ตอนที่ 55 การวิเคราะห์ที่ผิดพลาด บุกทะลวงกองทัพซอมบี้
ตอนที่ 55 การวิเคราะห์ที่ผิดพลาด บุกทะลวงกองทัพซอมบี้
ตอนที่ฮวางซางและพวกเข้ามาในป่าแห่งนี้ก็เป็นเวลา 9 โมงเช้าแล้ว ถึงแม้ว่าหมอกจะมลายหายไปหมดแล้วก็ตาม แต่ฝนที่ตกลงมากลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด บวกกับพืชในป่าที่เจริญงอกงามเหล่านี้อีก ดังนั้นสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้จึงค่อนข้างมืดสลัว เต็มไปด้วยกลิ่นอายของลางร้ายและความตาย
และในเวลาเดียวกัน ในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ในป่านั้น ยุงจำนวนมากก็เริ่มปรากฏขึ้นมาในป่าแห่งนี้ ยุงเหล่านี้ค่อนข้างตัวใหญ่กว่าก่อนวันสิ้นโลกซะอีก แต่ละตัวมีขนาดเกือบเท่ากับเม็ดวอลนัท อีกทั้งยังดูดุร้ายยิ่งกว่า ดูเหมือนว่ามันก็เกิดการกลายพันธุ์ขึ้นในระดับหนึ่งเช่นกัน
และในตอนนั้นเอง ดูเหมือนยุงเหล่านั้น จะได้กลิ่นอายของเลือดสดจากตัวพวกเขา จากนั้นกลุ่มเล็กๆกระจุกหนึ่งก็เริ่มบินช้าๆตรงมาหาพวกเขา พยายามที่จะดูดเลือดของพวกเขา
เพี้ยะ!
เสียงหนึ่งดังขึ้น ฮวางซางตบยุงที่พยายามเข้ามาดูดเลือดตัวหนึ่งจนบี้แบน จากนั้นก็ถูไปบนต้นไม้ด้านข้าง พร้อมกับแสดงสีหน้ารังเกียจ
“ฉันเกลียดยุง!”
“ฉันก็ด้วย!”
ครั้งนี้ ตั้วลั่วกลับมีความเห็นตรงกันกับฮวางซาง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นก็ยิงใส่ยุงตัวหนึ่งจนแตกกระจาย
“หึหึ...”
แต่อีกด้านหนึ่ง หลิวซินกลับกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาแทน
ภายใต้พลังความเย็นเหนือมนุษย์ พลังความเย็นยะเยือกได้ลอยขึ้นมาอยู่รอบๆตัวของเขา ซึ่งยุงเหล่านั้นดูเหมือนจะเกลียดความเย็นนี้ ดังนั้นจึงไม่มีตัวไหนกล้าเข้ามาไกล้เขาสักตัว
“พวกนายบอกว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และซอมบี้เหล่านั้นไปที่ไหนกันนะ?”
ในขณะที่มองไปทางป่าที่เงียบสงัด และมีเพียงยุงที่บินไปบินมาทั่วทิศทางนั้น หลิวซินก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
“พวกเราเดินกันมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ แต่กลับไม่พบกับศัตรูเลยสักตัว ถึงแม้ว่าซอมบี้และสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์จะลดน้อยลงเป็นเรื่องดีก็เถอะ แต่พอมันไม่เจอเลยสักตัวแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติไหมอ่า”
“อย่าเพิ่งรีบร้อน นี่พึ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง...”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางก็ตบไปบนไหล่ของหลิวซิน พร้อมกับฉายแววตาจริงจังเล็กน้อย ก่อนพูดขึ้นว่า
“แต่ฉันรู้สึกว่า พวกเราน่าจะได้พบพวกมันแล้วละ!”
หลังจากที่ฆ่านางพญาแมงมุมขายาว และได้ดูดซับพลังจากเลือดแมลงแกนหลักของตั๊กแตนยักษ์มาแล้ว สมรรถะภาพในตอนนี้ของฮวางซางก็ได้วิวัฒนาการเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีเวลาไปวัดกำลังก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็มากกว่าคนทั่วไป 6-7 เท่า และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของเขาในตอนนี้จะยิ่งไวต่อความรู้สึกมากขึ้นไปอีกด้วย ดังนั้นต่อให้ไม่เห็นศัตรูอย่างชัดเจน แต่เขาก็ได้กลิ่นอันตรายบางอย่างเข้าซะแล้ว!
“นายก็สัมผัสได้เหรอ?”
ดูเหมือนตั้วลั่วก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เหมือนกับฮวางซางเช่นกัน จากนั้นก็ถือปืนยาวจู่โจมในมือไว้แน่น
“ดูเหมือนว่ากำลังมีบางสิ่งบางอย่างจ้องมองเราอยู่!”
“ระวังตัวด้วย”
ฮวางซางพยักหน้า หลังจากนั้นก็เปิดปืนกลขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมยิงได้ในทุกเมื่อ!
ซ่าซ่า!
ในตอนนั้นเอง พุ่มไม้ข้างกายฮวางซางและพรรคพวกก็กวัดแกว่งไปมาอย่างฉับพลัน จากนั้นร่างที่เต็มไปด้วยเลือดตัวหนึ่งก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงเข้ามาหาฮวางซางและพรรคพวก!
ปัง!
แต่ทว่า ในขณะที่ร่างตนนี้เพิ่งพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ เสียงปืนก็ดังขึ้นทันที จากนั้นบนหัวของเงาสีเลือดตัวนั้นก็ปรากฏรูกระสุนขึ้น จากนั้นก็ล้มลงไปบนโคลนเละๆนั้น
"เหี้ย..."
เมื่อเห็นศพที่เพิ่งวิ่งออกมา ถูกตั้วลั่วระเบิดหัวไปหนึ่งนัด จนล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว หลิวซินก็ตกใจขึ้นมาทันที
"นายแน่ใจแล้วใช่ไหมก่อนยิงออกไป ถ้าไม่ใช่ซอมบี้แต่เป็นผู้รอดชีวิตละ จะทำยังไง?"
"แล้วไง ก็ใครใช้ให้เขาพุ่งเข้ามาละ"
ตั้วลั่วยักไหล่ ด้วยสีหน้าไม่ได้ใส่ใจมากนัก
โดยเนื้อแท้แล้ว เขาก็ยังเป็นนักฆ่า ที่เห็นชีวิตเป็นสิ่งไร้ค่าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงขั้นกระหายในการฆ่าฟันก็ตาม แต่ภายใต้สถานการณ์ที่มีอันตรายรอบด้านเช่นนี้ เขากลับไม่ให้โอกาสใดๆกับศัตรูแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้นเรื่องที่ต้องดูให้แน่ใจก่อน ว่าเป็นซอมบี้หรือผู้รอดชีวิตก่อนยิงออกไปเมื่อสักครู่นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาไม่ได้ดูให้ชัดเจนจริงๆ เขายิงออกไปอย่างไม่ลังเลสักนิดเดียว!
"เอาละ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกันนะ!"
ในตอนนั้นเอง ฮวางซางก็ได้ห้ามปรามการทะเลาะกันระหว่างหลิวซินและตั้วลั่ว
สำหรับความคิดของเขา นักแม่นปืนที่มีฝีมือยิงได้ตรงเป้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังแม่นยำกว่าปืนที่มีอุปกรณ์ช่วยเล็งติดตั้ง จะไม่สามารถแยกออกว่าเป็นคนหรือศพได้เลยเหรอ?
แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก สิ่งสำคัญที่สุดก็คือในเมื่อตอนนี้ พวกเขาก็เจอกับซอมบี้แล้ว นั่นหมายความว่าต่อไปพวกเขาก็จะเจอกับศัตรูที่มากขึ้น!
และมันก็เป็นความจริง ตามที่ฮวางซางได้คาดการณ์ไว้!
โฮก!
บางทีอาจเป็นเพราะว่าเสียงปืนนัดที่เพิ่งยิงออกไปก็ได้ นาทีต่อจากนั้นเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งและหนาแน่นก็ดังออกมาจากพุ่มไม้ข้างกายฮวางซางและพรรคพวก แล้วเริ่มเข้ามาใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อยๆอีกด้วย
"ระวัง นี่คือกองทัพซอมบี้!"
คนที่เคยมีประสบการณ์ เกี่ยวกับซากศพในเมือง C มาก่อน จะรู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงนี้ ฮวางซางและหลิวซินก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็หันหลังชนกัน เตรียมพร้อมระวังภัย
หวือหวือหวือ!
ไม่นาน ร่างสีเลือดเต็มตัวก็พุ่งออกมาจะพุ่มไม้ในบริเวณนััน พร้อมกับส่งเสียงคำรามและพุ่งเข้ามาหาฮวางซางและพรรคพวกทันที!
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
แต่ชั่วพริบตาที่ซอมบี้เหล่านั้นพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ ตั้วลั่วและหลิวซินก็ยิงปืนใส่ทันที!
พวกเขาไม่ได้ยิงรัวใส่อย่างต่อเนื่องแต่อย่างใด แต่กลับใช้ปืนยาวจู่โจมที่มีรูปแบบการยิงจ่อ ยิงออกไปที่ละหนึ่งนัด แต่ภายใต้การใช้ความสามารถในการเล็ง และการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าคนทั่วไป ทักษะการยิงปืนของพวกเขาจึงแปรเปลี่ยนเป็นน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ทุกกระสุนหนึ่งนัดที่ยิงออกไป แทบจะโดนหัวกะโหลกของซอมบี้ทั้งสิ้น โดยที่ไม่ให้พวกมันได้เข้ามาใกล้พวกเขาแม้แต่น้อย
ไม่นาน ซอมบี้จำนวนหลายสิบตัวก็ล้มลงไปข้างกายของพวกเขา!
แต่ปัญหาก็คือ ดูเหมือนว่าซอมบี้ที่พุ่งออกมาจาพุ่มไม้เหล่านั้น จะไม่หมดสิ้นแต่อย่างใด ไม่ว่าหลิวซินและตั้วลั่วจะฆ่าไปมากเท่าไหร่ ซอมบี้ก็ยังคงพุ่งออกมาจากพุ่มไม้มากขึ้นกว่าเดิม!
ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่นานกระสุนของพวกเขาก็คงจะหมดลงแน่!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ บางทีนี่อาจเป็นเพราะว่าพวกมันได้ดูดซับพลังจากสายฝนแห่งจิตวิญญาณเหล่านี้มาเป็นเวลานาน จึงส่งผลให้ระดับความเร็วของซอมบี้นั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย และสิ่งนี้ได้สร้างความกดดันให้กับฮวางซางและพรรคพวกอยู่ไม่น้อย!
"แม่งเอ๊ย พอออกมาก็ออกมาเยอะขนาดนี้เนี่ยนะ!"
ในขณะที่มองไปทางซอมบี้ที่ทะลักกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของหลิวซินก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที
แม้ว่าเขาจะฆ่าซอมบี้อย่างต่อเนื่อง แต่พลังอันบริสุทธิ์ก็ผสานเข้าปในร่างกายของเข้าอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ทำให้พลังความเย็นภายในร่างกายของเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้สมรรถะภาพร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซอมบี้ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันหมดเหล่านี้ เขาจะเอาความคิดที่ไหนไปสนใจสิ่งเหล่านี้?
"แม่งเอ๊ย"
และในเวลาเดียวกัน ในใจของฮวางซางก็เคร่งเครียดขึ้น
เขาคิดว่าซอมบี้ที่อยู่ในละแวกนี้ จะถูกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ดึงดูดไปซะแล้ว ถึงแม้ว่าจะเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าเยอะอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้เกรงว่าเขาจะวิเคราะห์ผิดพลาดไปซะแล้ว!
ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าคองและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ส่วนหนึ่ง จะดึงดูดซอมบี้ไปได้ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเมืองเหลียนก็ใหญ่มาก ซอมบี้กว่าสองล้านตัวถือว่าไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย แต่ในความเป็นจริงซอมบี้ที่ถูกคองและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ดึงดูดไปนั้น กลับมีจำนวนไม่ถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ในเมืองเหลียนด้วยซ้ำ!
แต่สาเหตุที่ไม่เห็นซอมบี้ในบริเวณโรงพยาบาลนั้น เป็นเพราะว่ากองพันหูและพรรคพวกได้วางแนวระเบิดเอาไว้ ซึ่งมันไม่เพียงแต่จะช่วยเคลียร์ซอมบี้ ในระหว่างการต่อสู้ได้เป็นจำนวนมากแล้ว อีกทั้งซอมบี้ที่เหลือส่วนใหญ่ ก็ถูกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ดึงดูดไประหว่างทางผ่านด้วย และซอมบี้อีกส่วนก็กลายไปเป็นอาหารของตั๊กแตนยักษ์และแมงมุมขายาวเหล่านั้นไป
จึงกล่าวได้ว่า ความบังเอิญมากมายเหล่านี้จึงสร้างเป็น "เขตปลอดภัย" เล็ก ๆไปโดยปริยาย
เมื่อฮวางซางและพรรคพวกออกจาก "พื้นที่ปลอดภัย"แห่งนั้น แล้วมายังเขตกลางเมือง ที่ไม่ได้อยู่ไกลจากโรงพยาบาลกลางมากนัก ที่นี่เป็นเขตพื้นที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเมืองเหลียน ซอมบี้ที่ยังเหลือรอดก็ถือว่ามากเช่นเดียวกัน เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหวอึกทึกแบบนี้จึงย่อมดึงดูดซอมบี้ออกมาเป็นจำนวนมาก!
"ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราคงจะโดนซอมบี้เหล่านี้ฆ่าหมดสิ้นแน่!"
และในเวลาเดียวกัน สีหน้าของตั้วลั่วก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เช่นกัน
“พวกเราต้องบุกทะลวงออกไป ถ้าไม่กลับโรงพยาบาล ก็ต้องหาพื้นที่ที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเพื่อหลบซ่อนตัว!”
“กลับโรงพยาบาลไม่ได้!”
ฮวางซางส่ายหน้า ก่อนกัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้นว่า
“ซอมบี้เยอะขนาดนี้ หากเราพึ่งพาระเบิดเหล่านั้น คงจะต้านทานพวกมันไว้ไม่อยู่ ดังนั้นเราต้องบุกทะลวงออกไป”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮวางซางก็รีบล้วงแผนที่ของเมืองเหลียน ที่เขาขอมาจากผู้พันหูไว้ก่อนหน้านั้นขึ้นมา จากนั้นสีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“ด้านหน้ามีโรงยิมซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เราไปซ่อนตัวที่นั่นกันเถอะ!”
“โอเค!”
ถึงแม้ว่าตั้วลั่วจะไม่ได้สนใจความเป็นความตาย ของคนเหล่านั้นในโรงพยาบาลก็ตาม แต่เขากลับให้ความสนใจกับหลิวชิง ที่กำลังทำการวิจัยวัคซีนต้านไวรัสอยู่ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซางในเวลานี้ เขาจึงพยักหน้า จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า
“เราต้องฆ่าออกไป!”
เมื่อพูดจบ ตั้วลั่วก็บุกตะลุยไปด้านหน้าทันที มือข้างหนึ่งถือปืนยาวจู่โจม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือปืนสั้น จากนั้นก็ยิงเข้าใส่ซอมบี้เบื้องหน้าอย่างไม่ลดละ
และในเวลาเดียวกัน หลิวซินที่อยู่ข้างกายตั้วลั่ว ก็ได้จัดการยิงซอมบี้ ที่บุกเข้ามาจากทุกทิศทาง อย่างต่อเนื่องเช่นกัน!
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
ณ เวลานั้น เสียงปืนอย่างถี่ยิบก็ดังขึ้นพร้อมกัน ซอมบี้ยิ่งมากเท่าไหร่ หลิวซินกับตั้วลั่วก็ยิงทิ้งมากขึ้นเท่านั้น จนทุกคนก็ค่อยๆฆ่ากองทัพซอมบี้ จนสร้างถนนบนเส้นทางสีเลือดเพื่อฝ่าออกไป
แต่ทว่า ในขณะที่กำลังฆ่าอยู่นั้น เบื้องหน้าของพวกเขากลับถูกเปิดออกทันใด พืชพันธุ์บริเวณรอบ ๆก็ดูบางตาลงส่วนหนึ่ง
หลังจากนั้น สวนสาธาณะขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา ซึ่งสามารถมองเห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่บนประตูใหญ่ ที่ถูกปกคลุมด้วยเครือเถาวัลย์เหล่านั้นได้เลือนลางว่า ---สวนสาธารณะยู่วหู!
“สวนสาธารณะยู่วหู?”
เมื่อเห็นสวนสาธารณะแห่งนี้ ดวงตาของฮวางซางก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
“บุกทะลวงเข้าไปที่นี่ ก็จะถึงโรงยิมแล้ว”
“ปัญหาก็คือนายต้องผ่านมันไปให้ได้ก่อน!”
แต่ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ตั้วลั่วกลับเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
ในตอนนั้นเอง หลังจากที่พวกเขามาถึงพื้นที่ราบเรียบ ที่มีพืชพันธุ์ปกคลุมค่อนข้างบางตาแห่งนี้ ซอมบี้ก็ได้พุ่งตัวออกมาจากป่าบริเวณรอบๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็มารวมตัวกันเป็นกองทัพด้านหน้าของสวนสาธารณะ แล้วพุ่งตรงเข้าไปหาพวกเขา!
หากคิดจะบุกทะลวงเข้าไปในสวนสาธารณะ พวกเขาจะต้องฆ่ากองทัพซอมบี้ขนาดใหญ่เหล่านี้ให้ได้ก่อน!
แต่ปัญหาก็คือ การพึ่งพาปืนยาวจู่โจมในมือของหลิวซิน และตั้วลั่วสองกระบอกนี้นั้นอย่างเดียว คงจะทำให้ไปไม่ถึงที่แห่งนั้นได้อย่างแน่นอน
“หึ ต่อไปตาฉันละนะ!”
ในขณะที่มองไปทางกองทัพซอมบี้ ที่ดูเหมือนจะไม่ลดจำนวนลงเลยแม้แต่นิดเดียว และมันยังคงทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่องราวกับกระแสน้ำสีดำ นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงคำรามที่ดังออกมาของพวกมัน ได้สร้างความกดดันอันใหญ่หลวง ให้กับพวกเขาไม่น้อย ไม่นานสายตาของฮวางซาง ก็ฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นมาทันใด จากนั้นก็สูดลมหายเข้าลึกๆ แล้วนำปืนกลหนักๆเล็งปากกระบอกปืนไปทางกลุ่มที่หนาแน่นเหล่านั้น แล้วเหนี่ยวไกปืนยิงใส่อย่างโหดเหี้ยม!
นาทีต่อจากนั้น ดนตรีซิมโฟนีแห่งความตายก็เริ่มดังก้องไปทั่วฟ้าดิน!