บทที่ 3 : เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (3)
บทที่ 3: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (3)
กู่หยูเซิงกำลังสูบบุหรี่อยู่ในรถ มือข้างหนึ่งจับอยู่ที่พวงมาลัย วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเมื่อดูรวมๆแล้วบรรยากาศตอนนี้ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเขาตอนนี้ดูเป็นคนง่ายๆสบายๆ
ซินเจียยกมือขึ้นมาเคาะเบา ๆ ที่กระจกรถ สองครั้งเพื่อส่งสัญญาณให้เขาทราบว่าเธออยู่ตรงนี้
เมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะกระจก เขาลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่หน้าต่างรถ ก่อนจะมองตรงไปด้านหน้า เอาดูดบุหรี่เข้าเต็มปอดก่อนปล่อยควันสีขาวที่ลอยเป็นรูปวงกลมอย่างสวยงามออกมา ขณะที่ควันกำลังลอยวนอยู่ข้างๆเธอ เธอก็เห็นว่ากรามของเขาขบแน่นแสดงออกว่าเขาไม่พอใจมาก
เขาดึงหน้าบึ้งตึงทันทีเมื่อมองเห็นเธอ ซินเจียยืนอยู่ข้างรถของเขาอย่างอายๆครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูและนั่งลง ไม่ทันที่เธอจะนั่งได้อย่างมั่นคง กู่หยูเซิงก็เหยียบคันเร่งให้รถพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เธอไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ทรงตัวไม่ได้จึงหงายหลัง เธอพยายามที่จะจับตรงที่จับข้างรถและรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ตอนรัดเข็มขัดนิรภัยเธอมองเห็นเสี้ยวหน้าของเขาอย่างไม่ตั้งใจ เขาแสดงสีหน้าเย็นชา บรรยากาศรอบๆตัวแตกต่างจากก่อนหน้าที่เธอจะขึ้นรถมาลิบลับ
ซินเจียนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อเสมือนว่าตัวเองเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง เธอสงสัยว่าเธอควรทักทายเขาดีหรือไม่ แต่ความคิดนี้ก็ถูกพับลงไปในไม่ช้า
กู่หยูเซิงรู้สึกหงุดหงิดซินเจียมาก มากจนไม่อยากเห็นหน้าของเธอเลยตลอดชีวิต เขาไม่ต้องการจะเกี่ยวข้องหรือพูดคุยกับเธอ
ขณะที่ขับรถกู่หยูเซิงก็สูบบุหรี่ไปด้วยตลอดทาง นอกจากเสียงของลมหาย ในรถก็ไม่มีเสียงอื่นอีก
บรรยากาศอันเงียบงันก็ดำเนินมาตลอดทางจนกระทั่งถึงคฤหาสน์ตระกูลกู่
กู่หยูเซิงเลิกสูบบุหรี่และดับเครื่องยนต์ เขาเดินนำซินเจียออกจากรถโดยที่ไม่หันมามองเธอเลย
เขายืนรอซินเจียลงจากรถอย่างอดทน จากนั้นจึงเดินเข้าไปพร้อมกัน
เมื่อเดินใกล้ถึงคฤหาสน์ กู่หยูเซิงก็ยื่นมือมาจับมือของซินเจียอย่างกะทันหัน เธอตกใจตัวแข็งทื่อและพยายามดึงมือออก แต่เขากลับยิ่งจับมือเธอแน่นกว่าเดิมและบีบอย่างแรง
ซินเจียไม่สามารถสลัดมือของเขาหลุดได้ เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผู้ชายที่กำลังกดกริ่งหน้าประตู อุ้งมือของเขาช่างอบอุ่น แต่ขัดกับสีหน้าอันเย็นชา และมีสายตาที่ฉายแววว่ารำคาญ
ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดแม่นมจางก็เปิดประตูออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าที่ดีใจมากเมื่อพบ ซินเจียกับกู่หยูเซิง เธอต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น และเชิญเข้าบ้าน พร้อมกับเอารองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านมาให้ ก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อเรียกนายผู้เฒ่า “นายท่านคะ นายน้อยกับนายหญิงน้อยมาถึงแล้วคะ”
ซินเจียและกู่หยูเซิงเพิ่งจะสวมรองเท้าเสร็จและเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น ขณะนั้นนายผู้เฒ่าก็กำลังเดินลงบันไดมาพอดี
ทันใดนั้นเองกู่หยูเซิงก็โน้มหัวลงมาข้างๆหูของเธอ และทำท่าขยับริมฝีปากแต่ไม่มีเสียง
ในสายตาของคนอื่นจะดูเหมือนว่า กู่หยูเซิงกำลังกระซิบความลับบางอย่างกับเธออย่างใกล้ชิด แต่มีเพียงแค่ซินเจียเท่านั้นที่รู้ว่าเขาไม่ได้พูดอะไรเลย
อย่างไรก็ตามเขาอยู่ใกล้เธอมากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดต้นคอ เธอตกใจ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น และเธอไม่แน่ใจว่าต้องทำตัวยังไง
“คุณกำลังมองหาอะไรหรอ?” กู่หยูเซิงเอ่ยถามและบีบที่มือของซินเจียเบาๆ เธอหายจากอาการมึนงงและหันไปมองที่ กู่หยูเซิง ไม่มีแล้วใบหน้าอันแสนเย็นชาและสายตาที่แสดงถึงความรังเกียจเดียดฉันท์ มันถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่แสนอ่อนโยนและสายตาที่รักใคร่ปานจะกลืนกิน เสียงอันไพเราะและดังกังวานของเขาก็ดังขึ้น “สวัสดีครับคุณปู่”
เมื่อได้ยินคำว่า "คุณปู่" ซินเจียก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
กู่หยูเซิงกำลังแสดงละคร
เขามีสองบทบาท บทบาทแรกคือ ตัวจริงที่เขารังเกียจเธอราวกับไส้เดือนกิ้งกือ แต่บทบาทที่สองคือ ตัวละครที่เขาเอาไว้หลอกคุณปู่ เพื่อแสดงให้ท่านเห็นว่าเขารักใคร่เธอมากแค่ไหน
ส่วนเธอก็ดันโง่ที่ไปตกใจ กับท่าทางใกล้ชิดของเขาเมื่อกี้นี้
ซินเจียสวมบทบาทภรรยาผู้อ่อนหวานทันที เธอส่งยิ้มและเอ่ยทักทายนายผู้เฒ่าด้วยน้ำเสียงยินดี “สวัสดีคะคุณปู่”
นายผู้เฒ่ากู่ มองเห็นฉากที่แสดงออกถึงความสนิทชิดเชื้อของซินเจียและกู่หยูเซิง ตั้งแต่พวกเขาเริ่มเดินเข้ามาในห้องนานแล้ว เขายิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นพวกเขา เขาเรียกทั้งคู่มานั่งลงใกล้ๆและเรียกให้แม่นมจางยกน้ำชาเข้ามาเสิร์ฟ
ซินเจียและกู่หยูเซิงนั่งคุยเล่นกับนายผู้เฒ่ากู่อยู่ไม่นาน แม่นมจางก็เดินเข้ามารายงานว่า อาหารเย็นเตรียมพร้อมแล้ว
หลังทานอาหารเย็นเสร็จ พวกเขานั่งคุยเป็นเพื่อนกับผู้เฒ่ากู่ไม่นานนัก ก็ออกจากคฤหาสน์กู่
ใบหน้าอันแสนอบอุ่นและอ่อนโยนของกู่หยูเซิงตอนเอ่ยลานายผู้เฒ่ากู่ หายไปทันทีหลังจากที่เขาก้าวขึ้นรถและขับออกจากคฤหาสน์ จากนั้นรังสีความเยือกเย็นก็ค่อยๆแผ่กระจายออกมารอบๆตัวเขาในทันที
กู่หยู่เซิงขับรถอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตรอกเล็กๆที่เขามารับซินเจียเมื่อช่วงค่ำ จู่ๆกู่หยูเซิงก็เหยียบเบรกอย่างแรง เขาไม่แม้แต่มองหน้าเธอจากนั้นก็โบกมือให้อย่างรำคาญเป็นสัญลักษณ์ให้เธอลงจากรถ “ลงไป”
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนสมองของซินเจียตามไม่ทัน เธอหันไปหาเขา ใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเขาด้วยสายตาที่งุนงง
“หึๆ ..ฉันก็แค่แสดงละครนิดๆหน่อยต่อหน้าปู่ นี่เธอคิดว่าฉันจะไปส่งเธอกลับบ้านจริงๆหรอ?” น้ำเสียงของกู่หยูเซิงเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและเสียดสี
ซินเจียเข้าใจทันทีว่าเขาต้องการให้เธอรีบลงจากรถไป
ก่อนที่ซินเจียจะเปิดประตูรถ น้ำเสียงอันเย็นยาของกู่หยูเซิงก็ดังขึ้น “ฉันจะบอกอะไรให้นะ การที่เธอเข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง จนไม่อยากจะกลับไปเหยียบที่นั่นอีก!”
ขยะแขยง.... เป็นเพราะว่าเธออาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นใช่ไหม ?
ซินเจียกระพริบตาเบาๆ มือของเธอสั่นเทาและเผลอกำกระเป๋าแน่นโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่กล้าขยับมากเพราะกลัวว่าน้ำตาจะไหลลงมา เธอเอื้อมมือไปหาที่เปิดประตูอย่างเหม่อลอย แต่ก็หาไม่เจอสักที
เมื่อเห็นว่าซินเจียชักช้า ความอดทนอันน้อยนิดของกู่หยูเซิงก็หมดลงทันที เขาไม่อยากพูด คุยหรือเห็นหน้าเธออีกแม้แต่วินาทีเดียว เขาลงจากรถและเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร จากนั้นกระชากตัวซินเจียออกจากรถอย่างแรงและผลักเธอลงไปที่ฟุตบาท เขากลับไปนั่งตรงที่คนขับและเหยียบคันเร่งให้รถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่หันหลังกลับมามองสักครั้งเดียว