ตอนที่ 10 สัตว์ประหลาดที่น่ากลัว !
ตอนที่ 10 สัตว์ประหลาดที่น่ากลัว !
ก่อนนั้นวันนี้ ฮวางซางไม่เคยเชื่อในลางสังหรณ์แต่อย่างใด คิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างหนึ่งเท่านั้น และเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ในเวลานี้ เขาที่ไม่เห็นแม้แต่สิ่งใดเลยในม่านหมอก แต่กลับสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างชัดเจน
ความรู้สึกนี้ เหมือนกับความรู้สึกที่เห็นคนใช้มีดปลายแหลมเสียบเข้าไปต่อหน้าต่อหน้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด แต่ก็สามารถก็ทำให้คุณรู้สึกขนลุกมากพอเช่นกัน!
“ภายในม่านหมอกนั้น....มันคือตัวอะไรกันแน่!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างที่รุนแรงและไม่รู้จักเช่นนั้น ในใจของฮวางซางก็แปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยขึ้นมาทันใด
ตามหลักเหตุผลความสามารถของเขาในตอนนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับซอมบี้จำนวนมากในม่านหมอกนี้ เขาเองก็ไม่สามารถจัดการมันได้หมด แต่ในเวลานี้ภัยอันตรายที่รุนแรงนี้ได้เตือนเขาถึงการดำรงอยู่ของสิ่งที่น่ากลัวและร้ายแรงกว่าซอมบี้ทั่วไปในม่านแหมอกแห่งนี้!
หวือ หวือ หวือ !
ในเวลานี้ เสียงเครื่องยนต์ที่หนาแน่นและรุนแรงได้ดังขึ้นมาจากที่ไกล ๆในม่านหมอกแห่งนี้ อีกทั้งยังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วอีกด้วย!
ไม่นาน รถมอเตอร์ไซต์สามคันก็ปรากฏออกมาจากม่านหมอก ยิ่งไปกว่านั้นยังขี่พุ่งตรงไปทางฮวางซางอย่างรวดเร็วอีกด้วย บนตัวรถนั้น ได้ปรากฏใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของวัยรุ่นหนุ่มทั้งสามคน เหมือนกับว่าพวกเขากำลังกลัวกับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังไล่ตามมาทางด้านหลังของพวกเขาอยู่!
ไม่ ไม่ได้เหมือนกับ แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างไล่ตามพวกเขามาจริง ๆ!
โฮก!
ในขณะที่สามคนนี้กำลังขับขี่มอเตอร์ไซต์พุ่งตรงเข้ามาอย่าวรวดเร็วในม่านหมอก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เงาสีแดงอันเลือนลางได้ไล่ตามมาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วของมอตเอร์ไซต์พวกนี้ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหามอเตอร์ไซต์ที่อยู่หลังสุดคันนั้นโดยตรง!
หวือ!
เพียงแค่พริบตาเดียว คนขับที่อยู่บนมอเตอร์ไซต์คันนั้นก็ถูกเงาสีแดงนั้นลากลงมา ส่วนมอเตอร์ไซต์ที่สูญเสียคนขับไปก็ได้พุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าเสาหนึ่งอย่างจัง สุดท้ายสิ่งที่ชนจนแตกละเอียดนั้นก็ระเบิดบูมขึ้นมาอย่างรุนแรง
“อ๊ากกกกกก!!”
เป็นเวลาเดียวกันกับเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความเจ็บปวดก็ดังขึ้นมาจากในม่านหมอกนั้น แต่หลังจากนั้นก็หยุดชะงักลงก่อนตามด้วยเสียงของการเข่นฆ่ากัดกินอย่างน่าสยอดสยอง
เห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าเงาสีแดงนั้นจะเป็นตัวอะไร แต่ในเวลานี้มันได้คร่าชีวิตของคนขี่มอเตอร์ไซค์คนนั้นไปแล้ว!
หลังจากได้ยินเสียงที่ร้องระงมอย่างน่าเวทนาและเสียงกัดกินที่ดังขยายออกจากด้านหลังแล้ว คนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ัเหลืออีกสองคนก็แปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก เพราะพวกเขารู้ว่า อีกไม่นานสัตว์ประหลาดตัวสีแดงนั้นก็จะไล่ตามพวกเขามาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะช่วงชิงชีวิตของพวกเขา --เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ ดูเหมือน หนุ่มผมม่วงคนนั้นก็พลันตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง แววตาที่เกลียดชัง พร้อมกับถือไม้เบสบอลในมือไว้แน่น ก่อนจะหันกลับไปทุบหัวของคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่แทบจะอยู่เคียงกันกับเขามาตลอด
ผลั๊วะ!
เห็นได้ชัดว่า วัยรุ่นหนุ่มคนนั้นไม่เคยคิดมาก่อนว่าหนุ่มผมม่วงคนนี้จะลงมือกับตัวเองได้ ดังนั้นจึงได้ถูกทุบจนหัวแตกเลือดไหล ภายใต้สถานการณ์ที่ีเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวนี้ ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์สูญเสียการทรงตัว ก่อนจะพารถล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง หลังจากนั้นก็ถูกรถลากถูไปกับพื้น จนเนื้อหนังถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว
แต่หลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นถูกทุบจนล้มลงไปแล้ว หนุ่มผมม่วงก็ไม่ได้หยุดดูแต่อย่างใด เขายังคงขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งตรงไปทางที่ฮวางซางยืนอยู่ในตอนนี้
"ซิงเฟย ไอ้เหี้ย ไอ้เลว...."
ในขณะมองไปยังร่างของหนุ่มผมม่วงที่จากไป ชายหนุ่มที่มีเลือดอาบเต็มหน้าคนนั้นก็ได้คำรามออกมาด้วยความโกรธและผิดหวัง เขาคิดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ที่มักพูดว่าจะคุ้มกันให้ตัวเองคนนั้น เมื่ออยู่ในช่วงวิกฤติ หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้แล้ว กลับทิ้งตัวเขาไว้ให้ตายอย่างอนาถ
แต่ไม่ทันรอให้เขาได้สาปแช่งต่อ เงาสีแดงตัวนั้นก็โผล่ออกมาจากม่านหมอก แล้วทิ้งตัวลงมาข้างกายเขา ! และในเวลานั้นเอง ที่ฮวางซางเพิ่งจะได้เห็นลักษณะของเงาสีแดงนั้นอย่างชัดเจน! นี่มันคือสัตว์ประหลาดที่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
ถึงจะบอกว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ก็ตาม แต่น่าจะบอกว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ซะยังจะดีกว่า
เนื้อหนังทั้งตัวของมันเหมือนกับโดนกัดเซาะไม่ก็ฉีกขาด จนแทบไม่เหลือชิ้นดีไปทั้งตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อสีเลือดที่ปูดสูงขึ้นมาของมันได้เผยออกมาอย่างชัดเจน
นอกเหนือจากนี้ ดวงตาคู่นั้นของมันดูเหมือนจะเกิดการเสื่อมถอยบางอย่าง มันหดเล็กลงจนขนาดคนทั่วไปยังยากที่จะสำรวจเจอได้ และสิ่งที่ตรงกันข้ามก็คือปากของมันกลับมีลักษณะที่ใหญ่ผิดปกติ ในนั้นมีฟันที่แหลมคมไปทั่วทั้งปาก นอกจากนนี้ก็ยังมีเล็บที่แหลมคมของมันอีกด้วย พูดได้ว่าสิ่งๆนี้คืออาวุธสังหารชั้นดีอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
“ไม่...ไม่...”
ในขณะที่มองไปยังสัตว์ประหลาดสีเลือดที่ล้มตัวลงมาอยู่ข้างกายของตัวเอง วัยรุ่นหนุ่มที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดคนนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นอัมพาตขึ้นมาทันใด ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัวกำลังร้องขอความเมตตา จนกระทั่งของเหลวบางอย่างก็ได้หยดออกมาจากเป้ากางเกง เห็นได้ชัดว่าเขากลัวจนฉี่แตกเลยทีเดียว
แต่ทว่าการร้องขอของเขากลับใช้ไม่ได้ต่อสัตว์ประหลาดตัวนี้ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ได้แกว่งเล็บอันแหลมคมนั้นขึ้นมา ก่อนจะเสียบทิ่มไปยังวัยรุ่นหนุ่มคนนี้
ฉั๊วะ!
หลังจากเสียงเบาลง เล็บอันแหลมคมที่ดูเหมือนมีดของสัตว์ประหลาดตัวนั้น ก็ได้สับไปบนหัวของวันรุ่นหนุ่มคนนั้นโดยตรง และเป็นเวลาเดียวกับเงาตัวสีแดงสิ่งหนึ่งที่อยู่ในปากของมัน ก็ได้พุ่งทะลุหัวกะโหลกของวัยรุ่นหนุ่มคนนั้นไป
“นี่มัน.....ลิ้นเหรอ?”
ในขณะที่มองดูสิ่งที่ยาวและแหลมคมที่พุ่งออกมาจากปากของสัตว์ประหลาดตัวนั้น ลิ้นยาวๆที่เปื้อนไปด้วยเลือดก็ได้แทงทะลุหัวกะโหลกของวันรุ่นหนุ่มคนนั้นไปในชั่วพริบตาเดียว ฮวางซางผู้ที่มีความเข้มแข็งและอดทนก็อดที่จะตัวสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้!
นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่ !
กรอบ !
ในขณะที่ฮวางซางกำลังตื่นตกใจกับสัตว์ประหลาดตัวนี้อยู่นั้น ลิ้นยาวๆของมันก็ได้หดกลับไป พร้อมทั้งพาหัวกะโหลกของวัยรุ่นหนุ่มคนนั้นเข้าไปในปากของมันด้วย สุดท้ายก็ออกแรงกัดอย่างโหดเหี้ยม
ในชั่วพริบตาเดียว เสียงของกระดูกที่แตกอย่างละเอียดดังกรอบนั้นก็ดังขึ้น หัวของวัยรุ่นหนุ่มคนนั้นได้ถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นกัดจนแตกละเอียดราวกับถั่วปากอ้าง พร้อมกับมันสมองและเลือดสดก็ได้สาดกระเซ็นออกมา เปรอะเปื้อนไปทั่วทั้งปากใหญ่ๆของสัตว์ประหลาดตัวนั้น
หลังจากที่ได้ยินเสียงหัวกะโหลกของวัยรุ่นหนุ่มคนนั้นถูกกัดจนแตกละเอียดแล้ว สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับฟ้าแลบ ก่อนจะพุ่งตรงมายังทิศทางที่หนุ่มผมม่วงและฮวางซางอยู่ทันที!
“ตายแน่!” ในตอนนั้นเอง หนุ่มผมม่วงคนนั้นก็ได้เห็นภาพที่มันกำลังตามเขามาจากกระจกรถมอเตอร์ไซค์
เขาได้ค้นพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ฆ่า“เพื่อนร่วมเดินทาง”คนสุดท้ายของเขาไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่มันกำลังไล่ตามเขามา เขาก็เกิดความรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในใจ ก่อนจะกวัดแกว่งไม้เบสบอลที่เปื้อนเลือดในมือของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งตรงไปทุบฮวางซางที่อยู่ไม่ไกลอย่างแรง!
เห็นได้ชัดว่า เขากำลังคิดที่จะทุบฮวางซางให้เหมือนกับ“เพื่อนร่วมเดินทาง”ที่เพิ่งจะถูกจัดการไปเมื่อสักครู่คนนั้น หลังจากนั้นก็ใช้ฮวางซางเป็นตัวเรียกร้องความสนใจ เพื่อให้เขาได้สร้างโอกาสในการหนีรอด
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการใช้ฮวางซางเป็นเหยื่อล่อเพื่อถ่วงเวลาให้เขา อาจจะไม่ได้ทำให้เขาหนีรอดจาการไล่ล่าของสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ก็ตาม แต่ในเวลานนี้เขาเองก็ไม่ได้มีตัวเลือกอื่นมากมายขนาดนั้น!
ต่อให้มีเวลาแค่เพียงเสี้ยววินาทีที่จะทำให้เขามีชีวิตต่อก็ยอม!
แต่น่าเสียดาย ที่หนุ่มผมม่วงคนนั้นได้ประเมินพละกำลังและการตอบสนองของฮวางซางต่ำเกินไป!
ปึ้กกก ! เห็นได้ชัดว่าหนุ่มผมม่วงคนนี้คิดจะยืมแรงของมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งเข้าใส่เพื่อทุบ ฮวางซางด้วยไม้เบสบอล แต่ในขณะนั้นฮวางซางกลับยกมือขวาของตัวเองขึ้นอย่างฉับพลันราวกับฟ้าแลบ ก่อนจะคว้าไม้เบสบอสที่กวาดเข้ามาใส่อย่างแม่นยำท่ามกลางเสียงของรถมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งเข้าใส่ ด้วยแรงที่รุนแรงและรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาเดียว หนุ่มผมม่วงคนนั้นก็สัมผัสได้ว่าตัวเองนั้นได้ใช้ไม้เบสบอลทุบไปยังกำแพงที่ไม่มีทางพังทลายลงมาได้ ต่อมาพลังอันยิ่งใหญ่ก็ได้ทะลุผ่านไม้เบสบอลนั้นไป!
พละกำลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ดูเหมือนหนุ่มผมม่วงแทบจะไม่ทันได้เตรียมการป้องกันแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงปล่อยมือจากไม้เบสบอลไม่ทัน ก่อนจะถูกพลังนั้นทำให้สูญเสียความสมดุล นำพาให้เขาล้มกลิ้งลงไปกองกับพื้นอย่างโหดร้าย ร่างทั้งร่างได้กลิ้งออกไปไกลว่า7-8 เมตร การล้มนั้นทำให้เขาบาดเจ็บแสนสาหัส จนไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้
“ตายซะเถอะ!”
เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บสาหัสจากการล้มของหนุ่มผมม่วงที่ช่างน่าเวทนาจนหาที่เปรียบไม่ได้ ดวงตาของฮวางซางก็เปล่งประกายความเย็นชาขึ้นมาทันใด
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาฆ่าซอมบี้ไป 20 กว่าตัว จนพลังและการตอบสนองได้เพิ่มขึ้นมาเกือบสามเท่า ส่งผลให้ระยะห่างของการบำเพ็ญวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งจนบรรลุฌานนั้นก็ห่างอีกไม่มากแล้วละก็ เขาก็คงถูกไอ้หนุ่มนั้นตีจนล้มลงไปกองกับพื้นเหมือนกับวัยรุ่นหนุ่มคนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็คงจะกลายเป็นอาหารรสเลิศของสัตว์ประหลาดตัวนั้นไปแล้ว!
แต่เมื่อนึกถึงสัตว์ประหลาดตัวสีแดงนั้น ฮวางซางก็รู้สึกกังวลขึ้นมาในใจ หลังจากที่คว้าไม้เบสบอลนั้นได้แล้ว เขาได้จ้องเขม็งไปที่สัตว์ประหลาดอันน่ากลัวที่กำลังปีนออกมาจากม่านหมอกทีละก้าวๆตัวนั้น ก่อนจะตื่นตัวเตรียมการป้องกันขึ้นมา!
ความเร็วและพลังการทำลายล้างที่ปรากฏให้เห็นเมื่อสักครู่ของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะมีพละกำลังอันแข็งแกร่งในตอนนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยที่จะต่อต้านกับมัน!
ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก !
บางทีอาจเป็นเพราะฮวางซางที่ได้ขัดขวางหนุ่มผมม่วงคนนั้นอย่างง่ายดายจึงทำให้สัตว์ประหลาดตัวนี้รู้สึกถึงความหวาดกลัว หรืออาจะเป็นเพราะสัตว์ประหลาดตัวนั้นมีความคิดเหมือนกับแมวที่ต้องการไล่ล่าหนูเท่านั้น ในเวลานี้มันจึงไม่ได้ปรี่เข้ามาโจมตีฮวางซางหรือหนุ่มผมม่วงแต่อย่างใด แต่กลับเข้ามาใกล้ฮวางซางทีละก้าวอย่างช้า ๆ ราวกับเสือชีตาร์ที่กำลังเฝ้าสังเกตเหยื่อของมันอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่อย่างไรอย่างนั้น
และในเวลาเดียวกัน น้ำลายที่มีเลือดผสมปนเปที่เต็มอยู่ในปากใหญ่ๆและฟันแหลมๆของมันก็ได้ไหลออกมา หยดลงพื้น จนเกิดเสียงดังขึ้น
“ให้ตายเถอะ ทำไมถึงมีสัตว์ประหลาดแบบนี้ละ!”
ในขณะที่กำลังมองสัตว์ประหลาดที่ค่อยๆย่างกรายเข้ามาตัวนั้น ความกดดันของฮวางซางก็แปรเปลี่ยนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งจับเหล็กงัดที่อยู่ในมือไว้แน่น เตรียมพร้อมที่โจมตีราวกับสายฟ้าฟาดไปยังสัตว์ประหลาดสีเหลือดตัวนี้ !
โฮก!
ในที่สุด ตอนที่ได้ระยะห่างจากฮวางซางประมาณ 5- 6 เมตร สัตว์ประหลาดสีเลือดก็ได้เข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว
แขนขาทั้งสี่ที่ใหญ่และแข็งแรงของสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ได้ออกแรงพุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรงและฉับพลัน เสียงอันทรงพลังในอากาศและรุนแรงจากร่างใหญ่เกือบ 2 เมตรตัวนี้ ได้พุ่งเข้ามาราวกับลูกศรสีเลือดแล้วตรงเข้ามาหาฮวางซางอย่างรวดเร็ว!
ระดับความเร็วเช่นนี้ของสัตว์ประหลาดตัวนี้ มันมากกว่าความเร็วทั้งหมดของรถมอเตอร์ไซค์ที่หนุ่มผมม่วงขี่พุ่งเข้ามาใส่เขาซะอีก ขนาดระดับการตอบสนองของฮวางซางในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถโต้กลับไปได้มากกว่านี้อย่างทันการได้ จึงทำได้เพียงกวัดแกว่งเหล็กงัดที่อยู่ในมือขึ้นมา แล้วทุบไปยังสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นอย่างโหดเหี้ยม
เป้ง!
ในชั่วพริบตาเดียว เสียงที่รุนแรงจนถึงขีดสุดของเสียงบูมราวกับมีดที่กระทบกับโลหะก็ดังขึ้นมา ฮวางซางสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ไหลผ่านมายังเหล็กงัดอันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้พลังทั้งหมดขวางไว้ละก็ เขาก็คงจะถูกมันโจมตีใส่จนลอยละลิ่วออกไปไกลเป็นแน่
แต่ในเวลานนี้ มันก็ทำให้เขาแทบจะสูญเสียการทรงตัวจนถอยร่นไปด้านหลังหลายก้าว ง่ามนิ้วทั้งสองข้างได้แผ่ขยายความเจ็บปวดออกมา ไหล่ทั้งสองข้างก็ถูกแรงสั่นสะเทือนนั้นจนเกิดความรู้สึกชาไปไม่น้อยเลยเช่นกัน!
สัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่เพียงแต่จะรวดเร็วแล้ว อีกทั้งพลังของมันก็มีมากมายจนหาที่เปรียบไม่ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่ยังถือว่าโชคดีก็คือ ถึงแม้ว่ามันจะมีพลังที่มหาศาลก็ตาม แต่พลังของฮวางซางก็ไม่ได้อ่อนลงแต่อย่างใด ในขณะที่ฮวางซางถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนถอยร่อนไปนั้น สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ถูกโต้กลับจนสั่นเทือนกลับไป จนล้มลงไปกองกับพื้นห่างจากฮวางซางไปหลายเมตรเช่นกัน
“ชักจะยุ่งยากซะแล้ว!”
แต่ทว่าถึงแม้ว่าจะถูกโจมตีจนถอยร่นไป แต่ฮวางซางกลับไม่ได้คลายความกังวลที่เกิดขึ้นภายในใจแต่อย่างใด เขากลับรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาแทน
เพราะในเวลานี้เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อค้นพบว่าแท่งโลหะที่อยู่ในมือของเขาอย่างเหล็กงัดได้เกิดรอยแตกบิ่นลึกๆหลายจุด เห็นได้ชัดว่ามันเกิดขึ้นจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวเมื่อสักครู่
แต่เมื่อมองจากรอยแตกบิ่นลึกๆนี้แล้ว ถ้าโชคไม่ดีละก็ เหล็กงัดนี้ก็คงจะไม่สามารถต้านทานการต่อสู้ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน!เมื่อถึงตอนนั้นถ้าไม่มีอาวุธแล้ว เขาจะเอาอะไรไปสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้ละ?
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ นอกจากพลังและเล็บอันแหลมคมแล้ว ความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็คือระดับความเร็วอันน่าหวาดกลัวและลิ้นสีเลือดที่ลึกลับอันนั้นต่างหาก ถ้าขืนยังต่อสู้กับมันต่อไป เขาก็คงจะได้ตายจริงๆแน่!
มันชักยุ่งยากมากเข้าไปอีก!