58 การปรากฏตัวของผู้บัญชาการรบ
58 การปรากฏตัวของผู้บัญชาการรบ
ในเวลานี้ เรือธงเหลียวหยวนฮ่าวได้ส่งเสียงประหลาดออกมา
มีผู้ฝึกตนอยู่ภายในศูนย์มอนิเตอร์ และผู้เข้าแข่งขันที่พ่ายแพ้จำนวน 2,400 คนอยู่ภายในห้องโถงด้านนอก
คนหนุ่มสาวเหล่านี้รู้สึกโศกเศร้าอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนที่พวกเขาจะหันไปให้ความสนใจกับหน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่ และรอคอยการแข่งขันรอบสุดท้ายที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ
เพราะการที่พวกเขาได้เฝ้ามอง การต่อสู้ของเหล่าผู้ฝึกตนในอนาคต ที่เปล่งประกายราวกับดวงดาว ก็เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของพวกเขาได้เช่นกัน
ภายใต้การเฝ้ามองของคนกลุ่มใหญ่ ทำให้รู้สึกว่าเวลา 3 ชั่วโมงผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว การแข่งขันท้าทายขีดจำกัด...ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว!
“บูมม! บูมมมมมมมมมมม!”
วงแหวนอักขระควบคุมได้ถูกปลดออกจากเกาะมังกรปีศาจ เหล่าสัตว์อสูรที่ถูกตรึงเอาไว้เป็นเวลาสามชั่วโมง ได้พุ่งตัวออกไปอย่างหมดความอดทน พวกมันขู่คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพื่อปลดปล่อยความเกรี้ยวกราดที่อยู่ภายในใจของพวกมัน
“โฮก! โฮก! โฮก!”
เสียงร้องคำรามอันแกร่งกล้าราวกับเสียงท้องฟ้าคำราม ดังออกมาจากใต้ดิน
เมื่อได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้าย สัตว์อสูรน่ายำเกรงเมื่อครู่ก็พากันแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา พร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้าน
ในจุดที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้หลายร้อยจุดทั่วเกาะมังกรปีศาจ ได้เกิดประกายแสงของวงแหวนอักขระส่องประกายออกมา
ภายใต้แสงไฟอันเจิดจ้า สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งพร้อมกับร่างกายอันใหญ่โต ที่ทั้งดุร้าย, เหี้ยมโหด และเต็มไปด้วยบรรยากาศรอบตัวที่อันตรายก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา!
พวกมันโผล่หัวออกมาและสำรวจไปรอบๆ พวกเขาขยับจมูกเพื่อสูดกลิ่นของเนื้อสดๆที่ลอยอยู่ในอากาศ และกลิ่นเนื้อที่หอมหวนก็ได้ทำให้พวกมันบ้าคลั่งขึ้น พวกมันส่ายหัวและส่ายหาง แยกเขี้ยวและกางกรงเล็บอันแหลมคม แล้วกระโจนตัวเข้าไปในส่วนลึกของป่าใหญ่!
และตรงหน้าของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 600 ปุจิที่ติดตามพวกเขาก็ได้แสดงรายชื่อของผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 600 คน
ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 600 คนจะถูกแบ่งออกเป็นทีม คือ ทีมสีแดงและทีมสีน้ำเงิน ซึ่งสีของทีมนั้นจะปรากฏอยู่บนตัวของปุจิของแต่ละคน
ในเวลาเดียวกัน ช่องสนทนาระหว่างผู้เข้าแข่งขันก็ได้เปลี่ยนไป นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเขาสามารถส่งข้อความไปยังคนที่อยู่ทีมเดียวกันเท่านั้น
หลี่เย้าไล่ดูรายชื่อทั้ง 600 คนด้วยความเร็วสูง และพบว่า เขานั้นอยู่ทีมสีแดง
ส่วนเฮ่อเหลียนเลี่ยและซือเจียเสวี่ยถูกแยกไปอยู่ในทีมสีน้ำเงิน แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ เจิ้งตงหมิงนั้นได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมเดียวกันกับเขา
“เฮ่อเหลียนเลี่ย ก็อย่างที่นายบอกเอาไว้ เกาะมังกรปีศาจเป็นเกาะที่ใหญ่มาก และในเลาเดียวกันมันก็เล็กมาก ฉันก็ได้แต่หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันนะ!”
หลี่เย้าตรวจสอบอาร์ติเฟ็กซ์ของตัวเอง และหัวเราะออกมาด้วยความมั่นใจ
อาวุธของเขานั้นมีกริชสั้นอยู่สองด้าม พวกมันถูกป้ายด้วยโคลนสีดำสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดประกายล่อแสง ซึ่งดูราวกับคมเขี้ยวของปีศาจร้าย
หลังจากที่เก็บกริชเอาไว้ที่เข็มขัดตรงเอวของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตรวจสอบดูระเบิดที่อยู่ภายในกระเป๋าเป้ทหารของเขา หลี่เย้ากระโดดเข้าไปน่า และหายตัวไปในหมู่แมกไม้
ความเข้มข้นของการแข่งขันในรอบตัดสินนั้น มากกว่ารอบแรกหลายร้อยเท่า!
นอกจากสัตว์อสูรแข็งแกร่งใหม่ๆอีกนับร้อยที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่ตามป่าแล้ว ก็ยังมีผู้เข้าแข่งขันที่เคยรวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่ม ก่อนที่พวกเขาจะแยกตัวออกเป็นสองทีม ปุจิของแต่ละคนก็ได้สองแสงสีแดงและน้ำเงินออกมา
ภายใต้สายตาที่จับจ้องสมาชิกของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาได้กลายมาเป็น “ถุงexp” ที่มีใส่คะแนนจำนวนมากเอาไว้!
เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่รวมกลุ่มหัวเราะเฮฮาด้วยกันไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้เปลี่ยนกลายเป้นการฆ่าฟันนองเลือดในพริบตา!
เวลาผ่านไปเพียงแค่ 5 นาที ผู้เข้าแข่งขันจำนวน 37 คนก็ต้องออกไปจากการแข่งขัน และคะแนนของพวกเขาก็ถูกปล้นไปโดยผู้เข้าแข่งขันที่ “จัดการ” พวกเขาได้นั่นเอง
รายชื่ออันดับได้ถูกแสดงอยู่ภายในศูนย์มอนิเตอร์ รายชื่อ 100 อันดับแรกได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวินาที!
“ทุกคนอย่าตื่นตระหนกไป เราควรจะรวบรวมสติและต่อสู้ให้เหมือนกับทหารของกองทัพแห่งสหพันธรัฐ! ผมมีชื่อว่า เกาเย่ และครอบครัวของผมก็เป็นทหารด้วย ผมได้ติดตามพ่อและอาของผม เพื่อเรียนรู้ยุทธวิธีทางทหารของหน่วยพิเศษ ผมมีความในการคำนวณและสั่งการ ทุกคน ฟังคำสั่งของผม โปรดมารวมกลุ่มกับผม! ถ้าหากคุณอยู่ไกลจากผม โปรดรวมกลุ่มเข้ากับคนที่อยู่ใกล้ๆคุณ และสร้างทีมต่อสู้ขนาดเล็กขึ้น!”
เกิดเสียงดังขึ้นมาผ่านทางช่องทางการสื่อสารของทีมสีน้ำเงิน
มันเป็นน้ำเสียงที่แหบ แต่กลับเต็มไปด้วยพลังและความมั่นใจ ทำไมคนที่ได้ยินเชื่อในคำพูดของเขาในทันที
มีสมาชิกของทีมสีน้ำเงินจำนวนหนึ่งที่ยังคงลังเลอยู่ จากนั้น พวกเขาก็เคลื่อนตัวเข้าไปรวมตัวใกล้กับเกาเย่
“ผู้บัญชาการของทีมสีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว!” ผู้ฝึกตนที่เฝ้ามองอยู่ที่ศูนย์มอนิเตอร์ต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 600 คนได้ถูกแบ่งออกเป็นสองทีมในรอบสุดท้าย ความสามารถในการต่อสู้ของแต่ละคนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป แต่เป็นการที่ทุกคนสามารถรวมตัวกันได้ในช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุด และก่อตั้งเป็นทีมขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับสัตว์อสูรและทีมศัตรู
สามารถพูดได้ว่า ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทีมไหนที่มีผู้มีพรสวรรค์ประเภทการบริหารในด้านบัญชาการรบ ปรากฏขึ้นมาเป็นทีมแรก พวกเขาก็จะสามารถคว้าความได้เปรียบก่อนอีกทีม และมีโอกาสสูงที่จะสามารถคว้าชัยชนะมาได้!
ในการแข่งขันก่อนๆ มักจะใช้ในการต่อสู้อย่างรุนแรงและต้องจ่ายอะไรไปมากมายเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน กว่าที่ “ผู้บัญชาการ” จะปรากฏตัวออกมาได้
มันจึงเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างมาก ที่ในการแข่งขันจะมีผู้มีพรสวรรค์ในด้านบัญชาการรบอยู่ด้วย ความวุ่นวายของทีมสีน้ำเงินจึงถูกควบคุมเอาไว้ได้ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที
ภายในช่องทางการสื่อสารของทีมสีน้ำเงิน เกาเย่สั่งการไปทีละขั้นตอน ด้วยความสงบและใจเย็น โดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ปฏิเสธคำสั่งของเขาเลย
ถึงแม้ว่าจะมีบางคนที่ตั้งคำถามกับการตัดสินใจบางอย่างของเขา เกาเย่ก็จะอธิบายและพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขาได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาจึงได้แต่ตกตะลึงและยอมรับคำสั่งของเกาเย่แต่โดยดี
ภายใต้การออกคำสั่งของเกาเย่ ผู้เข้าแข่งขันกว่า 280+คน ก็ค่อยๆรวมตัวเข้าด้วยกัน และสร้างรูปแบบการต่อสู้ตามมาตรฐานขึ้นมา
กลุ่มผู้เข้าแข่งขันสิบหรือมากกว่านั้นได้รวมตัวกันเพื่อสร้างทีมล่า และพวกเขาได้สังหารสัตว์อสูรที่เพิ่งออกมาจากวงแหวนอักขระที่ควบคุมพวกมันเอาไว้ได้ไม่นาน!
ในทางกลับกัน ทีมสีแดงนั้นกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ในผู้เข้าแข่งขันทั้ง 300 คนกลับไม่มีผู้มีพรสวรรค์ประเภทการบริหารเลย เกิดเสียงจอแจมากมายดังขึ้นภายในช่องสื่อสารของทีม ถ้าเธอพูด ฉันก็พูดให้ดังกว่า เกิดเสียงแย่งกันพูดของหลายๆคน มันคล้ายกับช่วงเวลาที่ซุปเปอร์มาร์เกตขายของเซลล์ยังไงยังงั้น
“การตื่นรากวิญญาณของฉันอยู่ที่ 75% ให้ฉันเป็นคนบัญชาการทีมสีแดง ทุกคนมารวมตัวกันที่ฉัน! มารวมตัวที่ฉัน!”
“ใครมันจะไปสนใจการตื่นรากวิญญาณ 75% ของนายกัน การตื่นของฉันอยู่ที่ 77% ฉันสามารถฆ่าสัตว์อสูรสองตัวได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ฉันรู้ดีว่า ตัวเองบัญชาการรบไม่เป็น ไอ้หนู นายควรอยู่ที่ของตัวเองไปนั่นแหละดีแล้ว!”
“นาย...นายมันอวดดี นายมาจากโรงเรียนไหน? หลังจากจบการแข่งขัน ก็อย่าเพิ่งรีบกลับไปล่ะ!”
“ทุกคนเงียบ! อันดับแรก เรามารีบคิดหาทางออกกันก่อนเถอะ ฉันเห็นว่า ทางทีมสีน้ำเงินเหมือนจะรวมตัวกันแล้ว ฝั่งเราถูกพวกเขาจัดการไปแล้ว พวกเขาจัดทีมเจ็ดถึงแปดคนเพื่อมาจัดการคนฝั่งเราทีละสองสามคน ว้ากกกก!”
“ไม่ดีแล้ว มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากๆออกมาในจุดที่ฉันอยู่ เพื่อนร่วมทีมของฉัน...ใครก็ได้ช่วยที!”
“ไม่ไป เราจะอยู่คอยสกัดทีมสีน้ำเงินตรงนี้ โถ่เว้ย เวรแล้ว ทำไมถึงได้มีคนของทีมสีน้ำเงินอยู่ทุกที่เลย! ทีมสีแดง ทีมสีแดงไปอยู่ที่ไหนกันหมดวะ!”
ร่างกายของหลี่เย้าถูกทาด้วยโคลนสีดำจนทั่วทั้งตัว แล้วยังมีหญ้า, ท่อนไม้ และเถาวัลย์พันเอาไว้อีกที เขาหลบซ่อนตัวเองอยู่ลึกเข้าไปในหมู่กิ่งไม้และรอคอยอย่างใจเย็น
เสี่ยวจี่ ปุจิที่ติดตามเขาก็ถูกอำพรางเอาไว้ด้วยโคลนและเถาวัลย์ เขาลดเสียงจากช่องทางการสื่อสารของทีมลง และปรับความสว่างของหน้าจอการสื่อสารลงให้เหลือน้อยที่สุด
เฝ้ามองและมองดู หลี่เย้าถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
เขาไม่คิดเลยว่า อัจฉริยะในด้านบัญชาการรบจะปรากฏขึ้นมาในทีมศัตรู ในขณะที่ทีมของเขาก็กำลังเละเทะไปหมด ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะค่อนข้างเสียเปรียบอยู่มาก
หลี่เย้ารู้ตัวเองดี ทักษะของเขาก็คือการประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ ไม่ใช่การสั่งการ และเขาก็ไม่มีความสามารถหรือพรสวรรค์ ในการใช้คำพูดเพื่อชักจูงคนอื่นๆให้เชื่อฟังเขาได้ รวมทั้งความสามารถในการทำให้ตัวเองเป็นที่นับถือและเคารพก็ไม่มีเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนสั่งการคนอื่น
และถ้าเขาเข้าไปรวมกลุ่มกับทีม เขาก็จะกลายเป็นที่หัวเราะและตัวตลกสำหรับคนในทีมมากกว่า
“บางทีอาจจะได้เวลาที่ฉันต้องใช้วิธีการพิเศษของฉันแล้ว!” หลี่เย้าลูบของสิ่งหนึ่งที่ทั้งแข็งและหยาบกระด้างใยมือเขา
มันคืออาร์ติเฟ็กซ์ชิ้นหนึ่ง ที่เขาทำขึ้นมาเป็นชิ้นแรกเมื่ออยู่ที่จุดเก็บเสบียง...มันก็คือรีโมทคอนโทรล