ตอนที่แล้วตอนที่ 45 เครื่องตก ต้นไผ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47 ตั๊กแตนยักษ์

ตอนที่ 46 อันตรายรอบด้าน นางพญาแมงมุมขายาว


ตอนที่ 46 อันตรายรอบด้าน นางพญาแมงมุมขายาว

  

ต้นไผ่ที่ร่วงลงมาจากฟ้านั้นทั้งเร็วและกระทันหันมาก พริบตาเดียวเสียงแหวกอากาศอันรุนแรงนั้น  ก็มาถึงบนหัวของฮวางซางและพรรคพวกแล้ว  หลังจากนั้นปลายแหลมของมัน  ก็พุ่งตรงเข้ามาหาฮวาซางและพรรคพวกอย่างต่อเนื่อง  เห็นได้ชัดว่ามันตั้งใจจะเสียบหัวพวกเขาจนทะลุ!

“เหี้ย!”

แต่สิ่งที่โชคดีก็คือ  ถึงแม้ว่าความเร็วของ“ต้นไผ่” เหล่านี้จะเร็วมากก็ตาม  แต่ก็ยังไม่เร็วเท่ากับปฏิกิริยาตอบสนองอันรวดเร็วจนน่าตกใจของฮวางซาง ที่ได้เตรียมการป้องกันไว้ก่อนแล้ว

วินาทีต่อจากนั้น ฮวางซางก็ได้หลบหลีกจากต้นไผ่ที่เดิมที  ตั้งจะเสียบเข้าที่หัวของเขาไปด้านข้าง  จากนั้นเสียงเหมือนฉีกแพรก็ดังขึ้น ต้นไผ่ต้นนั้นก็ได้ปักไปบนพื้นดิน  ราวกับเสียบไปบนชีสนิ่มๆก้อนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

และในเวลาเดียวกัน  ตั้วลั่วและหลิวซินก็เริ่มทยอยหลบหลีกตามฮวางซางไป  แม้กระทั่งหลิวซินก็ผลักพ่อแม่ของเขาหลีกออกไป ให้พ้นจากสถานการณ์ที่อันตรายจาก “ไผ่ยาว” เหล่านี้

แต่นี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!

หวือหวือหวือ!

ในขณะที่ฮวางซางและพรรคพวก  กำลังหลบหลีกการโจมตีของ “ต้นไผ่” หลายต้นอยู่นั้น  หนวดที่มีชิ้นเนื้อติดอยู่หลายสิบชิ้น  ก็ล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าอย่าฉับพลัน  ระดับความเร็วของหนวดเหล่านี้เร็วยิ่งกว่า “ต้นไผ่”เหล่านั้นมาก  อีกทั้งยังปราดเปรียวราวกับงูพิษอีกด้วย สำหรับทุกคนที่เพิ่งจะหลบหลีกการโจมตีของ “ต้นไผ่” อยู่นั้น  ส่งผลให้มีปฏิกิริยาตอบสนองกับเจ้าสิ่งนี้ไม่ทัน จึงทำให้ติดอยู่บนหนวดเหล่านี้ไปในทันที

หลังจากที่ฮวางซางและพรรคพวก ได้ติดอยู่บนหนวดนี้แล้ว  หนวดเหล่านี้ก็ได้หดกลับไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง  แล้วออกแรงดึงฮวางซางและพรรคพวกขึ้นไปบนอากาศ

และในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฮวางซางและพรรคพวก  จึงได้เห็นสิ่งที่โจมตีพวกเขาอย่างชัดเจน

นั้นคือแมงมุมขนาดใหญ่และน่ากลัวที่สุดตัวหนึ่ง!

ร่างกายของแมงมุมตัวนี้มีความสูงถึง6-7เมตร   และต้นไผ่ที่โจมตีพวกเขาเมื่อสักครู่  ก็คือขายาวๆของเจ้าแมงมุมตัวนี้    ในตอนนี้เจ้าแมงมุมยักษ์ตัวนั้น  กำลังหดหนวดที่ยืดยาวออกมาจากหน้าอก และช่องท้องของมันอย่างต่อเนื่อง  ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีคีมหนีบ ที่ทั้งแหลมคมและทั้งมีขนาดใหญ่ของมันก็เริ่มกวัดแกว่งออก เห็นได้ชัดว่ามันต้องการจะฉีกเหยื่อออกไปเป็นชิ้นๆแล้วกินอย่างสบายใจ !

“แม่งเอ๊ย  ตัวนี้จริงๆด้วย!”

ในขณะที่มองไปทางแมงมุมยักษ์นั้น รูม่านตาของฮวางซางก็หดลงทันที

ถ้าบอกว่าการปรากฏตัวของคองยักษ์  ในหนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลกนั้นช๊อคยิ่งกว่าแล้ว  การปรากฏตัวของแมงมุมยักษ์ตัวนี้ยิ่งสร้างความหวาดกลัวยิ่งกว่า

และในเวลาเดียวกัน  หลิวซินที่อยู่ด้านข้างก็ได้หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา  ถ่ายรูปเจ้าแมงมุมยักษ์ตัวนั้น  จากนั้นข้อมูลเกี่ยวกับแมงมุมตัวนั้นก็ปรากฏขึ้นมาบนโทรศัพท์ของเขา

……

ชื่อ : นางพญาแมงมุมขายาว

ขนาดร่างกาย : 18-23 ฟุต

ประเภท: arachnid สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

นิสัยการกิน : เนื้อ

คุณสมบัติพิเศษ :อำพรางตัว  มีพิษ

ที่ : หนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลก!

……

“บัดซบเอ๊ย  นี่มันพญาแมงมุมขายาวในหนังเรื่องคอง มหาภัยเกาะกะโหลก นี่หว่า !”

ในขณะที่กำลังอ่านข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์อยู่นั้น หลิวซินที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อนจึงได้สติกลับมาในที่สุด  จากนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาแล้วพูดว่า

“ระวัง เจ้าสิ่งนี้มีพิษ!”

เมื่อพูดจบ  หลิวซินก็รีบยื่นมือของเขา ไปจับหนวดที่เต็มไปด้วยชิ้นเนื้อที่ติดอยู่บนตัวของเขาทันที  จากนั้นก็ออกแรงแผ่ขยายพลังความเย็นหลังจากฟื้นตัวแล้วบางส่วนออกมา  แช่แข็งหนวดเหล่านั้นไว้

พริบตาเดียว  เสียงซ่าซ่าก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน  หนวดชิ้นเนื้อที่ติดอยู่บนตัวของเขาเหล่านั้น  ก็ถูกแช่งแข็งไปในชั่วพริบตา  จากนั้นก็แตกสลายออก  กลายเป็นเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปบนพื้น  และทำให้หลิวซินเป็นอิสระ

แต่อีกด้านหนึ่ง พ่อแม่ของเขากลับถูกหนวดของนางพญาแมงมุมขายาวตัวนั้น  จับลอยขึ้นไปบนอากาศ อีกทั้งยังลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อตรงไปยังคีมหนีบขนาดยักษ์ ของนางพญาแมงมุมขายาวตัวนั้น

“ตายแน่ๆ!”

แต่ในช่วงเวลานี้  ฮวางซางที่ถูกหนวดนั้นดูดติดไว้อยู่กลับตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน  จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งดึงหนวดเหล่านั้นออก  ภายใต้การใช้พลังมหาศาลเช่นนี้  หนวดที่เดิมทีกำลังหดกลับไปก็ได้ถูกเขาดึงบิดจนเกิดเสียงราวกับสายธนู เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างกายของนางพญาแมงมุมขายาวลดต่ำลงเล็กน้อย และไม่สามารถดึงเขาขึ้นไปบนอากาศได้อีก

จากนั้น การโจมตีของฮวางซางก็เริ่มขึ้น!

เมื่อเห็นว่าร่างกายของนางพญาแมงมุมขายาวลดต่ำลงแล้ว  ฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  จากนั้นก็กระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า จากนั้นก็เก็บชิ้นส่วนใบพัดขนาดใหญ่บนพื้นขึ้นมา  ทำเป็นอาวุธ  แล้วฟันไปบนขายาวๆ ข้างหนึ่งของนางพญาแมงมุมขายาวนั้นอย่างโหดเหี้ยม

กรอบ !

นางพญาแมงมุมขายาวและไซโครวอลเจอร์นั้นเหมือนกัน  คือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีพลังการป้องกันที่แข็งแกร่งนัก  เมื่อเป็นเช่นนี้  ภายใต้การสับฟันของชิ้นส่วนใบพัดที่แตกหักนั้น  ขายาวๆของมันก็แทบไม่แตกต่างจากต้นไผ่ที่อยู่รอบๆ ขายาวของมันจึงได้ถูกเขาฟันหักจนไม่เหลือชิ้นดี  เลือดสดๆจำนวนมากได้ทะลักออกมา  ร่างกายของนางพญาแมงมุมขายาวจึงสั่นเทาไปทั้งร่าง  แล้วเกิดการเอียงเอนลงมา

“ฟันขาของมัน!”

หลังจากที่ขายาวๆข้างหนึ่งของนางพญาแมงมุมขายาวหักลงมาแล้ว   ฮวางซางก็ตะโกนออกไปอีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งพรวดไปข้างหน้า  แล้วใช้เศษใบพัดที่มีอยู่ สับขาอีกข้างของนางพญาแมงมุมขายาวจนหักไปครึ่งหนึ่ง !

ปังปังปังปัง!

และในเวลาเดียวกัน  ตั้วลั่วเองก็ยิงปืนออกไปเช่นกัน  เขาใช้กริชสีดำอันแหลมคมนั้นกวัดแกว่งขึ้นมา  แล้วสับไปบนหนวดที่ติดอยู่บนร่างกายของเขา  จากนั้นก็กลิ้งหลบหลีกการเสียบของขาแมงมุม  จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งกริชขึ้นมาอีกครั้ง แล้วสับไปบนหนวดยาวที่ยืดตรงเข้ามาหาเขาทันที

ไม่เพียงเท่านี้  ปืนที่อยู่ในมือขวาของเขาก็ได้เริ่มยิงออกไป ลูกกระสุนที่มีพลังในการเจาะทะลุ ได้ถูกยิงออกไปยังขายาวๆอีกข้างหนึ่ง จนหักลงมา

ส่วนอีกด้านหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ของตัวเอง หลิวซินได้พุ่งเข้าไปหาขาข้างหนึ่งของเจ้าแมงมุมตัวนั้นด้วยความเร็วที่สุด  จากนั้นก็ใช้มือสองข้างกดไปบนขาที่คล้ายต้นไผ่นั้น   ก่อนจะแผ่พลังความเย็นเข้าไปในขาของมัน  เพื่อแช่แข็งให้กลายเป็นน้ำแข็ง!

นางพญาแมงมุมขายาวนั้นมีความชำนาญในการอำพรางตัวเพื่อซุ่มโจมตีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในป่าไผ่เช่นนี้ มันสามารถกลายเป็นนักฆ่าที่น่ากลัวเป็ยอย่างยิ่ง  แต่ในกรณีที่สามารถหลบหลีกการซุ่มโจมตีของมันได้  และปะทะกับมันมันโดยตรงๆ ด้วยนางพญาแมงมุมเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างขนาดใหญ่แต่กลับมีพลังในการป้องกันที่อ่อนแอ ทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่แข็งแกร่งเอาเสียเลย

ในเวลานี้ ภายใต้การร่วมมือกันโจมตีของทั้งสามคนอย่างฮวางซาง ตั้วลั่ว และหลิวซิน  ขายาวๆทั้งแปดขาของนางพญาแมงมุมขายาวก็ถูกพวกเขาสับฟันและระเบิดทำลายไปกว่าครึ่ง  ทำให้นางพญาแมงมุมขายาวสูญเสียงสมดุล  กรีดร้องเสียงแหลมเล็กออกมา  ค่อยๆเอนเอียงและล้มลงมา

แต่ในระหว่างนั้น ตั้วลั่วที่มีทักษะการยิงปืนที่น่าตกใจก็ได้ยิงปืนออกไปติดต่อกัน เพื่อหักหนวดที่ติดบนอยู่บนร่างกายของพ่อแม่หลิวซินนั้นออก จนพวกเขาร่วงหล่นลงมากองกับพื้นดิน

แต่พ่อแม่ของหลิวซินรู้ว่านี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บไปทั่งตัว  มึนหัวจนตาลายก็ตาม  แต่พวกเขาก็ยังปีนขึ้นมาจากการประคองของหลิวซินได้อย่างรวดเร็ว  แล้วก็วิ่งไปหลบยังที่ที่ปลอดภัยจากนางพญาแมงมุมขายาวตัวนั้น    ในที่สุดก็ไปซ่อนตัวหลังซากกองไม้ที่หักโค่นขนาดใหญ่ พวกเขาจึงได้ส่งเสียงหอบปานวัวเหนื่อยออกมา

บึม!

วินาทีต่อจากนั้น นางพญาแมงมุมขายาวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างหนักหน่วง  แต่มันยังไม่ตาย  ขายาวๆที่เหลืออยู่อีก 2-3 ขาก็ได้กระตุกขึ้นอย่างต่อเนื่อง  พร้อมกับคีมหนีบขนาดใหญ่ได้กวัดแกว่งอีกครั้ง   แล้วพุ่งเข้ามาโจมตีฮวางซางและพรรคพวกอย่างต่อเนื่อง

แต่มันจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว!

“ตายซะเถอะ!”

วินาทีที่เจ้าแมงมุมนั้นตกลงมา  ฮวางซางก็เก็บไผ่หักที่ถูกตัดในตอนที่เฮลิคอปเตอร์ตกลงมาบนพื้นขึ้นมา จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตะโกนออกไป  แล้วใช้ไผ่ที่มีความยาวราว 4-5 เมตรเป็นหอกยาว  เสียบลงไปบนหัวที่เต็มไปด้วยดวงตาของเจ้าแมงมุมนั้นอย่างแรง

กรอบ!

ภายใต้การออกแรงของฮวางซาง  ในที่สุดหอกจากต้นไผ่หักอันแข็งแกร่งต้นนั้น ก็เสียบเข้าไปบนหัวของพญาแมงมุมขายาวอย่างลึกลงไปทันที  จากนั้นน้ำเมือกข้นเหม็นกลิ่นคาวคล้ายกับหนองจำนวนมาก ก็ได้พุ่งออกมาจากบาดแผลบนหัวของพญาแมงมุมขายาว จนสาดกระเซ็นเต็มพื้น

และในเวลาเดียวกัน ตั้วลั่วก็ใช้ปืนยิงไปบนหัวของพญาแมงมุมขายาวอีกหลายครั้ง  จนทำให้ทะลุเข้าไปถึงหัวกะโหลกกของมันจนแตกกระจายออกในที่สุด!

เมื่อส่วนหัวของมันถูกทำลายจนพังยับเยิน  พลังชีวิตของพญาแมงมุมขายาวที่แข็งแกร่ง  ในเวลานี้ก็ไร้ซึ่งพลัง  มันกระตุกอย่างรวดเร็วอีกสักพัก จากนั้นก็แน่นิ่งไปในที่สุด

และในเวลาเดียวกัน แสงสีฟ้าอ่อนๆก็พุ่งออกมาจากร่างกายของพญาแมงมุมขายาว  แล้วแยกจาก 1 เป็นสามส่วน  แล้วผสานเข้าไปในร่างกายของฮวางซาง   หลิวซินและตั้วลั่ว  หลังจากที่แสงสีฟ้านี้ผสานเข้าไปในร่างกายแล้ว  ฮวางซางและคนอื่นๆก็ค่อยสัมผัสสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่หลอมรวมอยู่ในร่างกายของพวกเขา  ทำให้พวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่า  ร่างกายที่เดิมทีใกล้จะหมดเรี่ยวแรงได้ฟื้นคืนกลับมาไม่น้อย

“คิดไม่ถึงว่าพลังของพญาแมงมุมขายาวตัวนี้จะแข็งแกร่งเช่นนี้  ต่อให้ถูกแบ่งเป็นสามส่วนก็ตาม  แต่มันก็มากกว่าพลังของซอมบี้ที่รวมกันสิบกว่าตัวซะอีก”

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังภายในที่เปลี่ยนแปลงไป  ดวงตาของฮวางซางก็เปล่งประกายขึ้นมาทันใด

ยิ่งเสี่ยงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับมากขึ้นเท่านั้น  ประโยคนี้สะท้อนให้เห็นได้ดีที่สุดในวันจุดจบโลกนี้  ถึงแม้ว่าพลังการต่อสู้ของนางพญาแมงมุมขายาว  จะห่างไกลกว่าซอมบี้ทั่วไปก็ตาม แต่หลังจากที่ฆ่ามันได้  ก็ทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่าซอมบี้ทั่วไปเป็น 10 เท่า ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นกังวลสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งมีชีวิตเจ้าดินแดนตัวนั้นละก็  ฮวางซางก็คงคิดที่จะพักที่นี่ เพื่อฆ่านางพญาแมงมุมขายาว  เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองไปแล้ว

ถึงอย่างไรศักยภาพของเขาในตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง เพียงแค่ต้องระมัดระวังนิดหน่อยเท่านั้น การฆ่านางพญาแมงมุมขายาวไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก  อย่างน้อยเมื่อพูดถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ การฆ่าสัตว์ประหลาดประเภทนี้คุ้มค่ามากกว่าการฆ่าซอมบี้ทั่วไปอีกหลายเท่า

แต่ในเวลานี้ ฮวางซางกลับคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จากนั้นจึงถามระบบขึ้นภายในใจ

“ระบบ ทำไมหลังจากที่ฆ่านางพญาแมงมุมขายาวแล้ว  พลังภายในร่างกายของมันถึงได้แบ่งออกเป็นสามส่วนละ  พวกเราทั้งสามคนก็ดูดซับพลังของมันไปพร้อมกันด้วย?”

“นอกจากแกนพลังของสัตว์ประหลาดขั้นสูงที่ตัวเองต้องเก็บแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีแกนพลังงานเหล่านั้นเมื่อตายลง  พลังของมันจะแบ่งออกตามการมีส่วนร่วมของคนที่สังหารมัน”

ระบบ :“ทั้งหมดนี้เนื่องจากพลังเหนือฟ้าดินที่ได้รับนั้น มีกฎของการควบคุมและผลกระทบของมัน  กฎเกณฑ์เหล่านี้มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันในอารยะธรรมหลากหลายรูปแบบ  บ้างก็ถูกเรียกว่าคำสั่ง บ้างก็ถูกเรียกว่ากรรม แต่ลัทธิพวกเราเรียกขนานนามมันว่า กฎแห่งสวรรค์!”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง เหอ มันกลับยิ่งเหมือนกับเกมส์ออนไลน์ เมื่อช่วยกันต่อสู้กับสัตว์ประหลาดก็จะถูกแบ่งค่าประสบการณ์”

เมื่อได้ยินคำพูดของระบบ  ฮวางซางก็หัวเราะออกมา

“สิ่งที่ไม่เหมือนในเกมส์ออนไลน์เพียงอย่างเดียวก็คือ  ถ้าในกรณีที่ตัวเองตาย  ก็จะไม่มีโอกาสฟื้นคืนขึ้นมาใหม่”

“แม่งเอ๊ย ทำไมสิ่งมีชีวิตในหนังเรื่องคอง มหาภัยเกาะกะโหลกถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่  แล้วไหนจะเจ้าค้างคาวยักษ์เหล่านั้นอีก  ฉันนึกดูแล้ว เจ้านั้นคงจะไม่ใช่ไซโครวอลเจอร์อะไรนั้นหรอกนะ!”

แต่ในเวลานั้นเอง หลิวซินก็ได้ด่าทอออกมาอย่างฉับพลัน  จากนั้นก็กัดฟันกรอดแล้วหันไปพูดกับฮวางซางว่า  “พี่  ดูเหมือนโพสนั้นจะไม่ผิดแต่อย่างใด ตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติจำนวนมากเริ่มปรากฏตัวออกมาแล้ว เหี้ย  อย่าบอกนะว่าต่อไปพวกเราจะเจอบกับคองอะไรพวกนั้น ถ้าเป็นงั้นชีวิตเราจบเห่จริงๆแน่!”

“ไม่ว่าคองจะปรากฏตัวขึ้นมาหรือไม่  ฉันขอแนะนำให้พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด  อย่างน้อยก็ออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

ฮวางซางส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า

“พวกเราเครื่องบินตกมาที่นี่  หลังจากนั้นก็ต้องต่อสู้กับนางพญาแมงมุมขายาว  การเคลื่อนไหวนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ไม่มีใครรู้ว่าต่อไปจะมีตัวอะไรพุ่งเข้ามาหาอีก”

“ที่ฮวางซางพูดก็ไม่ผิด พวกเราจำเป็นต้องออกไปจากที่นี่”

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวชิงก็พยักหน้า จากนั้นก็ถือไม้หักๆขนาดใหญ่นั้นยืนขึ้น แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนพูดขึ้นว่า

“ลูกหลิว ช่วยพยุงแม่แกหน่อย ดูเหมือนเธอจะขาหัก”

“อื้อ”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวชิง หลิวซินก็พยักหน้า จากนั้นก็เดินไปหาแม่ของเขา

บึม!

แต่ทว่าในเวลานั้นเอง ไม้หักขนาดใหญ่ที่ถูกพ่อแม่ของหลิวซินใช้เป็นที่คุ้มกันตัวของตัวเอง ก็ขยับขึ้นมาทันใด

จากนั้นเสียงระเบิดอันรุนแรงก็ดังขึ้น  ไม้หักขนาดใหญ่เหล่านั้นได้ลอยตัวสูงขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองด้านยังปรากฏกิ่งก้านที่แข็งแกร่งที่มีพื้นผิวราวกับต้นไม้ขึ้นมาอีก 6 กิ่ง ขายาวๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้และแผ่นไม้ก็ได้ดิ่งลงมา!

พริบตาเดียว ไม้ที่หักอันนั้นก็กลายเป็นแมลงประเภทฟาสมาโทเดียตัวหนึ่ง  เป็นสัตว์แมลงที่มีขนาดใหญ่ไม่รู้กี่เท่า!

จากนั้นสัตว์แมลงขนาดใหญ่ตัวนั้นก็ได้เตะไปข้างด้วยขาอันแข็งแกร่งทั้ง 6 ขา  ร่างกายขนาดใหญ่พุ่งไปข้างหน้าราวกับสายฟ้า สุดท้ายก็อ้าปากที่มีส่วนคล้ายกับตั๊กแตน  แล้วกัดไปบนร่างกายของแม่หลิวซินอย่างโหดเหี้ยม

กรอบ!

เสียงแตกหักอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น  แม่ของหลิวซินยังไม่ทันตั้งตัวใด ๆ แม้กระทั่งจะส่งเสียงร้องออกมาก็ยังไม่มี  เมื่อถูกสัตว์แมลงขนาดยักษ์นั้นกัดร่างกายจนขาดสองท่อน  ร่างกายที่ขาดท่อนหนึ่งก็ตกลงไปบนพื้น  เลือดสดๆและอวัยวะภายในส่วนหนึ่งได้ทะลักออกมา  กระจัดกระจายเต็มพื้น

เมื่อเห็นภาพนั้น  ทุกคนจึงอึ้งงันไป !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด