เล่ม1 : บทที่ 16 – ความก้าวหน้า
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 16 – ความก้าวหน้า
เมื่อโนอาห์ตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย
จิตใจของเขาพล่ามัวและเขาพยายามหันไปมองสิ่งต่างๆ รอบตัว
ทันใดนั้น คลื่นความเจ็บปวดก็กระแทกเข้าใส่ทั้งแผ่นหลังและศีรษะของเขาส่งผลให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงความรู้สึกของการถูกทารุณ
“อย่าขยับจะดีกว่านะ ร่างกายของเจ้ายังคงต้องได้รับการฟื้นฟูอยู่ นี่ผ่านไปแค่สองวันเท่านั้น จิตของเจ้าอ่อนล้า เช่นนั้นก็จงอย่าคิดที่จะใช้เวลานี้ลุกออกจากเตียงเพื่อฝึกฝน”
เสียงของวิลเลียมดังมาจากด้านข้างเตียง เขากำลังอ่านตำราเล่นหนึ่งแบบผ่านๆ หน้าต่อหน้า
“การรักษาสำเร็จหรือไม่ขอรับ?”
โนอาห์ถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ
“เจ้าไม่หลงเหลือสิ่งใดในจิตใจเลยหรือ? ใช่ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีและเมื่อการบำรุงรักษาวัฏจักรแรกผ่านไป เจ้าจะทำลายขอบเขตของร่างกายอันดับหนึ่งและจะทำให้เสถียรดังสภาพปกติ”
วิลเลียมปิดตำราและชามอ่างล้างหน้าที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเขียวจากโต๊ะข้างๆ
“ดื่มเสีย ทดแทนมื้ออาหารได้และมันจะเร่งกระบวนการฟื้นฟูร่างกายของเจ้า”
เขาจ่อชามอ่างที่ปากของโนอาห์และค่อยๆ เทของเหลวลงไปโดยคอยดูไม่ให้เขาเกิดการสำลัก
ความรู้สึกเย็นเยือกประดังเข้ามาหาโนอาห์ขณะที่เขาบังคับตัวเองให้ดื่มซุปนี้ เขากลืนมันลงไปโดยไม่ได้สนใจความเจ็บปวด
เมื่อดื่มเสร็จเขาก้รู้สึกง่วงอีกครั้ง
“ข้าคิดว่าข้าต้องพักผ่อนอีกสักหน่อย”
จากนั้นเขาก็หลับตาลงและหลับไปในทันที
วิลเลียมส่านหน้าแต่ใบหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้มอยู่เสมอ
‘การรักษาก็ยังคงเป็นอะไรที่แย่กว่าที่ข้าคิดอยู่ดีแต่เจ้าเด็กนี่กลับมันมือได้เป็นอย่างดี ด้วยความตั้งใจและพลังงานจิต ช่างรู้สึกเป็นสุขที่ได้มีศิษย์เช่นนี้’
วิลเลียมนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างเตียงและหยิบตำราที่เขากำลังอ่านขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะไม่ไปไหนจนกว่าลูกศิษย์ของเขาจะฟื้น
สามวันต่อมา โนอาห์สามารถลุกขึ้นยืนจากเตียงด้วยตนเองได้แล้ว แม้จะต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยก็ตาม
วิลเลียมยังคงอยู่ข้างๆ เขาและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
“ผ่านไปเพียงห้าวันเท่านั้น เจ้ากลับลุกขึ้นยืนได้แล้ว ประโยชน์ของกระบวนนรกเจ็ดขั้นช่างเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์เสียจริง แม้แต่พลังงานจิตของเจ้าก็ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อวาน ข้าเชื่อว่าอีกเพียงไม่กี่วันข้างหน้าเจ้าก็จะกลับมาแข็งแรงเช่นเดิม”
โนอาห์กำลังพยายามสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงในร่ากายของเขาขณะลุกขึ้นยืน เขาสัมผัสถึงพลังการดูดซับบนแผ่นหลังได้อย่างชัดเจน ที่คอยหมุนเวียน “ลมหายใจ” สู่ร่างกายของเขาเพื่อเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟู
“มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ท่านอาจารย์ ข้าคิดว่าหลังจากที่ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่แล้วและ”ลมหายใจ“จะเน้นไปทางด้านการบำรุงรักษาร่างกาย ความแข็งแกร่งของข้าจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ!”
วิลเลียมส่ายหน้า จนสังเกตว่าตั้งแต่เขาได้มาเป็นอาจารย์ของเด็กคนนี้ เขาก็เคยกับการส่ายหน้าจนติดเป็นนิสัย
“ตอนนี้เพ่งสมาธิของเจ้าไปที่การฟื้นฟูและทำความคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งใหม่ สัปดาห์หน้าเราจะต่อสู้กันโดยใช้”ลมหายใจ“กันทุกครั้งเนื่องจากการเติมเติม”ลมหายใจ“ใหม่นี้จะไม่มีผลต่อเวลาว่างของเจ้าอีกต่อไป”
เมื่อวิลเลียมว่าเช่นนั้น โนอาห์ก็ดูตื่นเต้นขึ้นและจดจ่ออยู่กับแค่การพักผ่อนอย่างเต็มที่
วันต่อมา โนอาห์กลับไปที่ห้องและต้องพบกับคำถามมากมายที่ก่อขึ้นมาจากความเป็นห่วงของแม่เขา
หลังจากปิดบังส่วนที่อันตรายจากแม่ของเขาได้ โนอาห์ก็กินมากขึ้นกว่าเดิมอย่างที่ในชีวิตไม่เคยกินมากขนาดนี้มาก่อน ลิลลี่ปล่อยเขากลับห้อง รู้สึกพึงพอใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกับลูกชาย
ชิวิตของโนอาห์กลับไปสู่จังหวะก่อนหน้าที่มีความแตกต่างเพียงข้อเดียวคือการที่เขาต้องฝึกฝนทุกสัปดห์โดยที่อาจารย์ของเขาจะยกระดับความยากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาจะสู้กันตลอดทั้งช่วงเช้าและการใช้ “ลมหายใจ” ของโนอาห์จะเชื่อมประสานเข้ากับรูปแบบดาบคู่ทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นในทุกๆ อิริยาบถ โดยอาจารย์ของเขาจะกล่าวถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วผ่านกระบวนการหลอมรวมนรกเจ็ดขั้น
แต่ความก้าวหน้าที่ใหญ่ที่สุดของเขายังคงเป็นส่วนของพลังงานจิต
ตอนนี้เขาสามารถฝึกฝนอักษรรูนคีเซอร์ได้ถึงห้าชั่วโมงติด ชัดเจนว่าจิตใจของเขาแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการอดทนต่อความเจ็บปวดจากการรักษา
‘ดูเหมือนว่าประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิสามารถเสริมสร้างความมั่นคงให้กับทะเลแห่งสติได้ ยิ่งสติปัญญาเพิ่มขึ้น บุคคลนั้นก็สามารถอดทนต่อการเปิดเผยของอักษรรูนได้’
โนอาห์ตระหนักสิ่งนี้ได้หลังจากอีกคืนของการฝึกฝนพลังงานจิต
ผ่านไปแล้วสองเดือนบัตั้งแต่วันที่เขาอยู่ในห้องทรมาน และเขารู้สึกว่าร่างกายของเขามาถึงสิ่งที่เรียกว่าขีดจำกัด แต่จุดฝังเข็มทั้งเจ็ดยังคงดูดซับ “ลมหายใจ” อยู่ ดังนั้นเขาจึงโยนความคิดเรื่องการได้รับการรักษาครั้งที่สองทิ้งไป
เขาเจ็บศีรษะเช่นทุกคืนหลังจากจ้องรูนเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงแต่ความเจ็บปวดไม่สามารถทำให้เขาหวาดกลัวจนหัวหดได้อีกต่อไป
‘หลังจากที่รอดพ้นจากวันนั้นมาได้ ฉันเกรงว่ารูปแบบของความเจ็บปวดจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย’
เขายิ้มจางๆ จากนั้นก็ไปนอนพักผ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อพระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบฟ้า เขาพรวดพราดตื่นขึ้นมากับความรู้สึกกระวนกระวายที่อยู่ภายในร่างกาย
เขาจ้องมองตัวเองและสังเกตว่ารูขุมขนหลั่งสารสีดำที่มีกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนออกมา
โนอาห์ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรและคิดว่านี่คงเป็นเพียงผลข้างเคียงจากกระบวนการหลอมรวมนรกเจ็ดขั้น เขารุดรีบกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องและวิ่งตรงไปยังตึกผู้พิทักษ์ทันที จากร่วงลงมาสู่ชั้นหนึ่งเพียงแค่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากเขาใช้งาน “ลมหายใจ” ภายในร่างกายเพื่อเสริมแกร่งความแข็งแรงร่างกายช่วงล่าง
เขาวิ่งเร็วที่สุดในชีวิต แต่ความรู้สึกกังวลที่มีนั้นเกินกว่าที่จะมาสังเกตว่าตนเองวิ่งเร็วแค่ไหน
เมื่อเขามาถึงชั้นหนึ่งของตึก เขาเร่งรีบขานเรียกอาจารย์ออกไป
“ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย! เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายข้าก็ไม่รู้”
วิลเลียมคือผู้ฝึกตนในวัยสี่สิบเอ็ดปี เขาฝึกตนมามากกว่ายี่สิบปี คนเช่นเขาจะรู้ทันทีที่ไม่ว่าใครก็ตามวิ่งเข้ามาใกล้ห้องของเขา แต่เขาก็มักจะเมินเฉยอยู่เสมอๆ เนื่องด้วยเป็นคนที่รักในการนอน
แต่ไม่ใช่กับวันนี้ เขาฝืนตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นศิษย์
เขารีบออกจากห้องและมองไปยังทิศทางของเสียง
ทุกจุดบนร่างกายโนอาห์ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าถูกปกคลุมด้วยของเหลวสีดำที่มีกลิ่นที่รุนแรง
จากสีหน้าของเขา คุณก็จะเห็นได้ชัดว่าเขามีความรู้สึกกังวลมากแค่ไหน
เมื่อวิลเลียมเห็นโนอาห์ในสภาพนั้น เขากลับเริ่มจากการเผยรอยยิ้มจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโกรธตัวเอง
‘เวรล่ะ ข้าลืมอธิบายเจ้าเด็กนี่เรื่องนั้นไปเสียสนิท ถ้าบอกก่อนหน้านี้ก็คงได้นอนต่อไม่ใครมาขัดขวางการนอนแล้วเชียว เอาเถอะ ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกันว่ามันจะมาเร็วเสียขนาดนี้’
เขาหาวและจากนั้นก็ขยี้ตาที่ยังฝืนถ่างออกไม่ให้ประกบกัน
เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางที่ไร้ซึ่งอารมณ์ร่วมของอาจารย์ โนอาห์ก็สงบสติลงเล็กน้อยและรอฟังคำอธิบายอย่างมีความอดทน
“มีเรื่องอะไร?”
น้ำเสียงของวิลเลียมดูขุ่นเคือง
โนอาห์รู้สึกประหลาดใจ
‘ก็เห็นๆ อยู่ไม่ใช่รึ?’
เขาคิด
“เอ่อ ข้าตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วสิ่งปฏิกูลนี่ก็ไหลออกมาจากร่างกายของข้า ท่านอธิบายให้ข้าเข้าใจได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่ท่านอาจารย์?”
วิลเลียมเก็บสีหน้าประหลาดใจเอาไว้และทำท่าทางเหมือนกับเขาไม่ได้สังเกตเห็นอะไรทั้งนั้นจนกระทั่งโนอาห์พูดขึ้นมา
“อ้อ ใช้ ร่างกายของเจ้าพัฒนาไปถึงอันดับหนึ่งแล้ว”