เล่ม1 : บทที่ 15 – อดทนไว้!
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 15 – อดทนไว้!
“ข้อเสียหลักคือการรักษามีอัตราการเสียชีวิตสูงเนื่องจาก หากผิดพลาดครั้งเดียวอาจทำให้สิ่งตัวอย่างเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ตัวกระบวนการยังมีความยากลำบากเนื่องจากสิ่งตัวอย่างจะต้องควบคุม”ลมหายใจ“ในขณะที่ร่างกายกำลังถูกทำลายและกำลังถูกสร้างขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่กระบวนการทำลายไม่สามารถได้โดยสิ่งตัวอย่างเนื่องจากจุดฝังเข็มอยู่ข้างหลัง จึงจำเป็นต้องมีผู้ช่วยที่มีทักษะความชำนาญ สิ่งตัวอย่างไม่สามารถฝึกฝนกระบวนการบำรุงรักษาร่างกายใดๆ ได้จนกว่าจะครบขั้นตอนการรักษาทั้งหมดเจ็ดครั้ง เนื่องจากจุดฝังเข็มยังคงเปราะบางและไม่สามารถทนต่อกระบวนการบำรุงรักษาได้ สุดท้ายคือเรื่องของความคุ้มค่าของการใช้กระบวนการนี้ เนื่องจากสิ่งตัวอย่างเพียงต้องรอจนกว่าตันเถียนจะปรากฏจากนั้นก็ใช้กระบวนการบำรุงรักษาแบบดั้งเดิมแทนการที่จะต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ตำราระบุไว้ว่า หมอบ้า ผู้สร้างกระบวนนี้ได้รับความเสียหายที่ตันเถียนแต่ไม่ยอมแพ้ให้กับการฝึกตนและนั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของกระบวนนี้”
โนอาห์อธิบายไปเรื่อยๆ ขณะเดินตามวิลเลียมลงไปตามทางเดินหิน อาจารย์ของเขาจะพยักหน้าทุกครั้งที่เขาอธิบายประโยคหนึ่งๆ จบ
เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังทั้งคู่ขณะแหล่งกำเนิดแสงเดียวมอดดับไป มันเป็นเสียงของกำแพงปิดลงอีกครั้ง
จากนั้นโนอาห์ก็เห็นแสงอ่อนๆ ที่ด้านล่างทางเดินซึ่งเป็นคบเพลิงไม้ที่ติดอยู่บนกำแพงโถงทางเดิน
ด้วยพลังงานจิตของเขาที่ตอนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง การเดินลงไปเรื่อยๆ จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแม้ก่อนที่ดวงตาของเขาจะคุ้นชินกับความมืดด้วยซ้ำ
“ข้อดีเมื่อครบทั้งเจ็ดวัฏจักรคือจะได้รับร่างกายอันดับสามที่ไวต่อ”ลมหายใจ“อย่างมาก ดังนั้นมันจะช่วยเพิ่มการใช้ศิลปะการต่อสู้และเสริมสร้างประสาทสัมผัสให้แข็งแกร่งขึ้น เหตุผลที่ทำให้ร่างกายได้รับการพิจารณาให้เป็นอันดับสามหลังจากที่วัฏจักรทั้งเจ็ดนั้น คุณภาพของ”ลมหายใจ“จะเท่ากับคุณภาพที่มีในตันเถียน เช่นนั้นระดับของการบำรุงรักษาก็จะเท่ากัน นอกจากนี้ยังแตกต่างจากเคล็ดวิชาการบำรุงรักษาอื่นๆ กระบวนนรกเจ็ดขั้นไม่จำเป็นต้องทำสมาธิโดยใช้รูปแบบหรือท่าทางเพื่อเติมเต็ม”ลมหายใจ“ในร่างกายเพราะจุดฝังเข็มสร้างขึ้นมาเพื่อรักษาการดูดซับ”ลมหายใจ“ตามวัฏจักรของสิ่งตัวอย่างอย่างต่อเนื่องจนกว่าร่างกายจะได้รับการเติม”ลมหายใจ“จนเต็ม อย่างสุดท้าย เมื่อสิ้นสุดการรักษา ร่างกายจะทำงานเหมือนกับตันเถียนขนาดเล็ก ดังนั้นกระบวนการดูดซับของผู้ฝึกตนจะเร็วขึ้นและพื้นที่ในการกักเก็บก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน มันเป็นการเน้นย้ำว่าข้อดีส่วนใหญ่จะลดประสิทธิภาพลงเมื่อผู้ฝึกตนก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น”
ขณะที่โนอาห์กำลังพูด พวกเขาได้เดินผ่านลูกกรงเหล็กจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่า มีเพียงแค่บางลูกกรงเท่านั้นที่มีนักโทษถูกล่ามโซ่เอาไว้อยู่ข้างใน พวกเขาไม่มีทั้งเนื้อหนังหรือแม้แต่กระดูก
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เลี้ยวไปทางขวาและผ่านประตูเหล็กเข้าไปสู่ห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทรมาน
วิลเลียมชี้ไปยังโต๊ะเหล็กสนิมเขรอะตัวหนึ่งที่มีกุญแจมือห้อยอยู่สองข้าง
“ถอดเสื้อออกและนอนคว่ำลงบนพื้น ข้าจะมัดเจ้ากับโต๊ะและจะเอาเศษผ้าให้เจ้ากัดไว้ ต่อจากนั้นเราจะเริ่มกัน”
ขณะที่โนอาห์กำลังจะถอดเสื้อ วิลเลียมก็วางมือบนไหล่ของเขาและถามอย่างลังเล
“นับจากนี้ไปเจ้าจะถอยไม่ได้แล้วนะ นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้าที่จะหยุดตัวเองจากการทำสิ่งที่เจ้าอาจจะเสียใจไปตลอด”
โนอาห์ยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าวิลเลียมเป็นกังวลแค่ไหนและตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
“มันไม่ทางให้ข้าถอยกลับแล้วท่านอาจารย์ ไม่มีแล้วนับตั้งแต่ที่บุตรนอกสมรสคนนี้มีฝันโง่ๆ ที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นในสักวัน”
จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อออกและร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าก็ค่อยๆ ทอดลงบนโต๊ะเหล็ก แขนและขากางออก แผ่นหลังชี้สู้เพดาน
วิลเลียมรู้สึกสังเวชเล็กน้อย
สวรรค์และโลกยุติธรรมต่อทุกคนโดยการมอบความสามารถและกระบวนให้แก่พวกเขาเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่มนุษย์ยังโลภและผูกขาดกระบวนเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังที่มากขึ้น
‘หากเป็นพลังที่เจ้าแสวงหา เจ้าจะต้องรับใช้ผู้คนเหล่านั้นที่ช่วยสอนเจ้าให้ได้มาซึ่งพลัง ข้าเพียงสงสัยว่าข้าจะทำอย่างไรหากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเจ้าเด็กคนนี้’
เมื่อสำรวจเด็กอายุสิบปีครึ่งผู้นี้ที่กำลังนอนอยู่บนโต๊ะที่ถูกใช้เพื่อทรมานนักโทษ วิลเลียมก็เดินเข้ามาใกล้ขึ้น
ขั้นตอนแรก เขาล่ามโซ่ที่แขนและขาทั้งสองข้างของโนอาห์ด้วยกุญแจมือ จากนั้นก็เขาก็หญิบเศษผ้าจากด้านในแขนเสื้อยัดใส่ปากโนอาห์
“ข้าจะเริ่มการททำลายจุดฝังเข็มทั้งเจ็ดตามคำอธิบายของหมอบ้าแล้วเจ้าจะเป็นตัวของตัวเอง โชคดี”
วิลเลียมวางมือบนหลังโนอาห์และตั้งสมาธิ
เขาตรวจสอบร่างกายเพื่อค้นตาตำแหน่งของจุดฝังเข็มที่แน่นอนและเมื่อเขาพบครบทุกจุด เขาก็รวบรวมเศษเส้นใยทั้งเจ็ดของ “ลมหายใจ” จากตันเถียนของเขาเองและสอดใส่เข้าไปข้างหลังของเด็กหนุ่ม
“ข้าจะเริ่มล่ะนะ”
โนอาห์กำโซ่แน่นพร้อมรับคลื่นความเจ็บปวด
จึ้ก!
เศษเส้นใยของ “ลมหายใจ” เส้นแรกได้รับการปลูกถ่ายเพื่อทำลายจุดฝังเข็มจุดแรก
คลื่นความเจ็บปวดอันมหาศาลเล่นผ่านทั่วร่างของโนอาห์ขณะปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาผ่านเศษผ้าที่เขากัดอยู่ในปาก
“อ๊ากกกกกกกกก!”
เขารู้สึกเหมือนแผ่นหลังกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาดิ้นพล่านเพื่อพยายามหนีออกจากความเจ็บปวดในร่างกาย
วิลเลียมยังคงไม่ยินดียินร้ายเนื่องจากเขารู้ว่าเขาไม่สามารถสูญเสียสมาธิกับเศษเส้นใยที่เหลืออีกหกเส้นได้
“เอาล่ะ จุดที่สอง!”
เขาตะโกน
จึ้ก! จึ้ก!
เศษเส้นใยเส้นที่สองได้รับการปลูกถ่ายเพื่อทำลายจุดฝังเข็มที่สอดคล้องกัน
ครั้งนี้โนอาห์รู้สึกเหมือนกับมีใครใช้ค้อนทุบหลังของเขาจนแตกละเอียด
แม้ในขณะที่เขากำลังกรีดร้องและดิ้นพล่าน โนอาห์ก็ได้แต่ย้ำประโยคเดิมกับตัวเองวนซ้ำในใจไปเรื่อยๆ
‘อดทนไว้! อดทนไว้! อดทนไว้!’
ความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่การมีสติ ระหว่างกระบวนการนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่พิเศษด้วยพลังงานจิตของเขา
แต่วิลเลียมไม่รอช้าที่จะปล่อยให้เขาได้หยุดพักหายใจ
“จุดที่สาม!”
จึ้ก! จึ้ก! จึ้ก!
โนอาห์หยุดที่จะควบคุมร่างกายของเขา หรือจะพูดให้ถูกก็คือเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้อีกต่อไป
หากไม่ใช่เพราะวิลเลียมล่ามเขาไว้บนโต๊ะ เขาอาจจะสลัดแขนขาหนีออกจากพันธนาการนี้
คราบเลือดปรากฏบนเศษผ้าในปากของโนอาห์เนื่องจากเขาเอาแต่กรีดร้องอย่างไม่หยุดพัก
เขาเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หรือตะโกนออกมากันแน่ แต่ประโยคในจิตใจของเขายังคงดังก้องเช่นเดิม
‘อดทนไว้!’
“จุดสุดท้าย!”
จึ้ก!
ครั้งนี้ความเจ็บปวดไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กลับเป็นความรู้สึกที่เขาคุ้นเคย
‘นี่หรือ... ความตาย? มีเส้นบางๆ คั่นอยู่ระหว่างความตายและการสร้างใหม่ของร่างกายงั้นสินะ! เอาเลยสิ!’
วงของการดูดซับถูกสร้างขึ้นและวิลเลียมก็คอยประคองร่างของโนอาห์เพื่อปล่อยให้เขาอยู่กับการสร้างขึ้นใหม่
ผ่านทุกความเจ็บปวดและความรู้สึกของร่างกายที่กำลังจะตาย ในที่สุดโนอาห์ก็สัมผัสถึงการมีอยู่ของ “ลมหายใจ” ข้างหลัง มันถูกสั่งสมด้วยความรวดเร็วและไหลวนอยู่ในตัวเขา
‘เอาล่ะ!’
เมื่อเพิกเฉยต่อความรู้สึกทั้งหมด เขาจึงมุ่งความสนใจไปที่ “ลมหายใจ” เพื่อดึงมันไปยังตำแหน่งที่อยู่ของจุดฝังเข็มทั้งเจ็ดจุด
“ลมหายใจ” เข้าสู่พื้นที่ว่างและสะสมจนกว่าจะเต็มพื้นที่
หลังจากพื้นที่เต็มแล้ว โนอาห์ก็ใช้ “ลมหายใจ” ที่ยังเหลือเพื่อปิดพื้นที่รอบๆ จุดฝังเข็มใหม่จากนั้นก็รอให้มันก่อตัว
“ลมหายใจ” ผสมรวมกับเศษกระดูกบางส่วนทีละเล็กทีละน้อยจนเริ่มแข็งขึ้น และเชื่อมโยงกระดูกเข้ากับระบบโครงร่างและระบบไหลเวียนเลือด
คลื่นความเจ็บปวดอีกระลอกโถมใส่โนอาห์เนื่องจากจุกฝังเข็มใหม่กำลังซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่มีอยู่ในร่างกายนี้ และเขาก็พร้อมรับคลื่นลูกนี้แล้ว
เขายึดมั่นกับชีวิตที่ค่อยๆ เลื่อนห่างออกไปสู่ความมืดมิดที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
จากนั้นกระบวนการทำให้จุดฝังเข็มจุดแรกแข็งขึ้นก็เสร็จสิ้นลงและซ่อมแซมตัวมันเองอย่างสมบูรณ์แบบภายในร่างกายของโนอาห์
คลื่นของความแข็งแกร่งวิ่งเข้ามาหาเขาเนื่องจากจุดฝังเข็มเริ่มทำงาน
ถึงเวลาสำหรับจุดฝังเข็มใหม่จุดที่สอง ต่อมาก็จุดที่สาม จนกระทั่งจุดที่เจ็ด เริ่มทำงานอย่างเหมาะสมภายในร่างกายของโนอาห์
เขาจับยึดกับขอบเขตที่เขาสร้างเพื่อแยกออกจากกระบวนการเพราะความกลัวว่าจะเกิดความผิดปกติอะไรขึ้น แต่ความรู้สึกที่ความมืดมิดเริ่มห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ทำให้เขาเริ่มผ่อนคลายและควบคุมสติได้ดีขึ้น
ด้วยชีวิตใหม่ที่เข้ามาทดแทน ความง่วงนอนเริ่มเข้ามาควบคุมในขณะที่เขายังคงฝืนตัวเองไม่ให้หลับ วิลเลียมยื่นมือออกไปและกระซิบว่า
“ทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าทำได้ พักผ่อนเสีย”
การต้านทานทางจิตใจสุดท้ายของโนอาห์ดับสิ้นลงเมื่อได้ยินคำพูดนั้นและเขาก็หมดสติไป