ตอนที่ 6 ติดเชื้อทั่วเมือง !
ตอนที่ 6 ติดเชื้อทั่วเมือง !
"เ*ดเข้ เ*ดเข้ เ*ดเข้!"
ฮวางซางฆ่าซอมบี้ทั้งสี่ตัวราวกับสายฟ้าที่โหมกระหน่ำ เมื่อหลิวซินที่เตรียมตัวหลับตารอความตายเดิมทีนั้นได้ลืมตาขึ้นมา ก็ได้มองไปทางซากศพของซอมบี้ตัวนั้น ก่อนจะส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด
"พ่อเจ้าตกใจจนแทบฉี่ราดออกมา!"
"นายกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้นายระวังตัว?"น่องที่สัมผัสได้ถึงความชาที่แผ่ขยายออกมา ใบหน้าของฮวางซางก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
"ถ้าครั้งนี้ฉันไม่รีบลงมือก่อน นายคงได้กลายเป็นอาหารของซอมบี้เหล่านี้ไปแล้ว!" ถึงแม้ว่าในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลของเรื่องการติดเชื้อไวรัสก็ตาม แต่กลับอดที่จะตำหนิหลิวซินไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรหลิวซินก็ยอมเสียสละตนอยู่เพื่อเขา อีกทั้งถ้าไม่ใช่เพราะการคอยกระตุ้นดึงดูดซอมบี้เหล่านี้ เขาอาจจะไม่สามารถรับมือกับซอมบี้มากกว่า10ตัวนี้ได้หรอก
"ถ้าฉันไม่เหยียบเลือดจนลื่นไถลลงไปละก็....แต่โชคดีที่ได้พี่มาช่วย่ไม่งั้น ฉันก็คงจะตายจริงๆ ไปแล้ว"
เมื่อนึกถึงภาพอันน่าหวาดเสียวเมื่อสักครู่ หลิวซินก็เกิดความหวาดผวาขึ้นมาในใจ หลังจากนั้นก็ตบไปที่หน้าอก แล้วมองไปทางร่างของฮวางซางที่เปรอะเปื้อนเลือดไปทั่วทั้งตัว ก่อนจะถามขึ้นด้วยความกังวลว่า
"ฮ่องเต้ ที่ต่อกรกับซอมบี้มากมายเมื่อสักครู่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
เลือดที่แปดเปื้อนอยู่บนตัวของฮวางซางนัันมีมากจนเกินไป อีกทั้งบาดแผลบริเวณน่องก็ไม่ได้ถือว่าเห็นชัดมากขนาดนั้นด้วย หลิวซินที่ยังอยู่ในอาการหวาดผวาอยู่ จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าฮวางซางได้ถูกซอมบี้กัดแล้ว
"พวกมันจะมาทำอะไรฉันได้หล่ะ?"ฮวางซางยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องที่เขาโดนกัดให้กับหลิวซินรู้ เพราะนอกจากจะทำให้หลิวซินทุกข์ทรมานใจและตำหนิตัวเองแล้วก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่ายหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเบอร์หนึ่ง
“ทำอะไรหน่ะ โทรหาใครเหรอ?” เมื่อเห็นฮวางซางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หลิวซินก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ทันที
“แน่นอนว่าโทรหาตำรวจสิ หรือนายคิดว่าเราจะปกปิดเรื่องนี้ไว้กันละ?” ฮวางซางรอคนรับสายไป และก็หันมาคุยกับหลิวซินไป
เรื่องซอมบี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก อีกทั้งก็ไม่มีใครรู้ว่าศพเหล่านี้จะติดเชื้อไปด้วยรึเปล่า ดังนั้นจำเป็นจะต้องแจ้งให้ทางตำรวจรับรู้ เพื่อให้พวกเขาไปหาผู้ที่มีความเกี่ยวข้องเฉพาะทางมาจัดการกับเรื่องพวกนี้
แต่ทว่าสิ่งที่ฮวางซางไม่ได้คาดการณ์ไว้ก็คือ ในเวลาสำคัญแบบนี้ เบอร์โทรศัพท์ของตำรวจกลับสายไม่ว่างตลอด ไม่ว่าเขาจะลองโทรใหม่อีกกี่ครั้งก็ยังเป็นเช่นนี้!ไม่เพียงแต่ฮวางซางเท่านั้น หลิวซินที่ลองโทรภายหลังก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เบอร์โทรศัพท์ของตำรวจนั้นติดต่อไม่ได้เลย
“พี่ โทรไม่ติดเลยอ่า!”ขณะที่ฟังเสียงของสายโทรศัพท์ที่ไม่ว่าง สีหน้าของหลิวซินก็แปรเปลี่ยนผิดปกติไปจากเดิม ทีแรกก็ประสบพบเจอกับซอมบี้ มาตอนนี้เบอร์โทรศัพท์ของตำรวจก็โทรไม่ติดอีก เรื่องนี้มันทะแม่งๆแล้วนะ!
“เห็นแบบนี้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นคงจะไม่ใช่มีแค่พวกเราที่นี่แล้วแหละ!” เมื่อมองไปยังที่ไกล ๆที่ถูกหมอกหนานั่นปกคลุมตลบไปทั่วทั้งฟ้าและดิน ในใจของฮวางซางก็เกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ขึ้นไปอีก
หลังจากรัฐบาลได้ปรับระบบและเครือข่ายของตำรวจหลายต่อหลายครั้งจนดีขึ้นแล้ว เรื่องที่สายโทรศัพท์ของตำรวจจะไม่ว่างนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ในตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาจะโทรยังไงก็โทรไม่ติดเลยสักครั้ง นี่อาจจะอธิบายได้เรื่องหนึ่งว่าตอนนี้คนที่โทรหาตำรวจฝั่งนั้นคงจะมีจำนวนมากจริง ๆก็ได้ เลยทำให้เครือข่ายของสายนี้เกินขีดจำกัดที่จะแบกไว้ได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฮวางซางจึงรีบเปิดเบอร์ผู้ติดต่อทางโทรศัพท์ แล้วกดโทรออกหาผู้บังคับการกองบัญชาการตำรวจอาชญากรรมทันที เขาคือหมอนิติเวช ย่อมมีการติดต่อกับกองบัญชาการตำรวจอาชญากรรมอยู่ไม่น้อย ถึงขั้นสนิทสนมรักใคร่กลอมเกลียวกับหัวหน้าตำรวจอาชญากรรมเลยทีเดียว ครั้งนี้ สายไม่ได้ไม่ว่างแต่อย่างใด กลับรับอย่างรวดเร็วด้วย
“เสี่ยวฮวาง ทำไมถึงโทรมาตอนนี้ หรือว่าพวกนายเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมาแล้ว?”หลังจากรับโทรศัพท์ เสียงจ้อกแจ้กจอแจหลายๆเสียงก็ดังขึ้นมาจากปลายสายเป็นอันดับแรก แม้กระทั่งเสียงอันน่าเวทนาบางเสียงก็ดังขึ้นมาบาง ๆด้วย หลังจากนั้นถึงจะตามมาด้วยเสียงที่ร้อนรนใจของหัวหน้า
“ใช่ พวกคุณก็มีเรื่องเหมือนกันเหรอครับ?” เมื่อได้ยินเสียงของหัวหน้า ในใจของฮวางซางก็สุขุมขึ้นมาทันใด
“ตอนที่ผมได้มาจัดการคดีอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนเส้นหลักในตอนเช้า ก็ได้ประสบกับเรื่องบางอย่างครับ ผู้ประสบเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ได้เกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าซอมบี้ อีกทั้งยังเข้ามาโจมตีพวกเราด้วยครับ”
“ฉันรู้แล้ว!”เมื่อสิ้นสุดเสียงของฮวางซาง หัวหน้าก็ร้องขึ้นมาว่า
“สถานีวันนี้ก็บ้าไปทั้งวันเช่นกัน คนตายฟื้นกลับขึ้นมามีชีวิตนั้นกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง มันเหมือนกับวันจุดจบของโลกบ้าๆพวกนั้นเลยจริง ๆ ตอนนี้กำลังตำรวจทั่วทั้งเมืองเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เบื้องบนมีคำสั่งให้กองกำลังทหารบริเวณรอบๆระดมกำลังด้วยเช่นกัน ทางที่ดีที่สุดนายควรกลับไปซ่อนตัวที่บ้านก่อน รอให้สถานการณ์ข้างนอกสงบลงแล้วค่อยออกมา”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดูเหมือนหัวหน้าจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ จึงพูดขึ้นว่า “แล้วก็ ตอนนี้มีการยืนยันเบื้องต้นแล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนซอมบี้เหล่านั้นมีพละกำลังการโจมตีที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงมาก ถ้านายเจอมันอย่าต่อสู้กับพวกเขาเป็นอันขาด ให้ซ่อนตัวไว้เป็นดีที่สุด ถ้าซ่อนไม่ได้ก็ทุบไปที่หัวของมัน เอาละๆ ฉันไม่พูดแล้ว เหยดแม่! เรื่องบ้าๆพวกนี้มันช่างสร้างความยุ่งยากซะจริง ๆเลย!”
เสี้ยววินาทีขณะที่กำลังจะวางสายไป ฮวางซางก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาในสาย เห็นชัดๆว่าหัวหน้าคงจะเจอเข้ากับซอมบี้แล้ว
“ฮ่องเต้ เป็นยังไงบ้างครับ?” เมื่อเห็นสีนหน้าที่เคร่งขรึมหลังจากวางสายไปแล้วของฮวางซาง หลิวซินก็อดอ้าปากถามขึ้นมาไม่ได้
“หลิวซิน นายชอบอ่านนิยายจุดจบของโลกไม่ใช่เหรอ แล้วยังบอกอีกว่าอยากจะลองเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องอันตรายพวกนี้ด้วย?”
ฮวางซางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก้มตัวลง แล้วเก็บเหล็กงัดที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดขึ้นมา “ยินดีด้วย ตอนนี้ความฝันของนายเป็นจริงแล้ว เพียงแต่ว่า....เกรงว่าครั้งนี้มันจะเป็นฝันร้ายนะสิ!”
“พี่...พี่หมายความว่ายังไง?” เมื่อมองไปทางสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมแบบนั้นของฮวางซาง สีหน้าของหลิวซินเองก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที “พี่อย่าบอกนะว่า ยังมีซอมบี้ปรากฏตัวที่อื่นอีก?”
“ไม่ผิด หัวหน้าบอกว่าตอนนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ซอมบี้ฟื้นขึ้นมามีชีวิตเหมือนกัน ไม่เพียงแต่กองกำลังตำรวจทั่วเมืองได้เคลื่อนไหวแล้วเท่านั้น กองกำลังทหารบริเวณรอบ ๆก็เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน สรุปแล้ว....เราเจอกับความยุ่งยากครั้งใหญ่ซะแล้วละ”
ฮวางซางพยักหน้า แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะมีรูปแบบไหนที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้คือพวกเราต้องเตรียมการป้องกันไว้ก่อน ถือโอกาสในสถานการณ์ที่ยังไม่สูญเสียการควบคุมทั้งหมด นายหลบไปอยู่กับพ่อแม่ของนายก่อน ตอนนี้ฝั่งนั้นคงจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว”
ฮวางซางรู้ว่าหลิวซินเป็นลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อแม่ของเขาก็เป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกลาโหมและการป้องกันภัยแห่งชาติ อีกทั้งยังมีสถานะทางการทหารอีกด้วย ภายในมหาวิทยาลัยนั้นย่อมมีกองกำลังทหารและยุธโธปกรณ์อย่างแน่นอน ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ ที่นั่นคือหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าเมือง C ที่สุดแล้ว
นอกเหนือจากนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกลาโหมและการป้องกันภัยแห่งชาตินั้นยังถูกห้อมล้อมด้วยกำแพงอีกด้วย มีประตูใหญ่ไม่กี่บานเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ ถึงตอนนี้ก็ทำการล็อกประตูใหญ่เหล่านั้นซะ เท่านี้ซอมบี้เหล่านี้ก็คงจะเข้าไปด้านในไม่ได้แล้ว อีกทั้งภายในมหาวิทยาลัยฯ ยังมีเฮลิคอปเตอร์อยู่จำนวนไม่น้อยด้วย ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็คงจะใช้เฮลิคอปเตอร์นี้แหละอพยพไป
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เมื่อกองกำลังทหารเข้ามาในเมืองแล้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกลาโหมและการป้องกันภัยแห่งชาติจึงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นอน!
“ตอนนี้ก็คงต้องทำอย่างนี้ไปก่อนหล่ะ”
หลิวซินรู้ว่าเรื่องนี้เข้าสู่ภาวะฉุกเฉินแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของฮวางซางจึงได้พยักหน้าทันที ก่อนพูดว่า “ไปกันเถอะ เวลาไม่คอยท่า พวกเราต้องไปให้ทันก่อนที่สถานการณ์นี้จะสูญเสียการควบคุมไปทั้งหมด”
“ฉันไม่ไปกับนาย” แต่ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“ฉันยังมีเรื่องของตัวเองที่ต้องจัดการก่อน นายไม่ต้องมาสนใจฉันหรอก”
ถึงแม้ว่าในใจของฮวางซางจะชัดเจนอยู่แล้วว่าการไปมหาวิทยาลัยการป้องกันภัยกับหลิวซินเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ในตอนนี้นั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดก็ตาม แต่ปัญหาก็คือสถานการณ์ตอนนี้ของเขาเอง เขาจึงทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะเขานั้นได้ถูกกัดแล้ว อีกทั้งยังติดเชื้ออีกด้วย!
ถึงแม้ว่าเขาจะมีวิชาป้องกัน การหลอมรวมเป็นหนึ่ง และพิษของซอมบี้เหล่านี้อาจจะไม่ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิตของเขาก็ตาม แต่ในสถานการณ์ยุ่งเหยิงวุ่นวายแบบนี้ มหาวิทยาลัยป้องภัยก็คงเริ่มบังคับใช้เคอร์ฟิวส์กันแล้ว ถึงตอนนั้นเขาก็คงไม่สามารถเข้าไปข้างในให้คนพบว่าติดเชื้อหรอก ถ้าไม่ถูกยิงตาย ก็คงจะถูกควบคุมตัวอย่างแน่นอน หรือไม่ก็อาจจกลายเป็นเป้าหมายในการวิจัยของคนอื่นก็เป็นได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเขาจะไปมหาวิทยาลัยป้องกันภัยกับหลิวซินได้ยังไงละ?
“ฮ่องเต้ พี่ พี่สุดที่รัก นี่ไม่ใช่เวลามาโอ้อวดฝีมือนะ!”
เมื่อได้ยินว่าฮวางซางจะไม่ยอมไปกับตัวเอง หลิวซินก็ร้อนใจขึ้นมา “ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าชีวิตของตัวเองอีกละ? พี่อย่ามาล้อเล่นกับฉันแบบนี้ได้ไหม!”
“ฉันตัดสินใจแล้ว นายไม่ต้องมาโน้มน้าวฉันซะให้ยากเลย”
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเป็นกังวลและร้อนใจของหลิวซิน ในใจของฮวางซางก็อบอุ่นขึ้นมา แต่สีหน้ากลับยังคงแสดงความเย็นชาออกมา “สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ได้น่ากลัวอย่างที่นายคิด อีกอย่างความสามารถของฉันนายก็เห็นแล้วนี่ เพียงแค่ต้องระวังตัวหน่อย ซอมบี้เหล่านี้ก็คงจะไม่มาคุกคามฉันหรอก”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮวางซางก็หยุดลงเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ใช้นำเสียงที่ดูอบอุ่นขึ้นมา แล้วพูดว่า “ฉันรับปากนาย หลังจากที่ฉันจัดการเรื่องของฉันเสร็จแล้ว ฉันจะไปหานายที่มหาวิทยาลัยการป้องกันภัยอย่างแน่นอน”
“พี่.....”เดิมทีหลิวซินยังคิดที่จะโน้มน้าวฮวางซางสักสองสามประโยค แต่เมื่อเห็นแววตาที่จริงแท้แน่นอนนั้นของฮวางซาง สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมา “ก็ได้ ฮ่องเต้ พี่ต้องระวังตัวมาก ๆนะ ฉันจะรอพี่ที่มหาวิทยาลัย!”
“วางใจเถอะ ฉันเหมือนคนที่ไม่รักชีวิตตัวเองแบบนั้นไหมละ?”ฮวางซางตบไปที่ไหล่ของหลิวซินเบาๆ แล้วพูดว่า “เวลาไม่คอยท่า พวกเราแยกย้ายกันปฏิบัติการเถอะ”
“รับทราบครับ!”
หลิวซินเองก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเสแสร้งทำตัวเหนือคนอื่น ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า ก่อนเดินไปทางด้านข้างเสากั้น แล้วขี่มอเตอร์ไซต์ของตัวเองออกไป พุ่งเข้าไปทางหมอกอันขมุกขมัวนั้น เพื่อขับตรงไปยังฝั่งการป้องกันภัยแห่งชาติอย่างไม่รอช้า
“นี่คงเป็นจุดจบของชีวิตแล้วละ!”
เมื่อเห็นว่าหลิวซินนั้นขับรถจากไปแล้ว ฮวางซางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากนั้นก็สบถด่าออกมา ก่อนจะเริ่มก้มสำรวจน่องของตัวเองที่ถูกซอมบี้กัดจนเกิดบาดแผล
เขาเองก็ไม่รู้ด้วยว่าความสามารถในการรักษาตัวเองของเขานั้นมาจากวิชาการหลอมรวมเป็นหนึ่ง หรือเป็นเพราะพิษของซอมบี้กันแน่ บาดแผลที่อยู่บนน่องของเขาในตอนนี้เลือดได้หยุดไหลแล้ว แต่บริเวณรอบ ๆบาดแผลกลับยังคงกลายเป็นสีม่วงดำอยู่ จนกระทั้งเส้นเลือดบริเวณน่อง ก็เริ่มปูดขึ้นมาทีละเส้นแล้ว เหมือนกับตะขาบตัวเล็ก ๆอย่างไรอย่างนั้นเลย มันเป็นภาพที่ทั้งน่ากลัวแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากนี้ ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายออกมาจากบาดแผลนั้นก็ลดความเจ็บปวดลงในระดับต่ำสุดอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าบาดแผลนี้ได้ติดเชื้อเข้าแล้ว !
แต่ยังมีสิ่งที่ยังโชคดีอยู่นั้นคือ พิษของซอมบี้ในบาดแผลนี้ดูเหมือนจะถูกพลังบางอย่างสกัดเอาไว้ ดังนั้นสถานการณ์การติดเชื้อจึงจำกัดพื้นที่แพร่เชื้อไว้เพียงแค่บริเวณบาดแผลเท่านั้น จึงไม่แพร่กระจายลุกลามไปที่อื่น นับว่ายังมีความโชคดีในความโชคร้ายอยู่
“ดูเหมือนระบบจะพูดไม่ผิดแฮะ วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งที่แท้จริงสามารถต่อต้านพิษของซอมบี้ไว้ได้”
เมื่อค้นพบเรื่องนี้ ฮวางซางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ในใจก็ยังตื่นตัวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน “แต่ในเวลานี้การบำเพ็ญวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งในตอนนี้ก็อาจจะทำได้เพียงเท่านี้ ถ้าถูกซอมบี้กัดอีกหลายแผลละก็ ฉันก็คงจะสกัดกั้นพิษนี้ไม่ไหวหรอก ถึงตอนนั้นก็คงจะมีแค่ส้นทางแห่งความตายสายเดียวเท่านั้น”
“แต่ปัญหาคือ ถ้าพิษเหล่านี้ไม่ได้รับการจัดการละก็ ก็คงจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้แน่”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของฮวางซางก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที “เห็นแบบนี้แล้ว ก็คงทำได้เพียงกลับไปจัดการบาดแผลที่บ้านก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยคิดหาวิธีฆ่าซอมบี้เหล่านี้ซะ ถ้าพยายามบำเพ็ญฝึกฝนวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งจนบรรลุ ถึงตอนนั้นก็น่าจะขับพิษที่อยู่ในบาดแผลนี้ให้ออกไปได้แล้ว”
หลังจากที่ ฮวางซางได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าที่เช่ามาของตัวเอง พุ่งเข้าไปในม่านหมอกอันขมุกขมัวนั้น ขี่ตรงไปยังทิศทางเข้าเมือง
แต่ในเวลานี้ ภายในเมือง C การแพร่กระจายของพิษซอมบี้ถึงขั้นวิกฤตขึ้นเรื่อย ๆ!หายนะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ กำลังแพร่กระจายอย่างรุนแรงไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว!