เซียนเหนือวิถี บาทที่ 110 (ฟรี)
บาทที่ 110
ความจริงของพวกนี้หงเซียวได้จัดทำของพวกนี้มาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากติดช่วงเวลาของการแข่งขันระหว่างตระกูล ดังนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสพาเด็กสาวเหล่านี้มาเที่ยวเล่นชายหาดสักครั้ง และเมื่อการแข่งขันจบลงแล้ว เขาและพวกเธอก็มีเวลาว่างแล้วจึงถือโอกาสที่จะพาพวกเธอมาเล่นน้ำทะเลกัน
“นี่คือชุดอะไรกันพี่ใหญ่” จินหลินหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนใจ
“มันเรียกว่าชุดว่ายน้ำ” หงเซียวอธิบาย พร้อมกับแจกจ่ายชุดให้กับพวกเธอแต่ละคน
เด็กสาวแต่ละคนได้รับชุดวันพีชเว้าหลังหลากสี ส่วนเหมยเหมยเป็นบิกินี่สีแดงสุดเซ็กซี่ พวกเธอต่างพากันฉงนว่าชุดอะไรกันจึงไม่มีแขนขา และของเหมยเหมยยิ่งแปลกเป็นเพียงเศษผ้าสีแดงสองชิ้นมีสายเท่านั้น
หงเซียวกล่าวกับบรรดาเด็กสาวว่า “ชุดแบบนี้ให้สวมเข้าไป ขาตรงนี้ แขนตรงนี้ แล้วใช้เชือกนี่อ้อมไปผูกที่ด้านหลังคอ”
“หวา โป๊” จินหลินกรีดร้อง ขณะที่อีกสามคนหน้าแดง
แน่นอนว่าศาสตราจารย์ย่อมไม่อายเด็กสาวๆพวกนี้ เขาอธิบายต่อโดยที่หน้าไม่แดงว่า “ส่วนชุดนี้ สวมขาลงไปตามช่องนี้ แล้วผูกเชือกให้แน่น ส่วนชิ้นนี้ก็วางตรงนี้แล้วดึงเชือกสองเส้นนี้ผูกเข้าด้วยกันที่คอ และอีกสองเส้นนี้ผูกเข้าด้วยกันที่ด้านหลัง”
“กรี๊ด โป๊ยิ่งกว่าของหนู” จินหลินร้องลั่นชายหาด แต่ถึงแม้ว่าเหมยเหมยจะอายหน้าแดงแต่เธอก็รับบิกินี่ไปโดยไม่ลังเล
“ถ้าอยากเป็นคนในความดูแลของพี่ชาย ก็ต้องรีบไปสวมชุดซะตรงฉากกั้นนั่น” หงเซียวกล่าวหน้าตาเฉย ขณะยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้กับทุกคน
หงเซียวพูดจบเขาก็ต้องแปลกใจที่ซิ่วจูกับซีชี่ที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกนั้นรีบไปก่อนสองคนนี้
นี่หมายความว่ากระไรกัน
สี่เด็กสาวออกมากันทีละคนโดยมีผ้าเช็ดตัวคลุมกายอยู่ พร้อมกับทำหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
เพราะว่าซิ่วจูกับซีชี่เข้าไปก่อนจึงออกมาก่อน ดังนั้นหงเซียวจึงเรียกทั้งสองคนนั้นเข้ามาหา “ซิ่วจู ซีชี่ มานี่หน่อยสิ”
“ม-มีอะไรหรือพี่ใหญ่” ซิ่วจูบิดตัวไปมา
“ข้าอยากจะถามว่า พวกเจ้าสองคนรู้เรื่องสองคนนั้นแล้วหรือยัง” หงเซียวถาม
ทั้งสองคนทำท่าเอียงอายพยักหน้า
“เช่นนี้หมายความว่า...” หงเซียวจงใจเว้นช่องคำพูด
“พ-พวกเราสองคนก็ตั้งใจว่า จะ-จะเป็นคนในปกครองของพี่ใหญ่ต่อไปเมื่อพวกเราอายุครบสิบหกปีแล้ว” ซิ่วจูพูด ซีชี่พยักหน้าหงึกหงัก
“พวกเจ้าตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม” หงเซียวถาม
“ใช่” ซิ่วจูพูด ซีชี่พยักหน้า
“จินหลินเป็นคนนำใช่ไหม”
“ใช่” ซิ่วจูขานรับ ซีชี่พยักหน้า
“นี่ข้ากำลังล่อลวงเด็กใช่ไหม”
“ใช่” ซิ่วจูกล่าวต่อเนื่อง ซีชี่พยักหน้า ก่อนที่ทั้งสามคนต่างพากันชะงักค้าง หงเซียวชะงักค้างเพราะจนคำพูด ส่วนสองเด็กสาวนั้นชะงักค้างเพราะว่ารู้สึกว่าคำตอบของตนเองนั้นดูไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องของคำถามเท่าไหร่นัก
“…..”
“พี่ใหญ่ ข-ข้าสวยมั้ย” จินหลินขัดเขิน แต่ด้วยนิสัยของเธอ และเลือดสาวทำให้เธอกล้าเผยตัวต่อหน้าหงเซียว
ชุดว่ายน้ำค่อนข้างรัดรูป หงเซียวผู้เชี่ยวชาญได้แอบคำนวณส่วนสัดของเด็กสาวทั้งสี่ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนักเพียงแค่ต้องการสร้างความแปลกใจให้กับพวกเธอเท่านั้นเอง ดังนั้นเขาจึงไปแอบสั่งให้ร้านตัดชุดว่ายน้ำให้ แต่ละชุดล้วนมีซับในแน่นเหนียวมิดชิดเป็นไปตามแบบชุดว่ายน้ำในโลกเดิมของเขาตามที่เขาจำได้ทุกประการ
และเพราะว่าโลกนี้ไม่มีซิป เขาจึงต้องใช้แบบเชือกผูกซึ่งก็ชวนให้เด็กสาวเหล่านี้ดูเซ็กซี่ขึ้นไม่น้อย
จินหลินเป็นวันพีชว่ายน้ำที่มีส่วนบนเป็นสีแสดและส่วนล่างเป็นสีครามน้ำเงินตัดกันอย่างสดใส เหมาะกับบุคลิกของเธอ ซิ่วจูเป็นวันพีชที่มีสีน้ำเงินแถบข้างสีเหลือง และซีชี่เป็นวันพีชที่มีสีชมพูและมีสีดำตัดในบางส่วนพอสวยงาม
เหมยเหมยสาวสิบหกอยู่ในชุดบิกินี่สีแดงสุดร้อนแรง เผยให้เห็นเอวคอดกิ่วและสะดือสวย เธอคลุมส่วนบนไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวและพยายามปิดช่วงล่างด้วยมือ รู้สึกเหมือนอยากมีมือเพิ่มอีกสักสิบข้าง
เพื่อไม่ให้พวกเธอรู้สึกเขิน หงเซียวจึงไม่จ้องพวกเธอเขม็ง แต่มองพวกเธอด้วยสายตาปกติแล้วกล่าวว่า “สวยน่ารักทุกคน เอาล่ะ รอข้าที่นี่แปบหนึ่ง ข้าขอเข้าไปเปลี่ยนชุดบ้าง”
หงเซียวออกมาในกางเกงว่ายน้ำขาสั้นรัดรูป รูปร่างวัยหนุ่มของเขาดูดีมีกล้ามเนื้อพองาม
“หวา พี่ชายก็โป๊” จินหลินและเหล่าสาวๆพากันเอามือปิดตาแต่ต่างพากันมองลอดนิ้วออกมา
ในยุคสมัยนั้นพวกเขาและเธอล้วนแต่งตัวกันอย่างมิดชิดด้วยวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ดังนั้นการแต่งกายแบบนี้ก็แทบไม่ต่างจากการเปลือยกายในที่สาธารณะ
“ไปเล่นน้ำกันเถอะ” หงเซียวรู้ว่าเป็นเรื่องปกติที่ครั้งแรกของทุกคนจะรู้สึกแปลกๆในชุดแบบนี้ กระทั่งเขาเองตอนที่สวมชุดเช่นนี้ครั้งแรกตอนสมัยเด็กเองก็ไม่ต่างกันนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่สาวๆได้สวมชุดว่ายน้ำลงเล่นในน้ำทะเล พวกเธอต่างพากันตื่นเต้นไปกับคลื่นที่ยกตัวเธอ โยกตัวเธอให้เซถลา รู้สึกสนุกสนานยิ่งนัก หงเซียวสอบถามแต่ละคนว่าว่ายน้ำเป็นหรือไม่ เขาก็พบว่าไม่มีใครว่ายน้ำเป็นแม้แต่คนเดียว จินหลินนั้นเขารู้จักเธอดีอยู่แล้ว แต่เพราะว่างานที่ทำอยู่ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ไปฝึกฝนการว่ายน้ำเลยแม้สักครั้ง
เมื่อนึกถึงตอนที่ไปช่วยเหลือเหมยเหมยโดยการให้สองเด็กสาวพายเรือไปรับนั้น เขาพลันรู้สึกว่าเป็นแผนการที่โง่เขลา เพราะหากว่าเด็กสาวของเขาทั้งสองคนเป็นอะไรไป เขาคงไม่ยกโทษให้ตนเองไปตลอดชีวิต
เขาจึงสอนให้พวกเธอหัดว่ายน้ำ เริ่มจากการฝึกหายใจในน้ำ การเตะเท้า การใช้มือโดยไม่ใช้ปราณเป็นพื้นฐาน และในเมื่อปราณของพวกเขาสามารถใช้ควบคุมมวลอากาศจนทำให้พวกเขาบินได้นั้น แน่นอนว่าพวกเขาก็สามารถใช้ควบคุมมวลน้ำได้ด้วย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงใช้การบินในอากาศมาประยุกต์ใต้น้ำทำให้พวกเขาว่ายได้เร็วดุจปลาโลมา แต่เพราะว่าน้ำที่เข้าตาทำให้พวกเธอจึงไม่ชินและไม่ชอบกับการมุดลงไปใต้น้ำมากนัก
หงเซียวยังอธิบายถึงหลักการแห่งแรงตึงผิว และพาพวกเธอเดินบนผิวน้ำ
เมื่อเพิ่มแรงตึงผิวให้กับผิวน้ำด้วยพลังปราณของพวกเขา หงเซียวก็พบว่านี่มันเป็นเหมือนบ้านลมที่เด็กๆเล่นกันในสวนสนุก ชวนให้เขานึกไปถึงช่วงชีวิตในวัยเด็ก เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นพวกเธอพากันกระโดดเด้งและวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปมาอย่างสนุกสนาน ในเมื่อน้ำทะเลนั้นเป็นคลื่นทำให้การยืนอยู่บนนั้นยากลำบาก อย่าว่าแต่วิ่งไปมาบนนั้น แต่ก็ทำให้พวกเธอสนุกสุดเหวี่ยงเช่นกัน
หงเซียวนึกถึงครีมกันแดด แต่ก็โยนความคิดนี้ทิ้งไป ในเมื่อพวกเขาและเธอมีปราณที่จะคอยช่วยผลัดเซลล์ที่หมองคล้ำทิ้งไปได้โดยไม่ต้องแยแส
เขาใช้ปราณสร้างแรงตึงผิวและดึงน้ำขึ้นมาเป็นลูกบอล และชวนพวกเธอเล่นบอลกัน พวกเขาตีมันไปบนท้องฟ้าตอบโต้กันได้ ด้วยพลังปราณทำให้พวกเขาสามารถตีลูกบอลน้ำที่หนักเป็นกิโลนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่บอลนี้ก็มีจุดอ่อน ที่หากมันสัมผัสบนผิวน้ำนานพอ มันก็จะรวมเข้ากับน้ำทะเลเป็นหนึ่งเดียวกันดังเดิม
พวกเขาเล่นน้ำกันยามสาย เมื่อแสงแดดแรงขึ้นพวกเขาและเธอก็ไปพักนอนกันใต้ร่มบนเก้าอี้ชายหาด พร้อมกับเสบียงที่เหล่าเด็กสาวพกพามา พร้อมกับน้ำผลไม้
ยามบ่าย หงเซียวก็ไปนำบอลน้ำมาหนึ่งลูก แล้วก็สอนพวกเธอให้รู้จักวอลเลย์บอลชายหาด และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นศึกอันร้อนระอุระหว่างบรรดาเด็กสาว
ยามเย็น หงเซียวก็ไปหาสัตว์ทะเลแถวนั้นมา ทั้งปู ปลา และหอย ก่อกองไฟ พาพวกเด็กสาวที่ยังคึกคักเปี่ยมพลังมานั่งล้อมวงรอบกองไฟ ปิ้งย่างพลางรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย
คืนนั้นพวกเธอนอนรวมกันโดยมีเขานอนอยู่ตรงกลางในเต็นท์หลังใหญ่ พื้นปูด้วยที่นอนสูบลมที่จัดทำจากหนังสัตว์ที่ฟอกจนอ่อนนุ่มเย็บเป็นที่นอนและใช้ยางไม้ทาอุดรูเย็บทั้งหมดเสริมด้วยพลังปราณของเขายิ่งทำให้ยางเหนียวเป็นพิเศษสามารถป้องกันลมรั่วได้เป็นอย่างดี แล้วใช้พลังปราณของพวกเขาสูบลมเข้าไปในที่นอนนั้น พร้อมกับหมอนลมสำหรับทุกคน ให้ความรู้สึกสบายและแปลกเป็นพิเศษ
มีเพียงหงเซียวเท่านั้นที่รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังหลอกเด็ก แต่ก็คาดคิดไว้ในใจว่า ไม่ว่าจะเด็กแค่ไหน วันเวลาก็จะเปลี่ยนเธอให้เป็นผู้ใหญ่ในสักวัน และในวันนั้นเขาก็จะไม่ใช่คนที่หลอกเด็กอีกต่อไป
ส่วนพวกเธอนั้นทั้งผ่อนคลายทั้งมีความสุขมากมายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน หากว่าชีวิตพวกเธอต้องอยู่ในความปกครองของเขาตลอดไปเช่นนี้ คงจะดีไม่น้อย