ตอนที่แล้วบทที่ 319 - แนวทางการขัดแย้ง (6) [31-01-2021]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 321 - ด้วยพลังของตัวนายเอง (1) [04-02-2021]

บทที่ 320 - แนวทางการขัดแย้ง (7) [02-02-2021]


บทที่ 320 - แนวทางการขัดแย้ง (7)

"พลังของเทพ?"

"ฟู่...."

เยอึนได้จ้องไปที่ดยุคด้วยสายตาที่เย็นชาและยกอาวุธของเธอขึ้นมาด้วยแขนทั้งสี่คู่ จากนั้นเธอก็พุ่งออกไปโดยไม่พูดอะไร

"มั่นใจได้เลยว่าโลกนี่มีคนที่พรสวรรค์มากจนเป็นบ้า!"

"ฮ่าห์!"

หลังจากที่ได้ส่งเสียงสั้นๆออกมามีดสั้นทั้งสองเล่มของเธอก็ได้เจาะเข้าไปที่ท้องของดยุค ดยุคได้พ่นเลือดสีน้ำเงินออกมาจากปากซึ่งมันได้กระจายไปบนร่างของเยอึน เธอก็น่าจะหลบมันได้ แต่ว่าเธอได้เลือกที่จะรับมันด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ฉันดูอยู่ด้ววยใบหน้าที่ตกใจ ดยุคก็หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ในขณะที่ยังเจ็บอยู่

"เจ้าไม่ได้รู้สึกถึงพลังที่เต็มอยู่ในพื้นที่นี้เลยหรอ? น่าสงสารจริงๆเลย อีกไม่นานเจ้าจะได้ตามฮีโร่ไปแล้ว!"

"ฟู่"

แขนอีกสามคู่ของเธอที่เกิดมาจากออร่าต่างก็ใช้อาวุธภายในมือ ข้างหนึ่งได้หยุดดยุคเอาไว้ด้วยโซ่สีดำ ข้างที่ได้ฟาดดยุคด้วยกระบองเหล็ก และข้างที่สามได้ฟันลงมาด้วยดาบ ข้างที่สี่ได้ใช้ตรีศูลแทงเข้ามา ข้างที่ห้างได้ฟาดเข้ามด้วยโล่ และข้างสุดท้ายก็ได้ทุบตยุคด้วยคทา

"เข้าใจแล้ว เจ้าเสียสติไป"

ดยุคได้เดาะลิ้นขึ้นและบินถอยหลังไปในขณะที่หลบการโจมีตีที่ตามมาของเยอึน เมื่อได้เห็นบาดแผลของดยุคที่ทำการฟื้นฟูอย่างงช้าๆคิ้วของเยอึนได้ขมวดขึ้น

"มันเป็นเรื่องยากที่จะลบล้างพลังของเทพอย่างแน่นอน แต่ดูแล้วเหมือนเจ้าเพิ่งจะได้พลังมาไม่นาน อย่่าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้ นอกจากนี้...!"

ดยุคได้ดีดนิ้วของเขาขึ้นมา เลือดของเขาที่กระจายอยู่บนตัวเยอึนได้เริ่มส่องแสงที่ดูอันตรายออกมา

"มันน่าจะเป็นการที่ดีที่สุดที่จะจัดการคนที่มีพรสวรรค์ก่อนที่จะได้พัฒนาไป! องค์เหนือหัวเดม่อนลอร์ดก็น่าจะพอพระทัย!"

"กรี๊ดดดดดดดด!"

เยอึนได้ร้องออกมา เวรเอ้ย ทำไมเธอไม่หลบเลือดนั่นล่ะ!? ฉันจะทำยังไงกับคำสาปนั่นดีนะ? ฉันได้แต่เค้นเสนอแต่ว่าก็ไม่มีคำตอบอะไรออกมาเลย ฉันก็แค่หวังได้แต่ว่าพลังของเทพจะช่วยให้เธอทนมันได้ ในเมื่อฉันมีอิลิกเซอร์อยู่มากดังนั้นตราบเท่าที่เธอรอดอยู่ฉันก็คงทำอะไรได้บ้าง

สำหรับตัวฉันถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่มันก็ไม่ร้ายแรงอะไร ดอร์ตูได้คุ้มกันฉันและฉันก็ได้ใช้การละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้าหดร่างและหลบออกมาทัน อาการบาดเจ็บของฉันมันมาจากการระเบิดที่ฉันหลบไม่ได้เพราะฉันถอดเกราะออกไปไม่ได้ นอกเหนือไปจากนั้นฉันก็ยังอยู่ในสภาพที่ดีกว่าดยุคที่บาดเจ็บจากเยอึน

ในตอนนี้ฉันกำลังใช้โลกมายาเพื่อซ่อนตัวตนจากดยุค ฉันได้วางแผนที่จะโจมตีดยุคในช่วงเวลาสำคัญที่เยอึนเข้าไปโจมตี แต่เพราะว่าเยอึนโดนคำสาปแผนของฉันถึงเปลื่ยนไป

แผนในตอนนี้ของฉันคือการเข้าไปใช้งานอิลิกเซอร์กับเยอึนเมื่อคำสาปทำงาน ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ตาย ฉันได้มีประสบการณ์กับมันมาแล้วครั้งหนึ่ง การระเบิดมันน่ากลัวจริงๆแต่ว่าพลังที่หุ้มร่างของเยอึนนั้นมันน่ากลัวยิ่งกว่า เธอได้ชื่อที่แท้จริงเป็นอะไรกันนะ!? แม้แต่พระศิวะก็ยังมีปฏิกิริยาเลย....

"ลาก่อนนะนักรบสาว! ข้าจะจดจำจิตวิญญาณของเจ้าไว้!"

"ฮ่าาาาห์!"

เขาได้เอื้อมมือออกไปด้วยท่าทางคล้ายกรงเล็บเหมือนกับที่ทำกับฉันก่อนหน้านี้ นี่คือสัญญาณของการเริ่มคำสาป

ยังไงก็ตามแขนของดยุคได้ระเบิดขึ้นแทนเยอึน

"อั๊ก!?"

"เฮะๆ"

เยอึนได้หัวเราะออกมาเหมือนกับเด็กและแทงมีดคู่ของเธอเข้าใส่ดยุค เธอได้ขยับได้เร็วมากจนฉันแทบจะมองไม่ทันเลย ดยุคได้พ่นเลือดออกมาอีกครั้ง แต่ว่าตอนนี้เขาน่าจะรู้แล้วว่าเลือดของเขาไม่มีผลต่อเยอึน

ในตอนนี้เมื่อมองไปที่เธอเลือดบนตัวเธอหายไปแล้ว ตอนแรกฉันก็สงสัยแต่ว่ามันดูเหมือนว่าเธอจะส่งคำสาปคืนกลับไปที่ดยุคจริงๆ

ใช่แล้วเธอได้ใช้พลังของเทพ ถึงแม้ว่าเธอจะเสียสติไปหน่อย แต่ว่าเธอก็ไม่น่าจะลืมในสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันแน่ ในตอนที่เธอใช้พลังของเธอ เธอก็ได้เลิอกใช้พลังได้ถูกต้องและย้อนคืนพลังของดยุคกับไป ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคือพลังของเทพอะไร แต่ว่ามันทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็ยินดีที่เธอปลอดภัย

"อึก เจ้าตั้งใจรับเลือดของฉัน!"

มันไม่มีคำตอบกลับมา เยอึนได้พุ่งเข้าไปหาดยุคด้วยแขนทั้งแปดข้างของเธออีกครั้งหนึ่ง ดยุคได้จับไหล่ที่ไร้แขนเอาไว้ด้วยมืออีกข้างและหลบหนีไป

ตามเส้นทางของดยุคได้มีบอลมานาปรากฏขึ้นยิงเข้าใส่เยยอึน แต่ว่าเธอก็ได้ทำลายพวกมันอย่างง่ายดายด้วยอาวุธในมือของเธอ ยังไงก็ตามมันก็พอแล้วสำหรับเวลา ดยุคได้เริ่มพึมพัมกับตัวเองราวกับจะร่ายเวทย์บางอย่าง

นี่มันได้เวลาที่ฉันจะเคลื่อนไหวแล้ว ฉันจะปล่อยให้เยอึนจัดการทุกอยางไม่ได้ ยังไงก็ตามก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรพื้นที่รอบๆตัวฉันได้ส่องแสงออกมา ในพื้นที่ที่ไร้แสงนี้มีเพียงแค่รอบๆฉันเท่านั้นที่ส่องแสง

'เกิดอะไรขึ้น?'

ฉันได้มองรอบๆอย่างสงสัยและรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในไม่ช้า แม้ว่ามันจะไร้สาระมาก แต่ว่าสิ่งที่ส่องแสงออกมาก็คือเศษชิ้นส่วนที่ระเบิดของเกราะความปรารถนาที่ดำมืด แต่ว่ามันไม่ได้มีแค่เศษเท่านั้น พวกมันยังเปียกไปด้วยเลือดและเนื้อของปีศาจระดับสูงที่โจมตีฉันก่อนหน้านี้

เศษซากที่เหลือของปีศาจก็ยังส่องแสงออกมาพร้อมๆกับเศษเกราะ เมื่อคิดถึงตอนนี้มันมีบางอย่างแปลกๆ พื้นที่นี้อาจจะเต็มไปด้วยพลังงานปีศาจที่น่ากลัว แต่ว่ามันก็ไม่ได้หมายถึงว่าวัตถุที่ไม่มีชีวิตเหมือนอย่างเศษเกราะกับศพของปีศาจที่เหลืออยู่จะต้องลอยบนท้องฟ้านี้

แม้อย่างนั้นสิ่งเหล่านี้ก็ได้ส่องประกายออกมาเหมือนกับดวงดาวในยามค่ำคืน ฉากที่ลึกลับนี้มันทำให้ฉันหมดคำพูดลงไป ถึงแม้ว่ามันจะสวยงามแต่มันก็ทำมาจากเลือดเนื้อและกระดูกของปีศาจ

ดยุคก็ยังเห็นภาพนี้เช่นกัน

"นี่มันอะไร? อึก!"

ยังไงก็ตามเขาก็ไม่สามารถจะขยับได้เนื่องจากเขาได้เผชิญกับการโจมตีของเยอึนอย่างต่อเนื่อง พลังในการฟื้นฟูของเขาดูน่าทึ่งจริงๆที่มันสามารถจะรักษาบาดแผลจากพลังของเทพได้แต่ว่าก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ใช้ได้ตลอด ใครๆก็เห็นได้อย่างชัดเจนที่ว่าเขากำลังพยายามหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ

"ฮ่าห์!"

"ไม่เป็นไร ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน"

พลังเวทย์ของดยุคได้พุ่งสูงขึ้นมา เยอึนอาจจะอยู่ในอันตรายแล้ว! แม้ว่าเธอจะใช้พลังของเทพอยู่แต่ว่าด้วยพลังของดันเจี้ยนที่ถูกยับยั้งไว้ ร่างกายของเยอึนจะทนได้ไม่นานนัก

[ข้าดอร์ตู นายท่านชุดเกราะอาจจะส่งสัญญาณบางอย่าง]

[ฉันก็คิดเหมือนนายดอร์ตู... อ่า!]

ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ถึงหินเสริมพลัง มันเป็นไอเทมเวทย์ที่จะอัพเกรดไอเทมได้ขั้นหนึ่ง! หลินได้บอกกับฉันว่าเขาได้ติดตั้งมันลงไปบนความปรารถนาที่ดำมืด เขาได้บอกว่าเกราะมันจะส่องแสงออกมาเมื่อถึงเวลา ในตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว!

นี่มันเป็นข่าวดีสำหรับฉันเลยหากว่าเกราะของฉันได้กลับคืนมา ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้นแต่มันยังจะอัพเกรดขึ้นไปอีกระดับด้วยเช่นกัน

ฉันได้ตรวจสอบในร่างกายอย่างตื่นเต้น ยังไงก็ตามฉันก็ตระหนักได้ว่ามันได้หายไปเมื่อเกราะถูกระเบิด

[ข้าดอร์ตู ดอร์ตูรู้ว่านายท่านกำลังหาอะไร มันดูเหมือนว่าจะตกลงพื้นไป]

[อ๊าาาาาาา!]

ฉันได้ห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ให้หลุดร้องออกมา ฉันได้พุ่งลงไปทั้งน้ำตาทันที เยอึนก็ได้ยื้อเอาไว้พักหนึ่ง

เมื่อลงมาฉันได้เลยผ่านไอกันธ์ไป ในตอนนี้เองไอกันธ์ได้ผงะและเดซี่ก็ผงะเล็กน้อย เธอได้แตะยุยที่ตัวแข็งไปจากการระเบิดของเกราะฉัน

"คังชินยังมีชีวิตอยู่"

"จะ จริงหรอ!? คุณรู้ได้ยังไง?"

"สัญญาณในความรักของผู้หญิง"

นี่มันเป็นการโกหกง่ายๆ! เธอเจอฉันเพราะไอกันธ์ต่างหาก!

ฉันอยากจะไปเขกหัวเธอจริงๆ แต่ว่าฉันจะต้องหาหินเสริมพลังให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป ฉันได้พุ่งลงไปในขณะที่แผ่มานาออกไปรอบๆ เจอแล้ว+

"กรรรร!"

หนึ่งในอันเดตของเมลิกำลังจะระเบิดข้างๆมันแล้ว ฉันได้ดึงพลังความเร็วศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุดและแม้กระทั่งใช้งานเพเตซัส ถ้าหากมีคนมากเห็นฉัน ฉันก็คงจะดูเหมือนสายฟ้าที่ตกลงมาจากฟ้าแน่

'ได้แล้ว'

ในขณะที่ฉันได้จับหินเสริมพลัง อันเดตก็ได้ระเบิดขึ้น ให้ตายสิ แนมั่นใจได้เลยว่าฉันได้เจอกับการระเบิดหลายครั้งแล้วนะในวันนี้! นี่มันเป็นเพราะฉันโยนมันฝรั่งหวานเลยโดนคำสาปงั้นหรอ?

ฉันได้แต่สาปส่งสวรรค์และพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมๆกับร่างกายที่บาดเจ็บ เพเตซัสและธาเลเรียที่ใช้ร่วมกันบวกกับความเร็วศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้ฉันกลายเป็นเส้นแสง หินเสริมพลังในตอนนี้กำลังอยู่ในมือที่กำแน่นของฉัน

"คังชิน โชคดีนะ"

เมื่อฉันได้ผ่านไอกันธ์เป็นครั้งที่สองเดซี่ก็สังเกตุเห็นฉันด้วยตัวเธอเองและส่งกำลังใจมาก ฉันกำลังเคลื่อนที่ได้เร็วเกินกว่าจะตอบกลับไป แต่ว่าแค่ได้ยินเสียงของเธอก็ทำให้ฉันเต็มไปด้วยพลังแล้ว

ฉันได้มาถึงที่ที่เศษของเกราะกำลังส่งแสงอยู่บนท้องฟ้า ฉันได้โยนหินเสริมพลังออกไปโดยไม่ลังเล แน่นอนว่าคนระดับอย่างดยุคปีศาจก็สังเกตุเห็นได้ง่ายๆเช่นกัน

"อืมม!? เจ้ายังไม่ตายฮีโร่! ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่ตาบกับแค่นั้น!"

"ฮ่าาาห์!"

ในระหว่างช่วงสั้นๆที่ฉันได้แยกออกไป ได้มีการปะทะกันนับไม่ถ้วนระหว่างเยอึนกับดยุคปีศาจ ทั้งสองคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ยังไงก็ตามเยอึนไม่สามารถฟื้นฟูแบบดยุคได้

เยอึนก็ยังพบฉันแล้วด้วย ดวงตาของเธอได้เบิกกว้างแวบหนึ่งและไม่นานนักเธอก็ยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สวยงามที่ทำให้ยากที่จะเชื่อว่าเธอเป็นคนๆเดียวกันกับที่โจมตีดยุคเมื่อไม่นานมานี้

ในเวลาต่อมาแขนทั้งหกข้างของเธอที่สร้างขึ้นมาจากออร่าสีดำได้เริ่มส่งแสงเปล่งปลั่ง อาวุธในมือของเธอได้

"ทุรุคา! นี่คือทุรุคา

ในตอนนี้เองฉันก็ยังรู้ได้เช่นกันว่ารูปแบบเดิมเธอคือพระแม่กาลี เธอมีผิวสีน้ำเงินดำและมีความกระหายเลือดอย่างมากที่อธิบายถึงพระแม่กาลี เทพธดากาลีเป็นภรรยาของพระศิวะและเพลิดเพลินไปกับการฆ่า ทุรุคาก็คือภรรยาของพระศิวะเช่นกัน เป็นหญิงสาวนักรบที่แข็งแกร่งและบริสุทธิ์

เทพธิดาทั้งสองเป็นเหมือนกับด้านดำและด้านขาว และนี่เองที่ทำให้เธอมีพลังมากมหาศาลกว่าเทพธรรมดาๆ

กาลีเป็นที่รู้จักกันดีในร่างอวตาลของทุรุคา แต่ว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นอวตาลของปีศาจ เทพธิดาที่มีทรงพลังในศาสนาฮินดู ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะได้รับพลังของเทพที่ทรงพลังแบบนี้

ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอมีทั้งพลังของกาลีและทุรุคา! บาดแผลของเธอได้หายไปอย่างสิ้นเชิงและสายตาขอเธอที่กำลังมองดยุคดูเหมือนกับนักรบหญิงที่กล้าหาญก้าวเข้ามาในสนามรบ

มันดูเหมือนดยุคที่มองมาที่เกราะของฉันอยู่ก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

"พลังของเทพอีกอย่างนึง!? ข้าคิดว่าฮีโร่เป็นคนเดียวที่มีพลังของเทพถึงสององค์ซะอีก!"

"หุหุ แกก็ซ่อนอะไรบางอย่างอยู่นี่ หากแกไม่รีบเอาออกมา แกจะถูกฉันฆ่าเอานะ"

มันดูเหมือนว่าจิตสำนึกของเยอึนจะกลับมาแล้ว เหมือนกับว่าพลังของกาลีจะทำให้เธอเสียจิตสำนึกไปในขณะที่ได้พลังในการสังหารศัตรูอย่างไร้ปราณี ในขณะที่พลังของทุรุคาจะให้พลังที่ทำให้เธอสงบและผลักดันศัตรูจนจนมุม

พูดตามตรงแล้วฉันคิดว่าพลังของกาลีเหมาะกับเยอึนมากกว่า แต่ว่าการมีชื่อของเทพทั้งสองอย่างก็เป็นเรื่องดีแล้ว ด้วยพลังของทุรุค่า เธอก็ได้ก้าวหน้ามาอีกขั้นแล้ว

"ไม่เป็นไร ข้าไม่มีเหตุผลอะไรจะปฏิเสธหากเจ้าพูดแบบนั้น"

ในขณะที่ฉันเฝ้ามองดูเกราะเศษเกราะของฉันที่ส่องแสงออกมาอย่างรุนแรง ฉันก็ได้ยินในคำพูดของดยุค และหันไปมองเขา เขาได้ยกแขนขึ้นมา เลือดได้กระจายออกมาจากแผลบนหน้าของของจนย้อมเขาไป มันดูเหมือนกับว่าเขาตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแบบนี้

"ข้าเก็บพลังเอาไว้เพราะคิดว่าฮีโร่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าในเมื่อทุกๆคนที่ข้าต้องฆ่ามารวมกันอยู่นี่แล้ว ข้าก็ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป! ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงพลังของผู้บัญชาการกองทัพ"

กรีนแลนด์ได้ขยับอีกครั้งหนึ่ง เลือดที่ฝังตัวในดินได้เริ่มลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า มันได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาจากพลังของปีศาจ

"วงเวทย์ของเขาเป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัวและน่าเกรงข้าม! ใช้การเสียสละพี่น้องร่วมเผ่าพันธ์เพื่อสร้างขึ้นมา มันจะทำร้ายทุกๆสิ่งนอกไปจากพวกเรา! มันไม่ได้ปกป้องในสิ่งที่ต้องปกป้อง แต่จะเป็นฆ่าในสิ่งที่ต้องฆ่า!"

ใช่แล้ว พวกนั้นมันเป็นตัวตายตัวแทนตั้งแต่แรกแล้ว จากวินาทีที่ฉันมาถึงกรีนแลนด์ พวกมันก็ได้เข้ามาหาฉันโดยไม่เห็นความสำคัญของชีวิตตัวเองเลย พวกมันต่างก็มีเป้าหมายเดียวคือฆ่าฉัน

ฉันก็ไม่ได้คิดว่าดยุคจะเป็นเหมือนกัน แต่ว่าฉันพลาดไป

"ฮีโร่กับนักรบหญิงที่ทรงพลัง! ยุคสมัยของเดม่อนลอร์ดกำลังจะมาแล้ว! ท่านจะเป็นจ้าวปกคลองทุกๆอย่าง! เขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสุดท้าย! เพื่อที่จะเป็นเกียรติให้กับความตายของเรา!"

ผู้บัญชาการกองทัพได้ตะโกนออกมาด้วยร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล เยอึนได้ขว้างจักรที่หุ้มด้วยพลังของทุรุคาออกไปและหยุดเขาด้วยโซ่ของเธอ ยังไงก็ตามพลังเวทย์ของเขาก็ไม่ได้ลดลงไปเลย

วงเวทย์มันทรงพลังอย่างแท้จริง มันได้เร่งความเร็วขึ้นและลอยออกมา มันใหญ่มากจนสายตาฉันมองได้ไม่หมด ยุยกับเดซี่ก็ยังตกใจเช่นกัน แต่ว่ามันก็ไม่สำคัญเนื่องจากว่าทุกๆอย่างในกรีนแลนด์ต่างก็เจอกระผลกระทบนี้

ฉันได้ยกเลิกการละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้าและโลกมายา พร้อมกับปรากฏตัวบนท้องฟ้า ดยุคได้ตะโกนออกมาทันที

"เจ้าไม่บาดเจ็บจากคำสาปได้ยังไงกัน!"

"ฉันมีภูมิคุ้มกันคำสาป แกแค่ระเบิดเกราะของฉันเท่านั้นเอง"

ดยุคได้หัวเราะออกมาอย่างตกตะลึงเมื่อได้ยินการตอบกลับที่สงบของฉัน แต่ว่าเสียงหัวเราะของเขาก็ดูเหมือนจะบอกว่า 'น่าทึ่ง แต่ว่าเจ้าจะทำอะไรกับสิ่งนี้ได้ไหม?'

เขาพูดถูกแล้ว ฉันได้หันไปมองวงเวทย์ที่เสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความตายจากปีศาจนับล้านจากนั้นก็มองไปที่ดยุค

"เฮ้ ฉันขอถามอะไรแกหน่อยสิ... เดม่อนลอร์ดมีพลังในการเห็นอนาคตปะ?"

"ถ้าเขาไม่มีมัน เวทย์นี้ก็จะไม่อยู่ที่นี่"

ฉันได้ปิดตาลงไป ฉันรู้ได้ว่ามันแปลก พวกเขาได้วางเวทย์ขนาดใหญ่แบบนี้ด้วยยการใช้ชีวิตเป็นส่วนผสม พวกเขารู้ว่าฉันจะต้องมาที่กรีนแลนด์ นี่ไม่ใช่คำทำนาย แต่ว่าเป็นการรับประกันที่แน่นอน มันเป็นพลังในการมองอนาคตเหมือนกับพลังของเคียร่า

เคียร่ายังไม่เชี่ยวชาญในพลังของเธอ เธอได้พัฒนามามาก พลังของเธอมีส่วนสำคัญอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเดม่อนลอร์ด

ฉันจะรอด แม้ว่าวงเวทย์นี่จะถูกเปิดใช้งานฉันก็มั่นใจว่าฉันจะไม่ตาย ฉันมีวงจรเพรูต้า วิญญาณสัมบูณณ์และโอเวอร์ลอร์ด แต่ว่าคนอื่นๆล่ะ?

แม้ว่าพวกเธอจะไม่มีพลังของดันเจี้ยน พวกเธอก็ต่อสู้ได้อย่างเปล่งประกายโดยเฉพาะกับเยอึน เธอได้ต้อนผู้บัญชาการกองทัพปีศาจจนจนมุมแมว่าจะไม่มีพลังของดันเจี้ยน คำว่ายอดเยี่ยมยังไม่พอเลยที่จะอธิบายในความสำเร็จของเธอ

ยังไงก็ตามแม้แบบนั้นเธอก็ไม่สามารถรอดไปจากความตายนี้ได้

ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะใช้ดวงตาของพระศิวะ ฉันไม่สามารถจะคาดหวังความช่วยเหลือจากเคนได้ในตอนนี้ เขาอยู่ในดันเจี้ยนและฉันไม่มีทางจะติดต่อเขาได้ มันยังเป็นไปได้อีกด้วยว่าวงเวทย์นี่จะไม่ส่งผลแค่กรีนแลนด์ แต่เป็นมหาสมุทร น่านฟ้าและแผ่นดินรอบๆ หากฉันไม่ใช้ดวงตาของพระศิวะมันจะเกิดการทำลายขึ้นอย่างมากแน่นอน

แม้ว่าฉันจะไม่มีทางเอาชนะเดม่อนลอร์ดได้หากไม่มีดวงตาของพระศิวะ แต่ว่ามันก็ช่วยไม่ให้พรรคพวกของฉันต้องตายได้ ถ้าหากว่าฉันได้เจอกับการเสียสละของพวกเขา ฉันจะต้องอ่อนแออย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ยังไงก็ตามก่อนที่ฉันจะได้ใช้พระศิวะได้มีคนเคลื่อนไหว เยอึนหรอ? ไม่สิ เธอกำลังเคลื่อนไหวอยู่จริงๆ แต่ว่าผู้บัญชากองทัพปีศาจกำลังเผชิญหน้ากับเธออยู่ งั้นก็เป็นเดซี่หรอ? แต่ว่าพลังของลากิไม่พอที่จะทำอะไรได้แน่ ยุยก็ดูจะช่วยสนับสนุนลากิด้วยลูนา แต่ว่าแม้กระทั่งลากิห้าตัวก็ไม่พอที่จะหยุดวงเวทย์นี่

สิ่งที่เคลื่อนไหวคือเศษของเกราะความปรารถนาที่ดำมืดที่ส่องแสงอยู่

มันได้ตกลงไปในวงเวทย์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด