ตอนที่ 40 ไล่ล่าและหนีตาย!
ตอนที่ 40 ไล่ล่าและหนีตาย!
ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันที่ดีอะไร สำหรับฮวางซางและพรรคพวกนัก พวกเขาต้องประสบพบเจอกับกลุ่มซอมบี้ จากนั้นก็เจอกับโกว๋หวางหลุน กว่าจะจัดการโกว๋หวางหลุนลงได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขา เจ้าลิกเกอร์ก็เข้ามาขวางหน้าต่อ แล้วตอนนี้พวกเขาฆ่าลิกเกอร์ได้แล้ว แต่เจ้าไทแรนท์ที่น่ากลัวที่สุดก็ปรากฏขึ้นมาอีก...
พวกข้าเป็นของเล่นของพวกเขารึไง!
ในขณะที่มองไปทางเจ้าไทแรนท์ที่น่ากลัวยิ่งกว่า และสูงใหญ่แข็งแกร่งยิ่งกว่า หลิวซินก็กลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดเผือด
"ฮ่องเต้ เราจะสู้มันยังไง?"
"สู้บ้าบออะไรละ ยังไม่วิ่งอีก อยากตายรึไง?"
แต่ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางก็หมุนตัวเตรียมวิ่ง พร้อมกับพูดขึ้นเสียงดังว่า
"หลิวซิน ตั้วลั่ว พวกนายพาไปด้วย 1 คน วิ่งเร็ว!"
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเจ้าลิกเกอร์ ที่มีชื่อเสียงในด้านความเร็ว อานุภาพการป้องกันอันน่ากลัว พลังแห่งการสังหาร และพละกำลังของเจ้าไทแรนท์ ไม่ใช่สัตว์ประหลาด ที่พวกเขาจะสามารถต่อกรด้วย แม้กระทั่งในตอนนี้ต่อให้ไทแรนท์จะยืนอยู่นิ่งๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถ ทำลายการป้องกันของเจ้าไทแรนท์ได้ ในทางกลับกัน ถ้าพวกเขาถูกเจ้าไทแรนท์ ใช้กรงเล็บอันแหลมคมโจมตีใส่ละก็ ต่อให้พวกเขามีเป็นสิบชีวิตก็ไม่พอ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฮวางซางจึงไม่คิด ที่จะลงมือปะทะกับเจ้าไทแรนท์แต่อย่างใด คิดแค่เพียงวิธีการหนีให้พ้น จากการตามล่าของสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็พอแล้ว
"ไป!"
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวซินและตั้วลั่วก็ทยอยมีปฏิกิริยา จากนั้นก็แยกตัวพุ่งไปหาพ่อแม่ของหลิวซิน แต่ละคนก็คว้าไปคนละหนึ่งคน ก่อนจะวิ่งออกไปยังที่ไกลๆอย่างรวดเร็วที่สุด
โฮก!
เมื่อเห็นฮวางซางและพรรคพวก ต่างหมุนตัววิ่งออกไป ดวงตาที่แดงฉาน ของเจ้าไทแรนท์ ก็ฉายแววโหดร้ายขึ้นมาในทันที จากนั้นมันก็กวาดสายตาไปเห็น ซากศพของเจ้าลิกเกอร์อีกด้าน รูม่านตาสีเลือดของมัน ก็หดลงเล็กน้อย
มันกับเจ้าลิกเกอร์ กล่าวได้ว่าเป็นคู่อริเก่ากัน ถึงแม้ว่าในสนามต่อสู้แห่งนี้ จะเป็นเจ้าลิกเกอร์ ไม่ใช่ตนก็ตาม แต่ระดับความเร็วของเจ้านั่นก็ถือว่าเร็วมากทีเดียว กรงเล็บที่แหลมคมถึงขีดสุดทั้งสองข้าง ตอนที่ตัวเองต่อสู้กับมันก่อนหน้านั้น ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถจับมันได้แล้ว แต่กลับยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกด้วย จนกระทั่งถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงเซรุ่มไวรัส จนต้องหยุดต่อสู้แล้วละก็ เกรงว่าสุดท้ายแล้ว ตัวเองก็อาจจะไม่สามารถสยบเจ้าลิกเกอร์ ไว้ในอุ้งมือได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ เจ้าลิกเกอร์ตัวนั้น กลับได้ตายลงด้วยน้ำมือ ของอาหารพวกนี้อย่างนั้นเหรอ?
สติปัญญาของเจ้าไทแรนท์นั้น สูงมากเช่นเดียวกับเจ้าลิกเกอร์ ดังนั้นสำหรับฮวางซางและพรรคพวก ที่สามารถฆ่าลิกเกอร์ได้ ทำให้มันไม่สามารถชะล่าใจใดๆได้ นาทีต่อจากนั้น มันก็ก้าวอย่างมั่นคงออกไป แล้วใช้มือข้างหนึ่ง จับซากศพของลิกเกอร์ขึ้นมา แล้วทุบไปยังแม่ของหลิวซินอย่างโหดเหี้ยม
มันรู้ว่า สิ่งของที่มันต้องการนั้น อยู่ในมือของอาหาร ที่มีร่างกายอ่อนแอคนนั้น ดังนั้นขอแค่ให้มันได้เพียงสิ่งที่มันต้องการ มนุษย์เหล่านั้นจะเป็นหรือตายมันก็ไม่สนในทั้งสิ้น
หวือ!
พลังของไทแรนท์นั้นน่ากลัวถึงขีดสุด ลิกเกอร์น้ำหนัก 200-300 กิโลที่อยู่ในมือของมัน เป็นราวกับก้อนหินก้อนเล็กๆ ในพริบตาก็ถูกขว้างแหวกอากาศ ไปยังแม่ของหลิวซินทันที
แต่ในเวลานี้ ก้อนหินขนาดใหญ่ ที่จัดเรียงไว้ภายในสนามหญ้าก้อนหนึ่ง กลับลอยแหวกอากาศมาเช่นเดียวกัน พุ่งตรงมากระแทกเข้ากับซากศพ ของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นอย่างรุนแรง
ผลัวะ!
เสียงกระทบกันดังสะเทือนเลื่อนลั่น ก้อนหินน้ำหนักราวๆ 100 กิโลก้อนนั้น ก็ได้เข้าปะทะกับซากศพของเจ้าลิกเกอร์ จนแตกกระจายอย่างคาดไม่ถึง กลายเป็นเศษหินจำนวนนับไม่ถ้วน กระจัดกระจายทั่วทุกสารทิศ แต่ในเวลาเดียวกัน ซากศพของเจ้าลิกเกอร์เอง ก็แตกกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ มันได้ร่วงหล่นลงไปบนสนามหญ้า ห่างจากแม่ของหลิวซินเพียง7-8เมตรเท่านั้น จนทำให้พื้นสนามหญ้า เป็นหลุมลึกขนากใหญ่ขึ้นมาหลุ่มหนึ่งทันที
“วิ่งเร็ว ฉันจะทดลองขวางมันดู!”
เมื่อเห็นภาพนั้น รูม่านตาของฮวางซางก็หดลงทันที
การวิ่งครั้งแรกของเขานั้น ไม่ไช่เพราะความหวาดกลัว แต่เพราะเขารู้ว่าหลังจากที่ได้รับหน้าที่ พาพ่อแม่ทั้งสองคนของหลิวซินมา พวกเขาอาจจะไม่สามารถหนีพ้น จากการตามล่าของไทแรนท์ได้ ดังนั้นเขาจำเป็น ต้องคิดหาวิธีขัดขวางเจ้าไทแรนท์ให้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก้อนหินขนาดใหญ่ ที่เขาเพิ่งโยนลงไปนั้น สามารถขัดขวางการโจมตีของเจ้าไทแรนท์ไว้ได้!
โฮก!
เมื่อเห็นการโจมตีนั้นถูกขัดขวางร่วงหล่นกลางอากาศ นัยน์ตาของไทแรนท์ก็ยิ่งดุร้ายขึ้น มันไม่ได้เหวี่ยงสิ่งใดออกไปอีก แต่กลับส่งเสียงคำรามออกมาแทน ก่อนจะก้าวยาวๆออกไปข้างหน้าอย่างหนักแน่น พุ่งตรงไปยังทิศทางที่ตั้วลั่วพาแม่ของหลิวซินหนีไป
แต่ทว่าฮวางซางและพรรคพวก ได้คาดเดาเอาไว้แล้ว ถึงแม้ว่าร่างกายของของไทแรนท์ จะใหญ่มากก็ตาม แต่ระดับความเร็วของมันกลับไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด ขายาวๆขนาดใหญ่ ทำให้มันสามาถก้าวออกไปได้ถึง 3-4 เมตรเพียงแค่ก้าวเดียวได้ แต่ตรงกันข้ามกับตั้วลั่ว หลังจากที่รับหน้าที่พาแม่ของหลิวซินไป ระดับความเร็วของเขาก็ลดลงไม่น้อย จนกระทั่งเจ้าไทแรนท์นั้นตามมาทัน!
“เหี้ย ทำไมต้องตามฉันด้วย ทางนั้นไม่มีเนื้อพิเศษ ที่ดูเหมือนจะอร่อยกว่ารึไง?”
เมื่อเห็นไทแรนท์ตามตัวเองมา โดยไม่สนใจคนอื่น ตั้วลั่วก็อดที่จะสบถออกมา 2 ประโยคไม่ได้ ในเวลาเดียวกันก็คว้าแม่ของหลิวซินไว้แน่นพลางวิ่งไป พลางหันกลับไปโจมตีที่หัวของเจ้าไทแรนท์ไป เพื่อหวังให้เจ้าไทแรนท์ลดระดับความเร็วในการไล่ตามลง
แต่ทว่ากลับไม่เป็นผลแต่อย่างใด!
ต่อให้เป็นกระสุนที่มีพลังสามารถเจาะทะลุเสื้อเกราะได้ก็ตาม แต่หลังจากที่ยิงใส่หน้าของเจ้าไทแรนท์ไป ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นกระสุนพลาสติก ของปืนเด็กเล่นไปโดยปริยาย พลังของกระสุนสามารถทำให้ร่างกาย ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเจ้าไทแรนท์ เกิดรอยประทับสีแดงเท่านั้น กระสุนที่ยิงออกไป ไม่สามารถสร้างผลกระทบ ต่อความเร็วในการย่างเท้าของมันได้สักนิดเดียว
“เหี้ย!”
เมื่อเห็นภาพนั้น รูม่านตาของตั้วลั่วก็หดลง ก่อนส่งเสียงตะโกนออกมา ด้วยความตกตะลึง
“แม่งเอ๊ย นี่มันตัวบ้าอะไรกันว่าเนี่ย!”
โฮก!
แต่ในขณะที่ตั้วลั่ว กำลังส่งเสียงตะโกนออกมานั้น ดูเหมือนเจ้าไทแรนท์ ก็ได้บันดาลโทสะออกมาเช่นกัน ที่ถูกตั้วลั่วยิงใส่ ดังนั้นมันจึงส่งเสียงคำรามออกมา จากนั้นในขณะที่พุ่งออกไปข้างหน้า เท้าขวาของมันก็เตะไปที่รถยนต์หักครึ่ง ที่มันเหวี่ยงออกไปก่อนนั้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
บึม!
นาทีต่อจากนั้น เสียงระเบิดที่รุนแรงก็ดังขึ้นมา รถยนต์หักครึ่งที่ถูกพลังอันน่ากลัวของเจ้าไทแรนท์ เตะออกไปราวกับเตะฟุตบอลคันนี้ลอยออกไป จากนั้นพุ่งโจมตีใส่ทิศทางของตั้วลั่ว อย่างรวดเร็วทันที
แต่สิ่งที่โชคดีคือ ความแม่นยำของเจ้าไทแรนท์นั้น ไม่ดีมากนัก ดังนั้นรถยนต์หักครึ่งคันนี้ ก็ได้ลอยผ่านตั้วลั่วไปไม่ถึงครึ่งเมตร ก่อนจะไปกระแทกกับตึกสูงตึกหนึ่งอย่างรุนแรง จนกำแพงของตึกที่ถูกกระแทกนั้น เกิดรูที่คล้ายกับถ้ำขนาดใหญ่ขึ้นมา
“ช่วยด้วย คุณแมลงสาป ไม่สิ พี่ฮวางซาง!”
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกรถยนต์นั้น ทุบใส่ก็ตาม แต่ต่อให้ห่างกันเพียงแค่ครึ่งเมตร ความดันของลมอันรุนแรง ที่พัดผ่านร่างไปนั้น ก็สามารถทำอันตรายได้ถึงชีวติเช่นกัน เขาจึงอดที่จะตะโกนเรียกชื่อ ของฮวางซางที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาไม่ได้
ตอนนี้เขาไม่ได้ตระหนักว่า สาเหตุที่เจ้าไทแรนท์นั้น ไล่ล่าตามพวกเขามา เป็นเพราะเซรุ่มไวรัสที่อยู่ในมือของแม่หลิวซิน แต่อย่างใด บวกกับถึงแม้ว่าคนๆนี้ จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือและทำอะไรไม่ถูกกาละเทศะก็ตาม แต่อาชีพนี้ก็มีคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ดังนั้นตอนนี้ จึงไม่คิดที่จะทิ้งแม่ของหลิวซิน แล้วหนีออกไปคนเดียว เขาทำได้เพียงแค่ หวังให้ฮวางซางช่วยขัดขวางสัตว์ประหลาด ที่น่ากลัวตัวนี้เอาไว้ให้ก็เพียงพอแล้ว
“เอากระเป๋าถือนั้นมาให้ฉัน!”
ในขณะที่กำลังมองเจ้าไทแรนท์ไล่ตามตั้วลั่ว และแม่ของหลิวซิน โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ฮวางซางก็เกิดปฏิกริยาขึ้นมาฉับพลันทันที จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตะโกนไปว่า
“ฉันจะหลอกล่อเจ้าไทแรนท์เอง จากนั้นพวกนายก็ขับเครื่องบินมารับฉัน เร็ว !”
“กล่อง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ตั้วลั่วก็อึ้งงันไป จากนั้นก็มองไปทางกล่องที่อยู่ในมือแม่ของหลิวซิน สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปทันใด
“เหี้ย ที่แท้ที่เจ้าไทแรนท์ไล่ตามพวกเรามา ก็เพื่อกล่องนี้เหรอ?”
นาทีต่อจากนั้น ตั้วลั่วไม่ได้หันไปถามความคิดเห็น จากแม่ของหลิวซินแต่อย่างใด เขาช่วงชิงกล่องสีเงินกล่องนั้นมา จากนั้นก็โยนออกไป ให้กับฮวางซาง
“รับได้แล้ว!”
และในเวลาเดียวกัน ฮวางซางก็กระโดดไปข้างหน้า แล้วรับกล่องนั้นเอาไว้
โฮก!
ผลเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อเห็นกล่องนั้นเปลี่ยนมือคนถือ ไทแรนท์ก็คำรามออกมาทันที จากนั้นก็ไล่ตามฮวางซาง ไปอีกทิศทางอย่างไม่ลังเลทันที
“ฮ่าฮ่า ใช่ใช่ใช่ ตามเจ้านั้นไปแหละ ร่างกายเขามีเนื้อที่รสชาติอร่อยนะ!”
เมื่อเห็นภาพนั้น ตั้วลั่วก็หยุดถอนหายใจออกมา ด้วยความโล่งอก แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
“หัวเราะบ้าอะไร!”
และในเวลาเดียวกัน หลิวซินกลับอดที่จะด่าออกมาไม่ได้
“นายรู้หรือไม่ว่า ในกล่องนั้นมีเซรุ่มไวรัส ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับมนุษยชาติอยู่ ถ้านายยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง ก็รีบไปลานจอดอากาศยานกับพวกเรา จากนั้นก็บินไปรับพี่ของฉันซะ!”
“เซรุ่มไวรัส? !”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของตั้วลั่ว ก็หายไปในทันที จากนั้นก็แปรเปลี่ยน เป็นสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนกับก่อนหน้านั้น
“นายไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
“ฉันจะไปโกหกนายทำไมกันเล่า ถ้าไม่ใช่เพื่อปกป้องเซรุ่มไวรัสนั้น พวกเราจะตายกันมากมายขนาดนี้ไหม!”
หลิวซินเตะเท้าข้างหนึ่ง ไปยังซอมบี้ที่ลอยมากับสายลมนั้น จากนั้นก็พูดกับตั้วลั่วด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เหี้ย แล้วทำไม่ไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า!”
เมื่อได้ยินคำพูดลองหลิวซิน ตั้วลั่วก็อดทีจะด่าออกมาไม่ได้
ถึงแม้ว่าเขา จะเป็นนักฆ่าที่เห็นชีวิตคน เหมือนกับสิ่งของไร้ค่าก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาอยากจะเป็นไอ้ระยำที่เลวทรามที่สุดในโลกขนาดนั้น ในทางกลับกันสำหรับเขา โลกที่สงบสุขเท่านั้น ถึงจะทำให้เขาได้ชิมอาหารรสเลิศหลายหลายอย่าง และทำให้กลิ่นอายแห่งการสังหาร ของเขาสงบลงได้ ทำให้เขาสัมผัสได้ว่า ตัวเองก็เป็นคนๆหนึ่งเหมือนกัน ไม่ใช่สัตว์ประหลาด
และเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหลิวซินบอกเรื่อง เซรุ่มไวรัสในกล่องนี้เร็วกว่านี้ละก็ ตั้วลั่วต้องทำการแย่งชิงไป แล้วทิ้งภาระอย่างแม่ของหลิวซินเอาไว้ จากนั้นก็หาวิธีเอาเซรุ่มนี้ส่งออกไป ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะนำกล่องนี้ ส่งให้กับองค์กรหรือให้ใครก็ตาม สุดท้ายเซรุ่มไวรัสนี้ ก็จะเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการช่วยชีวิตมนุษยชาติ
แต่ตอนนี้ ในเมื่อกล่องนี้ได้หล่นไปอยู่ในมือของเจ้านั้นแล้ว เขาจึงทำได้เพียงคิดหาวิธีช่วยเจ้านั้นให้ได้เท่านั้น!
เมื่อคิดได้ แววตาของตั้วลั่วก็ฉายความเคร่งขรึมออกมา จากนั้นก็หยิบปืนขึ้นมา แล้วยิงใส่ซอมบี้ที่ล้อมเข้ามา แล้วพุ่งตรงไปยังลานจอดอากาศยานเบื้องหน้าทันที
อีกด้านหนึ่ง เมื่อปกป้องตั้วลั่วและคนอื่นๆ และเพื่อให้หนีตายไปได้ ฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ถือกล่องสีเงินในมือไว้แน่น แล้วพุ่งออกไปทางอาคารที่อยู่อาศัย ที่อยู่ไม่ไกลด้วยความรวดเร็วทันที!
ถึงแม้ว่าระดับความเร็วของเจ้าไทแรนท์นั้น จะสู้เขาไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ถือว่าไม่ได้ห่างไกลมากนัก บวกกับหินขนาดใหญ่ ที่ถูกเจ้าไทแรนท์เหวี่ยง และเตะมาอย่างต่อเนื่อง ซากศพ แม้กระทั่งรถยนต์ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องหาสถานที่ ที่มีสภาพแวดล้อมซับซ้อน เพื่อจะทำให้เขาสลัดเจ้าไทแรนท์หลุดได้!
แต่ทว่า ในขณะที่ฮวางซาง กำลังคิดหาทางสลัดออกจากการไล่ล่าของเจ้าไทแรนท์อยู่นั้น กลับสร้างความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงให้กับเขา!
นาทีต่อจากนั้น เมื่อเขาเข้าไปในอาคารบ้านเรือนเหล่านั้น ทะลุเข้าไปในมุมของอาคารหนึ่ง พยายามที่จะทิ้งระยะห่างจากเจ้าไทแรนท์อยู่นั้น ซอมบี้กลุ่มใหญ่กลับปรากฏขึ้นมาด้านหน้าของเขา!
นี่มันมุมเลี้ยวพบรัก อ่ะ ไม่สิ พบซอมบี้จริงๆ