บทที่ 312 - ทะลวงผ่าน (5) [17-01-2021]
บทที่ 312 - ทะลวงผ่าน (5)
”
หลังจากที่ได้ทะลวงผ่านดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 86 ไปแล้วฉันก็ได้พักเล็กน้อยก่อนตรงเข้าสู่บียอน เนื่องจากซัคคิวบิได้บอกให้ฉันรอสักสัปดาห์ทำให้ฉันได้วางแผนจะจัดการเคลียร์ดันเจี้ยนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ก่อนจะถึงตอนนั้น
บียอนชั้นที่ 36 ได้มีกลุ่มมอนสเตอร์แวมไพร์ลอร์ด พวกมันต่างก็เป็นร่างก็อปปี้จากลอร์ดแวมไพร์ตามปกติที่ถูกเชอริฟิน่าสร้างขึ้นมา แต่ว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะอ่อนแอไปกว่าลอร์ดแวมไพร์ จริงๆแล้วพวกมันแข็งแกร่งและน่ารำคาญมากกว่าซะอีก
พวกขยับไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระจึงทำให้ดูเหมือนว่าพวกมันอยู่ในทุกๆที่ในเวลาเดียวกันและด้วยมานาที่ไม่สิ้นสุดของมันทำให้พวกมันได้เล็งโจมตีมาที่คอของฉันด้วยเวทย์โลหิตอย่างต่อเนื่อง
แต่โชคร้ายสำหรับพวกมันที่ได้พบกับฉันที่ได้เจอกับความยากลำบากอย่างมากมาแล้ว ศัตรูที่ฉันเคยเจอมาก่อนพวกมันเป็นถึงกองทัพศัตรูของโลกเลยนะ ถึงแม้ว่าฉันจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ว่าเพียงแค่สี่วันฉันก็ได้เคลียร์ชั้นที่ 36 มาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
โรเล็ตต้าก็ดูจะคอยการกลับมาของฉันนานแล้วทำให้เธอต้อนรับฉันเป็นอย่างดีและส่งน้ำฟื้นฟูร่างกายให้กับฉัน ในขณะที่ฉันดื่มมันลงไปและคลายความล้าของตัวเองในหลายๆวันที่ผ่านมา โรเล็ตต้าก็ได้ถมขึ้นมา
ชิน แล้วชินผ่านชั้นที่ 31 จนถึงชั้นที่ 35 เร็วแบบนี้ได้ยังไงกัน
ซัคคิวบิกับอินคิวบิรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคู่ต้องสู้กับฉันและหลีกทางให้ฉัน พวกเขาบอกกับฉันแค่ว่าฉันจะต้องไปสู้กับลิลิธ
จริงดิ
จริง!!
หูของโรเล็ตต้าได้กระพือขึ้นมาและหัวเราะขึ้น
พวกเขาฉลาดจริงเลย เพราะแบบนี้ทำให้พวกเขาได้มีชีวิตที่สงบสุขไปอีกยาวนาน
ลิลิธตายไปแล้วและเชอริฟิน่าก็บอกว่าเธอจะไม่ฟื้นคืนมาอีก แล้วทีนี่ใครจะไปแทนที่เธอล่ะ
เชอริฟิน่าอาจจะทำร่างปลอมขึ้นมาด้วยการเลือกซัคคิวบิ
นั่นมันไม่ยุติ---
โรเล็ตต้าได้เอามือปิดปากฉันเอาไว้จากนั้นเธอก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มน่ารัก
มันเป็นการยากที่จะเอาแบบดั้งเดิมขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ แต่ว่ามันเป็นการงานที่จะทำของปลอมขึ้นมาจากการใช้พลังกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว ด้วยพลังของลอร์ดมันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้บอสประจำชั้นเป็นที่ยอมรับได้ จริงๆแล้วลิลิธนั่นก็แค่แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่ฉันก็เห็นเธอแค่ครั้งเดียว....
โรเล็ตต้าได้ทำท่าทางกังวลเล็กน้อย อ่า เมื่อคิดถึงตอนนี้แล้วโรเล็ตต้าก็มีดวงมารแห่งเสน่ห์นี่นา ฉันได้มองไปที่สายตาเป็นประกายของเธอ เนื่องจากว่าเสน่ห์ของฉันได้เพิ่มขึ้นมา ฉันก็เลยรู้สึกได้เหมือนกับว่าโรเล็ตต้ากำลังลดการยับยั้งในดวงตามารของเธออยู่
ไม่สิ มันไม่ใช่แค่รู้สึก ดวงตาของเธอได้ผยแสงออกมาอยู่ในตอนนี้ แต่แม้แบบนั้นฉันก็ไม่ได้รับผลกระทบของมันเลย เหตุผลมันก็ง่ายมาก นั่นมันเพราะการที่ฉันมีค่าเสน่ห์ที่สูงมากและฉันยังกลายเป็นครึ่งอินคิวบัสด้วย... อ๊า แค่คิดถึงมันฉันก็อยากจะบ้าแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามในตอนที่โรเล็ตต้าเจอลิลิธอาจจะเป็นในตอนที่เธอมีเขาบนหัวก็ได้
....เธอแพ้
ชินอยากจะโดนอัดหรอ
มันดูเหมือนว่าฉันจะพูดถูก โรเล็ตต้าได้ตัวสั่นและกำหมัดของเธอแน่นราวกับว่าความภาคภูมิใจของเธอได้พังลงไป ฉันได้จับมือของเธอเอาไว้ด้วยความคิดที่ว่าเธอน่ารักมาก
ไม่ต้องห่วงน่าโรเล็ตต้าคือคนที่มีเสน่ห์ที่สุดสำหรับฉัน
ฉันรู้ว่าชินพูดแบบนี้กับทุกคน
เธอได้ประชดออกมาแต่ว่าเธอก็ไม่สามารถจะซ่อนแก้มที่แดงและหูที่กระพือของเธอไว้ได้ ในตอนที่ยังเป็นหุ่นเชิดอยู่ฉันจำได้ว่าเธอซ่อนอารมณ์ได้เก่งมากเลยนะ... แต่ดูเหมือนว่าร่างจริงของเธอจะไม่ได้มีทักษะแบบนั้นเลยสักนิด
ฉันทำได้แต่หัวเราะออกมาในสถานการณ์นี้แต่ว่าการสนทนาของเรามันก็ได้ทำให้ฉันกังวลเล็กน้อย ถึงแม้ว่าโรเล็ตต้าจะไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนจนถึงตอนนี้ แต่ว่ามันก็เป็นเหมือนกับระเบิดเวลา! หัวสมองของฉันมันได้ทำงานหนักยิ่งกว่าการต่อสู้ซะอีก แต่ว่าฉันก็ยังไม่สามารถจะพูดอะไรได้ ฉันจะไปเป็นคนสองใจได้ไงในเมื่อฉันยังไม่เคยไปเดทกับใครเลย ด้วยความที่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรทำให้ฉันจูบไปที่แก้มของโรเล็ตต้าและกระซิบเบาๆ
ไม่ ฉันพูดแบบนี้แค่กับโรเล็ตต้า
จริงนะ
จริง เธอไปถามฮวาหยากับคนอื่นๆได้เลย
แต่ว่าคุณชอบฮวาหยามากกว่าฉันใช่ไหม
...แน่นอนสิว่าไม่
ฉันไม่ได้ตอบกลับไปในทันที ฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้พวกเธออยู่ในระดับไหนในหัวของฉัน อ่า! สายฟ้าของโรเล็ตต้าจ้องมาที่ฉันอย่างหนักแล้ว! นี่มันเป็นสิ่งที่ฉันจะต้องแลกไปเมื่อเดินถนนสายนี้งั้นหรอ+ฦ
โรเล็ตต้าได้จ้องฉันพร้อมกับแก้มที่พองขึ้นจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา ฉันได้เสริมอย่างรวดเร็ว
ฉันชอบโรเล็ตต้าที่สุดจริงๆนะ มองที่ฉันสิ ฉันมองเห็นแต่โรเล็ตต้าเท่านั้น
...อูวว ฉันเกลียดตัวเองจริงๆที่มาตกหลุมพรางคำหวานๆแบบนี้
จริงๆแล้วโรเล็ตต้าเป็นคน... ใจดี! เมื่อเห็นความตรึงเครียดได้หายไปจากร่างของเธอ ฉันได้กอดและลูบผมของเธอบเาๆ
ขอบคุณที่เข้าใจฉันนะ ฉันชอบเธอจริงๆโรเล็ตต้า
ฉันรู้ มันเป็นความผิดของฉันที่ตกหลุมรักไปเอง และเมื่อคิดจากสิ่งที่ชินจะต้องทำให้อนาคตมันทำให้พวกเธอไม่ได้มีความคิดอื่นที่ดีแน่นอน แต่ว่ามันก็ยัง....
นี่มันไม่ใช่แค่ในทางปฏิบัติเท่านั้น แต่ว่าฉันรู้สึกยังไงกับฮวาหยาหรือรูเดีย แล้วก็ยัง... ไม่สิ ฉันจะต้องฝังอารมณ์พวกนี้เอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ฉันได้นึกไปถึงคำแนะนำของหลินที่ให้มากับฉัน
'ถ้าหากว่านายอยากจะมีผู้หญิงหลายๆคนก็จงมั่นใจและควบคุมการสั่งการ แล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่นายเผชิญหน้าอยู่ในว่าเธอคือที่สุด' เพื่อที่จะทำแบบนี้ฉันไม่ควรไปคิดถึงผู้หญิงคนอื่น
....หลิน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ
...ชิน ฉันดีที่สุดใช่ไหม
โรเล็ตต้าเธอได้มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เป็นกังวล อ๊าาา ฉันเผลอปล่อยความคิดหลุดไปงั้นหรอ! ฉันได้จัดการความคิดเรื่องคำแนะนำของหลินและนับตัวจริงฉันกลับมา อย่าโกหก! ต่อสู้กับสิ่งในหัวมันไม่ได้อะไรเลย มันต้องเป็นความจริงเท่านั้น!
นี่มันเป็นการสารภาพรักครั้งแรกของฉันที่ได้ทำ เธอไม่เชื่อหรอ
คำพูดมันไม่พอ
โรเล็ตต้าได้ยื่นริมฝีปากของเธออกมา ดวงตาของเธอได้ปิดอยู่แต่ว่าหูของเธอได้กระพือไปมาราวกับพายุ
พิสูจน์ ฉันต้องการการพิสูจน์
เธอเล็งเรื่องนี้เอาไว้แต่แรกแล้ว
พิสูจน์สิเร็วเข้า
โรเล็ตต้าได้ย้ำอีกรั้งหนึ่งพร้อมกับยื่นริมฝีปากของเธอออกมา เธอดูน่ารักมากและคู่มือของหลินที่อยู่ในหัวฉันมันก็ได้หายไปในทันที ด้านหน้าฉันมีนกน้อยที่น่ารักที่ขอให้ฉันมอบความรักให้ แต่ยังไงก็ตามมันเป็นเรื่องยากที่จะทำแบบนั้น
ฉันต้องการมากกว่านี้
เชอริฟิน่าน่าจะดูเราอยู่
ใครจะสนยายแกแอบดูล่ะ ปล่อยให้เธอดูเลยถ้าเธอต้องการ! เร็วเข้า เร็วสิ!
ในท้ายที่สุดแล้้วฉันก็ต้องเติมเต็มความต้องการของนกน้อยจนพอใจ ซัคคิวบัสได้รอฉันอยู่บนโลกนานแล้วแต่ว่าฉันได้จบลงด้วยการสายไปชั่วโมงหนึ่ง
กลิ่นหวาน
ฉันไม่รู้ว่าเธอจะรู้หรือป่าวว่าฉันจะมาในวันนี้แต่ว่าเดซี่ได้เข้ามาทักทายฉันในทันทีที่่ฉันเข้ามาในบ้านกิลด์พร้อมกับเครื่องแบบเต็มยศของเธอ
กลิ่นหวานอะไรนะ
กลิ่นราชินีเอลฟ์
ฉันเกือบจะเผลอแตะปากไปแล้ว แต่ว่าฉันก็ได้หยุดตัวเองเอาไว้ก่อน ฉันได้ตัดสินใจที่จะโกหกอย่างไร้ยางอาย
ฉันได้ไปพักที่ร้านขายของก่อนเพราะแบบนี้กลิ่นโรเล็ตต้าก็อาจจะติดฉันมา
กลิ่น ทุกๆครั้งที่นายพูด... นายกินราชินีเอลฟ์หรอ
เธอได้สรุปขึ้นมาได้อย่างชัดเจนและเธอก็ไม่ได้สรุปผิดเลย สัมผัสของเดซี่มันเฉียบคมเกินไปแล้ว ฉันได้ยิ้มขึ้นและส่ายหัวออกมาแต่ว่าเดซี่ก็ได้เอียงหัวและถามคำถามต่อมา
นายอยากจะกินฉันด้วยหรอ
ไม่ ฉันไม่เป็นไร
ถ้างั้นฉันจะกินริมฝีปากของคังชินเอง
ในทันทีที่ฉันได้ยินคำพูดนี้ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และกระโดดกลับหลังไป เดซี่ได้เหวี่ยงแส้ของเธอด้วยความต้องการที่จะจับฉันเอาไว้แต่แล้วก็พลาด เธอได้ขมวดคิ้วและพูดออกมา
นี่มันไม่ยุติธรรม
เธอรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว! ทำไมถึงมาทำไร้เดียงสาด้วยล่ะ นอกไปจากนี้เก็บแส้ของเธอไปก่อนเลย!
ฉันรู้แล้วว่าคุณจะหนี
เดซี่ได้เตรียมการโจมตีที่สองแล้ว การควบคุมแส้ของเธอมันได้มาถึงงจุดสูงสุดนานแล้ว หากฉันไม่ระวังฉันได้ถูกรัดแน่ๆ ฉันไม่สามารถจะลดการระวังตัวได้เลย
มันเกิดอย่างนี้ได้ไงกันมันไม่ปกติเลยนะ!
ในบางครั้งเด็กคนหนึ่งก็ระเบิดมาได้ กลิ่นของราชินีเอลฟ์มันไม่น่าพอใจเลย ฉันจะเอากลิ่นของฉันทับลงไป
เธอไม่ใช่เด็ก...
เดซี่ได้เหวี่ยงแส้มาแล้ว นี่มันไม่ใช่แค่จับเท่านั้นแต่มันมากพอจะขยี้กระดูกของคนๆหนึ่งได้เลยนะ! ในตอนที่ฉันได้หลบอย่างตกตะลึงเดซี่ก็พูดขึ้นแข็งๆ
สำหรับเอลฟ์แล้วฉันยังเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ สิ่งที่คังชินพูดมันหยาบคายมากๆ
ฉันขอโทษ
ฉันได้รีบยอมแพ้และขอโทษเธอ เดวี่ได้ลดแส้ของเธอลงไปราวกับว่าเธอพอใจแล้วและเริ่มเดินเข้ามาใกล้ฉัน
โอ้ พี่ พี่มาแล้ว!
ในตอนที่อันตรายได้ผ่านไปแล้ว เสียงของยุยก็ได้ดังออกมา ลูกมังกรน้อยลูน่าก็อยู่ในอ้อมแขนของเธอ
ยุย น้องก็อยู่นี่หรอ
ใช่ คนอื่นๆยุ่งกันหมดเลย
เมื่อได้เห็นเดซี่กับยุยอยู่ที่นี่แล้ว ฉันก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันวางแผนที่จะทำด้วยตัวเองมันก็ลดลงไปมากแล้ว
เดซี่ได้ควบคุมอันเดตและยุยก็ควบคุมในกองทัพแมลง พวกเธอทั้งคู่เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการสู้กับกองทัพมอนสเตอร์
ยุยก็รู้พี่ไปคนเดียวก็ได้
เฮะๆ การปีนดันเจี้ยนมันเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าไม่ใช่พี่บอกว่ามันมีบางอย่างที่เรียนรู้จากดันเจี้ยนไม่ได้อยู่ไม่ใช่หรอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามันดูเหมือนเด็กๆพวกนี้จะแข็งแกร่งเร็วยิ่งขึ้นด้วยการเอาชนะมอนสเตอร์บนโลกมากกว่าในดันเจี้ยน
ฉันก็พอจะเดาเหตุผลได้ทันที มอนสเตอร์ที่อยู่ในดันเจี้ยนต่างก็เป็นของปลอมที่สร้างขึ้นมาจากพลังของเชอริฟิน่าทั้งหมด ในทางกลับกันแล้วมอนสเตอร์บนโลกต่างก็เป็นของจริงที่ข้ามมาจากต่างมิติ
มอนสเตอร์ที่กินเลือดและเนื้อของศัตรูที่พวกมันฆ่าและพัฒนาขึ้นไปด้วยการดูดกลืนมานา มันเป็นที่เข้าใจได้เลยว่ามอนสเตอร์บนโลกมันจะช่วยให้แมลงของยุยพัฒนาขึ้นได้ดีกว่า ถึงแม้ว่ามอนสเตอร์บนโลกพวกนั้นจะแข็งเป็นหินก็ตาม....
แล้วเธอล่ะเดซี่ เธอไม่ได้ยุ่งกับการปีนดันเจี้ยนอยู่หรอ
...
เดซี่ได้หันหน้ามองไปทางอื่นทันที ฉันได้เดาออกได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากรอพักหนึ่งฉันก็ได้ถามเธอ
...พลังชีวิตเหลือศูนย์หรอ
....
เดซี่ได้ดึงหมวกขอเธอลงมาปิดหน้าไว้ มันดูเหมือนฉันจะเดาถูกสินะ แต่ว่ามันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไปขอให้คนที่ปีนดันเจี้ยนไม่ตายเลย นี่มันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเดซี่ที่อยู่ในชั้นสูงๆด้วย
เกินไป...
เดซี่ได้พูดออกมาเบายิ่งกว่าเสียงมดเดิน
ฉันตื่นเต้นมากเกินไป...
ตื่นเต้น เรื่องอะไร
...จับคู่กับคังชิน
พี่!
พี่ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!
เดซี่ได้ตระหนักได้ถึงคำผิดพลาดของเธอและแก้ออกมา
ฉันหมายถึงเดทกับคังชิน
เธอเข้าใจจุดประสงค์ผิดไปแล้วใช่ไหม แล้วก็เมื่อไหร่กันที่เราไปเริ่มเดทกันนะ!
โอ้โว้วโว้ววววว
หลังจากที่ชดใช้ไปกับราคาที่เหมาะสมแล้วเดวี่ก็ได้จับหน้าผากของเธอและอธิบายถึงสิ่งที่เกินขึ้น
ฉันตื่นเต้นเกินไปจนตั้งสมาธิกับการต่อสู้ไม่ได้... และมันทำให้ฉันพลาดบนชั้นที่ 88
เดซี่ เธอ....
นี่มันเพราะการที่เดซี่ชอบทำเป็นเล่นตลอดทำให้ฉันคิดว่าเธอแปลก แต่ว่ามันดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแน่
เดซี่ดูจะอาบกับสิ่งที่เธอพูดทำให้เธอดึงหมวกลงมาปิดหน้าอีกครั้งหนึ่ง ฉันได้ตัดสินใจที่จะไม่แกล้งเธอต่อไป นอกไปจากนี้หัวข้อนี้มันก็ทำให้ฉันอายเหมือนกัน
ฉันได้เปลื่ยนหัวข้อไปเล็กน้อย
อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ตายในบียอนล่ะนะ
การตายในดันเจี้ยนที่หนึ่งจะเสียเวลาไปแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น หากเทียบกับบียอนที่ระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้วมันดีกว่ามาก ฉันได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ในตอนนี้มันไม่มีอะไรที่เธอจะทำได้แล้ว แต่ว่าเธอควรจะใช้โอกาสนี้และจัดการทำสิ่งที่เธอทำไม่ได้เพราะดันเจี้ยนสิ จริงๆแล้วเธอไม่ต้องมากับเราก็ได้
... สิ่งที่ฉันไม่ได้ทำเพราะดันเจี้ยนหรอ ฉันก็ทำอยู่นี่ไง
สิ่งที่เดซี่พูดได้ทำให้ฉันประทับใจ ฉันรู้ว่าเดซี่ได้ทำหน้าที่ดูแลในความปลอดภัยของโลกมากยิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่ว่าฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะห่วงโลกถึงขนาดนี้ แต่แค่ในตอนที่ฉันกำลังจะตอบกลับไปนั้นเองเดซี่ก็ได้พูดต่อออกมา
ใช้เวลากับการแต่ง... เดทกับคังชิน
....
เดซี่ได้ลดหมวกของเธอเล็กน้อย สายตาของเธอได้ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสา แต่ว่ามันก็ยังเต็มไปด้วยความร้อยที่ไม่สามารถจะปกปิดได้ ก่อนอื่นเลยฉันขอถอนคำพูด
อย่างที่สอง... โรเล็ตต้ามนดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่เอลฟ์เพียงคนเดียวที่ทุ่มเทกับความปรารถนา