ตอนที่ 54 อาวุธครบมือ
ตอนที่ 54 อาวุธครบมือ
สมรรถะภาพร่างกายของผู้มีพลังเหนือมนุษย์นั้นเหนือกว่าคนทั่วไป ความสามารถในการฟื้นตัวก็แข็งแรงกว่า บวกกับที่ฮวางซางและพรรคพวก ได้ดูดซับพลังจากเลือดแมลงมหัศจรรย์ ภายในร่างกายของตั๊กแตนยักษ์ตัวนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังหรือว่าจิตวิญญาณต่างก็ได้รับพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ดังนั้นพวกเขาจึงพักผ่อนในห้องพักคนไข้เพียงแค่ไม่ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น กำลังวังชาของพวกเขาก็ฟื้นคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง
แต่ก่อนหน้านั้น พวกเขาก็ได้ไปหาผู้พันหูมารอบหนึ่งแล้ว เพื่อถามถึงเรื่องอาวุธเครื่องกระสุน และของอื่นๆจากผู้พันหู เพื่อ เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าไปต่อกรกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และซอมบี้ในป่า
“พวกคุณต้องการเข้าไปในป่าอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซางและพรรคพวก ผู้พันหูที่กำลังคิดหาวิธีการ เสริมกำลังแนวป้องกันของโรงพยาบาลในห้องบัญชาการอยู่นั้น ก็พูดปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ไม่ได้ ผมจะให้พวกคุณออกไปตายไม่ได้!”
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของฮวางซางและพวกนั้น จะมีมากก็ตาม แต่ถ้าหากให้เข้าไปในป่าละก็ นั่นก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการส่งไปตายชัดๆ!
“พวกเราไม่ได้ไปตายอย่างแน่นอนครับ!”
ฮวางซางส่ายหน้า จากนั้นก็ยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า
“พวกเราเข้าป่าก็เพื่อสังหารสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ เพื่อความปลอดภัยบริเวณรอบ ๆโรงพยาบาล แล้วก็ค้นหาผู้รอดชีวิตด้วย คุณอาจจะคิดว่าพวกเราต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือไม่ดูกำลังความสามารถของตัวเอง แต่ในความจริงแล้วเป็นเพราะคุณไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเรา.........”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮวางซางก็หยุดไปสักพัก จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับหลิวซินว่า
“หลิวซิน โชว์ฝีมือหน่อย”
“ได้ครับ!”
พลังจากที่รู้ว่ามีวิธีคืนชีพแม่ของตัวเอง อุปนิสัยร่าเริงก่อนหน้านั้นของหลิวซินก็ฟื้นคืนกลับมาใหม่อีกครั้ง เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง เขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็มองไปที่มือขวาและซ้ายแวบหนึ่ง แล้วจับไปที่แก้วโลหะเก็บความที่อยู่ข้างตัว ออกแรงบีบ พร้อมกับแผ่พลังความเย็นออกมา
ซ่า ซ่า ซ่า!
พริบตาเดียว เสียงของการแช่แข็งก็ดังขึ้นมา บนแก้วโลหะเก็บความร้อนถูกปกคลุมไปด้วยผลึกน้ำแข็งชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นผลึกน้ำแข็งชั้นนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้แก้วเก็บความร้อนถูกแช่แข็งไปทั้งใบ
กรอบ!
วินาทีต่อจากนั้น มือขวาของหลิวซินก็ออกแรงบีบอย่างรุนแรง จนทำให้แก้วโลหะเก็บความร้อนที่ถูกแช่แข็ง เกิดรอยร้าวจำนวนนับไม่ถ้วน แล้วสุดท้ายก็แตกกระจายลงในที่สุด กลายเป็นเศษน้ำแข็งน้อยใหญ่ร่วงหล่นลงไปบนพื้น
“นี่....นี่คือ?”
เมื่อเห็นภาพที่คาดไม่ถึงเบื้องหน้าตัวเอง ผู้พันหูก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันใด จากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พวกนายเป็นใครกันแน่?”
“พูดง่ายๆก็คือ พวกเราสามคนเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ครับ”
ฮวางซางยิ้มออกมาบางๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“ภัยพิบัติครั้งนี้ ทำให้โลกที่เราอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย ส่วนพวกเราก็กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พลังเหนือมนุษย์ได้ฟื้นตื่นขึ้นมา จึงมีพลังและความแข็งแกร่งมากกว่าซอมบี้ธรรมดาทั่วไปมาก”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของฮวางซางก็เคร่งขรึมขึ้นมา
“นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเราถึงสามารถปกป้องพลโทหลิวจนมาถึงที่นี่ อีกทั้งยังมั่นใจที่จะไปล่าสังหารสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ในป่า และค้นหาผู้รอดชีวิตอีก!”
