ตอนที่แล้วตอนที่ 49 เลือดแมลงล้ำค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 51 โรงพยาบาลกลาง

ตอนที่ 50 เสียงคำรามของคอง


ตอนที่ 50 เสียงคำรามของคอง

  

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

ในขณะที่มองไปทางทหารติดอาวุธ ทีล้อมเข้ามาในตอนนี้  ในใจของฮวางซางก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันใด  พร้อมกับถือกริชสีดำไว้แน่นตามสัญชาตญาณ

ถึงแม้ว่าเขาจะมีใจที่เคารพและศรัทธาในตัวทหารมาโดยตลอดก็ตาม  แต่หลังจากมีประสบการณ์กับเจ้าจมูกงอนมากับตัว  เขาก็รับรู้ได้ถึงด้านมืดและความเห็นแก่ตัวภายในนิสัยของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง  ดังนั้นเมื่อเขาเจอเหตุการณ์ที่ถูกทหารจ่อปืนมาทางพวกเขาในตอนนี้อย่างฉับพลัน เขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทสักนิดเดียว

"ดีจริงๆเลย ในที่สุดพวกนายก็ออกมาจนได้!"

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง  หลิวชิงที่มีใบหน้าซีดเผือดกลับเดินออกมาจากด้านหลังของทหารหลายคนนั้น  จากนั้นก็มองไปทางหลิวซินและฮวางซางที่ไม่บาดเจ็บแต่อย่างใด   แล้วถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย

"ถ้าพวกนายยังไม่ออกมาละก็  ผู้พันหูเตรียมจะส่งคนไปรับพวกนายแล้ว"

เมื่อพูดถึงตรงนี้  หลิวชิงหยุดไปสักพัก จากนั้นก็ชี้ไปที่ผู้ชายสะพายปืนไรเฟิลจู่โจม  ติดอาวุธครบมือ  ใบหน้าเคร่งขรึม รูปร่างไม่สูง  ผิวสีดำเข้ม แต่มีความเฉลียวฉลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ด้านข้างตัว

"จริงสิ  ท่านนี้คือผู้พันหู แล้วก็เป็นหนึ่งในทหารกองสนับสนุน ที่เมืองหยางจัดมาให้!"

"กองกำลังทหารสนับสนุน เมืองหยาง?"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวชิง  สีหน้าของฮวางซาวก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที

"ในที่สุดเราก็พบกับกองกำลังทหารของเมืองหยางแล้วอย่างนั้นเหรอ?"

"ใช่ และก็ไม่ใช่"

แต่ทว่า เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวชิงกลับแสดงรอยยิ้มอย่างลำบากใจพร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า

"ผู้พันหูเป็นทหารกองสนับสนุน ของเมืองหยางก็จริง  แต่พวกเขาพลัดหลงกับกองกำลังทหารกองใหญ่ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บและล้มตาย  กองทหารของเขาในตอนนี้มีจำนวนเหลืออยู่ไม่เกินหนึ่งร้อยคน"

"พลัดหลง?"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวชิง  ฮวางซางและหลิวซินก็อึ้งงันไป

"ไม่ผิด!"

ผู้พันหูพยักหน้า  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"เดิมทีกองกำลังทหารนี้ของเรา  ทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองโรงพยาบาลศูนย์กลางของเมืองเหลียน  แล้วก็ควบคุมการติดเชื้อ  หลีกเลี่ยงสถานการณ์แพร่กระจายของเชื้อ แต่ใครจะไปคิดว่า  เมื่อฝนตกลงมา  กองกำลังทหารกลายเป็นซอมมบี้หนึ่งในสี่ส่วน  แล้วไหนจะซอมบี้ที่กลายพันธุ์มาจากหมอพยาบาลและคนป่วยในโรงพยาบาลอีก  ส่งผลให้พวกเราบาดเจ็บล้มตายอย่างร้ายแรงขีดสุด"

เมื่อพูดถึงตรงนี้  ใบหน้าของผู้พันหูก็ปรากฏสีหน้าเศร้าสลดขึ้นมาทันที

"ยังดีที่พวกเราควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อของโรงพยาบาล  และยึดตามนโนบายสามกะเข้าเวรไว้ จะมีทหารเฝ้ายามตลอด 24 ชั่วโมง  นี่จึงทำให้พวกเราถึงมีเวลาหายใจบ้าง ไม่อย่างนั้น พวกเราคงไม่มีเหลือ กันแล้ว"

"งั้นหลังจากนั้นล่ะ?"

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้พันหู ฮวางซางและพรรคพวกก็นึกถึงอันตราย ของสถานการณ์ในตอนนี้ขึ้นมาได้ จากนั้นก็ถามต่อ

"หลังจากนั้น เราก็แทบจะต่อสู้อย่างดุเดือด อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน"

เมื่อนึกถึงสถานการณ์ต่อสู้ก่อนหน้านั้น  ใบหน้าของผู้พันหูก็ปรากฏสีหน้าหวาดผวาขึ้นมา

"สงครามในตอนนั้นวุ่นวายอลหม่านมาก และดุเดือดมากเช่นเดียวกัน  เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกระทัน อีกทั้งผีดิบก็เกิดขึ้นในกลุ่ม ของพวกเรา  ดังนั้นตอนที่ฉันรวบรวมเหล่าทหาร   จากจำนวนทหารทั้งหมด 500คนจึงเหลืออยู่ไม่ถึงร้อยคน  กลุ่มของพวกเราก็ตายจนเหลือเพียงหนึ่งในสี่ส่วน"

เมื่อพูดถึงตรงนี้  ผู้พันหูก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  จากนั้นก็พูดต่อว่า "อันที่จริงพวกเราร้อยกว่าคนเดิมทีก็ไม่สามารถต้านทานซอมบี้ได้หรอก  ดังนั้นพวกเราจึงแบ่งรับแบ่งสู้  พร้อมค้นหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ  พวกเราถอยไปพักพิงอยู่ในถ้ำป้องกันทางอากาศที่รกร้างทางตะวันออกเฉียงใต้ของโรงพยาบาล  หลังจากนั้นก็เตรียมวางระเบิดไว้หน้าปากทางเข้าถ้ำ  เพื่อระเบิดกลุ่มซอมบี้ด้านนอกและปิดกั้นทางเข้าไม่ให้ซอมบี้เข้ามาได้"

"เมื่อเป็นแบบนี้  พวกเราก็เท่ากับว่าถูกปิดล้อมอยู่ภายในถ้ำการป้องกันทางอากาศ  และขาดการติดต่อสื่อสารกับภายนอก

ถึงแม้ว่าผู้พันหูจะเล่าเหตุการณ์ต่อสู้ก่อนหน้านั้นไม่มากนักก็ตาม  แต่เมื่อดูจากสีหน้าเงียบขรึมและความอ่อนเพลียของเขา   ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าสงครามนั้นดุเดือดมากแค่ไหน

"งั้นหลังจากนั้นพวกนายออกมาได้ยังไงล่ะ ?

เมื่อผู้พันหูพูดจบ  หลิวซินก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า

"แล้วทำไมถึงมาหาพวกเราที่นี่ได้?"

"พวกเราหลบอยู่ในถ้ำการป้องกันทางอากาศเกือบสองชั่วโมง  จากนั้นก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก  อีกทั้งภายในถ้ำก็ไม่มีอาหารและน้ำด้วย  พวกเราจึงรอต่อไปไม่ไหว  ดังนั้นพวกเราจึงต้องออกมา"

"ยังดีที่ทางออกถ้ำป้องกันทางอากาศมีสองทาง  ทางหนึ่งถูกพวกเราวางระเบิดแล้ว ส่วนอีกทางหนึ่งถูกปิดไว้ก่อนหน้านั้น  เพียงแค่ถูกปิดแต่ไม่อันตรายมากนัก  จากนั้นพวกเราก็ทุบออกมาได้ในที่สุด

ผู้พันหูมองไปทางเฮลิคอปเตอร์ไกลๆ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

"หลังจากที่ออกมาแล้วพวกเราก็เพิ่งพบว่า  ภายในเวลาแค่สองชั่วโมงที่อยู่ในถ้ำ เมืองเหลียนได้เปลี่ยนไปแล้ว  ซอมบี้เหล่านั้นก็ไม่รู้ไปไหนหมด  ดูเหมือนจะหายไปแล้ว"

"พวกเราเหลือกำลังทิ้งไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรักษาคุ้มกันผู้รอดชีวิตอยู่ภายในถ้ำ ส่วนฉันรับหน้าที่ออกมาหาผู้รอดชีวิตและเพื่อนทหารเหล่านี้   หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงปืน  ดังนั้นพวกเราจึงตามเสียงปืนมา..."

เมื่อพูดถึงตอนนี้  สายตาของผู้พันหูก็กวาดมองไปทางฮวางซางและหลิวซิน  สุดท้ายก็หยุดตรงที่ซากศพของเจ้าตั๊กแตนยักษ์และนางพญาแมงมุมขายาว  พร้อมกับปรากฏสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมา

" เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า จะพบพวกนาย แล้วก็สัตว์ประหลาด...แม่งเอ๊ย  มันคือตัวอะไรกันเนี่ย!"

โชคชะตาของพวกเขากลุ่มนี้ถือว่าไม่เลวเลย  บวกกับระยะทางของโรงพยาบาลนั้นไม่ได้ห่างจากที่นี่มากนัก  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เจอกับสัตว์ประหลาดอะไรพวกนี้"

เนื่องจากเป็นเช่นนี้  เมื่อเห็นซากศพของนางพญาแมงมุมขายาวและตั๊กแตนยักษ์  ในใจของเขาจึงเกิดความรู้สึกหวาดผวาและสงสัยขึ้นมา

หรือสัตว์ประหลาดที่ทั้งน่ากลัวและทั้งโหดร้ายเหล่านี้ถูกคนเหล่านี้ฆ่าตายอย่างนั้นเหรอ?

พวกเขาใช่วิธีไหนกัน?

มันเป็นไปไม่ได้หรอก?

"ผู้พันหู  ผมขอแนะนำว่าให้พวกเรากลับโรงพยาบาลไปก่อนดีที่สุด  อย่าออกมาเดินมั่วๆในป่าแห่งนี้"

ในขณะที่มองไปยังท่าทางที่ตกใจและสงสัยของผู้พันหู  หลิวชิงส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นว่า

"ตอนนี้สถานการณ์ในนี้มันวุ่นวายกว่าที่นายคิดไว้  การพึ่งนายและกำลังทหารลูกน้องนาย  เท่ากับพากันไปตายชัดๆ ดังนั้นเรากลับโรงพยาบาลก่อนดีกว่า  อย่างน้อยในนั้นก็ยังเป็นที่ซ่อนตัวได้  อีกทั้งภายในโรงพยาบาลก็มียา และวัตถุดิบมากพอที่จะทำให้เราหลบซ่อนตัวไปได้สักพัก"

หลังจากได้รับรู้ เรื่องสงครามอันน่าหวาดกลัวของนางพญาแมงมุมขายาวและตั๊กแตนยักษ์แล้ว  หลิวชิงก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาทหารของผู้พันหูแล้วอยู่ในป่านี้ต่อไปละก็  จุดจบเพียงอย่างเดียวก็คือเป็น "อาหาร"ของสัตว์ประหลาดน่ากลัวเหล่านั้น

ดังนั้นแทนที่จะไปตายอย่างคนตาบอด  ไม่เท่าสู้หลบซ่อนตัวในโรงพยาบาลและถ้ำการป้องกันทางอากาศ  สังเกตุการณ์อย่างเงียบๆไป และรอให้การสื่อสารโทรคมนาคมฟื้นคืนกลับมาไม่ดีกว่าเหรอ

ย้อนกลับมา ถึงแม้ว่าการสื่อสารไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้  และพวกเขาก็ออกไปข้างนอกไม่ได้  แต่พวกเขาก็สามารถลองใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การแพทย์และห้องวิจัยของโรงพยาบาลวิเคราะห์เซรุ่มไวรัส  วิจัยวัคซีนขึ้นมาได้!

เรื่องวัคซีนไวรัสเป็นเรื่องที่สำคัญต่อพวกเขามากที่สุด!

"ถูกต้อง และถ้าฉันเดาไม่ผิด  สัตว์ประหลาดทั้งสองตัวนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในป่าแห่งนี้"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวชิง  ฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า

"นายพลหลิว  ท่านยังจำเรื่องโพสต์พยากรณ์อันนั้น  ที่พวกเราเตือนท่านก่อนหน้านั้นได้ไหมครับ?"

"นายจะบอกว่า สิ่งมีชีวิตในจินตนาการพวกนั้น ทยอยปรากฏตัวออกมา  ตามคำพยากรณ์อย่างนั้นเหรอ?"

หลิวชิงไม่ใช่คนโง่  เขาเข้าใจในความหมายของฮวางซางในทันที  หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

"หรือว่าเป็นจริง...?"

"ไม่ผิดครับ!"

ฮวางซางพยักหน้า  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

" แล้วยังจำเรื่องนกประหลาดๆกลุ่มนั้น  ที่โจมตีเฮลิคอปเตอร์เราได้ไหมครับ?  พวกมันเหมือนกับนางพญาแมงมุมและตั๊กแตนยักษ์ครับ  ทั้งหมดเป็นสัตว์ประหลาดที่มาจากหนังเรื่อง คอง มหาประลัยเกาะกะโหลก"

เมื่อพูดถึงตรงนี้  สีหน้าของฮวางซาง  ก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด

"แต่ในหนัง สัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น บอสจริงๆนั้นเก่งกว่าพวกมันมาก!"

"แม่งเอ๊ย!"

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง  สายตาของหลิวชิงก็เลื่อนไปทางหลิวซิน  จากนั้นหลิวซินก็พยักหน้า  เพื่อเป็นการยืนยันให้กับฮวางซาง

หลังจากนั้น  ในใจของหลิวชิงก็เคร่งเครียดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เดิมทีเขาคิดแค่เพียงวิจัยเซรุ่มไวรัสออกมา  ก็สามารถจัดการกับภัยพิบัติที่น่ากลัวแบบนี้ได้  แต่เขาเพิ่งเข้าใจในตอนนี้ ว่าภัยพิบัตินั้นน่ากลัวกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก!

"คอง มหาลัย เกาะกะโหลก?"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวชินและฮวางซาง  ผู้พันหูก็อึ้งงันไป  แล้วมองไปทางซากศพของนางพญาแมงมุมและตั๊กแตนยักษ์อีกครั้ง

จากนั้นรูม่านตาของเขาก็หดลง สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

"มัน...มันเป็นความจริง..."

เขาคือทการ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตัดขาดจากโลกภายนอก เขาเคยดูหนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลก เรื่องนี้มาก่อน  เพียงแค่เมื่อสักครู่ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนางพญาแมงมุมและตั๊กแตนยักษ์ก็เท่านั้น

แต่เมือได้รับคำเตือนจากฮวางซาง ทำไมเขาจะนึกภาพของเจ้าสองสิ่งนี้ไม่ออกล่ะ?

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี่ ในสมองของเขาก็ปรากฏรูปร่างอันน่ากลัว และมีขนาดใหญ่ของคองขึ้นมา  รวมไปถึงใบหน้าอันน่ากลัว และดุร้ายของสัตว์เลื้อยคลานโครงกระดูกนั้นด้วย!

โฮก!

ในตอนนั้นเอง  เสียงคำรามด้วยความโกรธอย่างรุนแรงจนสะเทือนฟ้าดิน  ก็ดังออกมาจากในป่าลึกอย่างฉับพลัน

แต่เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้  สีหน้าของฮวางซางและพรรคพวกก็เปลี่ยนไปจนยากจะอธิบายได้

เพียงเป็นคนที่เคยดูหนังมาก่อน จะไม่มีวันลืมเสียงคำรามที่ทั้งหนักแน่นและรุนแรงแบบนี้ได้  และยิ่งไม่มีวันลืมสิ่งมีชีวิตอันน่ากลัวเจ้าของเสียงคำรามนี้ได้เลย

มันก็คือ ราชาของหนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลก __คอง!

เพียงแต่ความโกรธที่ดังขึ้นมาในเสียงคำรามนี้  ราวกับว่าเจ้านี่กำลังต่อสู้อยู่กับคู่ต่อสู้อย่างยากลำบากอย่างนั้นแหละ?

เมื่อคิดได้  ในใจของฮวางซางและพรรคพวกก็ตึงเครียดขึ้นมาทันใด

คองตัวหนึ่งก็น่ากลัวมากพอแล้ว  คู่ต่อสู้ที่ทำให้มันโกรธเช่นนี้มันคืออะไรกัน?

สัตว์เลื้อยคลานโครงกระดูก?

วอทตาทอสโซรัส เร็กซ์

แล้ว... มนุษย์ชาติจะทำเช่นไรดีละ?..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด