ตอนที่ 45 เครื่องตก ต้นไผ่
ตอนที่ 45 เครื่องตก ต้นไผ่
“แม่งเอ๊ย ทำไมถึงมีเจ้านี่ได้เนี่ย?”
เมื่อได้อ่านข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์ จิตใจของฮวางซางก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาในทันที
ฮวางซางนั้นชอบหนังแนววิทยาศาสตร์บางเรื่อง ซึ่งแตกต่างจากหนังสยองขวัญและหนังซอมบี้ที่หลิวซินชื่นชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังเรื่องสัตว์ประหลาดใหญ่ยักษ์บางเรื่อง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับหนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลกเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นข้อมูลเหล่านี้แล้ว เขาก็จำได้ถึงที่มาของเจ้าสัตว์ประหลาดค้างคาวประเภทนี้ได้
พล็อตของหนังเรื่อง คอง มหาภัยเกาะกะโหลกนั้นดูจะธรรมดามาก โดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องราวที่ฮอลลีวูดเลียนแบบวิธีการเดิมๆ โดยการสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาฆ่ามนุษย์ เพียงแต่การออกแบบสัตว์ประหลาดจำนวนมาก ค่อนข้างไม่เลวเลยทีเดียว ซึ่งสัตว์ประหลาดค้างคาว ที่ถูกขนานนามว่าไซโครวอลเจอร์ เป็นสัตว์ที่พิเศษมากในหนังเรื่องนี้
พลังของสัตว์ประหลาดประเภทนี้ ไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่จำนวนของพวกมันกลับเยอะจนนับไม่ถ้วน ความเร็วของมันก็เร็วจนน่าตกใจ ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังเป็นสัตว์สงครามที่ไม่กลัวตายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟันที่แหลมคม จนทำให้พวกมันกลายเป็นนักล่าที่น่ากลัวถึงขีดสุด อย่างน้อยเจ้าไซโครวอลเจอร์สองตัวในหนังเรื่องนี้ ก็สามารถจับผู้ใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากมีจำนวน 3-5 ตัว รวมกันก็สามารถรุมฉีกเนื้อคนได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
แต่ในช่วงเวลานี้ไซโครวอลเจอร์ ที่อยู่ด้านหน้าของฮวางซางและพรรคพวก จะมีจำนวนแค่ 3-5 ตัวเหรอ ? เกรงว่าพวกมันจะมีจำนวนเกือบถึง 300-500 ตัวนะสิ!
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด!
เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ในเมื่อมีเจ้าไซโครวอลเจอร์ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ แล้วไหนจะป่าผืนใหญ่ที่ปกคลุมเมืองเหลียนไปเพียงชั่วข้ามคืน ณ เบื้องหน้า ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่า สิ่งมีชีวิตเจ้าดินแดนที่ครอบครองเมืองเหลียนนั้น จะหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและดุร้ายในหนังเรื่อง คองก็เป็นได้!
เมื่อนึกถึงคอง ศัตรูที่ไร้เทียมทาน สัตว์เลื้อยคลานโครงกระดูกที่กระหายเลือดอย่างบ้าคลั่ง รวมไปถึงวอทตาทอสโซรัส เร็กซ์ ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไทแรนโนซอรัสในหนังเรื่องนี้ ฮวางซางก็เกิดรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาในใจโดยไม่รู้ตัว สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเหล่านี้ ไม่ว่าพวกเขาจะเจอเพียงแค่ตัวเดียวก็ตาม แต่มันก็สามารถนำพาพวกเขาไปสู่เส้นทางแห่งความตายได้!
“เหี้ย วันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของข้าเนี่ย!”
ทันใดนั้น เสียงด่าทอของตั้วลั่วก็ได้หยุดความคิดของฮวางซางไป จากนั้นเสียงปืนที่รุนแรงก็ดังขึ้นมา ปืนกลปากกระบอกขนาด 12.7mmที่ติดตั้งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ได้ถูกยิงออกไปภายใต้การควบคุมของตั้วลั่ว กระสุนนับไม่ถ้วนได้ยิงพุ่งออกไปภายใต้แสงของเปลวไฟระยิบระยับ พุ่งตรงเข้าไปจัดการกับเจ้าไซโครวอลเจอร์เหล่านั้น
พรึบพรึบพรึบพรึบพรึบ!
ถึงแม้ว่าไซโครวอลเจอร์จะมีฟันที่แหลมคม และความเร็วจนน่าตกใจก็ตาม แต่พลังการป้องกันของพวกมันกลับอ่อนแออย่างมาก ต่อให้เป็นปืนเล็กยาวธรรมดาทั่วไปหรือ แม้กระทั้งปืนสั้น ก็สามารถฆ่าพวกมันได้ ส่วนปืนกลปากกระบอกขนาดใหญ่ ที่ติอตั้งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ในเวลานี้ ภายใต้การปกคลุมของห่ากระสุนเหล่านั้น ไซโครวอลเจอร์ที่บินอยู่หน้าสุด ก็ถูกยิงจนกลายเป็นกระชอนในชั่วพริบตา จนกระทั้งถูกฉีกขาด และระเบิดอยู่บนท้องฟ้าจนเลือดสดแตกกระจาย จากนั้นก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ราวกับฝนเลือดเนื้ออย่างไรอย่างนั้น!
เพียงแค่ชั่วพริบตา ไซเครวอลเจอร์อย่างน้อย30-40 ตัว ก็ถูกฆ่า จนไม่เหลือซาก!
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ต่อให้เป็นหมาป่าที่หิวกระหายที่สุดยังไง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเปลวไฟที่ลุกโชน และความตายที่ร้ายแรงเช่นนี้ พวกมันก็เลือกที่จะหลบหลีก แต่ทว่าสิ่งที่ฮวางซางและพรรคพวกพบเจอนั้น กลับเป็นไซโครวอลเจอร์ พูดได้ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ เป็นสัตว์ที่บ้าคลั่งและโหดร้ายที่สุดในท้องฟ้า มันไม่รู้ว่าความกลัวคืออะไร ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับพรรคพวกเดียวกันที่ตายไปกว่า 10 ตัว ไซโครวอลเจอร์ไม่เพียงแต่จะไม่ถอยหลังและแตกกลุ่มแล้ว แต่มันกลับพุ่งเข้ามาหาเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ อย่างบ้าคลั่งอีกด้วย!
จนกระทั่งไซโครวอลเจอร์จำนวนไม่น้อย เริ่มจะแย่งชิงซากศพพวกเดียวกัน ที่ถูกยิงจนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นก็กลืนชิ้นเนื้อเหล่านั้นลงคอไป แล้วพุ่งตรงมายังเฮลิคอปเตอร์อย่างต่อเนื่อง!
ในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า ไซโครวอลเจอร์เหล่านั้นน่ากลัวว่าซอมบี้ทั่วไปมาก---เพราะอย่างน้อยซอมบี้ ก็ไม่กินพวกเดียวกัน
“สลัดจากพวกมัน!”
ในขณะที่มองไปทางไซโครวอลเจอร์ที่ฝ่าห่ากระสุนบีบใกล้เข้ามา ใบหน้าของหลิวชิงจึงแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด พร้อมกับหันไปตะโกนบอกตั้วลั่วว่า
“ดึงขึ้นสูง แล้วเปลี่ยนทิศ รีบสะลัดออกจากพวกเขาเร็ว!”
“ทุกคนจับให้มั่น!”
ไม่ต้องรอให้หลิวชิงเตือนแต่อย่างใด ตั้วลั่วเองก็คิดได้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้นเขาก็ได้ตะโกนออกมา จากนั้นก็รีบดึงเฮลิคอปเตอร์ให้สูงขึ้น แล้วเปลี่ยนทิศทางทันที
แต่ในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ ถ้าหากต้องการที่จะหักเลี้ยวอย่างสมบูรณ์แบบ เกรงว่าจะไม่ทันการ ดังนั้นตั้วลั่วจึงเอียงไปข้างหน้า พุ่งเข้าไปยังตำแหน่งอีกด้านหนึ่งของป่าใหญ่ เพื่อหวังหลบหลีกการโจมตีของไซโครวอลเจอร์เหล่านี้ จากนั้นก็เพิ่มความเร็วขึ้น และทิ้งระยะห่างจากพวกมัน
แต่วิธีการนี้ก็ไร้ประโยชน์!
ถึงแม้ว่าระดับความเร็วที่มากที่สุด ของเฮลิคอปเตอน์ติดอาวุธครบครันจื่อ-9 จะสามารถพาบินไปได้ไกลกว่า324กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม แต่ความเร็วของไซโครวอลเจอร์เหล่านี้ก็ไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการบินของพวกมันยังปราดเปรียวกว่าเฮลิคอปเตอร์มากอีกด้วย ดังนั้น ถึงแม้ว่าตั้วลั่วจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง โดยดึงเครื่องขึ้นและเปลี่ยนทิศทางด้วยพลังทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ตอนที่พวกเขาพุ่งตรงไปทางป่าไม้นั้น เจ้าไซโครวอลเจอร์ก็ยังไล่ตามพวกเขามาทัน และตอนนี้พวกเขาก็ติดอยู่ในวงล้อมของพวกกมันเรียบร้อยแล้ว
“บัดซบเอ๊ย!”
เมื่อถูกไซโครวอลเจอร์ล้อมไว้ ตั้วลั่วก็อดสบถด่าทอออกมาไม่ได้ จากนั้นก็พยามยิงออกไป พยายามฆ่าพวกมันเพื่อเปิดทางออกจากวงล้อมให้ได้
แต่ทว่า กระสุนที่ติดตั้งไว้บนเฮลิคอปเตอร์จื่อ-9 มีจำนวนจำกัด ดังนั้นเสียงปืนที่ยิงอย่างรีบเร่งออกไปครั้งนี้ กลับกินเวลาไปเพียงสองวินาทีแล้วก็หยุดลง ซึ่งบ่งบอกให้เห็นว่ากระสุนบนเครื่องได้หมดลงแล้ว!
ตอนนี้พวกเขาหมดสิ้นทั้งกระสุนและเสบียงแล้วจริงๆ!
กรู !กรู! กรู!
แต่อีกด้านหนึ่งไซโครวอลเจอร์ ที่ถูกกระตุ้นจากพวกเดียวกัน ก็เริ่มทยอยกรีดร้องเสียงแหลมไม่น่าฟังขึ้นมา จากนั้นก็เพิ่มความเร็วเบียดเสียดกันเข้ามา พุ่งตรงเข้ามาทางเฮลิคอปเตอร์อย่างมืดฟ้ามัวดินทันที
สัตว์ประหลาดชนิดนี้ไม่กลัวตายแต่อย่างใด ต่อให้เลือดเนื้อของพวกมัน จะต้านทานเฮลิคอปเตอร์เหล็กทั้งลำแบบนี้ไม่ได้ก็ตาม แต่พวกมันก็ไม่กลัวตายเลยสักนิดเดียว ยังคงพุ่งเข้ามาชนเฮลิคอปเตอร์ลำนี้อย่างโหดเหี้ยมทีละตัวๆ
บึมบึมบึมบึมบึม!
ภายใต้การกระแทกของไซโครวอลเจอร์ ที่ดูคล้ายกับการฆ่าตัวตายเหล่านี้ ปากแหลมๆของพวกมัน ที่สามารถฉีกร่างกายมนุษย์ให้ขาดออกจากกันอย่างง่ายดาย เริ่มกระแทกเฮลิคอปเตอร์เข้ามา จนเกิดเป็นรอยบุบเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งบางแห่งก็ยังเริ่มแตกทะลุอีกด้วย
ถึงแม้ว่าไซโครวอลเจอร์เหล่านี้ จะยอมใช้ชีวิตของมัน เป็นการแลกเปลี่ยนกับการพุ่งเข้าชนในครั้งนี้ บวกกับยอมหัวแตกจนเลือดไหล เกิดภาพน่าอนาถใจก็ตาม แต่ไซเครวอลเจอร์ที่เหลือ กลับยังคงพุ่งตรงเข้ามากระแทก เฮลิคอปเตอร์อย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าพวกมันถ้าไม่ได้กินพวกขงฮวางซาง ก็จะไม่ยอมเลิกราเด็ดขาด !
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภายใต้การโจมตีของไซโครวอลเจอร์เหล่านี้ เกราะกันกระสุนที่ไม่ได้หนามากของเฮลคอปเตอร์จื่อ-9นั้น ก็ถูกฉีกขาดออกไปทีละชั้นๆ และส่วนที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ได้ถูกไซโครวอลเจอร์เหล่านี้กระแทกใส่จำนวนไม่น้อย ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกใบพัดฟันจนร่างกายฉีกขาด กลายเป็นฝนชิ้นเนื้อที่ตกลงมาจากฟากฟ้าก็ตาม แต่ใบพัดที่ดูค่อนข้างอ่อนแอใบนี้ ก็เริมที่จะบิดเบี้ยว เปลี่ยนรูป และหักในที่สุด!
หลังจากที่ใบพัดเหล่านี้หักท่อนแล้ว เสียงสัญญาณเตือนภายในห้องโดยสารก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเวลาเดียวกับที่เฮลิคอปเตอร์ได้เริ่มสูญเสียการควบคุม หมุนเป็นวงกลมและร่วงหล่นลงไป !
อ่า!!!
ภาวะที่ไร้น้ำหนัก ได้เกิดขึ้นกับพวกของฮวางชางอย่างรวดเร็ว รวมถึงความหวาดกลัวต่อความตาย ส่งผลให้เสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกตกใจ ดังขึ้นมาจากห้องโดยสารในชั่วพริบตาเ เสียงร้องของทุกคน รวมไปถึงการรุมโจมตีของไซโครวอลเจอร์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนั้น ส่งผลให้ความเร็วในการร่วงหล่นได้แปรเปลี่ยนเป็นเร่งความเร็วมากยิ่งขึ้น สุดท้ายก็ร่วงหล่นลงไปในป่าไม้อันเขียวชอุ่มนั้น
บึมบึมบึมบึมบึม!
พริบตาเดียว ฮวางซางและพรรคพวก ก็สัมผัสรับรู้ได้แค่เพียงการหมุนวนของแผ่นฟ้า พื้นดินและแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ที่แผ่ขยายมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ก่อนจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ จนเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น
แต่โชคดีที่พืชพันธุ์จำนวนมากในป่าไม้แห่งนี้ ได้ช่วยชะลอความเร็วลง ดังนั้นเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ที่ตกลงไปยังกิ่งก้านของต้นไม้เหล่านี้ จึงได้เริ่มลดความเร็วลงเรื่อยๆ ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของฮวางซางและพรรคพวกได้
และคนที่ช่วยชีวิตฮวางซางและพรรคพวกไว้ ก็คือป่าไผ่ผืนใหญ่ในป่าไม้แห่งนี้!
บึม!
หลังจากเสียงระเบิดได้ดังขึ้นแล้ว เฮลิคอปเตอร์ที่ร่วงหล่นก็ได้กระแทกเข้ากับป่าไผ่ผืนนี้อย่างแรง ต้นไผ่ที่นิ่มและเหนียวเหล่านั้น ได้ช่วยชะลอความเร็วลงอย่างมาก ต้นไม้แต่ละต้นถูกเฮลิคอปเตอร์กระแทกจนหักโค่นไป ความเร็วของเฮลิคอปเตอร์จึงช้าลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็หยุดลงในดงป่าไผ่ที่กระจัดกระจายยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเหล่านี้!
เคล้ง !
วินาทีต่อจากนั้น ประตูที่บิดเบี้ยว ของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ก็ถูกเปิดออกอย่างแรง จากนั้นฮวางซางที่มีเลือดไหลเต็มหน้า ก็พุ่งตัวออกมาจากประตูนั้น ก่อนเช็ดเลือดสดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนใบหน้า แล้วจ้องมองไปรอบๆเพื่อเตรียมพร้อมการป้องกัน
สมรรถภาพร่างกายที่เหนือกว่าคนทั่วไป 5 เท่านั้น ได้ทำให้เขามีพลังในการป้องกันอย่างมาก บวกกับพลังในการฟื้นฟูถึงขีดสุด ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะถูกอุปกรณ์ในห้องโดยสารกระแทกจนหัวแตก ในตอนที่เฮลิคอปเตอร์กำลังร่วงตกลงมานั้นก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงบาดแผลที่เขาได้รับนั้นเล็กน้อยมากดังปาฏิหาริย์ จึงทำให้เขาสามารถฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งออกมาจากห้องโดยสาร เพื่อเตรียมการป้องกันการโจมตีจากสัตว์ประหลาดต่างๆ
ตั้วลั่วที่อยู่ข้างในห้องโดยสารก็ได้พุ่งตัวตามฮวางซางออกมา เขาโชคดีกว่าฮวางซางตรงที่ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิดเดียว เพียงแค่เกิดอาการวิงเวียนมึนงง จากการหมุนของเครื่องเท่านั้น
ด้วยสมรรถภาพของร่างกายเขาก็พอๆกับฮวางซาง บวกกับที่เคยได้รับการฝึกฝนพิเศษมาด้วย ดังนั้นเขาจึงสามารถฟื้นตัวเร็วด้วยเช่นกัน หลังจากกลิ้งตัวพุ่งออกมาจากประตูแล้ว จากนั้นก็ถือกริชและปืนสั้นไว้แน่น เพื่อเตรียมการป้องกัน
“ตอนนี้ยังไม่เจอปัญหาอะไร ออกมาได้แล้ว!”
เมื่อกวาดตามองไปรอบๆ หลังจากที่แน่ใจว่าไม่เกิดปัญหาอะไรแล้ว ฮวางซางก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็หันไปบอกคนที่อยู่ในห้องโดยสาร
“ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะล่าเหยื่อในป่าไม้ไม่เก่งแน่เลย จึงไม่ได้ไล่ตาม”
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี...”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวซินที่ดูแลพ่อแม่อยู่ภายในห้องโดยสาร ก็ถอนหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย จากนั้นก็หันไปพยุงพ่อและแม่ ที่มีใบหน้าซีดเผือดออกมาจากตัวเครื่อง
จริงๆแล้วการป้องกันการตก และการกันกระแทกของเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9 ถือว่าไม่เลวเลย บวกกับต้นไผ่จำนวนมากที่อยู่ในป่าที่เขียวชอุ่มแบบนี้ ช่วยชะลอความเร็วไว้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้จะเปลี่ยนรูป บิดเบี้ยวอย่างไร แต่ในความเป็นจริงหลิวซิน และคนอื่น ๆที่คาดเข็มขัดนิรภัย กลับไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด
เครื่องตกในครั้งนี้ นอกจากฮวางซางจะโชคไม่ดี ถูกสิ่งของภายในห้องโดยสารกระแทกหัวแล้ว หลิวซินและตั้วลั่วกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่พ่อแม่ของหลิวซินเนื่องจากอายุมากแล้ว จึงไม่สามารถอดทนต่อการแบกรับการหมุนและสภาพไร้น้ำหนักในระหว่างเครื่องตกได้ ดังนั้นหัวของพวกเขาจึงได้รับแรงสั่นสะเทือนและได้อาเจียนออกมา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด พูดได้ว่ายังมีความโชคดีในความโชคร้ายอยู่
“เหี้ย ฉันคิดว่าครั้งนี้พวกเราต้องตายแล้วแน่ๆ!”
ในขณะที่มองไปทางป่าที่เงียบสงัด ราวกับไม่มีอันตรายใดๆในแห่งนี้แล้ว หลิวซินจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง ก่อนหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า
“คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะรอดพ้นจากพวกมันได้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“พูดตอนนี้ก็เร็วเกินไป”
ฮวางซางส่ายหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเค่งเครียดว่า
“อย่าลืมว่า ตอนนี้พวกเราได้เข้ามาในป่านี้แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าต่อไปจะพบกับอันตรายรูปแบบไหนอีก”
ไม่รู้ว่าทำไม ถึงแม้ว่าจะสำรวจไปรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่อันตรายแล้วก็ตาม แค่ในใจของเขากลับรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจบางอย่าง เหมือนกับมีอันตรายบางอย่างที่มองไม่เห็น กำลังหลบซ่อนเร้นอยู่ข้างกายของพวกเขา
“ผ่านเรื่องร้ายมาได้ ก็จะพบแต่เรื่องดีในอนาคตแล้วละ อย่ามองโลกในแง่ร้ายนักเลย ฮ่องเต้ ไม่แน่ต่อไปพวกเราอาจจะเดินทางได้อย่างราบรื่นก็เป็นได้นะ?”
ในขณะที่มองท่าทางเคร่งเครียดของฮวางซาง หลิวซินก็คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็พูดอย่างทอดถอนใจว่า
“แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่มีป่าไผ่เหล่านี้ ถ้าไม่มีป่าไผ่ช่วยชลอความเร็วละก็ พวกเราก็อาจจะไม่มีชีวิตรอด จากเครื่องตกครั้งนี้หรอก”
“ต้นไผ่? ชิบหายละ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ในหัวของฮวางซางก็มีแสงวาบขึ้นมาทันที จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีไป แล้วจึงตะโกนออกไปด้วยความตกใจว่า
“ระวังข้างตัวนาย.....”
หวือ!
แต่ทว่าไม่ทันรอให้ฮวางซางพูดคำว่า “ต้นไผ่”สองคำนี้จบแต่อย่างใด เรื่องที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้น
เสียงแหวกอากาศอันรุนแรงก็ดังขึ้น “ต้นไผ่”ที่แหลมคม 2-3 ต้นก็ได้ล้มลงมาจากฟากฟ้า แล้วเสียบลงมาที่พวกเขาด้วยความเร็วจนน่าตกใจ!