“มิน่าละพวกนายถึงฆ่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ผู้พันหูก็เข้าใจอย่างฉับพลันทันที
เขาเกิดความสงสัยในตัวฮวางซางและพรรคพวกมาโดยตลอดว่ าพวกเขาสามารถฆ่าตั๊กแตนยักษ์และนางพญาแมงมุมนั้นได้ยังไง เมื่อรู้ว่าในสถานการณ์นั้น พวกเขาไม่ได้มีอาวุธหรือระเบิดใดๆในมือเลย
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมพวกนี้ไม่ต้องใช้อาวุธแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่าตัวพวกเขาเอง เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว!
“ตอนนี้คุณเชื่อพวกเราแล้วรึยัง ว่าพวกเราไม่ได้พาตัวเองไปตายอย่างแน่นอน?”
ฮวางซางพยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า
“แต่เพื่อเป็นการเตรียมการไว้ พวกเราหวังแค่ให้ผู้พันหู ช่วยเตรียมพวกอาวุธและเครื่องกระสุนให้สักหน่อย ถึงอย่างไรของเหล่านี้ก็ยังมีประโยชน์ใช้กับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ได้บ้าง”
“ไม่มีปัญหาครับ!”
ถึงแม้ว่าทหารภายใต้กองกำลังของผู้พันหู จะได้รับความเสียหายหนักมากก็ตาม แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ยังถือว่าไม่เสียหายมากนัก บวกกับที่เรื่องที่ฮวางซางและพวก จะออกไปล่าซอมบี้และสิ่งมีชีวิต พร้อมทั้งค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นเรื่องที่พวกเขาอยากทำแต่ทำไม่ได้ ดังนั้นในเวลานี้ เขาจึงรีบตอบรับคำขอของฮวางซางอย่างรวดเร็ว
“คลังแสงเก็บอาวุธอยู่ด้านข้าง เราจะพาพวกนายไป ให้พวกนายเอาอาวุธที่พวกนายต้องการไปได้เลย”
“ได้”
เมื่อเห็นการตอบสนองของผู้พันหูที่รวดเร็วขนาดนี้ ฮวางซางและพวกจึงค่อยปรากฏใบหน้าแห่งความดีใจ
ตามศักยภาพของพวกเขา ถ้าสามารถติดตั้งอาวุธที่เหมาะสมได้ ก็จะเปรียบเสมือนเสือติดปีก ที่จะสามารถต่อกรกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น ภายใต้คำสั่งของผู้พันหู ฮวางซางและพรรคพวกก็มาถึงคลังแสงเก็บอาวุธ และเริ่มเลือกอาวุธที่เหมาะสมกับตัวเอง
หลิวซินและตั้วลั่วเข้าใจวิธีการใช้ปืนมากกว่า ดังนั้นจึงได้ทำการคัดเลือกปืนยาวจู่โจมรุ่น 95ที่มีอานุภาพค่อนข้างรุนแรงอย่างไม่ลังเล เป็นเวลาเดียวกับที่หลิวซินได้ทำการคัดเลือกปืนสั้นขึ้นมา 2 กระบอก นอกจากนี้ทั้งสองคนยังติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 35 มิลลิเมตรด้านหน้าของปืนยาวจู่โจมอีกด้วย
อุปกรณ์ติดตั้งเหล่านี้ พวกเขายังเตรียมระเบิดมือเพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน รวมถึงกระสุนจำนวนมากและเสื้อเกราะกันกระสุนอีกด้วย พูดได้ว่าอุปกรณ์ทางการทหารได้ถูกเตรียมพร้อมอย่างครบครัน จนกระทั่งในกระเป๋าสะพายหลังของพวกเขาก็เต็มไปด้วยกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกระสุนที่มีอานุภาพเจาะทะลุเสื้อเกราะ 35 มิลลิเมตร และระเบิดมือ ราวกับจะทำการขนย้ายอาวุธเหล่านี้ออกไปเกือบเกลี้ยงคลังเลยก็ว่าได้
เพียงแต่ว่าอาวุธและกระสุนปืนจำนวนมากเหล่านี้มีน้ำหนักหลายสิบกิโลกกรัม ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าหลิวซินและตั้วลั่วเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ และมีสมรรถะภาพร่างกายเหนือมนุษย์ทั่วไปละก็ เกรงว่าพวกเขาก็คงจะไม่อาจแบกของเหล่านี้เข้าป่าไปสู้รบกับสัตว์เหล่านั้นได้หรอก
“พี่ กำลังทำอะไร?”
หลังจากที่หลิวซินและตั้วลั่วได้ทำการคัดเลือกอาวุธเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงพบว่านอกจากฮวางซางจะใส่เสื้อเกราะ และมีระเบิดมือห้อยอยู่บนตัวแล้วก็ตาม แต่เขากลับไม่ได้ทำการคัดเลือกอาวุธอื่นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับยังคงถือกริชด้ามหนึ่งที่ไม่รู้ว่าทำมาจากวัสดุอะไร
แต่หลังจากที่หลิวซินเดินเข้ามา กลับเกิดอาการตกตะลึงเมื่อได้มองภาพตรงหน้า
เนื่องจากเขาพบว่า ฮวางซางกำลังใช้หนวด ที่ตัดมาจากแมลงแกนหัวใจตัวนั้น ทาไปบนกริชด้ามนั้นอยู่!
“พิษอัมพาตของหนวดเหล่านี้ก็รุนแรงมาก เมื่อทาๆไปบนกริชละก็ อาจมีผลกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เหล่านั้นอย่างชะงัดก็ได้”
ฮวางซางยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็นำกริชอันคมกริบ เก็บเข้าไปในปลอกที่เหน็บอยู่บนเอวตัวเองทันที
“แล้วพี่ไม่เลือกอาวุธอื่นหรอ?”
เมื่อเห็นฮวางซางดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจเลือกอาวุธแต่อย่างใด หลิวซินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“พี่ ผมรู้ว่าพี่ไม่เคยชินกับเรื่องการใช้ปืน แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีอาวุธไว้บ้าง เผื่อๆไว้เถอะ?”
“ใครบอกว่าฉันไม่มีอาวุธ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางกลับยิ้มออกมา จากนั้น“ชายร่างใหญ่”ก็ตบไปบนโต๊ะ แล้วพูดขึ้นว่า
“นี่คืออาวุธของฉัน!”
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ไม่ว่าหลิวซิน ตั้วลั่ว หรือผู้พันหูที่กำลังช่วยพวกเขาเลือกอาวุธอยู่นั้นก็อดที่จะตกใจไม่ได้
เนื่องจากอาวุธที่ฮวางซางชี้ในตอนนี้นั้น ไม่ใช่ปืนจู่โจมอะไรแต่อย่างใด แต่กลับเป็นปืนกลรุ่น QJZ89 ที่สำหรับติดตั้งอยู่บนรถหุ้มเกราะขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องใช้หลายคนในการช่วยจัดการกระบอกหนึ่ง
“คุณมั่นใจว่าจะใช้เจ้านี้ใช่ไหม?”
ผู้พันหูกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ แล้วพูดขึ้นว่า
“คุณรู้หรือไม่ว่า ปืนชนิดนี้มีน้ำหนักถึง 26 กิโลกรัม แล้วมันยังใช้กระสุนเพลิงหรือไม่ก็กระสุนส่องวิถี ซึ่งน้ำหนักของกระสุนพวกนั้นไม่ได้เหมือนกับอาวุธทั่วไปนะครับ อีกอย่างกระสุนคลิปหนึ่งก็มีน้ำหนักถึง 28 กิโลกรัม และสามารถเก็บกระสุนได้เพียง 170 นัดเท่านั้น”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้พันหูก็ส่ายหน้า แล้วพูดว่า
“เอาอาวุธชนิดนี้เข้าไปต่อสู้ในป่า คุณล้อเล่นใช่ไหม?”
“ไม่แน่นอน ทักษะการยิงปืนของผมก็ไม่ได้ดีอะไร เลือกใช้อาวุธทั่วไปก็สิ้นเปลืองกระสุนเปล่าๆ ไม่สู้เลือกเจ้านี้ แล้วสาดกระสุนเป็นห่าฝนใส่เจ้าสัตว์กลายพันธ์คงหลบไม่ได้แน่!”
และเมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู ฮวางซางก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า
“อีกอย่างเรื่องปืนกลหนักๆแบบนี้ผมเข้าใจ เรื่องที่ผู้พันพูดผมก็รู้ แต่สำหรับผมมันไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
เมื่อพุดจบ ฮวางซางก็จับปืนกลหนักๆกระบอกนั้น จากนั้นก็ยกมันขึ้นมาอย่างง่ายดายราวกับกระบอกไฟฉาย จากนั้นก็รื้อถอนโครงรูปสามเหลี่ยมที่ใช้ค้ำยันออก แล้วพูดขึ้นว่า
“พลังของผมนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งมาก นำหนัก 100-200 กิโลกรัมไม่สามารถทำอะไรผมได้ ดังนั้นรบกวนผู้พันหูช่วยจัดการเตรียมกล่องกระสุน 4 กล่องให้ผมด้วยนะครับ”
“พวกนายคือ........”
ในขณะที่มองไปทางปืนกลที่ถูกฮวางซางยกขึ้นมาอย่างง่ายดาย ราวกับไม่มีน้ำหนัก ผู้พันหูจึงได้นำคำว่า “สัตว์ประหลาด” กลืนลงคอไป จากนั้นก็ส่ายหน้า แล้วเริ่มช่วยเตรียมกระสุนให้กับฮวางซาง
“น้องแมลงสาบ นายจะเลือกเจ้านี้จริงๆเหรอ?”
และในเวลาเดียวกัน ตั้วลั่วกลับอดที่จะพูดขึ้นไม่ได้
“ฉันรู้ว่านายมีพละกำลังมหาศาล แต่กระสุน 4 กล่องมีน้ำหนัก 200 กว่ากิโลนะ อีกอย่างเมื่อนำมารวมๆกันแล้วก็มีน้ำหนักถึง 600 กว่ากิโลกรัม การยิงปืนนี้ถ้ายิงออกไปด้วยความเร็วสูงสุดล่ะก็ คาดว่าน่าจะไม่เกิน 1 นาทีก็หมดแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้านี่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่ไม้ฟืนท่อนนึงเท่านั้น”
“สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ทั่วไป พวกนายก็เคยจัดการมาแล้วไม่ใช่เหรอ ส่วนเจ้านี่เตรียมไว้สำหรับไปต่อกรกับเจ้ายักษ์ใหญ่ยังไงละ”
ฮวางซางส่ายหน้า ดวงตาเคร่งขรึม “ถึงแม้ว่าปืนนี้จะใช้ไม่ได้ผล กับคองหรือสัตว์เลื้อยคลานโครงกระดูกก็ตาม แต่ถ้าหากพบกับเจ้าตั๊กแตนยักษ์ และแมงมุมขายาวนั้นอีกล่ะ พวกเราก็จะได้ไม่ต้องตกอที่นั่งลำบากอีกไง”
“โอเคๆ ถึงตอนนั้นขอแค่เพียงไม่สร้างภาระให้พวกเราก็โอเคแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ตั้วลั่วจึงยักไหล่ แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
ไม่นาน ผู้พันหูก็ช่วยฮวางซางเตรียมกระสุนให้เรียบร้อย แต่เนื่องจากเป็นกังวลว่า ฮวางซางจะยิงปืนกลชนิดนี้ไม่แม่นยำในครั้งแรก ดังนั้นผู้พันหูจึงได้ให้คนติดตั้งกระสุนเพลิง 4 นัด และกระสุนส่องวิถี 1 นัด ถ้าเป็นเช่นนี้ละก็ เมื่อถึงคราวที่ฮวางซางต้องยิงออกไป เขาก็จะสามารถมองตำแหน่งการยิงได้อย่างชัดเจน แล้วปรับเปลี่ยนทิศทางการยิงของตัวเอง
หลังจากเตรียมอาวุธและปืนทั้งหมดพร้อมแล้ว ฮวางซางและพวกก็ออกจากโรงพยาบาลไป ผู้พันหูและคนอื่นๆก็มีสายตาที่เป็นกังวล ในขณะที่มองพวกเขาเข้าไปในป่าลึกอีกครั้ง
แต่ในขณะที่เข้าไปในป่านั้น ใบหน้าฮวางซางและพวกก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันใด
ถึงแม้ว่าพวกเขาสามคนจะเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ก็ตาม และถึงแม้ว่าพวกเขาจะติดตั้งอาวุธครบครัน มีระเบิดที่แข็งแกร่ง แต่ในป่าแห่งนี้มีอันตรายรอบด้าน พวกเขาจึงรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!
ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การเล่นเกมส์ ถ้าเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะเป็นจุดจบของพวกเขาก็เป็นได้!