ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2  คุณหนูผู้มั่งคั่ง (2)

บทที่ 1  คุณหนูผู้มั่งคั่ง (1)


บทที่ 1  คุณหนูผู้มั่งคั่ง (1)

ฉีเซิงเป็นนักเขียนประเภทมายั่วให้อยากแล้วจากไป เมื่อคนอ่านกำลังติดงอมแงม เธอก็ดันดองนิยายพวกนั้นกลางอากาศ นิยายประเภทแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งนางเอกเธอเขียนมาแล้วแทบนับไม่ถ้วน  แต่ในที่สุดฉีเซิงก็เข้าใจบ้างอย่าง....

นักเขียนที่ปล่อยให้คนอ่านค้างเติ่งอยู่กลางอากาศแบบเธอมันต้องถูกลงโทษ!!

ฉีเซิงกำลังนั่งยองๆ และทรมานจากอาการปวดหัวอย่างรุนแรง  เบื้องหน้าของเธอมีหนังสือคริสตัลที่มีความสูงขนาดราวๆครึ่งตัวมนุษย์กำลังลอยอยู่

เธอมั่นใจว่ามะกี้เธอกำลัง ‘อธิบาย’ กับนักอ่านของเธอว่าทำไมพระเอกของเรื่องจึงกลายเป็นเกย์เพราะตัวประกอบคนหนึ่งในเรื่อง แต่ไอ้ตัวประกอบคนนั้นกลับได้คบกับนางเอกแทน  แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลให้พระเอกของเรื่องต้องชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและทุกข์ทรมาน  แล้ว....เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!

‘ฉันอยากกลับบ้าน’

[ระบบประมวลผลเสร็จสิ้น  คุณมีเวลา 5 วินาทีในการตัดสินใจ หากคุณไม่ได้ตัดสินใจภายในระยะเวลาที่กำหนด ระบบจะทำการกำจัดคุณทันที]

ฉีเซิง :  “………………….”

‘อย่างที่คิด......ไอ้ระบบบ้า! เอะอะก็จะกำจัด!  โหดร้ายที่สุด!!!’

ขณะนั้นเองจอคริสตัลแสดงผลเบื้องหน้าของเธอก็เริ่มนับเวลาถอยหลัง [ 5..…4..…3…..]

“ตกลง  ฉันตกลง!”  เพื่อความอยู่รอดฉีเซิงทิ้งศักดิ์ศรีลงอย่างรวดเร็ว

‘ฉันอยากลับไป... อยากกลับไปเขียนนิยายอีก....พล็อตหักมุม....ฆ่าเหล่าตัวเอก * สะอื้น * ก็ใครใช้ให้เธอเป็นนักเขียนประเภทแม่เลี้ยงใจร้ายกันเล่า?’

ในฐานะของนักเขียนนิยาย เธอย่อมคุ้นเคยกับนิยายประเภทระบบ  แน่นอนว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเขียน... *อะแฮ่ม* เหมือนจะเคยดองไว้สักเรื่องสองเรื่อง... แต่เอาน่า  เอาเป็นว่าเธอคุ้นเคยกับนิยายประเภทนี้ก็แล้วกัน!

ขณะที่เวลานับถอยหลังบนจอหายไป  ข้อมูลสองสามบรรทัดก็ปรากฏขึ้นมาแทน

ชื่อ :  ฉีเซิง

คะแนนศีลธรรม :  -100,000

คะแนนสะสม :  0

“อะไรกัน? !! มีแค่นี้จริงดิ? ไหนละค่าความฉลาด? ค่าพลังการต่อสู้? แล้วจะยังค่าพลังจิตอีก? ค่าคะแนนพวกนี้มันหายไปไหน?  ปกตินิยายประเภทนี้ไม่ควรมีแค่นี้สิ!  แล้วไอ้คะแนนศีลธรรมของฉันอีก ทำไมมันติดลบเป็นแสนละเฮ้ย?!

นั่งมองจำนวนเลขศูนย์ที่ต่อท้ายแล้ว ฉีเซิงรู้สึกปวดตับ  เพื่อให้ได้กลับบ้านเธอต้องลบเจ้าเลขศูนย์พวกนี้ให้หมด.... แล้วเมื่อไหร่เธอจะได้กลับบ้านสักทีล่ะว้อยย!!

‘ฉันไม่เคยเผาบ้าน ,จี้, ปล้นหรือฆ่าใครตาย!  ทำไมคะแนนของฉันถึงติดลบขนาดนี้?!’

[นักเขียนคือพระเจ้า  นักเขียนเป็นผู้มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับตัวละคร  ตั้งแต่ให้ชีวิต กำหนดลักษณะนิสัย หรือแม้กระทั่งเป็นผู้สร้างโลกที่พวกเขาอาศัย เหล่าตัวเอกที่อาศัยในแต่ละโลกล้วนได้รับพรสวรรค์ที่เหนือกว่าผู้อื่น  อย่างไรก็ตามเหล่าตัวเอกก็ไม่ได้มีคุณธรรมและใช้พรสวรรค์ที่ได้ไปในทางที่ดีเสมอไป  ตัวประกอบบางส่วนต้องตายเพราะตัวเอกที่ไร้คุณธรรม ความคับแค้นใจของเหล่าตัวประกอบสามารถส่งผลให้โลกเหล่านั้นพังทลายลงได้  ดังนั้นงานของโฮสต์ก็คือ การเข้าไปเป็นตัวประกอบในแต่ละโลก  และทำตามความปรารถนาของตัวประกอบตัวนั้นให้สำเร็จ  เพื่อลบล้างเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจของพวกเขาให้หมดไป]

‘พูดกันตรงๆก็คือตัวเอกพวกนั้นเป็นคนเลวสินะ!’

“นายยังไม่บอกฉันเลยว่าทำไมค่าศีลธรรมของฉันถึงติดลบตั้งแสนนึงห๊ะ?”  นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเพราะมันเป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการที่เธอจะได้กลับบ้าน

 

[ เมื่อไหร่ก็ตามที่คะแนนศีลธรรมของโฮสต์ลดลงจนถึง -200,000  โฮสต์จะถูกกำจัดจากระบบทันที ]

‘อะไรนะ?! มีคะแนนขั้นต่ำด้วยหรอ?! นี่นายล้อฉันเล่นใช่ไหมห๊ะ!!’

[เริ่มกระบวนการถ่ายโอนข้อมูล.... ]

 

‘ทำไมเจ้าระบบนี่ดูเพี้ยนๆ?  เฮ้!!!  เจ้าระบบนาย จะไม่บอกฉันหน่อยหรอว่าฉันจะได้อะไรถ้าทำภารกิจสำเร็จ? แพ็จเกจสำหรับผู้เริ่มต้นของฉันล่ะอยู่ที่ไหน?  นายจะไม่ให้คู่มือฉันหน่อยหรอ? ไหนจะยังมีของช่วยโกงอีกมันอยู่ไหนกันล่ะเนี้ย?’

ฉีเซิงก่นด่าระบบเป็นวรรคเป็นเวร ก่อนที่ทัศนะวิสัยของเธอจะปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

“คุณหนูคะ  ถึงแล้วค่ะ” น้ำเสียงอันไพเราะของผู้หญิงดังที่ข้างหูของฉีเซิง

ฉีเซิงค่อยๆลืมตาขึ้น  เธอพบว่าตัวเธอกำลังนั่งอยู่บนรถ และมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังก้มตัวลงมามองที่เธอ ผ่านประตูรถที่กำลังเปิดอยู่

ณ  จุดๆนี้  ฉีเซิงพูดไม่ออก

‘ระบบ....เจ้าบ้านั่น!!  ไม่แม้แต่จะอธิบายอะไรเลย  แต่กลับโยนเธอเข้ามาในฉาก?  คอยดูนะฉันจะเขียนรีวิวแย่ๆ ให้นาย!!

“คุณหนูคะ?  รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ?”  เมื่อเธอเห็นว่าสีหน้าของฉีเซิงไม่ค่อยดีนัก ความกังวลของหญิงสาวก็เริ่มก่อตัวขึ้น “ตอนนี้งานเลี้ยงยังไม่เริ่ม  ไม่ทราบว่าคุณหนูอยากจะนั่งพักในรถอีกสักครู่ไหมคะ?”

“อืม...”

‘ใจเย็น  ใจเย็นๆ ตอนนี้ฉันน่าจะอยู่ในร่างของใครสักคน….’

หญิงสาวคนนั้นปิดประตูรถและกลับไปประจำตำแหน่งตรงที่นั่งข้างคนขับ นั่นถือว่าเป็นโอกาสดีที่ฉีเซิงจะได้มีเวลารับข้อมูลเค้าโครงเรื่องและความทรงจำของเจ้าของร่างนี้พอดี

[โฮสต์ต้องการรับข้อมูลเค้าโครงเรื่องและความทรงจำของร่างนี้หรือไม่?  ต้องการ/ไม่ต้องการ]

เสียงเย็นเยียบของระบบดังขึ้นในหัวของเธอ  ฉีเซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตอบกลับ “ต้องการ”

[กำลังเริ่มการถ่ายโอนข้อมูล....]

 

ทันใดนั้นภาพจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในหัวของฉีเซิง  สมองของเธอหนักตื้อและปวดจนเกินจะทน ราวกับว่ามันถูกแทรกด้วยเศษเหล็ก  เธอกัดฟันข่มเสียงร้องของความเจ็บปวดเอาไว้เพื่อไม่ให้คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าสังเกตเห็น

เจ้าของร่างนี้ชื่อ ซวีเฉิงเยว่ เธอเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยและถูกเอาอกเอาใจจากครอบครัวจนมากเกินพอดี  เมื่อเธอเข้ามหาวิทยาลัยเธอได้หมั้นหมายกับหนางกงจิ่ง

อันที่จริงแล้วหากเปรียบเทียบเรื่องของความมั่งคั่งร่ำรวย  ตระกูลซวีจะนับว่าเป็นอะไรได้เมื่อถูกนำมาเปรียบเทียบกับตระกูลหนานกง  แต่เป็นเพราะสัญญาหมั้นหมายที่คนรุ่นก่อนได้ตกลงกันเอาไว้  ซวีเฉิงเยว่จึงกลายมาเป็นคู่หมั้นของหนานกงจิ่ง  อย่างไรก็ตามหนานกงจิ่งไม่ได้รู้สึกรักใคร่ชอบพอคู่หมั้นคนนี้นัก ดังนั้นเขาจึงมักทำตัวเย็นชากับเธอเสมอ

แต่ถึงกระนั้นซวีเฉิงเยว่กลับหลงรักหนานกงจิ่งหัวปักหัวปำ  ไม่ว่าเธอจะถูกเขาปฏิเสธสักกี่ครั้งเธอก็ยังไม่ยอมแพ้  เธอจดจำแม้รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ทุกๆคำพูด  สิ่งที่เขาชอบและสิ่งที่เขาไม่ชอบ  เมื่อเธอพบเจอกับเขาเธอมักจะเก็บงำความหยิ่งทะนงตามแบบฉบับคุณหนูผู้ร่ำรวยเอาไว้เสมอ  ซวีเฉิงเยว่เชื่อว่าสักวันความพยายามของเธอต้องสัมฤทธิ์ผล แต่จนกระทั่งซูอี้อี้ปรากฏตัวขึ้นหนานกงจิ่งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะรักชอบซวีเฉิงเยว่

คนที่เย็นยาและไร้มนุษย์สัมพันธ์อย่างหนานกงจิ่งกลับกลายเป็นคนอบอุ่นเอาใจใส่สำหรับซูอี้อี้  ซวีเฉิงเยว่ไม่ต้องการที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้  เธอจึงแสดงตัวในฐานะคู่หมั้นของหนานกงจิ่งและเตือนให้ซูอี้อี้ออกจากชีวิตของหนานกงจิ่งไปเสีย

เมื่อซูอี้อี้รู้ว่าหนานกงจิ่งมีคู่หมั้นแล้ว  เธอจึงทำตัวเหินห่างกับเขา  หนานกงจิ่งต้องการถอนหมั้นกับซวีเฉิงเยว่  เมื่อพบว่าสาเหตุที่ซูอี้อี้ตีตัวออกห่างจากเขาเป็นเพราะซวีเฉิงเยว่

แน่นอนว่าซวีเฉิงเยว่ ย่อมไม่ต้องการที่จะถอนหมั้น  แต่ไม่ว่าเธอจะขอร้อง ร้องไห้ฟูมฟายหรืออาละวาดสักแค่ไหน หนานกงจิ่งก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจที่จะไม่ถอนหมั้นกับเธอ

ในขณะเดียวกันนั้นเอง  ซูอี้อี้ถูกหนานกงจิ่งขอร้องอ้อนวอนจนยอมกลับมาอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้ง  เมื่อเผชิญหน้ากับการต่อว่าเหยียดหยามของซวีเฉิงเยว่  เธอมักจะยอมรับผิดและทำตัวน่าสงสารไร้เดียงสาราวกับดอกไม้ขาวไร้มลทินอยู่เสมอ  เธอพูดทุกครั้งว่าจะไปจากชีวิตของหนานกงจิ่ง  ถึงซูอี้อี้จะพูดอย่างนั้นแต่ก็ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง  แถมทั้งเธอและหนานกงจิ่งกลับแสดงความรักต่อกันอย่างเปิดเผยเพิ่มมากขึ้นไปอีก

เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป ซวีเฉิงเยว่จึงเปิดเผยเรื่องราวของซูอี้อี้กับพ่อแม่ของหนานกงจิ่ง  เป็นเรื่องที่เดาได้ไม่ยากว่า พ่อแม่ของหนานกงจิ่งย่อมไม่มีทางสนับสนุนความรักของหนานกงจิ่งและซูอี้อี้  ในเมื่อครอบครัวของซูอี้อี้เป็นแค่ครอบครัวที่มีฐานะธรรมดาๆ

หนานกงจิ่งก็หมดความอดทนกับซวีเฉิงเยว่เช่นกัน  ซวีเฉิงเยว่ล้ำเส้นของเขา  การที่เธอบอกพ่อแม่ของเขาเรื่องซูอี้อี้ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย  เขาจึงเริ่มลงมือกับคนของตระกูลซวี  เข้าทำให้ตระกูลซวีต้องล้มละลาย  ซ้ำยังข่มขู่ตระกูลอื่นๆจนไม่มีตระกูลไหนกล้าสอดมือเข้ามาช่วยเหลือตระกูลซวี

พ่อแม่ของซวีเฉิงเยว่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์  ทิ้งวิกฤตการณ์ที่ตระกูลซวีกำลังเผชิญอยู่ไว้ให้คุณหนูซวีเฉิงเยว่ผู้ซึ่งถูกบุพการีเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมมาตลอดชีวิต ให้เผชิญชะตากรรมในครั้งนี้ตามลำพัง  แล้วการที่คุณหนูอย่างเธอต้องเข้ามาพยุงตระกูลซวีที่กำลังตกต่ำเป็นเรื่องง่ายนักหรือ?

แน่นอน....มันย่อมไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย  เธอจึงไปอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากหนานกงจิ่ง  อย่างไรก็ตามเธอไม่คิดว่าการที่เธอไปพบหนานกงจิ่งในครั้งนี้เธอจะได้พบกับซูอี้อี้  ความโศกเศร้าเสียใจที่ได้รับ ทำให้จิตใจของเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  เธอเซไปชนซูอี้อี้เข้าจนซูอี้อี้ตกบันได  ไม่มีใครคาดคิดว่าขณะนั้นซูอี้อี้กลับกำลังตั้งท้องลูกของหนานกงจิ่ง  การตกบันไดครั้งนี้ส่งผลให้ซูอี้อี้แท้งลูก

ความสัมพันธ์ที่พอจะมีหลงเหลืออยู่บ้างระหว่างตระกูลหนานกงและตระกูลซวีหายวับไปกับตาเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตระกูลซวีล่มสลายด้วยความโกรธแค้นของหนานกงจิ่ง  ซวีเฉิงเยว่ต้องตายอย่างอนาถด้วยฝีมือของบรรดาเจ้าหนี้

ในช่วงเวลาของความเป็นความตาย  ซวีเฉิงเยว่ก็ระลึกได้ว่าเป็นเพราะว่าเธอหลงรักหนานกงจิ่งโชคชะตาของเธอจึงเป็นเช่นนี้  หากว่าเธอยังมีสติยั้งคิดและหยุดไล่ตามหนานกงจิ่งเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ  ตระกูลก็คงไม่ต้องล้มละลาย  พ่อแม่ของเธอก็อาจจะไม่ต้องตาย  และเธอก็คงไม่ต้องเผชิญกับชะตาชีวิตที่แสนบัดซบนี่

หมายเหตุของผู้เขียน:

สำหรับฉีเซิงตัวเอกของนิยายเรื่องนี้  เธอไม่ใช่คนดี  เธอเป็นพวกขวางโลก  ถ้าเธอไม่ได้ดี   คนอื่นก็ต้องล่มจมไปพร้อมกับเธอด้วย  และพระเอกนางเอกเรื่องนี้ไม่ใช่คนดีเสมอไป  เราเตือนคุณแล้วนะ....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด