ตอนที่แล้วตอนที่ 49 แผนใหม่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 51 วิริยภาพของโม่ข่า!

ตอนที่ 50 มุ่งหน้าสู่เทือกเขาไร้ขอบเขต


คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยปลุกทุกคนจากห้วงภวังค์

‘เต็นท์... มีที่แห่งเดียวใกล้ๆ สถาบันที่ต้องการเต็นท์... เทือกเขาไร้ขอบเขต!’

เมื่อพวกเขาคิดได้เช่นนั้น เหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นมาบนหน้าผากทุกคนทันที

‘อย่าบอกนะว่าพวกเราจะไปที่นั่น? แถมยังต้องนอนข้างนอก!?’

การรอครานี้ประดุจรอถูกตัดสินโทษ ถึงแม้พวกเขาจะคาดเดาได้ว่าโทษครั้งนี้คือสิ่งใด ไม่นานนักเสวี่ยอิ่งก็กลับมาพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า จากอิริยาบถแล้วแผนของนางคงเป็นไปได้ด้วยดี

“ไปเถอะ”

เสวี่ยอิ่งกล่าวง่ายๆ สองคำก่อนจะเดินนำทาง ทิศที่นางมุ่งหน้าคือประตูหลักของสถาบัน...

“พี่หญิงเสวี่ย พวกเรากำลังไปที่ไหน?”

เฉินฮุยมีสีหน้าเคร่งขรึมพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยยังคงตราตรึงอยู่ในใจ

“พวกเจ้าคงคาดเดาได้แล้วนี่? เหตุใดต้องถามอีก?”

เสวี่ยอิ่งยิ้มเยาะไม่ตอบคำถาม นางก้าวขายาวๆ ไปทางประตูหลัก หัวใจของทุกคนดิ่งวูบทันที

‘เป็นเช่นนั้นจริงๆ...’

“อาจารย์ ท่าน...?”

เมื่อพวกเขามาถึงประตู กลุ่มศิษย์ปีหนึ่งเดินมาขวางทางไว้ เสวี่ยอิ่งไม่รีรอหยิบยื่นกระดาษส่งให้พวกเขาดู รายละเอียดข้างในไม่สำคัญเท่าใดนัก แต่คำว่า ‘เล่ยซาน’ ตรงข้างล่างซ้ายที่มีกระแสปราณกำเนิดธาตุสายฟ้าพวยพุ่งออกมาก็เพียงพอให้พวกเขาเข้าใจ

ลายเซ็นเช่นนี้ไม่อาจปลอมแปลงได้ พูดอีกอย่างก็คือเสวี่ยอิ่งได้รับอนุญาตจากเล่ยซานแล้ว!

“เชิญ”

ศิษย์พี่ที่รักษาการณ์เปิดทางให้พวกเขาผ่านพลางจ้องมองกลุ่มป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกตะลึงเมื่อเห็นชุดศิษย์ใหม่ที่พวกเขาสวมใส่

‘คนพวกนี้กำลังเอาชีวิตไปทิ้งรึ!?’

ภายใต้สีหน้าแปลกประหลาดของศิษย์พี่ กลุ่มนักเรียนจากห้องคนเถื่อนรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ พวกเขากำลังจะได้กลายเป็นคนเถื่อนสมชื่อ...

หลังเดินออกจากประตู เสวี่ยอิ่งกวาดตามองรอบๆ พลางก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เดินไปสองชั่วโมงก่อนจะหยุด เมื่อหันหลังกลับไปดูพวกเขามองไม่เห็นสถาบันชิงหลัวอีกแล้ว

“ตรงนี้”

เสวี่ยอิ่งถอนหายใจอย่างพึงพอใจพลางสำรวจบริเวณรอบด้านก่อนจะเอาเต็นท์ออกจากแหวนมิติ ยี่สิบเต็นท์กองเรียงอยู่บนพื้นเป็นภูเขาขนาดย่อม

“พวกเจ้ามีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการติดตั้งเต็นท์พวกนี้เพราะเรายังต้องทำอย่างอื่นอีก แน่นอนว่าถ้าพวกเจ้าทำช้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องนอนดูดาวขณะหลับ สำหรับเรื่องสถาบัน พวกเจ้ามิอาจกลับไป เพราะข้าได้แจ้งท่านเจ้าสถาบันแล้วว่าคาบเรียนทั้งหมดในอีกหนึ่งเดือนให้หลังจะเป็นคาบเรียนนอกสถานที่”

เสวี่ยอิ่งตัดทางหนีทีไล่ผลักทุกคนลงหลุมอย่างความปราณี พวกเขาไร้ทางเลือกนอกจากเชื่อฟังนาง

อย่างที่นางเอ่ย เมื่อพวกเขาตามนางมาฝึกแล้ว ไฉนเลยจะล้มเลิกกลางคันได้! เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องนอนในที่โล่งแจ้ง ทั้งหมดรีบติดตั้งกางเต็นท์ทันทีถึงแม้ว่าแขนขาทั้งสี่จะอ่อนปวกเปียกมากก็ตาม... หลังจากพยายามอย่างหนักหนึ่งชั่วโมง เต็นท์ทั้งยี่สิบถูกติดตั้ง พวกเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นเช่นนี้

ต้องขอบคุณต้าหมิงและเสี่ยวหมิง ด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบ ทั้งสองเชี่ยวชาญเรื่องการติดตั้งเต็นท์เป็นอย่างมาก เต็นท์ถูกแบ่งออกเป็นสองด้านอย่างชัดเจน หนึ่งคือเต็นท์ของนักเรียนชาย สองคือเต็นท์ของศิษย์หญิงและเต็นท์สำหรับส่วนผสมยา มีเต็นท์สองหลังที่ว่างเปล่า ศิษย์ทั้งหมดไม่รู้ว่าเสวี่ยอิ่งต้องการให้พวกเขาทำเช่นใด

“ต่อไปคือส่วนที่มีประโยชน์ พวกเจ้าทั้งหมดต้องชอบแน่”

เสวี่ยอิ่งกล่าวพลางเอาถังน้ำยี่สิบถังออกมาจากแหวนมิติ

“วางหกอันไว้ที่ป่าด้านซ้าย สิบอันที่ป่าด้านขวา ที่เหลืออีกสี่วางไว้ตรงกลางฐาน ทุกคนไปตักน้ำมาเติมถังน้ำพวกนี้ให้เต็ม เมื่อเสร็จแล้วขนพวกมันมาที่ตรงกลางค่ายพัก โม่ข่าเจ้ารออยู่ที่นี่”

เสวี่ยอิ่งสั่งการหลายอย่างรวดเดียว ศิษย์ทุกคนมองยังไงก็ไม่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาตรงไหน

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามคำสั่ง โม่ข่าเต็มไปด้วยความกังวล หากเขาเลือกได้เขายอมเป็นทาสแรงงานเช่นพวกป๋ายเสี่ยวเฟยดีกว่าอยู่กับเสวี่ยอิ่งสองต่อสอง...

“ข้าได้ยินว่าเจ้าอยากเป็นนักปรุงโอสถ”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามง่ายๆ โม่ข่าอดไม่ได้ที่จะเหม่อมองเล็กน้อยเพราะเขาเตรียมใจทำงานหนักไว้แล้ว...

“ท่านกล่าวมิผิด...”

สุ้มเสียงของเขาไร้ความมั่นใจราวกับเกรงกลัวว่าตนพูดอันใดผิดไป

“เช่นนั้นหุ่นเชิดตัวแรกของเจ้าก็คือกระถางยาใช่หรือไม่? เอาออกมาให้ข้าดู”

เสวี่ยอิ่งแย้มยิ้มพลางสั่งการง่ายๆ

โม่ข่ายังคงไม่แน่ใจว่านางต้องการอันใด เขาหยิบกระถางยาขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากกระเป๋า เมื่อเขาส่งผ่านปราณกำเนิดเข้าไป กระถางยามีแสงสีเหลืองห่อหุ้มขณะที่มันขยายขนาดจนเท่าโม่ข่า

การปรับขนาดคือหนึ่งในความสามารถพื้นฐานของหุ่นเชิดกระถางยา หุ่นเชิดสีเหลืองตนนี้ถือได้ว่าหายากสำหรับมือใหม่อย่างโม่ข่า เขาซื้อมาด้วยเงินที่เก็บสะสมตั้งแต่เด็ก

“ขยายขนาดได้มากสุดเท่าใด?”

เสวี่ยอิ่งเผยสีหน้ายินดีเมื่อเห็นหุ่นเชิดกระถางยาระดับเหลือง ในขณะที่โม่ข่ามีสีหน้าประหลาดเมื่อได้ยิน

เขายังไม่รู้ว่านางต้องการอันใด จึงทำได้เพียงตอบแบบพื้นฐาน

“หากใหญ่เกินไปจะทำให้ควบคุมความร้อนได้ยาก...”

“ข้ารู้ แค่ทำให้มันใหญ่ก็พอ”

เสวี่ยอิ่งเร่งโม่ข่า ใบหน้ามีร่องรอยความคาดหวัง โม่ข่าส่งผ่านปราณกำเนิดระดับเริ่มต้นของเขาเข้าไป ในชั่วพริบตากระถางยาสูงใหญ่เทียบเท่าสิ่งก่อสร้างสองชั้น

“ข้าทำได้ใหญ่สุดเท่านี้ หากใหญ่ขึ้นอีกจะคงสภาพได้ยาก”

เหงื่อหลายหยดผุดขึ้นมาบนหน้าผาก โม่ข่าพยายามที่สุดแล้ว

“หืม เล็กกว่านี้ก็ได้ ยังไงก็พออยู่ดี”

นางยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจเพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผน!

โม่ข่าอยากถามเสวี่ยอิ่งเหลือเกินว่านางต้องการทำสิ่งใด แต่ท้ายที่สุดเขาก็กลืนคำพูดพวกนั้นลงไปเพราะเขาไม่ได้กล้าหาญเฉกเช่นป๋ายเสี่ยวเฟย... ไม่ช้าเขาก็รับรู้ว่าเหตุใดเขาจึงไม่ต้องไปตักน้ำ... เป็นเพราะเขามีงานที่ยากลำบากยิ่งกว่ารออยู่!

ศิษย์ที่เหลือทั้งสิบห้าทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ มือถือถังน้ำ ดวงตาทั้งสองเหม่อลอยเมื่อกระถางยาขนาดยักษ์ปรากฎเข้าสู่ครรลองสายตา

‘นี่มันเรื่องอันใด?’

“เอาล่ะ เทถังน้ำสิบหกถังเข้าไปในกระถางยา ที่เหลืออีกสี่วางทิ้งไว้!” โม่ข่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันใด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด