ตอนที่แล้วตอนที่ 44 หนอนกลืนกำเนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 เลี่ยงหลบภัยพิบัติด้วยเงิน!

ตอนที่ 45 ได้เป็นหัวหน้าห้องในที่สุด!


หลังจากเสวี่ยอิ่งบันดาลโทสะจนหมดสิ้น เหอเมิ่งตัวอ่อนยวบไม่มีแรงยืนอีกต่อไป เมื่อฟังจากเสียงสดใสที่ดังกังวานทั่วห้องแล้ว มีกระดูกอย่างน้อยหกหรือเจ็ดชิ้นที่ถูกนางหัก

ป๋ายเสี่ยวเฟยเดินเนิบนาบไปข้างเหอเมิ่งก่อนจะจับข้อมือเขา ปราณกำเนิดพวยพุ่งในจุดนั้นอีกคราก่อนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะดึงเส้นใยปราณกำเนิดออกมา

“เสร็จแล้วศิษย์พี่เหอเมิ่ง แต่ข้าหวังว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้ใช้เจ้าหนอนนี้อีกในอนาคต”

ป๋ายเสี่ยวเฟยแสยะยิ้มหัวเราะที่เต็มไปด้วยความดูถูกพลางมองไปยังเหอเมิ่งที่ไร้สติ

ในอีกด้าน เสวี่ยอิ่งที่ยืนอยู่ข้างกายป๋ายเสี่ยวเฟยขยับตัวออกห่างตามสัญชาตญาณทันทีเพราะหนอนกลืนกำเนิดไม่ต่างอันใดจากโรคที่รักษาไม่หาย ไม่ว่าหนอนกลืนกำเนิดจะมีภัยต่อเจ้านายของมันหรือไม่ก็ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้

“พวกเจ้าทั้งสามจะนอนอีกนานเท่าใด? พวกเจ้าไม่อยากค้นตราหยกของศิษย์ปีสามห้าคนนี้รึ?”

โม่ข่าและพวกที่แสร้งทำเป็นตายลุกขึ้นกระโจนหากลุ่มศิษย์ปีสามที่มีสภาพน่าอนาจทันที

ประสบการณ์สั่งสมได้จากการฝึก ทั้งสามกังวลเล็กน้อยเมื่อคราก่อน แต่ครั้งนี้ความโอหังกล้าหาญของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าป๋ายเสี่ยวเฟยแม้แต่น้อย ถึงแม้ข้างหน้าพวกเขาจะเป็นศิษย์ปีสามก็ตาม!

ศิษย์พี่สี่คนที่นอนอยู่บนพื้นมีแรงมากพอที่จะต่อต้าน แต่ด้วยการคงอยู่ของเสวี่ยอิ่งพวกเขาไม่กล้าแม้จะคิดจนกระทั่งพวกโม่ข่าถ่ายโอนหินชิงหลัวจากตราหยกไปหมด

พวกโม่ข่าเดินมาด้านข้างป๋ายเสี่ยวเฟย รอยยิ้มบนใบหน้าเพียงพอที่จะบอกความร่ำรวยของศิษย์พี่ทั้งห้า

“ศิษย์พี่ ศาลายาในเตาหลอมกฤษณาน่าจะยังไม่ปิด พวกท่านทั้งหมดจะอยู่ที่นี่หรือไปรักษาตัว?”

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยจบ ศิษย์พี่ทั้งสี่ที่ยังขยับตัวได้ก็รีบแบกหามเหอเมิ่งจากไปทันที พวกเขาไม่กล้าแม้กระทั่งเหลือบตามองป๋ายเสี่ยวเฟยและเสวี่ยอิ่ง

ศิษย์นักเรียนที่อยู่ข้างนอกเห็นดังนี้ พวกเขาแยกตัวออกเปินทางให้ศิษย์พี่วิ่งจากไป

ในขณะเดียวกัน ห้อง 807 กลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามภายในใจพวกเขา!

จางชิงซานและจางชิงไห่ที่ซ่อนตัวอยู่ยอมล้มเลิกที่จะแก้แค้นอย่างสิ้นเชิง ขนาดศิษย์ปีสามยังไม่อาจทำอะไรป๋ายเสี่ยวเฟยได้แล้วพวกเขายังทำอันใดได้อีกนอกจากล้ำกลืนความอัปยศ

ฝูงชนค่อยๆ กระจายตัวกลับห้องในขณะที่นักเรียนชายที่เหลือหกคนของห้องเรียนคนเถื่อนรีบวิ่งเข้ามา

ในตอนแรกพวกเขากำลังรับชมปาหี่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่า ‘นักแสดง’ ในครานี้คือป๋ายเสี่ยวเฟยและพวก เมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้ปัญหาก็ถูกคลี่คลายไปแล้ว สีหน้าพวกเขามีความกระวนกระวายขณะกระโจนเข้ามาในห้อง

“พี่หญิงเสวี่ย...”

ใบหน้าของทั้งกลุ่มเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อเห็นเสวี่ยอิ่งก่อนจะเปลี่ยนท่าทีอิริยาบถเป็นสำรวมพินอบพิเทา

“ไม่ต้องกังวล เรื่องทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว”

เสวี่ยอิ่งแสดงท่าทีสูงส่งของอาจารย์ออกมา นางสามารถผ่อนคลายได้เมื่อมีคนไม่กี่คนแต่นางต้องรักษากิริยาที่พึงกระทำของอาจารย์ไว้ด้วยจำนวนคนเช่นนี้

กลุ่มทั้งหกมองไปยังป๋ายเสี่ยวเฟย ความประหลาดใจแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงระคนยินดี ถึงแม้พวกเขาจะถูกผลักดันไปอยู่ริมฝูงชนเมื่อครู่ พวกเขาก็ยังได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นคร่าวๆ อยู่ดี สายตาหกคู่เต็มไปด้วยความเคารพชื่นชมอย่างอดไม่ได้

“พี่ใหญ่เฟย สมแล้วที่เจ้าเป็นหัวหน้าห้องของพวกเรา ท่าทีองอาจของเจ้าสยบคนนับไม่ถ้วนในสถาบัน!”

เป็นฉิงหนานที่กล่าวออกมา เสวี่ยอิ่งอดไม่ได้ที่จะตกใจกับคำว่า ‘หัวหน้าห้อง’

“หัวหน้าห้อง? เขา!?”

เสวี่ยอิ่งเอ่ยพลางชี้นิ้วไปที่หน้าของป๋ายเสี่ยวเฟย สีหน้านางมีความประหลาดใจเจือปนสับสนเพราะนางมีความตั้งใจไว้ว่าจะจัดการทดสอบเล็กน้อยเพื่อเลือกหัวหน้าห้อง

“ใช่ ท่านเป็นคนเลือกเขาเองไม่ใช่หรือพี่หญิงเสวี่ย?”

ฉิงหนานรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดไป

“อย่าไปฟังที่ฉิงหนานพูด ข้าไม่เคยเอ่ยเช่นนั้น ในวันทดสอบเข้าสถาบัน เขาและจู๋ซือซือไม่ให้เวลาข้าอธิบายแล้วก็พูดเองเออเองว่าข้าเป็นหัวหน้าห้อง”

ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบอธิบายก่อนจะแย้มยิ้มประจบสอพลออย่างเจ้าเล่ห์

“พี่หญิงเสวี่ย ท่านต้องเชื่อในเด็กดีไร้เดียงสาเช่นข้า!”

เสวี่ยอิ่งอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเย็นชาขณะมองป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยสีหน้าประหลาด

‘ไร้เดียงสา? เด็กดี? หากเจ้าเป็นเช่นนั้นจริงทั้งสถาบันชิงหลัวคงเต็มไปด้วยเทวดา!’

เสวี่ยอิ่งคิดอยู่ในใจ

“อย่างไรเสียก็ต้องมีคนคอยจัดการธุระต่างๆ ในห้อง แต่เจ้าจะต้องรับผิดชอบให้ได้หากเจ้าทำห้องเรียนคนเถื่อนขายหน้า!”

เสวี่ยอิ่งยืนยันสถานะของป๋ายเสี่ยวเฟย นางไม่ลืมที่จะตักเตือนเขาด้วยก่อนจะเผยสีหน้าฉงนสงสัย

“เจ้าเลี้ยงหนอนกลืนกำเนิดได้จริงหรือ?”

ในที่สุดเสวี่ยอิ่งไม่อาจเก็บความสงสัยไว้ในใจได้อีกต่อไป เพราะการเลี้ยงเพาะพันธ์หนอนกลืนกำเนิดเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงเหลือเกิน

“เลี้ยงหนอนกลืนกำเนิด!?”

ฉิงหนานร้องเสียงหลง

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ขนาดในอาณาจักรแดนใต้ของพวกเรายังไม่อาจค้นพบวิธีฝึกหนอนกลืนกำเนิดให้เชื่องได้เพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่พึ่งพาสัญชาตญาณในการมีชีวิตโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางสร้างสายสัมพันธ์กับมันได้!”

เมื่อผู้เชี่ยวชาญเป็นคนเอ่ยปาก ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบกลืนข้อแก้ตัวทั้งหมดที่เตรียมลงไปทันที เขายักไหล่พลางหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

“เจ้าพูดถูกแล้วฉิงหนาน ข้าจะไปเลี้ยงหนอนกลืนกำเนิดได้อย่างไร? สิ่งนี้ถูกเกลียดชังภายในเทือกเขาไร้ขอบเขตและหายากยิ่งกว่าสัตว์อสูรที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ อย่าพูดถึงเลี้ยงดูเลย กระทั่งโอกาสจะได้เจอสักตัวยังแทบไม่มี”

“เช่นนั้นเจ้าหลอกเหอเมิ่งได้อย่างไร?”

คำถามใหม่ปรากฎขึ้นในใจทุกคน

“พวกเจ้าทุกคนเคยได้ยินชื่อเคล็ดวิชากลืนโลกาหรือไม่? ข้าแค่เพิ่มความเร็วในการไหลเวียนของปราณกำเนิดในจุดบรรจบเท่านั้น ใครใช้ให้เขาเชื่อเขาจริงๆ ล่ะ?”

ทุกคนในห้องได้รู้จักป๋ายเสี่ยวเฟยขึ้นอีกนิดเมื่อได้ยิน สายมายาช่างเหมาะสมกับเขาเหลือเกินเพราะทุกคนไม่เคยเห็นใครแปรเปลี่ยนเท็จให้เป็นจริงได้เก่งเท่าป๋ายเสี่ยวเฟยอีกแล้ว!

“ข้าได้ยินว่าเคล็ดวิชาอย่างกลืนโลกาต้องการผู้ชี้แนะ เจ้ารู้จักคนที่เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชานี้หรือ?”

อย่างไรเสียเสวี่ยอิ่งก็อายุมากกว่า ความรู้ที่นางสั่งสมมาเหนือล้ำนักเรียนพวกนี้เยอะ

“พ่อสี่สอนข้าเอง”

ป๋ายเสี่ยวเฟยหัวเราะไม่ได้ปิดบังเพราะที่นี่ไม่มีใครรู้จักพ่อสี่ของเขา และมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไปยังหุบเขาวีรบุรุษเพื่อไปหาพ่อสี่

“เจ้ามีความลับซ่อนไว้เท่าใดกันแน่? ยังเหลือไพ่กี่ใบในมือที่ยังไม่ได้เผย?”

เสวี่ยอิ่งมีรอยยิ้มบนใบหน้า นางพึงพอใจไม่น้อยกับ ‘หัวหน้าห้อง’ คนนี้

“ท่านจะรู้ในอนาคต มันมีเยอะเกินกว่าที่ข้าจะกล่าวไหว”

ป๋ายเสี่ยวเฟยพูดตัดบทสนทนาปล่อยให้คนที่เหลือคาดเดาเพราะไพ่พวกนี้คือรากฐานในชีวิตเขา หากเขาเปิดเผยทั้งหมดแล้วเขาจะได้เปรียบเหนือผู้อื่นได้อย่างไร?

“เอาเถิด อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าเล่นตุกติกกับข้า มิเช่นนั้น...เจ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”

เสวี่ยอิ่งกำหมัดแน่นพลางเผยไพ่ตายอีกครา ไพ่ที่ชื่อว่าคำขู่!

“ท่านอย่ากังวล ข้าไม่เล่นตุกติกกับโฉมสะคราญ”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ปล่อยโอกาสในการประจบสอพลอให้ลอยผ่าน เสวี่ยอิ่งมีรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้า

แต่นางหารู้ไม่ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยได้กล่าวคำทำนองนี้กับคนนับไม่ถ้วน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด