ตอนที่แล้วตอนที่ 12 หลบหนี  บรรลุ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 กองกำลังทหาร ข่าว!

ตอนที่ 13 เปลี่ยนแปลง  ย้ายหนี!


ตอนที่ 13 เปลี่ยนแปลง  ย้ายหนี!

  

"เฮ้อ.."

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ในที่สุดฮวางซางก็ลืมตาของตัวเองขึ้นมา หลังจากนั้นก็ผ่อนปรนลมหายใจออกมายาวๆ สิ่งที่ผิดปกติก็คือ ลมหายใจครั้งนี้มันยาวนานกว่าปกติอย่างไม่คาดคิด  จนกระทั่งสามารถรักษาให้คงที่ได้นานกว่าครึ่งนาทีจึงจะหมดอย่างสมบูรณ์ และในเวลาเดียวกัน รอยช้ำสีม่วงดำที่ดูเหมือนกับดินเหนียวๆก็ค่อยๆแห้งแตก กลายเป็นทรายสีดำละเอียด ร่วงหล่นลงไปบนพื้น

ตอนนี้บาดแผลบนตัวของฮวางซางได้สมานกันแล้ว แม้กระทั่งรอยแผลถลอกก็ไม่มีหลงเหลือ  นอกจากนี้ ดูเหมือนผิวหนังของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเนียนละเอียดชุ่มชื่นขึ้นด้วย  เมื่อมองไปแล้ว  เหมือนกับหินหยกที่ชุ่มชื่น ไร้คราบสกปรกอย่างไรอย่างนั้น

อีกทั้งสิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ เดิมทีตัวเขานั้นยังมีเจ้าเนื้อย้อยๆอยู่เล็กน้อย แต่บัดนี้หลังจากเปลี่ยนแปลงร่างทั้งร่างของเขาก็ "ผอมลง" ไปมาก ชั้นเนื้อบนร่างกายได้มลายหายไปแล้ว  ก่อนแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อที่มีพละกำลังมหาศาล ทำให้ร่างทั้งร่างของเขาเหมือนกับเสือชีตาร์ตัวหนึ่ง ที่สามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาได้

"นี่คือบรรลุแล้ว ได้ทำการชำระล้างแล้วใช่ไหม?" เมื่อมองไปทางแขนทั้งสองข้างที่ชุ่มชื่นราวกับหินหยกนั้น  ฮวางซางก็รู้สึกอึ้งงันเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยใช้แรงงานอะไรในการทำงานมาก่อน   แต่มือทั้งสองข้างที่จับมีดนี้กลับยังมีหนังด้านสีขาวคล้ายรังไหมปรากฏขึ้นมาหลายปี แต่บัดนี้รังไหมเหล่านี้กลับสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย ดูเหมือนร่างทั้งร่างได้เปลี่ยนโฉมใหม่อย่างไรอย่างนั้น

อีกทั้งไม่เพียงแต่ภายนอกเท่านั้น  ตอนนี้ฮวางซางสามารถสัมผัสอย่างชัดเจน  ร่างกายของตัวเองได้ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษ เหมือนกับว่าได้ถูกปลดปล่อยหลังจากต้องแบกรับภาระหนักๆมาหลายปีอย่างไรอย่างนั้น มันรู้สึกผ่อนคลายจนหาที่เปรียบไม่ได้ คล่องแคล่ว และเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า

"เหอะ เหมือนกลับไปในวัยละอ่อนเลยแฮะ"

เมื่อเงยหน้าขึ้น ฮวางซางก็ได้มองตัวเองในกระจกอีกครั้ง  หลังจากนั้นก็หุบยิ้มลงพร้อมกับส่ายหน้า ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาในตอนนี้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม  แต่ดูเหมือนว่านิสัยส่วนตัวนั้นกลับแตกต่างไป  บวกกับผิวหนังที่ได้เปลี่ยนเป็นเนียนขาวละเอียดขึ้น ดูเหมือนร่างทั้งร่างจะดูวัยรุ่นลงหลายปี  สิ่งที่พิเศษกว่าคือหลังจากที่รูปร่างที่ดูเปลี่ยนแปลงไปและมีความเฉลียวฉลาดขึ้น อย่างน้อยเรื่องพวกนี้ก็สามารถฆ่าพวกเด็กผู้หญิงเหล่านั้นได้ไม่น้อยเลย

เพียงแต่ว่าฮวางซางกลับไม่ได้สนใจใบหน้าของตัวเองแต่อย่างใด  ตอนนี้เขาสนใจแต่กำลังอันน้อยนิดที่ได้แปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น เพราะถึงอย่างไรในสงครามแห่งความเป็นความตายของสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้น ก็ทำให้เขาได้รับรู้ความอ่อนแอลึกๆของตัวเอง  ที่ก่อเกิดอันตรายไว้มากมายเพียงใด !

ในวันจุดจบของโลกนี้  มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น  ถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ! เมื่อคิดได้ ฮวางซาง ก็รู้สึกฮึกเฮิมขึ้นมาในใจ หรือว่าจะต้องรีบไปตามหาซอมบี้เพื่อทดสอบกำลังที่เปลี่ยนแปลงไปกัน ! แต่ยังไม่ทันที่ฮวางซางจะเคลื่อนไหวแต่อย่างใด เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างกายเขาก็ดังขึ้นมา !

"หลิวซิน?"

ในขณะที่มองไปยังชื่อที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ฮวางซางก็อึ้งงันลง ก่อนจะกดรับมัน

"ฮ่องเต้  พี่ พี่ชายสุดที่รักของฉัน ในที่สุดก็รับสายสักที!"

ทันทีที่รับสาย หลิวซินก็รีบพูดด้วยความร้อนรนใจปนกังวลใจขึ้นมาทันที

"พี่จะทำไอะไรกันแน่ พี่ไม่รู้หรอกว่าฉันเทียวโทรหาพี่หนึ่งวันเต็มๆ หนึ่งวัน ฉันคิดว่าพี่คงจะโดน....."

"1วัน?"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางก็อึ้งงันไป หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่อยู่บนกำแพง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลา บ่ายสามโมงของวันที่ 19แล้ว! นี่เขาใช้เวลาหลับตาไปเกือบ 1 วันเต็มๆเลยเหรอเนี้ย! เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าตัวเองหลับไปไม่กี่ชั่วโมงเองนะ!

ดูเหมือนประโยคที่ว่าด้วยเรื่องการบำเพ็ญที่ไร้กาลเวลานี้จะไม่ผิดแต่อย่างใด มิน่าละคนที่บำเพ็ญตามตำนานที่เล่ากันมาเหล่านั้นถึงได้ใช้เวลาบำเพ็ญหลายหลายสิบปี!

แต่ตอนนึ้เรื่องที่สำคัญกลับไม่ใช่เรื่องนี้ สิ่งที่ฮวางซางรู้สึกประหลาดใจก็คือ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้หลิวซินตามหาตัวเองอย่างร้อนใจขนาดนี้

" ก่อนหน้านั้นฉันลืมเอามืถือไปด้วยหน่ะ พูดมา นายตามหาฉันทำไม?"

"ฮ่องเต้ ฉันจำได้ว่าบ้านของพี่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนิ?" เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง หลิวซินจึงคิดได้ว่ามันถูกต้อง  หลังจากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความกังวลใจ

" พี่รู้ไหมว่าโรงพยาบาลที่แรกในเมืองได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว ในนั้นได้ปรากฏสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวมาก ๆขึ้นตัวหนึ่ง  กองกำลังตำรวจหลายร้อยคนที่ตั้งฐานอยู่ที่ีโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นสังหารอย่างโหดเหี้ยม  ตอนนี้คนที่อยู่ในโรงพยาบาลและตำรวจเหล่านั้นต่างพากันหนีตายกันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งหลังถูกทำลายลงแล้ว

"สัตว์ประหลาดอะไรถึงได้เก่งขนาดนี้?" เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางจึงตื่นตกใจไม่น้อย

ถึงแม้ว่ากองกำลังตำรวจจะไม่ได้เป็นกำลังเสริมที่แข็งแกร่งมากก็ตาม แต่ถึงอย่างไรส่วนใหญ่ก็มีปืน ถึงจะเป็นสัตว์ประหลาดที่เขาประสบพบเจอก่อนหน้าก็คงจะไม่สามารถต้านทานปืนของตำรวจกว่าสองร้อยนายได้หรอก? หรือว่า ในเมือง C จะปรากฏบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวกว่าสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นอีก?

"ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเองก็แอบได้ยินข่าวนี้มาจากพ่อเหมือนกัน หลังจากได้ยินฉันก็รีบโทรหาพี่ทันทีเลย"น้ำเสียงที่เคลือบแคลงสงสัยก็พูดขึ้นอีก

"ฉันได้ยินพ่อพูดว่า สัตว์ประหลาดตัวนี้ดูเหมือนจะตั้งใจทำโรงพยาบาลนั้นเป็นรังของตัวเอง เพราะมันได้ปักหลักชั่วคราวไม่หลีกหนีไปไหน แต่บ้านพี่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนั้นมาก  ฉันคิดว่าพี่น่าจะมาที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยก็ยังปลอดภัยหน่อย"

"ฉันรู้แล้ว แต่ฉันจะไปถึงช้าหน่อย" หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย ในที่สุดฮวางซางก็ตอบรับคำเชิญของหลิวซิน หลังจากนั้นก็วางสายไป

ตอนนี้เขาก็ได้กำจัดเชื้อไวรัสออกไปแล้ว  ย่อมไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับไปทำการวิจัยหรือหลีกห่างอีก อีกทั้งบัดนี้เมือง C ก็ดูเหมือนจะมีสัตว์ประหลาดปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ การไปหลบซ่อนตัวที่มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศจึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฟื้นตื่นขึ้นมาของระบบก็ใช้เวลาไปหนึ่งวันแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากสองวันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นอีก ดังนั้นเพื่อเตรียมการป้องกัน เขาจำเป็นต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลง !

เมื่อตัดสินใจได้ ฮวางซางจึงรีบเคลื่อนไหวทันที เขาเก็บเสื้อผ้าสองสามตัวและอุปกรณ์การผ่าตัดที่จำเป็นต้องใช้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปทางลิ้นครึ่งหนึ่งที่ตกอยู่บนพื้นอันนั้น

"เอาไปด้วยดีกว่า!"

หลังจากยืนลังเลอยู่สักพัก ฮวงซางก็หยิบถุงซิปล๊อกใบหนึ่งออกมา แล้วก็นำมาห่อหุ้มลิ้นขาดนั้นไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะยัดมันลงในกองเสื้อผ้า

นี้เป็นลิ้นที่มาจากสัตว์ประหลาดตัวนั้น ซึ่งมันมีความสามารถในการสยบซอมบี้ทั่วไปได้  อีกทั้งยังคุ้มค่าต่อการวิจัยไม่น้อยอีกด้วย  การพาไปด้วยมันคงจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย หลังจากที่เก็บของเหล่านี้เสร็จแล้ว  ฮวางซางจึงเดินไปที่ประตู แล้วเก็บที่ตั้งป้ายวิญญาณที่อยู่บนแท่นบูชา  ยัดใส่กระเป๋าเดินทางของตัวเอง

ถึงแม้ว่าชื่ออาจารย์ท่านนี้ ในความจริงแล้วจะเป็นพ่อเลี้ยงที่ฉุดดึงช่วยเขาออกมาจากพ่อค้ามนุษย์ก็ตาม  แต่พ่อเลี้ยงคนนี้ก็ได้เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเขามาสามปี  หลังจากนั้นก็ทิ้งหยกและเงินเพียงเล็กน้อยให้เขาได้เอาชีวิตรอดในโลกมนุษย์ แม้กระทั่งอะไรก็ไม่ได้สอนเขา  แต่ถ้าไม่มีเขา ป่านนี้ฮวางซางก็คงจะถูกตัดแขนตัดขากลายเป็นขอทานไปแล้ว แล้วจะประสบความสำเร็จอย่างเช่นวันนี้ได้ยังไงละ?

ยิ่งไปกว่านั้น หยกเม็ดนั้น....เมื่อนึกถึงก่อนที่อาจารย์จะสิ้นใจก็ได้นำหยกนี้ให้กับตัวเขาอย่างเคร่งขรึม ฮวางซาจึงอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้

" อาจารย์นะอาจารย์ที่แท้ ท่านก็ยังมีความลับปิดบังผม"

แต่ไม่ว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นคนยังไง   และมีความลับอะไร แต่ทั้งหมดนี้มันก็ไม่มีความหมายอีกแล้วเมื่ออาจารย์จากไป ดังนั้นหลังจากที่ทอดถอนใจแล้ว ฮวางซางก็หยิบกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่มาก ออกจากบ้านไป

เมื่อฮวางซางเดินลงมาถึงด้านล่าง และเดินมาถึงโรงจอดรถแล้ว ภาพเบื้องหน้ากลับทำให้เขาพูดไม่ออก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เขาจอดอยู่ในโรงรถได้หายไปไม่เหลือร่องรอยแล้ว  แม้กระทั่งรถ SUB ที่เพิ่งจะซื้อมาได้แค่เพียงสองสามปีเท่านั้นก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน

รถของฉันถูกขโมยไปแล้ว!

"นี่มันวันจุดจบโลก.."

เมื่อรถโดนขโมย ฮวางซางอดรู้สึกกังวลใจขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือนว่า ซอมบี้ได้เข้าอาละวาด  กองกำลังตำรวจได้ถูกพวกมันควบคุมไว้แล้ว ความเป็นระเบียบภายในเมืองได้พังทลายลง ตลอดจนถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอก  ในที่สุดพวกกเฬวรากทั้งหลายนี้ก็ไม่อาจสกัดกั้นไว้ได้อีกต่อไป  ภัยพิบัติได้มาถึงแล้ว

แต่พวกมนุษย์ก็ยังรักเงินมากกว่าชีวิตของตัวเอง หรือว่าพวกเขาจะไม่กลัวเจอกับซอมบี้เหรอ? เมื่อคิดได้ ถึงตรงนี้ ฮวางซางก็ส่ายหน้า หลังจากนั้นยกกระเป๋าเดินทางขึ้นมา ก่อนจะเดินทางตรงไปยังทิศทางของกองกำลังป้องกันประเทศทันที

……

สถานการณ์ในปัจจุบันไม่สามารถใช้รถได้  แต่ก็ยังดีที่ระยะทางจากนี้ไปถึงกองกำลังป้องกันประเทศยังไม่ถือว่าไกลมากนัก ถ้าเดินไปก็ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

กึก!

แต่ทว่า หลังจากที่ฮวางซางเพิ่งจะออกจากบ้านได้ไม่ไกลนัก รถจิ๊ปที่เปื้อนไปด้วยโคลนจนลายตาคันหนึ่งได้ออกมาจากม่านหมอก  หลังจากนั้นก็เลี้ยวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

"ผมขอให้หยุดอยู่ตรงนั้น!"

บนรถจิ๊ปคันนี้มีคนอยู่ทั้งหมดสามคน  เมื่อเห็นท่าทางดุร้ายราวกับผีห่าซาตานของพวกเขา และรถจิ๊ปที่เปื้อนไปด้วยเศษโคลนลายตา ก็รู้ได้ว่าไม่ใช่คนดีอ่ะไรนัก

หลังจากหยุดรถขวางฮวางซางแล้ว  ชายหัวล้านที่ถือมีดสับอยู่ในมือ  ก็ได้กระโดดลงมาจากรถจิ๊ป  หลังจากนั้นก็เล็งไปที่ฮวางซางทันที ก่อนจะแสยะยิ้มพลางพูดขึ้นว่า

"คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับคนย้ายบ้าน พอดีเลย   ข้าจะช่วยเจ้ารับภาระเอง  ทิ้งของบางส่วนไว้ที่ที่นี้  แล้วไสหัวไปซะ!" เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าหนุ่มหัวล้านก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมาทันใด

" ถ้านายไม่ไปดีๆแล้วหล่ะก็  ถ้างั้นข้าคงต้องทำได้เพียงให้นายเสียเลือดเนื้อแล้วละ!"

พวกเขาสองสามคนนี้เดิมทีเป็นอันธพาลที่อยู่แถวนี้  ปกติแล้วจะออกปล้นและชิงทรัพย์เป็นจำนวนมาก ตอนนี้โรงพยาบาลนั้นก็ถูกสัตว์ประหลาดโจมตีแล้ว คนที่อยู่แถวนี้จำนวนมากต่างก็พากันเก็บข้าวของย้ายบ้านกันจ้าละหวั่น เพื่อหลีกหนีเหตุการณ์อันเลวร้าย  ซึ่งพวกเขาก็ถือโอกาสนี้ในการก่อเหตุปล้นชิง

ถึงอย่างไรคนที่ย้ายบ้านเหล่านี้ก็มักจะนำข้าวของเงินทองไปด้วย  คนที่ก่อเหตุปล้นเหล่านี้จึงมักได้ผลประโยชน์มากกว่าเมื่อก่อน  บวกกับการรักษาความปลอดภัยในเมือง C ตอนนี้ก็วุ่นวายมาก เกิดการปล้นชิงทรัพย์ไปทั่วทุกหนทุกแห่ง หรือแม้กระทั่งฆ่าคน แล้วไหนจะการปรากฏตัวของซอมบี้อีก พวกเขาจึงย่อมทำการปล้นได้ตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

เรื่องที่ว่าจะเจอซอมบี้หรือไม่   ตอนนี้จำนวนซอมบี้ยังมีไม่มากนัก อีกทั้งพวกเขาก็มีรถอีกด้วย ถ้าหากเจอพวกเขาก็คงหนีได้

"ฮ่าฮ่าฮ่า พี่หลิว  พี่ก็โหดร้ายเกินไป ไอ้ไก่อ่อนนั้นไม่กลัวจนฉี่ราดแล้วเหรอ?

"ใช่ พี่ดูเขาสิ ยังกะตาทึ่มโง่ๆจริงๆ"

"น่าเสียดายที่ไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวน้อย ไม่งั้นคงฟินไปละ เหมือนกับคนก่อนหน้านั้นไง..."

และในเวลาเดียวกัน เมื่อได้ยินชายฉกรรจ์หัวล้านคนนั้นพูดขึ้น สองคนที่นั่งอยู่บนรถ ก็ได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาท่าทางเหมือนกับคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น

"เหอเหอ..."

คนเหล่านี้คิดว่าฮวางซางถูกพวกเขาขู่จนกลัวหัวหดไปแล้ว ฮวางซางกลับมองไปทางหนุ่มหัวล้านคนนั้นรวมถึงกวาดสายตาไปบนรถจิ๊ปคันนั้นด้วย หลังจากนั้นจึงได้แสยะยิ้มออกมา

"ถูกขู่จนโง่งมไปแล้ว?"

เมื่อเห็นฮวางซางยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง  หนุ่มหัวล้านคนนั้นจึงอึ้งงันไป หลังจากนั้นก็หัวเราะอย่างดุร้ายออกมา

"อย่าคิดว่จะทำเป็นแกล้งโง่..."

ผลัวะ!

แต่ทว่า ยังไม่ทันที่หนุ่มหัวล้านจะพูดจบ  ฮวางซางก็กระโดดไปด้านหน้า  หลังจากนั้นถีบใส่ท้องของหนุ่มหัวล้านคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม

พริบตาเดียว เสียงกระแทกอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้นมา  ใบหน้าอัปลักษณ์โหดร้ายนั้น ดูเหมือนว่าหนุ่มหัวล้านคนนั้นที่น้ำหนักราวๆสองร้อยกิโลได้ถูกฮวางซางเตะใส่จนปลิวละลิ่วไปด้านหลัง  และลอยเคว้งอยู่ในอากาศ ก่อนจะล้มลงไปบนพื้นอย่างแรงในระยะทางหลายเมตร  พร้อมกับอ้วกออกมาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งในอ้วกนั้นก็ยังปะปนไปด้วยเลือดอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

เหยด แม่งเอ๊ย...

เมื่อเห็นฮวางซางทำร้ายหนุ่มหัวล้านคนนั้น อีกสามคนที่ิอยู่บนรถก็ทั้งกลัวทั้งโกรธ  ก่อนจะหยิบมีดโลหะขึ้นมาไว้ในมือเพื่อเตรียมพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่ฮวางซาง

พละกำลังหลังจากที่ฮวางซางเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วของเขามีไว้รับมือกับอันธพาลแถวนี้อย่างนั้นเหรอ!

ยังไม่ทันรอให้พวกเขาได้ลงจากรถ ฮวางซางก็ถือโอกาสนี้พุ่งพรวดไปข้างหน้า แล้วขึ้นไปเหยียบกระโปรงหน้ารถก่อนจะพุ่งเข้าใส่พวกเขา  โดยการใช้เท้าข้างหนึ่งเตะใส่คนผมเหลืองที่ได้ยืนขึ้นแล้วคนหนึ่ง  หลังจากนั้นก็ใช้มือขวาจับไปที่อันธพาลคนขับโยนลงไป

ผลัวะ!

พริบตาเดียว อันธพาลเหล่านั้นก็ได้ถูกฮวางซางโยนทิ้งลงไปจากรถ จนลอยละลิ่วไปไกลกว่าร้อยเมตร  สุดท้ายก็ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง จนเกิดเสียงอันดังขึ้น

แต่ชั่วพริบตาเดียวหลังจากที่ตัดสินใจจัดการอันธพาลทั้งสามคนแล้ว  ฮวางซางจึงได้นำกระเป๋าเดินทางที่อยู่ในมือซ้ายขึ้นไปวางบนรถ  หลังจากนั้นก็เหยียบคันเร่งรถจิ๊ปคันนั้นแล้วทิ้งอันธพาลที่ถูกฮวางซางจัดการจนบาดเจ็บที่กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดเหล่านั้น

ยุ่งยาก แต่ก็ยังมีข้อดีของการยุ่งยาก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด