บทที่ 93 ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น!
บทที่ 93 ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น!
ผู้แปล loop
ดงซูบินนั้นรู้จักฉูหยวนตั้งแต่วันที่เขาย้ายมาที่อพาทเม้นท์แห่งนี้ เธอและแม่ของดงซูบินนับถือกันในฐานะพี่น้องดังนั้นซูบินเองก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกเธอว่าในคุณน้า แต่ด้วยความที่อายุห่างกันไม่มากจึงเรียกเพียงชื่อเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันที่รู้จักกันกับดงซูบิน ดงซูบินแอบชื่นชมเธอ เขาใฝ่ฝันที่จะจับมือเธอออกไปช็อปปิ้งหรือไปดูหนังในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และวันนี้ความปรารถนาของเขาก็เป็นจริง ทันใดนั้นเองเขาคิดว่านี่เป็นความฝัน เขารู้สึกถึงความสุขและความตื่นเต้นของเขา!
ฉูหยวนยังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ดงซูบินก็ไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้
ดงซูบินแอบมองไปที่เธอและบีบมือเธอ:“ฉูหยวนมือของเธอทำไมมันสวยจัง”
“หุบปากได้แล้ว” ฉูหยวนใช้หนังสือพิมพ์ตีหน้าอกของดงซูบินและมีสีหน้าเขินอายออกมา“ถ้านายยังทำเรื่องไร้สาระอยู่อีก! ฉันจะฉีกปากของนายส่ะ!”
“แต่ฉันพูดความจริงนะ” นี่เป็นครั้งแรกที่ดงซูบินได้จับมือผู้หญิง เขาเริ่มประหม่ามาก “เอ้อร์อาร์……เอยังมีหนังเรื่องอื่นอยากดูไหม? หนังรักโรแมนติกสนใจไหม?”
ฉูหยวนตอบด้วยความโมโห:“ไม่!”
“อา……ไหนๆวันนี้ก็ไม่ได้ทำงานแล้วก็หาหนังดูกันเถอะ”
ฉูหยวนกลอกตาของเธอ “ฉันไม่มีหนังพวกโรแมนติกหรอก นายอยากดูหนังสยองขวัญไหมล่ะ?”
"ฮะ? ก็ได้. ดูหนังสยองขวัญก็ได้ แผ่นหนังอยู่ที่ไหน?” ดงซูบินเดินไปที่คอนโซลทีวีและหาแผ่นดีวีดี. มันเป็นซีรีส์ล่าสุด เขาวางแผ่นดิสก์ลงในเครื่องเล่นดีวีดีและนั่งบนโซฟาด้วยรีโมทคอนโทรล หลังจากที่เขาเล่นหนังมือของเขาเอื้อมมือไปหาฉูหยวน เขาต้องการที่จะจับมือเธอต่อไป
แต่ ฉูหยวนเอามือหลบออกจากของดงซูบิน “หยุดเล่นได้แล้ว และดูหนังเรื่องนี้แทน”
ดงซูบินตอบอย่างจริงจัง “เอ่อ……ขอให้ฉันจับมือเธอไว้ ฉันกลัวว่าเธอจะกลัวหนังเรื่องนี้”
"…… ไม่จำเป็น. ฉันไม่กลัวหรอกเรื่องสยองขวัญเนี่ย”
‘เวรล่ะ! ไม่เป็นไร’ดงซูบินตอบ:“ฉันอายที่จะบอกว่าฉันนั้นกลัวหนังแนวนี้มากเลย! เธอช่วยจับมือของฉันให้หน่อย”
“นายนี้มันกะล่อนจริงๆ!” ฉูหยวนมองดงซูบินด้วยหางตาของเธอแล้วหยุดสักครู่ก่อนจะขยับมือซ้ายเข้าไปใกล้กับดงซูบิน
ดงซูบินดีใจมาก เขาเอื้อมมือมาจับมือเล็ก ๆที่สวยงาม พวกเขาจับมือกันและดูหนังสยองขวัญเรื่องนั้นนั้น หนังเรื่องนี้น่ากลัวมาก นักแสดงในเรื่องถูกฆ่าตายหลังจากผ่านไปช่วงหนึ่งของหนัง แต่ดงซูบินไม่ได้ตั้งใจดูหนังสักเท่าไร ถึงแม้ตาของดงซูบินจะดูหนังอยู่แต่เขารู้สึกมีความสุขในใจ ตลอดเวลาที่หนังดำเนินเรื่องเขาก็ยิ้มและหัวเราะออกมา
‘แปะ!’ฉูหยวนตบขาของดงซูบิน "นายหัวเราะทำไม? มันตลกไหมที่เห็นคนอื่นถูกฆ่าเนี่ย?”
“เอ่อ……หนังเรื่องนี้น่าสนใจ พวกมุมกล้องอะไรพวกนี้”
“หนังเรื่องนี้มันดียังไงกัน? สุดท้ายทุกคนก็ตายไปหมดอยู่แล้ว”
ดงซูบินเขารู้สึกตื่นเต้นมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง เขายังรู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่หนังจบลง ดงซูบินมองดูนาฬิกาของเขา ตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว “เกือบจะเที่ยงแล้ว พวกเราออกไปกินข้าวกันมั้ย ฉันจะพาเธอไปทานอาหารตะวันตกกัน เอ่อ ...... อาหารจีนก็ใช้ได้เอาที่เธอชอบ”
ฉูหยวน มองเขา “นายเพิ่งซื้อกระเป๋าและผ้าพันคอมาให้ฉันเมื่อวานนี้ นายต้องประหยัดเงินบ้างนะ เงินเดือนของนายก็น้อยกว่าของฉันอีก”
ดงซูบินตอบ:“มันไม่ใช่อย่างงั้นสักหน่อย ตอนนี้ฉันรวยกว่าเธออีก ไปกันเถอะ. อาหารตะวันตกหรืออาหารจีน”
ฉูหยวนได้ยินสิ่งที่ดงซูบินพูดและเคาะหัวของเขา:“เงินเดือนของนายมากกว่า 4,000 หยวนเหรอ? ฉันคิดว่าเงินเดือนของนายน่าจะไม่ถึง 3,000 หยวนด้วยซ้ำ อีกทั้งนายก็ต้องเอาเงินพวกนั้นใช้ในชีวิตประจำวันและส่งให้แม่ของนายอีก รวมไปถึงนายก็พึงซื้อของขวัญให้ฉัน สิ้นเดือนจะเหลือเงินอยู่เท่าไรเชียว? โอ้! เงินเดือนเดือนนี้ของนายก็ยังไม่ออกนิ แล้วนายซื้อของพวกนี้ให้ฉันนายเหลือเงินพอไหม? หากนายต้องการเงินฉันสามารถให้นายยืมได้นะ”
“อ่า……ฉันมีเงินจริงๆ” ตอนนี้ดงซูบินมีเงินมากกว่า 200,000 หยวนในบัญชีของเขา
“……ถึงอย่างงั้นเราก็ไม่ควรไปทานข้าวข้างนอก มันแพงมาก. พวกเราสามารถทำอาหารกินกันที่ห้องก็ได้นิ วัตถุดิบเราก็มีครบหมดแล้ว”
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของดงซูบินกับฉูหยวนเพิ่งยกระดับเพิ่มขึ้นจากเดิมไปอีกหนึ่งระดับ ดังนั้นดงซูบินจึงอยากจะพาเธอออกเดทจริงๆ แต่ฉูหยวนยืนกรานว่ากินข้าวอยู่ที่ห้องพัก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ไป“…อย่างงั้นก็ได้ งั้นเดียวฉันช่วยเธอทำอาหารเอง”
ฉูหยวนพยักหน้าและยืนขึ้น เธอมองไปที่ดงซูบิน:“……มือของนาย”
ดงซูบินยืนขึ้นและแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง "มือ? มือฉันมีอะไรผิดปกติ?”
ฉูหยวนจ้องไปที่ดงซูบินด้วยหางตา เธอมีเสน่ห์คล้ายกับสาวใหญ่ “นายไม่อายบางเหรอที่ทำแบบนี้? นายคิดว่าฉันไม่กล้าตีนายหรือยังไงกัน”
ดงซูบินปล่อยมือของเขาอย่างไม่เต็มใจเมื่อพวกเขาเข้าไปในครัว เขาหยิบมีดขึ้นมาแล้วเริ่มหั่นมะเขือเทศและแตงกวา ดงซูบินบินแอบมองไปหาฉูหยวน ที่กำลังล้างผักที่อ่างอยู่ หยดน้ำเล็กน้อยถูกกระเด็นใส่ต้นคอของเธอและไหลลงสู่รอยแยกตรงเนินอกจนเธอสะดุ้งออกมาและเธอก็เช็ดไปหน้าอกของเธอด้วยหลังมือของเธอ
ดงซูบินอาจรู้สึกได้อุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้น เขาเริ่มถามคำถามบางอย่างไปที่ฉูหยวน:“ฉูหยวนเธอมีแฟนไหม”
ฉูหยวนหยุดไปชั่วครู่แล้วตอบกลับโดยไม่หันหลังกลับขณะที่กำลังล้างแตงกวา “ทำไมนายถึงถามเรื่องนี้กัน?”
ดงซูบินวางมีดแล้วเช็ดมือของเขา “เอ่อ ... เธอไม่มีแฟนและฉันก็ไม่มีแฟนด้วย เราออกจะเหมาะสมกับนะ มันยอดเยี่ยมเลยใช่มั้ยล่ะ”
ฉูหยวนปิดก๊อกและหันมามองดงซูบินด้วยความโมโห “เยี่ยมยอด? นายอายุน้อยกว่าฉันอีกน่ะ!”
“อ๊าห์ ...... เธออายุมากกว่าฉันไม่กี่ปีเอง”
“นายไม่เคยได้ยินวลีในปักกิ่งหรือ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 3 ปีเปรียบได้กับอิฐสีทอง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 5 ปี……”ฉูหยวนไม่ได้พูดต่อ
ดงซูบินเคยได้ยินวลีนี้ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 3 ปีเปรียบได้กับอิฐสีทอง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 5 ปีมีเปรียบได้กับการเป็นแม่ วลีที่เธอพูดออกมันเธอพยายามจะหมายความว่าถ้า เธอเป็นผู้หญิงที่แก่กว่าเขา 5 ปี เธอจึงได้เป็นแม่อีกคนของเขา และมันเป็นวีถีชีวิตและความเชื่อของคนสมัยก่อน ดงซูบินกำลังเฝ้าสังเกตการแสดงออกและท่าทางของฉูหยวน “อายุมากกว่า 5 ปีแล้วยังไง แม้ว่าเธอจะแก่กว่าฉัน 50 ปีฉันก็ยังจะชอบเธออยู่ดี!”
ฉูหยวนหัวเราะออกมาและตอบด้วยท่าทีที่โมโห “นายกำลังบอกว่าฉันเป็นยายแก่ยังงั้นหรอ?”
“ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างงั้นสักหน่อย ฉันแค่……อยากบอกเธอว่าความแตกต่างของอายุมันไม่ใช่ปัญหา”
“ถึงมันจะไม่เป็นปัญหา นายอายุน้อยกว่าฉันมาก ความสัมพันธ์ของฉันกับแม่ของนายก็เป็นปัญหาอยู่ดี หยุดพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว คนอื่นจะหัวเราะเยาะนายได้” ฉูหยวนส่งแตงกวาไปให้ดงซูบิน “หั่นมันให้หน่อย”
“เธอกำลังบอกว่าถ้าแม่ของฉันเห็นด้วยเราสามารถเริ่มออกเดทกันได้เลยถูกไหม?”
“ฉันก็ไม่ได้หมายถึงอย่างงั้น”
"ฮะ? ถ้าอย่างนั้นเธอหมายความว่าอย่างไร”
“ฉันขอให้นายรีบๆหั่นแตงกวาเร็วๆ!”
“อา……บอกฉันเถอะว่าเธอหมายถึงอะไร”
ฉูหนวยเริ่มหน้าแดงและเธอยกมือขึ้น “ถ้านายไม่เริ่มหั่นแตงกวาฉันจะตบนาย!”
ดงซูบินรู้สึกผิดหวังเมื่อเขาไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ เขาหยุดถามและเริ่มหั่นแตงกวา ถูกหั่นหลายๆขนาด
ฉูหยวนมองไปที่ดงซูบิน “มีอะไรผิดปกติ”
‘เกิดอะไรขึ้น มันคงไม่มีความสุขแน่ๆเลยถ้าฉันระบายความในเรื่องของความผิดหวังของฉันในตอนนี้!’ ดงซูบินเริ่มสงบลงและเริ่มที่จะเปลี่ยนไปหั่นมันฝรั่ง
ฉูหยวนถอนหายใจและพูดพึมพำ:“เด็กคนนี้ชั่งร้ายกาจเหลือเกิน” เธอหยุดชั่วครู่หนึ่ง "……, ขอมือหน่อย."
"ทำไม?"
“ฉันขอมือนาย”
ดงซูบินยื่นมือของเขาออกมาด้วยความงุนงง
ฉูหยวนมองเขาแล้วจับมือช้าๆ “ตอนนี้นายสามารถหั่นผักอย่างถูกต้องจะได้ไหม”
"ฮะ? ฉันจะหั่นผักด้วยมือเดียวได้อย่างไร”
“นั่นคือปัญหาของนาย”
ดงซูบินกลืนน้ำลายของเขา เขารู้ว่าเขาไม่ควรรีบเร่งให้เธอมีความสัมพันธ์กับเขา ฉูหยวนปล่อยให้ดงซูบินจับมือเธอไว้แล้วและนี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเธอก็ชอบเขาเช่นกัน ดงซูบินรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาทันที เขาตัดสินใจที่จะค่อยๆก้าวความสัมพันธ์ไปทีละขั้น วันนี้เขาพึงจับมือเธอแล้วจับขาของเธอ ครั้งต่อไปเขาต้องการที่จะลองจูบกับเธอ!