ตอนที่แล้วChapter 7: ออกไปข้างนอก (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 9: ตลาดขายของเก่า (อ่านฟรี)

Chapter 8: ดราม่าที่ร้านขายเครื่องประดับ (อ่านฟรี)


Chapter 8: ดราม่าที่ร้านขายเครื่องประดับ 

สุดท้ายกู้ม่านจึงตอบตกลง “ลูกต้องระวังตัวเองให้มาก ถ้ารู้สึกไม่สบายโทรหาแม่ทันที”

“หนูจะโทรนะคะ” กู้หนิงตอบและเดินออกไป

เมื่อกู้หนิงออกมาที่ถนน เธอมองไปที่มือถือตัวเองอย่างไม่ชอบใจ มันเป็นมือถือถูกๆและดูเก่ามากเหมือนถูกใช้งานมานาน

พูดตามตรงแล้วกู้หนิงคุ้นเคยกับสมาร์ทโฟนมากกว่าและเธอไม่ชอบปุ่มกดของมันเอาซะเลย

ฉันจะต้องหาเงินและซื้อสมาร์ทโฟนให้แม่และตัวเอง กู้หนิงคิดในใจ

ไม่มีรถบัสวิ่งไปยังตลาดของเก่าจากจุดที่กู้หนิงอยู่ ดังนั้นเธอตัดสินใจเข้าเมืองก่อน

โชคดีที่ตอนนี้ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน กู้หนิงจึงใช้เวลาเพียงสิบนาทีมาถึงตัวเมือง

กู้หนิงเดินลงจากรถบัสและเดินไปข้างหน้าอีกสามสิบเมตรเพื่อขึ้นรถบัสไปยังตลาดขายของเก่า

มีร้านเครื่องประดับหลายร้ายที่เป็นที่รู้จักกันดีในย่านการค้า

กู้หนิงถูกดึงดูดโดยหยกที่ถูกวางโชว์อยู่ในตู้กระจกในร้านขายเครื่องประดับใกล้ๆ เธอเดินเข้าไปดูข้างใน

แม้ว่าเธอจะรู้วิธีดูดซับพลัง แต่เธอยังไม่ได้ฝึกฝนและเธอสงสัยว่ามันจะรู้สึกอย่างไร

เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปในร้าน เธอได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาว่า

“ว๊าย นี่ใช่กู้หนิงรึเปล่าเนี่ย? เธอกล้าเข้ามาในร้านขายเครื่องประดับได้ยังไง ในเมื่อเงินจะกินข้าวยังไม่มี?”

ใช่ เมื่อกู้หนิงอยู่ที่โรงเรียนเธอเป็นที่รู้จักในเรื่องความยากจน

แม้ว่ากู้ม่านจะให้เงินเธอไปโรงเรียนทุกวันแต่ก็พอสำหรับค่าอาหารกลางวันเท่านั้น เธอประหยัดเงินเท่าที่เธอจะประหยัดได้ และกินขนมปังนึ่งเป็นอาหารแทน

นั่นคือที่มาของเงิน 500 หยวน

เด็กสาวที่พูดจาดูถูกเหยียดหยามกู้หนิงมีชื่อว่า จ้าวเฟยเฟย เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของกู้หนิง ในชั้นเรียนจ้าวเฟยเฟยมักหัวเราะเยาะกู้หนิง เธอมักทิ้งขยะบนโต๊ะและทำลายสมุดเรียนของกู้หนิง

เหตุผลที่จ้าวเฟยเฟยเกลียดกู้หนิงไม่ใช่เพราะเธอจน แต่เพราะกู้หนิงหน้าตาดีกว่าเธอ จ้าวเฟยเฟยที่ใครต่อใครต่างเรียกว่า “เด็กสาวที่สวยที่สุด” ท่ามกลางหมู่นักเรียนด้วยกัน เธอรู้สึกอิจฉากู้หนิง

กู้หนิงเป็นเพียงเด็กผู้หญิงจนๆที่มาจากครอบครัวจนๆ เธอจะสวยกว่าจ้าวเฟยเฟยได้อย่างไร!

และมีผู้หญิงอีกคนที่อายุเท่ากันยืนอยู่ข้างจ้าวเฟยเฟยแต่กู้หนิงไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

ทุกคนในร้านหันไปมองที่กู้หนิงเป็นจุดเดียว คนที่ได้รับการศึกษามาดียืนสงบนิ่งขณะที่คนที่หยิ่งยโสต่างมองด้วยความไม่ชอบใจ

โดยเฉพาะเมื่อกู้หนิงสวมเสื้อผ้าเก่า มันน่าละอายสำหรับพวกคนรวยที่ต้องมาอยู่ในสถานที่เดียวกับคนจน

แต่กู้หนิงไม่สนใจคนรอบข้างยกเว้นจ้าวเฟยเฟย

“นี่ไม่ใช่บ้านเธอ ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”

“งั้นแกสามารถซื้อของในนี้ได้งั้นสิ?” จ้าวเฟยเฟยหัวเราะเยาะ ทันใดนั้นก็แสร้งทำสีหน้าตกใจ “หรือแกวางแผนจะเข้ามาขโมย?”

ในเวลานั้นทุกคนที่มองกู้หนิงอยู่โดยเฉพาะพนักงานต่างตื่นตัวขึ้น ดูเหมือนว่าพวกเขาเชื่อที่จ้าวเฟยเฟยพูด

กู้หนิงรู้สึกรำคาญ “จ้าวเฟยเฟย เธอไม่มีหลักฐานอะไรเลยและฉันสามารถฟ้องเธอในข้อหาหมิ่นประมาทได้” ดวงตาของกู้หนิงเต็มไปด้วยความเย็นชา

“แก !”

จ้าวเฟยเฟยรู้สึกกลัวสายตากู้หนิงเป็นครั้งแรก และตกใจมากกว่าเดิมที่หล่อนโต้ตอบเธอ

ในอดีตไม่ว่าจ้าวเฟยเฟยจะหัวเราะเยาะกู้หนิงอย่างไร กู้นิ่งมักจะนิ่งเงียบมาโดยตลอด

“พี่คะ ไปเถอะค่ะ” เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างจ้าวเฟยเฟยรู้สึกเหมือนถูกข่มขู่ เธออยากจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

“ทำไมฉันต้องออกไปด้วยล่ะ? ฉันจะอยู่ที่นี่รอดูว่านังนี่จะมีปัญญาซื้ออะไรได้” จ้าวเฟยเฟยพูดเสียงดังขึ้น เธอไม่อยากวิ่งหนีต่อหน้ากู้หนิง

ในสายตาของเธอกู้หนิงเป็นนักเรียนจนๆไม่มีอำนาจ ความมั่งคั่งหรือการสนับสนุนใดๆ

จากนั้นเธอมองไปที่กู้หนิงด้วยความก้าวร้าว

“ฉันไม่คิดว่าฉันจำเป็นจะต้องซื้ออะไรเพียงเพราะฉันเดินเข้ามาในร้าน” กู้หนิงตอบโต้อีกครั้ง

“ถ้าแกไม่คิดจะซื้ออะไรก็ไม่ควรเข้ามาในนี้!” จ้าวเฟยเฟยยังคงยืนกราน

“ฉันแค่อยากจะเดินเข้ามาดูและนั่นไม่ใช่กงการอะไรของเธอ” กู้หนิงตอบกลับ

“แก..!” จ้าวเฟยเฟยไม่รู้ว่าจะสู้กลับยังไง

กู้หนิงไม่สนใจหล่อน พลางสาวท้าวเดินเข้าไป

แม้เหล่าคนรวยที่อยู่ในร้านนี้จะไม่ชอบคนจนแต่ก็ไม่มีใครหยุดกู้หนิง

อย่างที่กู้หนิงพูด คุณไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพียงเพราะคุณเดินเข้ามาในร้าน

แต่พนักงานร้านเครื่องประดับจับตาดูกู้หนิงอย่างใกล้ชิดทำอย่างกับว่าเธอเป็นหัวขโมยจริงๆ

จริงๆแล้วในร้านมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ทั่วร้านและเครื่องประดับก็อยู่ในตู้กระจกที่ถูกล็อคไว้ มันไม่ง่ายเลยที่จะขโมยออกมา

กู้หนิงรู้สึกไม่สบายใจที่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเดินไปยังตู้กระจกที่หยกถูกวางไว้และเพ่งมองดู ไม่กี่วินาทีต่อมามีหมอกสีขาวนวลปรากฏขึ้นเหนือหยกเหล่านั้นและหมอกนี้ก็เป็นพลังที่กู้หนิงต้องการ

อย่างไรก็ตามหมอกเหล่านี้ยังดูเบาบางซึ่งหมายความว่าหยกชิ้นนี้ยังดีไม่พอ

กู้หนิงไม่สนใจเธอยังคงมองไปที่หยก แต่ตู้กระจกขวางกั้นเธอกับหยกไว้ เธอไม่สามารถดูดซับพลังงานได้หากมีอะไรบางอย่างขวางกั้นระหว่างกลาง

กู้หนิงไม่ยอมแพ้ เธอถอนหายใจเบาๆแล้วรวบรวมสมาธิจ้องไปที่หยกชิ้นนั้นอีกครั้ง

“หยกแค่ชิ้นเดียวคนจนยังไม่มีปัญญาซื้อ พวกเขาทำได้แค่มองดูเท่านั้น น่าสงสารจริงๆ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

“จริงด้วย แค่หยกชิ้นเดียวทั้งชีวิตของเขาคงไม่มีปัญญาซื้อ!” ผู้หญิงอีกคนเห็นด้วย

กู้หนิงหมดคำพูด อะไรก็ตามที่คนจนทำดูเหมือนจะผิดไปหมด

แต่พวกเขาแน่ใจได้อย่างไรว่าทั้งชีวิตเธอไม่สามารถซื้อของเหล่านี้ได้? ตอนนี้เธอจนก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะจนตลอดไป

กู้หนิงหันไปมองผู้หญิงที่เพิ่งพูดขึ้นเมื่อสักครู่ พวกเขาอายุราวๆสี่สิบปี รูปร่างหน้าตาดี ทั้งคู่อยู่ในชุดหรูหรา

โดยเฉพาะคนทางขวา มีแหวนสามวงสวมอยู่บนนิ้วมือทั้งสอง ทั้งเพชร ทองและหยก ส่วนกำไลทองและกำไลหยกถูกสวมอยู่ที่ข้อมือทั้งสองข้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด