ตอนที่ 12 หลบหนี บรรลุ!
ตอนที่ 12 หลบหนี บรรลุ!
“เหอเหอ หนีเสือปะจระเข้แท้ๆ ดูๆแล้ววันนี้คงจะเป็นวันที่ซวยที่สุดอย่างแน่นอน!”
ถึงแม้จะรู้ว่าซอมบี้เหล่านี้มาด้วยเพราะเหตุใดก็ตาม แต่ในเวลานี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว ในขณะที่มองไปทางซอมบี้ 7-8 ตัวที่ได้ทะลักเข้ามาใกล้ตัวเองเรื่อย ๆเหล่านั้น ฮวางซางจึงได้หัวเราะด้วยความกลัดกลุ้มใจออกมา พร้อมกับก่อเกิดความรู้สึกผิดหวังขึ้นมาในใจ
ถ้าเขายังมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งอยู่ละก็ บางทีอาจจะเข้าต่อกรกับซอมบี้ 7-8 ตัวเหล่านี้ไปแล้ว แต่ในตอนนี้...เขาหวังแค่เพียงให้ตัวเองได้ลากซอมบี้สักสองสามตัวมารับผิดให้ได้ซะก่อนเถอะ
ฮวางซางไม่เคยเป็นคนที่เข้าใจกับคำว่าปล่อยวางมาก่อนในชีวิต ดังนั้นบัดนี้ต่อให้ตัวเองอับจนหนทางยังไง เขาก็ยังคงประคับประคองตัวเองให้ยืนขึ้น แล้วจับเหล็กงัดในมือไว้แน่น ก่อนจะพุ่งเข้าไปทางกลุ่มซอมบบี้เบื้องหน้าทันที !
ตำแหน่งหน้าสุดของกลุ่มซอมบี้นั้นคือซอมบี้ผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อมองจากการแต่งตัวแล้วคงจะเป็นพนักงานบริษัทที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เพียงแต่ว่าชุดฟอร์มสีขาวของเธอในตอนนี้ได้เปื้อนไปด้วยคราบเลือดสีดำแดงไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าใบหน้าจะถือว่าสวยมากก็ตาม แต่คอที่เนียนละเอียดและหน้าอกอันอวบอิ่มนั้นกลับถูกกัดฉีกจนเละไม่เหลือชิ้นดี มองดูแล้วมันช่างสยดสยองและเวทนาอย่างมาก!
“ไปตายเถอะ !”
แต่สำหรับฮวางซาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เมื่อกลายร่างเป็นซอมบี้แล้วก็ถือว่าเป็นศัตรูของเขา !
เหมือนกับตอนทำงานก่อนหน้านั้นของเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เมื่อตายแล้วก็มีเพียงเขาที่สามารถผ่าตัดเพื่อการศึกษาได้เท่านั้น!
ดังนั้นในชั่วพริบตา ยังไม่ทันรอให้ซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้นโจมตีเข้ามา ฮวางซางที่ประคองร่างกายจนมั่นคงแล้ว ก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความโมโห ก่อนจะกวัดแกว่งเหล็กงัดเพียงครึ่งเดียวนั้นขึ้นมา ก่อนจะทำเป็นเหมือนหอกสั้นแล้วเสียบเข้าไปบนหัวของซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้น!
บัดนี้กำลังกายของเขาได้ลดลงอย่างร้ายแรง จึงไม่สามารถต่อกรกับซอมบี้ได้อย่างง่ายดายเหมือนก่อนหน้านั้น ดังนั้นถึงจะอยากโจมตีเพื่อคร่าชีวิต แต่ทว่าฮวางซางยังประเมินกำลังกายของตัวเองนั้นสูงเกินไป !
ตอนนี้เขามีกำลังที่อ่อนแอมาก สำหรับในชั่วพริบตาเดียว ถึงแม้ว่าเหล็กงัดที่อยู่ในมือของเขาจะเสียบเข้าไปบนใบหน้าของซอมบี้ผู้หญิงตัวนี้ดังที่เขาปรารถนาไว้ก็ตาม แต่มันกลับไม่ได้แทงทะลุหัวกะโหลกของซอมบี้ตัวนี้แต่อย่างใด มิหนำซ้ำหลังจากฉีกขาดไปเพียงชิ้นเนื้อบนใบหน้าของเธอแล้ว ยังถูกกระดูกแก้มของเธอขวางไว้อีกด้วย!
“เวรละ!”
เมื่อการโจมตีผิดพลาด ฮวางซางจึงรู้สึกเงียบงันขึ้นมาในใจทันที เขารู้ว่าอาการบาดเจ็บแบบนี้สำหรับซอมบี้นั้นไม่ได้สะทกสะท้านเลยสักนิด ดังนั้นต่อมาซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้นต้องโจมตีกลับมาแน่ๆ มันต้องจับตัวเขาไว้ แล้วให้ซอมบี้ตัวอื่นพุ่งเข้าหา หลังจากนั้นก็กัดแทะจนไม่เหลือแม้แต่ซากระดูกเป็นแน่!
เมื่อคิดได้ ฮวางซางก็พยายามถอยร่นไปด้านหลัง แต่การเสียเลือดจำนวนมากส่งผลให้เขาเกิดอาการมึนหัวอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะประคับประคองไม่ให้ตัวเองล้มลงไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้พลาดโอกาสสุดท้ายที่จะได้วิ่งหนีไป
“เหอ ...ดูเหมือนจะรั้งต่อไปไม่ไหวแล้ว.....”
อาการมึนงงที่แผ่ขยายออกมาจากหัวและความอ่อนแอเพราะความเจ็บปวดที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งตัวของเขา ทำให้ฮวางซางรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก แต่สิ่งที่ฮวางซางวคาดเดาไว้ก็คือ ต่อให้เขาทำ“เรื่องผิดพลาด”อันใหญ่หลวงไปแล้ว แต่ซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้นก็ไม่ได้โจมตีเขากลับมาแต่อย่างใด มันกลับยืนที่เดิมอย่างไม่ไหวติง ก่อนจะตัวสั่นขึ้นมา ราวงกับว่ามันกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวบางอย่าง!
ไม่ ไม่เพียงแต่ซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้น !บัดนี้ซอมบี้ที่เข้ามาในระยะ 5 เมตรข้างกายฮวางซางเหล่านั้น ก็ได้เกิดอาการสั่นเช่นเดียวกับซอมบี้ผู้หญิงตัวนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่โจมตีฮวางซางแล้ว มันกลับหยุดก้าวเข้ามาอีกด้วย อาการสั่นเทาไปทั้งตัว ราวกับว่าฮวางซางที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาไม่ได้เป็นอาหารอีกแล้ว แต่คือ....ผู้ชี้ขาด?
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” เมื่อเห็นภาพนั้น ฮวางซางก็นิ่งงันลงไปทันที หรือว่าเป็นเพราะว่าเสียเลือดมากเกินไปจึงเกิดภาพลวงตาขึ้นมา?
แต่ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งร่างกายและความอ่อนแอนั้นได้ทำให้ฮวางซางตระหนักว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างแน่นอน ซอมบี้เหล่านี้กำลังหวาดกลัวเขา!ไม่หรอก บางทีอาจะไม่ได้หวาดกลัวเขาก็ได้!
ทันใดนั้น บนหัวของฮวางซางก็ได้เปล่งรัศมีอย่างสุกใสออกมา ก่อนที่สายตาของเขาจะเลื่อนไปมองที่ลิ้นที่ขาดสะบั้นที่คาอยู่บนไหล่ของเขา!เมื่อดูจากพลังการต่อสู้ที่แสดงออกมาให้เห็นจากสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้น เด็กหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งกว่าซอมบี้ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งสามารถเป็นผู้นำหรือหัวหน้าของกลุ่มซอมบี้ได้
บางทีอาจจะเป็นเช่นนี้ก็ได้ ลิ้นครึ่งหนึ่งที่ยังคาอยู่บนตัวเขา ยังคงทิ้งกลิ่นอายของสัตว์ประหลาดตัวนั้นเอาไว้จึงทำให้พวกซอมบี้เข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวนั้น จึงได้แสดงออกถึงการยอมจำนนต่อเขา!
“รอดแล้ว!”
หลังจากที่ตระหนักได้ถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาของฮวางซางก็ได้เปล่งประกายออกมา ความสิ้นหวังที่เกิดขึ้นในใจจึงถูกแทนที่ด้วยความดีใจ!ถึงแม้ว่าซอมบี้เหล่านี้จะไม่กล้าต่อต้านตัวเองก็ตาม บางทีเขาอาจจะใช้โอกาสนี้ฆ่าซอมบี้เหล่านี้ เพื่อทำให้วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งของตัวเองนั้นบรรลุ!
ถ้าอย่างนั้นผู้สังหารก็จะกลายเป็นผู้กอบกู้!
หลังจากนั้น ฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกวัดแกว่งเหล็กงัดครึ่งหนึ่ง แล้วเล็งเป้าไปที่ดวงตาของซอมบี้ผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้นก็ออกแรงเสียบเข้าไปอย่างสุดกำลัง!
กร๊อบ!
ครั้งนี้ฮวางซางไม่ได้ผิดพลาดอีกแต่อย่างใด ต่อมาเสียงฉีกขาดอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น เหล็กงัดในมือของฮวางซางก็ได้เสียบทะลุเข้าไปในดวงตาของซอมบี้ผู้หญิงคนนั้นจนลึก หลังจากนั้นเลือดและลูกตาหนืดๆก็ได้กระเด็นกระดอนออกมาจากหลังหัวกะโหลกของมัน
คร่าชีวิตได้แล้ว!
หลังจากที่ฆ่าซอมบี้ผู้หญิงตัวนี้ไปแล้ว แสงสีฟ้าเล็ก ๆก็ได้เปล่งประกายออกมาจากศพของผู้หญิงคนนั้น แล้วผสานเข้าไปในร่างกายของฮวางซาง ทำให้ร่างกายที่ใกล้จะทรุดลงกลับมามีพละกำลังมหาศาลอีกครั้ง
“เฮ้อ.....”
เมื่อได้รับพลังนี้เข้ามาในตัวแล้ว ร่างกายของฮวางซางก็รู้สึกสบายตัวขึ้นไม่น้อย หลังจากนั้นก็ได้กวัดแกว่งเหล็กงัดนั้นขึ้นมา ก่อนจะมองไปทางซอมบี้ตัวอื่นๆในบริเวณนั้นอย่างระมัดระวัง
สิ่งที่ถือว่าโชคดีก็คือ ดูเหมือนความสามารถของสัตว์ประหลาดตัวนั้นจะสร้างความหวาดกลัวต่อซอมบี้ทั่วไปมากกว่าที่เขาคิดไว้ สำหรับเขาต่อให้ต้องฆ่าซอมบี้เหล่านี้ต่อหน้าพวกเดียวกันอย่างพวกมัน พวกมันก็ยังคงไม่กล้าที่จะต่อต้านกลับมา หรือแม้กระทั่งยังไม่กล้าที่จะหลบหนีออกไป
หลังจากที่ค้นพบเรื่องพวกนี้แล้ว ฮวางซางจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากนั้นก็จับเหล็กงัดในมือไว้แน่น ก่อนจะค่อยๆโจมตีซอมบี้ที่ไม่กล้าแม้แต่จะโจมตีหรือหลบหลีกเหล่านี้ ราวกับว่าซอมบี้เหล่านี้เป็นเหมือนเป้ายิงอย่างไรอย่างนั้น
ในฐานะที่เป็นหมอนิติเวช ความสามารถของฮวางซางที่มากกว่าคนทั่วไปทำให้ฆ่าซอมบี้เหล่านี้ได้อย่างสบายๆ บวกกับที่เขาเคยจัดการกับศพจำนวนมากในสายงานหมอนิติเวช ดังนั้นเขาจึงไม่มีความกังวลใด ๆในการปฏิบัติต่อซอมบี้เหล่านี้ให้เหมือนศพธรรมดาทั่วไป เพียงแค่ว่าต้องใช้เวลาหลายนาทีหน่อยในการสังการซอมบี้7-8ตัวให้สิ้นซาก
บางทีอาจเป็นเพราะว่าซอมบี้ที่อยู่แถวนี้ได้ถูกเลือดสดดึงดูดให้เข้ามา ดังนั้นหลังจากที่ฆ่าซอมบี้ 7-8 ตัวแล้ว ในบริเวณนี้ก็ยังไม่ปรากฏร่องรอยซอมบี้ตัวอื่นแต่อย่างใด มีเพียงเสียงปืนและเสียงระเบิดจากที่ไกล ๆและเสียงคำรามเท่านั้นที่ยังคงดำเนินต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าภายในโรงพยาบาลแห่งนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แต่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะไปสนใจอยู่แล้ว เพราะว่าในเวลานี้เขาได้ฆ่าซอมบี้มากกว่า 30 ตัวแล้ว พลังที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว สำหรับเขาพลังที่ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายทำให้เขารู้สึกเหมือนอาการท้องอืดมากกว่า อีกทั้งความรู้สึกนี้ก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเลยๆอีกด้วย ราวกับว่าร่างกายของเขาพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ!
“วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว!”
ฮวางซางได้เข้าใจเคล็ดลับการหลอมรวมภายใต้การช่วยเหลือของระบบทั้งเล่มแล้วว่าความรู้สึกท้องอืดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆนี้หมายความว่าอะไร เพียงแต่ว่านอกจากความตื่นเต้นและความคาดหวังที่เกิดขึ้นในใจของฮวางซางแล้ว กลับยังมีความรู้สึกกังวลรวมอยู่ด้วย
วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งเป็นวิชาพื้นฐานอันแข็งแกร่งอย่างหนึ่ง สามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติเปลี่ยนรูปลักษณ์เดิมของคนๆหนึ่งให้แข็งแกร่งมากขึ้น แข็งแกร่งจนไร้ขีดจำกัดเลยก็มีเหมือนกับตัวหนอนขนที่ลอกคราบกลายเป็นผีเสื้อมันจำเป็นต้องใช้เวลาและความยากลำบากอย่างมากตั้งแต่การถักทอจนเป็นดักแด้และการทะลุดักแด้นั้นให้กลายเป็นผีเสื้อ ดังนั้นการใช้วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งให้กลายมาเป็นของตัวเองก็จำเป็นต้องแบกรับความเสี่ยงเช่นกัน
และเนื่องจากเป็นเช่นนี้ คนในองค์กรจุติเทพจึงได้เปลี่ยนไปเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยและเงียบสงบในการ “เข้าฌาน” ซึ่งรับประกันได้ว่าจะไม่มีวันสูญหายไปอย่างแน่นอน แต่บัดนี้ร่างกายของฮวางซางได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส แล้วไหนจะติดเชื้อไวรัสอีก ความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงนั้นยิ่งมากขึ้น ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรีบกลับบ้านไปบรรลุให้สำเร็จ!
เมื่อคิดได้ ฮวางซางจึงได้มองไปทางเสียงปืนและเสียงระเบิดที่ดังขยายออกมาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินอย่างโซซัดโซเซตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ห่างไปไม่กี่สิบเมตรคันนั้น ก่อนจะสตาร์ทเครื่อง แล้วพุ่งตรงกลับบ้านของตัวเองทันที
ระหว่างทางกลับบ้าน ฮวางซางก็ได้พบกับอันตรายที่คิดไว้จริงๆ เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้เริ่มปรากฏซอมบี้ส่วนหนึ่งกระจัดกระจายเต็มท้องถนนแห่งนี้ แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดอันน่ากลัวนั้นก็ยังปรากฏขึ้นมา แต่คนจำนวนมากก็ยังเบียดเสียดกันแย่งซื้อสิ่งของที่ต้องใช้หรือไม่ก็สิ่งของที่ไม่จำเป็นในร้านค้าแห่งหนึ่งอยู่ จนไม่สามารถรับรู้ได้ถึงอันตรายที่สามารถคร่าชีวิตได้กำลังคืบคลานเขาไปใกล้ตัวแล้ว
แต่เรื่องนี้จะโทษคนเหล่านั้นทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรเมือง C ก็ได้ถูกม่านหมอกปกคลุมไปทั่วเมือง ความสามารถในการมองเห็นของคนทั่วไปจึงไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะที่เกิน 10 เมตร ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็นอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาได้
เมื่อเป็นอย่างนี้ เกรงว่าในอนาคตเมือง C ก็คงจะหาความรื่นรมย์ไม่ได้อีกแล้ว !
“หวังว่ากองกำลังทหารจะมาได้ทันเวลานะ!”
สำหรับในสถานการณ์แบบนี้ ฮวางซางเองก็จนปัญญาเช่นกัน เขาทำได้เพียงถอนหายใจออกมายาวๆ หลังจากนั้นก็เร่งเครื่องขับออกไป ความโชคดีอย่างหนึ่งก็คือ บางทีอาจจะเป็นเพราะลิ้นครึ่งหนึ่งที่คาอยู่ตรงไหล่ซ้ายของเขา ทำให้เขาไม่พบเจอกับซอมบี้ขวางทางเลยสักตัวมาตลอดทาง สุดท้ายก็กลับมาถึงบ้านโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
หลังจากที่เขากลับมาถึงบ้านแล้ว ฮวางซางก็รีบล็อกประตูใหญ่ทันที หลังจากนั้นก็หยิบกล่องอุปกรณ์ผ่าตัดประจำบ้านของตัวเองออกมา ถึงแม้ว่าลิ้นครึ่งหนึ่งที่คาอยู่บนไหล่ซ้ายของเขาจะทำให้เขาไม่ต้องพบเจอกับความยุ่งยากก็ตาม แต่ในที่สุดในเวลานี้ เขาก็จำเป็นต้องเอาสิ่งนี้ออกเพื่อจะได้บรรลุอย่างอย่างสบายใจ!
“เฮ้อ....”
ไม่นาน ฮวางซางก็ได้ทิ้งเสื้อท่อนบนของตัวเอง หลังจากนั้นก็หยิบอุปกรณ์ขึ้นมา พร้อมกับมองไปทางกระจก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเริ่มใช้มีดผ่าตัดค่อยๆตัดสิ้นที่เสียบอยู่นั้นออกไปที่ละนิดๆ
ถึงแม้ว่าขั้นตอนนี้จะรู้สึกชามากก็ตาม แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด เพราะว่าไหล่ซ้ายของฮวางซางได้ติดเชื้อไปทั้งไหล่เรียบร้อยแล้ว จนแทบจะเป็นอัมพาตไปเลยก็ว่าได้ ดังนั้นแค่เพียงไม่สัมผัสลิ้นอันนี้จนรุนแรงเกินไปเท่านั้น เขาก็ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดอะไรแล้ว
เพียงแค่หลังจากที่เขาได้ทำการตัดลิ้นยาวนั้นออกมาแล้ว ฮวางซางก็ได้เผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างแท้จริง!
“หลุดแล้ว!”
ในขณะที่มองไปยังบาดแผลที่ทะลุบนไหล่ซ้ายนั้น ลิ้นที่ถูกตัดขาดนี้มีความยาวประมาณ40 กว่าเซนติเมตรเห็นจะได้ ดวงตาของฮวางซางก็เข้มงวดขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นก็ใช้มือขวาจับลิ้นขาดนั้นขึ้นมา แล้วออกแรงโยนมันออกไปข้างนอก
เผละ !
ชั่วพริบตาเดียว เสียงฉีกขาดอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น ในที่สุดลิ้นขาดนั้นก็ได้ถูกฮวางซางโยนออกไปด้านนอก แต่ในเวลาเดียวกัน เลือดที่เหม็นคาวจำนวนมากก็เริ่มทะลักออกมาจากบาดแผลนั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็ได้ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ ส่งผลให้ฮวางซางเกิดอาหารมึนงง เกือบจะสลบไสลล้มลงไป
แต่ฮวางซางยังคงรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าตอนนี้เขาจะมึนงงไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นพริบตาเดียวก็รีบกัดปลายลิ้นของตัวเองอย่างแรง เพื่อใช้ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายออกมาจากลิ้นนั้นเรียกสติตัวเองกลับมา
ในขณะที่ยืมความเจ็บปวดนี้มาเรียกสติ ฮวางซางก็รีบนั่งขัดสมาธิทันที และเริ่มเข้าฌานเพื่อรู้แจ้งตามที่บันทึกไว้ในวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่ง เข้าใจและผสานพลังทั้งหมดที่สะสมเอาไว้ในร่างกาย
ไม่นาน พลังที่สะสมไว้หลังการสังหารซอมบี้ภายในร่างกายของฮวางซางก็ได้เริ่มรวมตัวกัน ก่อนจะผสมผสานภายในร่างกายของฮวางซางอย่างต่อเนื่องราวกับเส้นไหมที่พันกัน
ในขณะที่พลังนี้กำลังผสานเข้าไปอย่างต่อเนื่องอยู่นั้น เลือดที่มีกลิ่นเหม็นคาวก็ได้ถูกฮวางซางบีบมันออกมาจากบาดแผลบนน่องและไหล่ของเขา เป็นเวลาเดียวกันกับที่รอยสีม่วงดำรอบๆบาดแผลนั้นก็ค่อยๆฟื้นตัวกลับไปเป็นปกติ
แต่การกำจัดเชื้อนี้ออกไปก็เป็นขั้นตอนแรกของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ไม่นาน วัตถุสีดำม่วงเหม็นคาวที่หนืดๆประเภทนี้ก็ได้ไหลออกมาจากบาดแผลของฮวางซาง อีกทั้งยังไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานร่างกายของฮวางซางก็นิ่งไป เพราะในห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความชั่วร้าย.....
วัตถุสีดำม่วงเหล่านี้ ทั้งหมดเป็นสิ่งสารเจือปนและสารพิษที่ฮวางซางสะสมเอาไว้ในร่างกายมาแรมปี !อีกทั้งการขับสารเจือปนและสารพิษเหล่านี้ ออกมา เป็นการบอกว่าภายในร่างกายของฮวางซางนั้นได้ถูกชำระล้างจนไปถึงไขสันหลังแล้ว การเปลี่ยนแปลงขั้นหนึ่งได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์!