ตอนที่แล้วตอนที่ 24 ทะเลาะ  สถานการณ์ยากลำบาก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 กองทัพซอมบี้อันน่าตกใจปรากฏขึ้นมาแล้ว!

ตอนที่ 25 บังคับข่มขู่ และโกรธกริ้ว


ตอนที่ 25 บังคับข่มขู่ และโกรธกริ้ว

  

“ฉันคิดว่าที่หวางชาวพูดก็ถูก ยอมเสี่ยง ดีกว่านั่งรอความตายแบบนี้!”

กลัวตายเป็นธรรมชาติของคน ดังนั้นแทบจะพริบตาเดียวที่เสียงของเจ้าจมูกงอนนี้เงียบลง ชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทหารคนหนึ่งก็พูดชมเชยขึ้นมา

“ฉันเห็นด้วยที่จะให้ส่งสองคนนี้ออกไปปฏิบัติการณ์ดึงดูดซอมบี้ในครั้งนี้!”

“ใช่  ความเป็นความตายของคนบางคนอาจจะเล็กน้อยมาก แต่ข้อมูลที่ทำการค้นคว้าวิจัยที่อยู่ในมือของพวกเรานั้นสำคัญมาก จะหายไม่ได้เด็ดขาด”

ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสในเครื่องแบบทหารอีกคนหนึ่งก็พยักหน้าและพูดขึ้นว่า

“ฉันก็จะส่งคนไปปฏิบัติการภารกิจในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน!”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันเองก็ต้องจัดคนแล้ว!”

“ฉันด้วย!”

……

ไม่ว่าจะเพราะความกลัว หรือเพราะอยากปกป้องข้อมูลวิจัยที่อยู่ในมือของตัวเองกันแน่ สรุปแล้วข้าราชการชั้นสูงจำนวนมากที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุก็ได้ลงมติกันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแยกย้ายกันไปจัดทหารที่ฝีมือดีที่สุดส่วนหนึ่งให้มาเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ คนที่เป็น “กลุ่มกล้าตาย” กลุ่มนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 คนอย่างรวดเร็ว

“ยังไม่พอ!”

แต่ในตอนนี้ เจ้าจมูกงอนกลับส่ายหน้า และยังคงมองไปที่ฮวางซางอยู่เหมือนเดิม ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“ฉันยอมรับว่าคนเหล่านี้เป็นทหารที่ดีที่สุด  แต่พละกำลังของพวกเขาไม่สามารถช่วยให้พวกเรายื้อเวลาได้มากพอ  ฉันเห็นว่าน้องชายคนนี้มีร่างกายที่ไม่ธรรมดา ถ้าหากว่านายเข้าร่วมด้วยละก็ ฉันคิดว่าอัตราความสำเร็จในการปฏิบัติการครั้งนี้ต้องเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน”

“พอแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าจมูกงอน ในที่สุดหลิวซินก็อดที่จะตะโกนออกมาอีกครั้งด้วยความโกรธเคืองไม่ได้

“นายหมายความว่าอะไร นายอยากส่งฮ่องเต้ไปตายอย่างนั้นเหรอ?”

“ไม่ ฉันแค่อยากทำเพื่อทุกคนเท่านั้น”

เจ้าจมูกงอนส่ายหน้า  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆว่า

“ฉันคิดว่าน้องชายคนนี้  การที่เขาได้ลิ้นขาดของซอมบี้ขั้นสูงนั้นมาได้ จะต้องไม่ธรรมดามากแน่ ๆ แค่สู้ต่ออีกไม่กี่วินาทีก็ไม่ได้แล้วเหรอ? ฉันสัญญา ขอแค่เพียงให้พวกเราได้ไปถึงลานจอดอากาศยานจนสำเร็จ พวกเราจะขับกลับมารับพวกนายอย่างแน่นอน”

“ใช่ แค่เพียงยื้อเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง และก็ไม่ได้บอกให้นายไปตายด้วย!”

“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ยังมีอะไรต้องลังเลอีกเหรอ? นายดูคนอื่น ๆสิ ใครที่ร่ำรี้ร่ำไรแบบนายบ้าง?”

“ใช่ ถ้านายเข้าร่วมการปฏิบัติการครั้งนี้  นี่คงจะเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากแน่ๆ พวกเราไม่เอาเปรียบนายแน่นอน แต่ถ้าหากการปฏิบัติการครั้งนี้ล้มเหลว  นายก็จะกลายเป็นจำเลยของทุกคน!”

“จะพูดออะไรมากมายนักหนา เรื่องใหญ่สำคัญกว่า จะไปก็ไป ไม่ไปก็ต้องไป !”

……

ดังสุภาษิตที่ว่า เพื่อนตายได้ ตัวเองห้ามตาย บวกกับที่ครอบครัวของเจ้าจมูกงอนเป็นผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ แล้วยิ่งเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของทุกคนอีกด้วย ดังนั้นนอกจากพ่อของหลิวซินจะเงียบไม่พูดอะไรออกมาแล้ว คนอื่นๆแทบจะยืนกรานเห็นด้วยกับเจ้าจมูกงอนคนนี้เกือบหมด จนกระทั่งมีทหารที่อารมณ์ร้อนคนหนึ่ง  ชักปืนออกมาจากเอวของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะบีบบังคับฮวางซางให้เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนนี้โดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

“พวกนายจะทำอะไรกันแน่  ไม่ไร้ยางอายเกินไปหน่อยหรือไง!”

เมื่อเห็นทุกคนต่างพากันบีบบังคับฮวางซาง หลิวซินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา ก่อนจะชักปืนพกออกมาเผชิญหน้ากับทุกคน พร้อมกับหันไปพูดกับพ่อตัวเอง ว่า

“พ่อ พ่อต้องช่วยฮวางซางนะ ที่ลูกรอดมาได้ก็เป็นเพราะเขานะ!”

“ลูกหลิว เก็บปืนซะ”

แต่ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน หลิวชิงกลับส่ายหน้า หลังจากนั้นก็มองไปทางฮวางซาง โดยไม่เอ่ยคำใดออกมา

ในตอนนี้ ฮวางซางที่เงียบขรึมมาตลอดก็เอ่ยปากขึ้น

“ได้ ฉันบรับปากพวกนาย”

ฮวางซางเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะกลับกลายเป็นเรื่องบ้าๆแบบนี้ไปได้ ในขณะที่มองไปทางกลุ่มทหารที่จ้องมาทางเขาราวกับเสือที่เฝ้าดูเหยื่อ ฮวางซางก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่อย่างนั้นคนเหล่านี้คงจะยิงปืนออกมาแน่ ถึงแม้ว่า ร่างกายของเขาในตอนนี้จะแข็งแกร่งมากก็ตาม แต่เกรงว่าก็ไม่อาจหลบหลีกและขวางกระสุนเหล่านี้ไปได้

ดังนั้น จึงได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากกดเปลวเพลิงแห่งความโกรธเคืองไว้ในใจ แล้วก็ตอบตกลงคำขอร้องของคนเหล่านั้นไป

“ฮ่องเต้!”

เมื่อเห็นฮวางซางถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมปฏิบัติการที่เหมือนกับพาตัวเองไปตายในครั้งนี้ หลิวซินก็ยิ่งร้อนใจหนักขึ้นไปอีก

“ไม่เป็นไร”

เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของหลิวซิน  ฮวางซางจึงยิ้มออกมา  แล้วพูดว่า

“ฉันมีลิ้นอยู่ในมือ ซอมบี้เหล่านี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

“ไม่ได้ นายต้องส่งลิ้นนั้นมา”

แต่ในเวลานี้ เจ้าจมูกงอนกลับพูดขึ้นว่า

“หน้าที่ของนายคือดึงดูดพวกซอมบี้ ถ้าเอาลิ้นนี้ไปด้วย จะดึงดูดซอมบี้เหล่านั้นได้ยังไงละ? ยิ่งไปกว่านั้นขอแค่เพียงให้พวกเราไปถึงลานจอดอากาศยานอย่างปลอดภัยจนขับเครื่องบินได้ พวกเราถึงจะออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นความปลอดภัยของพวกเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่งลิ้นนั้นมาให้พวกเรา!”

“นายจะทำเกินไปแล้ว ลิ้นนี้เป็นของ ของฮ่องเต้!”

เมื่อเห็นว่าเจ้าจมูกงอนนี้ยังบังคับให้ฮวางซางส่งลิ้นนี้ให้กับเขาอีก หลิวซินก็อดที่จะตะโกนออกมาด้วยความโกรธเคืองอีกครั้งไม่ได้ ในเวลาเดียวกันความเย็นยะเยือกก็ได้แผ่ขยายออกมาจากตัวเขา ก่อนจะฟาดไปที่เจ้าจมูกงอนคนนั้นอย่างรุนแรงด้วยความเกลียดชัง

“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก สถานการณ์ที่หนักหน่วงเช่นนี้  เรื่องใหญ่จึงสำคัญกว่า เขาทำได้แค่เพียงต้องเสียสละ”

เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเคืองของหลิวซิน เจ้าจมูกงอนกลับยิ้มออกมาแทน

“ฉันรับปาก ขอแค่เพียงให้พวกเราได้ออกจากที่อย่างปลอดภัย  ฉันจะชดใช้ให้เขาอย่างแน่นอน!”

“ฉันจะชดใช้ แม่งเอ๊ย!”

ในที่สุดหลิวซินก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก่อนจะกระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า พร้อมทั้งเงื้อหมัดพุ่งเข้าใส่เจ้าจมูกงอนคนนั้น

แต่ในเวลานั้น มือหนึ่งกลับจับเขาไว้อย่างฉับพลัน  เมื่อเขาหันหน้าไปมอง ก็พบว่าพ่อของตัวเองกำลังดึงเขาไว้อยู่  หลังจากนั้นก็ส่ายหน้าช้าๆเพื่อแสดงจุดยืนของตัวเอง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“ลูกหลิว สถานการณ์คับขันแล้ว!”

“ใช่ๆ สถานการณ์คับขันแล้ว น้องชายหลิว!”

เมื่อเห็นภาพนนี้  เจ้าจมูกงอนก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจทันที

เขารู้ว่า ตัวเองนั้นได้ครอบครองเหตุผลและความได้เปรียบในสถานการณ์แบบนี้ได้แล้ว    เพราะว่าสำหรับข้าราชการระดับสูงเหล่านั้นในสถานการณ์เช่นนี้ ขอแค่เพียงได้ปกป้องชีวิตของตัวเองและงานวิจัยเหล่านี้ก็พอ  อย่าแต่ฮวางซางที่ต้องเสียสละเลย ถึงแม้ว่าจะต้องมีคนที่ต้องเสียสละเป็นจำนวนมากพวกเขาก็ไม่ลังเลที่ทำมันแม้แต่นิดเดียว

แม้กระทั่ง  หลิวชิงก็ไม่ได้อยู่ข้างพวกเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ?

และในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นภาพที่ดูเหมือนกับภาพ อูกิโยะ ที่หมายถึงความไม่เที่ยงแบบนี้ ในใจของฮวางซางกลับเกิดความรู้สึกหนาวเย็นยะเยือกและความโกรธเคืองที่ไม่สามารถกดมันไว้ได้อีกต่อไป

ถึงแม้ว่าเขาจะมีนิสัยเย็นชาก็ตาม แต่เขากลับเป็นคนเลือดร้อนโมโหร้ายมากคนหนึ่ง ถ้าคนเหล่านนี้ขอร้องเขาดีๆ บางที่เขาก็อาจจะไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้กำลังทำการบีบบังคับเหมือนเขาเป็นเนื้อที่อยู่บนเขียง แล้วทำไมเขาจะต้องทนกับคนเหล่านี้ด้วยละ?

สถานการณ์คับขันอะไร ฉันต้องเสียสละอะไร ทำไมต้องสนใจนายด้วย!

ช่วงเวลาต่อจากนั้น ดวงตาของฮวางซางก็แผ่รังสีแห่งความโกรธเคืองขึ้นมาอย่างรุนแรง พร้อมกับกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น ส่งผลให้กล้ามเหล่านี้ปูดขึ้นมาทั้งตัว

เขายอมต่อสู้กับคนเหล่านี้  ให้ตายไปทั้งสองฝ่าย  ดีกว่ายอมให้คนเหล่านี้มากดขี่ข่มเหงเขา  !

ต่อให้คนเหล่านี้จะเป็นข้าราชการชั้นสูงก็ตาม ลูกหลานครอบครัวใหญ่ แล้วยังไงละ?

ความโกรธ มันก็ทำให้นองเลือดได้เหมือนกัน

“เป็นยังไงบ้าง น้องชาย นายคิดว่าไงบ้าง?”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของฮวางซาง ด้วยตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง เจ้าจมูกงอนก็รู้ได้ในทันทีว่าได้กระตุ้นความโกรธของอีกฝ่ายซะแล้ว แต่เขากลับยังซักถามฮวางซางอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด

ถึงอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับเขา  ฮวางซางถือว่ามีศักยภาพที่ไม่เลวเลย  แถมเขาก็ยังอยู่ห่างจากฮวางซางหลายเมตรอีกด้วย อีกทั้งเขาก็ยังถือปืนอยู่ในมือ  นอกจากนี้ก็ยังมีปืนของเหล่าทหารและข้าราชการชั้นสูงอีกเป็นจำนวนมาก  ถึงฮวางซาง จะมีสามเศียรหกกร มีความสามารถมากมายแค่ไหน วันนี้เขาก็ไม่มีทางรุกล้ำเข้ามาถึงตัวเองได้แน่

แต่ทว่า เขากลับประเมินศักยภาพของฮวางซางต่ำไป!

“ฉันจะคิดทำซากอะไร!”

ยังไม่ทันที่เจ้าจมูกงอนนั้นจะพูดจบ  ฮวางซางก็ได้ระเบิดความโกรธออกมา หลังจากนั้นขาขวาก็ได้เคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ก่อนจะกระโดดพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยพลังทั้งหมดราวกับเสือชีตาร์ที่กำลังล่าเหยื่อ แล้วพุ่งเข้าไปหาเจ้าจมูกงอนนั้นอย่างรวดเร็ว!

ไม่มีใครคาดคิดว่าฮวางซางจะกล้าเคลื่อนไหว อีกทั้งการเคลื่อนไหวก็ยังเร็วมากอีกด้วย จนทุกคนแทบจะไม่ทันตั้งตัว ในที่สุดฮวางซางก็พุ่งไปถึงด้านหน้าของเจ้าจมูกงอนคนนั้น

หลังจากนั้น มือซ้ายของเขาก็ได้กำหมัดขึ้นมา ก่อนจะชกไปที่ทหารที่เข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าของเจ้าจมูกงอนนั้นอย่างรวดเร็วจนลอยละลิ่วออกไป ก่อนจับที่ตัวของเจ้าจมูกงอน!

จะจับโจรก็ต้องที่หัวหน้า!

“แม่งเอ๊ย!”

เจ้าจมูกงอนรู้ว่า ถ้าตัวเองถูกฮวางซางควบคุมตัวได้ สิทธิ์ในการควบคุมจะตกไปอยู่ในมือของฮวางซาง ดังนั้นเขาจึงแทบไม่ต้องลังเลที่หันปากกระบอกปืนออกไป เตรียมพร้อมเหนี่ยวไกไปที่ฮวางซาง

ปัง!

ช่วงเวลาต่อจากนั้น เสียงปืนอันรุนแรงก็ดังขึ้นมาทั่วทั้งห้อง

แต่ว่า หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้น ฮวางซางกลับไม่บาดเจ็บบุบสลายแต่อย่างใด แต่กลับเป็นเจ้าจมูกงอนคนนั้นที่กรีดร้องออกมาแทน จากนั้นก็กุมมือขวาของตัวเองไว้ เลือดสดเล็กน้อย ได้ไหลออกมาจากซอกนิ้ว  จนกระทั่งปืนที่ถืออยู่ในมือของเขา ได้ร่วงหล่นลงไปบนพื้น บนกระบอกปืนได้ปรากฏร่องรอยบุบลงไปขนาดใหญ่ กระสุนทองแดงเม็ดหนึ่งฝังอยู่ในรอบบุบรอยนั้น  พร้อมกับควันสีเทาที่ลอยออกมา

อีกด้านหนึ่ง ปืนที่เพิ่งยิงออกไปนั้น  หลิวซินที่ยิงปืนของเจ้าจมูกงอนนั้น  จนร่วงหล่นพื้น  ได้เปลี่ยนทิศทางของปากกระบอกปืน ไปทางกลุ่มทหารที่จะพยายามเล็งเป้าไปที่ฮวางซาง ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“อย่าขยับเป็นดีที่สุด  ลูกกระสุนมันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ!”

และในเวลาเดียวกัน ฮวางซางได้ถือโอกาสนี้ ยกมือขวาของตัวเองขึ้นมาแล้วจับไปที่คอของเจ้าจมูกงอนคนนั้น ก่อนจะออกแรงพุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ไปหยุดตรงที่ข้างหน้าต่าง หลังจากนนั้นก็จับเจ้าจมูกงอนนั้นกระแทกหน้าต่างอย่างแรง

เคล้ง !

เสียงแตกกระจายอย่างชัดเจนก็ดังขึ้น  กระจกบานนั้นถูกกระแทกออกไปจนแตกละเอียด จนกระทั่งหัวของเจ้าจมูกงอนนี้มีเลือดไหลออกมา เขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากที่สุดก็คือ ร่างทั้งร่างในตอนนี้ได้ยื่นออกไปอยู่ด้านนอกหน้าต่าง ค้างอยู่กลางอากาศ  เพียงแค่ฮวางซางปล่อยมือ เขาก็จะตกลงไป!

ในเวลาเดียวกัน เลือดสดๆที่ไหลลงมาบนหน้าของเจ้าจมูกงอนได้หยดลงไปข้างล่าง ด้วยการดึงดูดของเลือดสดๆเหล่านี้ ก็ส่งผลให้ซอมบี้เป็นจำนวนมากรวมตัวขึ้นเข้ามา เบียดกันเข้ามาตรงด้านล่างของหน้าต่าง พวกมันส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่อง ราวกับเป็ดที่กำลังรอให้เจ้านายโยนอาหารให้กับพวกมันอย่างไรอย่างนั้น !

สถานการณ์ ได้กลับตาลปัตรไปเพียงชั่วพริบตาเดียว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด