรายบางอย่าง
บึม!
วินาทีต่อจากนั้น เสียงระเบิดอันรุนแรงก็ดังขึ้น ดูเหมือนประตูเหล็กขนาดใหญ่ของโรงยิมที่ถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนา จะได้รับการโจมตีด้วยพลังอันน่ากลัวบางอย่าง จนเปิดออกในพริบตาเดียว กลายเป็นประตูที่ถูกแบ่งออกมาเป็นสองส่วน ลอยออกไปด้านหลัง สุดท้ายก็กระแทกลงไปบนตัวของซอมบี้หลายตัวนั้นอย่างโหดเหี้ยม พวกมันถูกทุบจนล้มลงไปบนพื้น เลือดสดจำนวนมากก็ได้ไหลรินออกมาจากด้านล่างของประตูที่พังทลายนั้น
ด้านนอกของประตูที่ถูกพังทลายลง “ยักษ์”รูปร่างมหึมา ที่มีร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ดูเหมือนกับเหล็ก ก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของตั้วลั่วและพรรคพวก !
“เหี้ยละ!”
เมื่อเห็นยักษ์ขนาดใหญ่ตัวนี้ จูเก๋อ โหยว๋หลง ก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน ใบหน้าของตั้วลั่วและหลิวซิน ก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าซีดเผือดอย่างฉับพลันทันที
ไทแรนท์!
สัตว์ประหลาดที่พังทลายประตู และปรากฏอยู่ตรงประตูในตอนนี้ คือเจ้าไทแรนท์ที่มีพลังความแข็งแกร่ง และความน่ากลัวมากกว่าเจ้าลิกเกอร์ตัวหนึ่ง !