บทที่ 2: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (2)
บทที่ 2: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (2)
นับตั้งแต่ที่เขาสั่งให้พ่อบ้านเอายาคุมให้เธอกิน เวลาก็ล่วงเลยมาถึงหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากวันนั้นกู่หยูเซิงก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านอีกเลย
จากคำที่เขาให้พ่อบ้านมาบอกกับซินเจียว่า ห้ามไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขา เธอก็ทำตามที่เขาต้องการอย่างอย่างเคร่งครัด เธอไม่แม้แต่จะนึกถึงเขาเลยด้วยซ้ำ ทำให้เดือนนั้นทั้งเดือนพวกเขาไม่ได้เจอกันเลย
ซินเจียหันไปมองนาฬิกาสไตล์ยุโรปสมัยรุ่นคุณปู่ที่ตอนนี้เข็มสั้นชี้ไปที่เลขหนึ่งแล้ว เธอมองกลับไปที่ทีวีจอใหญ่ซึ่งตอนนี้กำลังฉายภาพภาพยนตร์ของนักแสดงคนโปรดของเธออยู่ แต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะดูต่อจึงปิดทีวีและเดินขึ้นไปนอน
เธอเผลอไปนึกถึงเรื่องของกู่หยูเซิงเข้าตอนที่มองนาฬิกาเลยทำให้ซินเจียนอนไม่หลับแม้ว่าเธอจะอยู่บนเตียงนอนแล้วก็ตาม เธอหลับตาลงและพยายามที่จะหลับ แต่เมื่อเธอหลับไปได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆเตียงก็ดังขึ้น
เป็นเบอร์ของคฤหาสน์ตระกูลกู่ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย คนที่โทรมาคือแม่นมจาง คนเก่าคนแก่ที่คอยรับใช้ตระกูลกู่มานานกว่า 20 ปี “ขอโทษนะคะนายหญิงน้อยที่โทรมารบกวนคุณกลางดึก นายท่านผู้เฒ่าเพิ่งโทรมาแจ้งว่าจะนั่งเครื่องบินกลับปักกิ่งพรุ่งนี้เช้า ท่านต้องการให้นายหญิงน้อยและนายน้อยมาทานอาหารเย็นกับท่านที่คฤหาสน์วันพรุ่งนี้คะ”
แม่นมจางจะทำตามคำสั่งของนายท่านผู้เฒ่าคนเดียวเท่านั้น เธอน่าจะเป็นแค่คนเดียวในตระกูลกู่ที่กล้าขัดคำสั่งของกู่หยูเซิงและเรียกเธอว่า “นายหญิงน้อย”
“และได้โปรดแจ้งให้นายน้อยทราบด้วยนะคะ...”
แต่เขาสั่งไม่ให้เธอไปยุ่งวุ่นวายกับเขานี่สิ เธออยากจะบอกให้แม่นมจางเป็นคนไปบอกเขาเองแต่คำพูดก็ติดอยู่ที่ปลายลิ้น เธอยังจำคำเตือนของ กู่หยูเซิงเมื่อวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ได้ไม่ลืม
คุณปู่คือครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาที่เขาเหลืออยู่บนโลกใบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอใช้มารยาทำให้คุณปู่บังคับให้เขาแต่งงานกับเธอ เขาก็ไม่มีวันจะทำตามคำสั่งของคุณปู่เด็ดขาด เธอสามารถอาศัยอยู่ในบ้านนี้ได้แต่เค้าก็จะไม่สนใจเธอ
และเขาจะเอาเรื่องเธอ ถ้าเธอทำให้คุณปู่รู้ว่าเธอกับเขาไม่ลงรอยกัน
ถ้าเธอขอให้แม่นมจางโทรหากู่หยูเซิงเอง เรื่องต้องถึงหูนายผู้เฒ่าแน่ๆว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะแม่นมจางเป็นคนของคุณปู่
ซินเจียตัดสินใจกลืนคำที่จะพูดเมื่อกี้คงคอ แล้วเปลี่ยนมาพูดว่า “ได้คะแม่นมเดี๋ยวหนูจะบอกหยูเซิงเอง”
หลังจากวางสายซินเจียก็ลุกขึ้นมานั่ง และกดเบอร์มือถือของกู่หยูเซิง เธอลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็กดโทรออก
เมื่อได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ซินเจียก็รู้สึกประหม่า จนแทบไม่กล้าหายใจ
ตู๊ด......ตู๊ด.....ตู๊ด..... พอดังถึงครั้งที่สี่ สายก็ถูกตัดอย่างไม่ลังเล
ไอ้บ้ากู่หยูเซิง ตัดสายเธอ.... !!
เธอเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความโกรธ และเปลี่ยนจากโทรหาเขามาเป็นส่งข้อความแทน แต่ข้อความกลับส่งไม่ผ่าน เธอจึงตัดสินใจโทรหาเขาอีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้กลายเป็นว่าสายไม่ว่าง
ผ่านไปนานกว่า 10 นาที ข้อความก็ยังส่งไม่ได้ ซินเจียจึงโทรหาเขาอีกครั้ง แต่สายก็ยังไม่ว่างเหมือนเดิม
ซินเจียรู้สึกว่ามันแปลกๆ เธอจึงเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์บ้านเพื่อโทรไปหากู่หยูเซิง คราวนี้กลับโทรติดทันที
เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ เขาบล็อกเบอร์ของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เขากดตัดสายทิ้ง
สายตาของซินเจียฉายแววอึมครึม เธอเตรียมที่จะวางสายและให้พ่อบ้านเป็นคนติดต่อกู่หยูเซิงแทนในวันพรุ่งนี้ แต่กู่หยูเซิงก็รับสาย เหมือนกับเขารู้อยู่แล้วว่าคนที่โทรมาเป็นเธอ เขาจึงพูดด้วยที่น้ำเสียงเหมือนกำลังรำคาญว่า “คุณมีปัญหาอะไร? ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่ามาวุ่นวายกับผม”
“คุณปู่......” ซินเจียรีบพูดเข้าประเด็นอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าเขาจะตัดสายเธอก่อนที่เธอพูดจบ “คุณปู่จะบินกลับมาถึงปักกิ่งพรุ่งนี้เช้า ท่านอยากให้คุณกับฉันไปทานข้าวเย็นกับท่านที่คฤหาสน์พรุ่งนี้”
กู่หยูเซิง ที่อยู่ในสายนิ่งเงียบ
ซินเจียรออยู่แปปนึง กู่หยูเซิงก็ยังไม่ตอบอะไร เธอจึงรีบพูดต่อว่า “คุณจะให้รออยู่ที่เดิม ที่คุณเคยมารับฉันครั้งที่แล้วไหม?”
ครั้งที่แล้วที่เธอพูดถึงคือ ตอนที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของเขาใหม่ๆ คุณปู่ให้เขาพาเธอไปทานอาหารเย็นกับท่านที่คฤหาสน์ แต่เขาไม่อยากขับรถมารับเธอ เธอจึงต้องไปบ้านคุณปู่เอง แล้วนัดเจอกับเขาตรงตรอกเล็กๆใกล้ๆกับคฤหาสน์แทน จากนั้นค่อยเข้าบ้านไปพร้อมกัน
“เขาคงไม่อยากมารับเธออีกเหมือนเคย” เธอคิด
ซินเจียระงับความผิดหวังในใจ และพยายามอย่างมากที่จะใช้น้ำเสียงเหมือนกับว่าเธอเองก็ไม่ได้สนใจเขา เธอเอ่ยถามเขาว่า“พรุ่งนี้คุณจะให้ฉันไปรอกี่โมงคะ?”
กู่หยูเซิง ก็ยังคงเงียบอยู่
“ถ้าเป็นช่วงบ่าย......” ซินเจียยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกตัดบทด้วยน้ำเสียงอันแสนเย็นชาของเขาว่า “คุณมันก็ดีแต่ใช้คุณปู่เป็นข้ออ้าง คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองน่ารังเกียจหรอ?”
หลังจากเพียงแค่สองวินาที กู่หยูเซิงก็กดวางสาย
ซินเจียกำโทรศัพท์ในมือแน่น ร่างกายที่แข็งทื่อของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง หลังจากนั้นไม่นาน เธอค่อยๆวางหูโทรศัพท์ลง
เธอขึ้นไปบนเตียงนอน ดึงผ้าขึ้นมาห่มและหลับตาลงช้าๆ ดูราวกับว่าเธอกำลังนอนหลับอย่างสงบ แต่ที่หางตาของเธอกลับมีหยดน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดและมือที่กำลังจับผ้าห่มนั้นสั่นอย่างน่ากลัว
ซินเจียไม่สามารถตกลงเรื่องเวลาที่จะไปคฤหาสน์กับกู่หยูเซิงได้ในการคุยกันเมื่อคืน หลังจากที่กู่หยูเซิงต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย มันจะเป็นเรื่องดีกว่าถ้าเธอไม่โทรไปหาเขาอีก
แม้ว่าซินเจียจะไม่รู้ว่ากู่หยู่เซิงจะไปที่คฤหาสน์กี่โมง แต่เธอรู้ว่าเขาเลิกงาน เวลา 17.30 น.
ดังนั้นไม่กี่นาทีก่อนจะ ถึงเวลา 17.30 น. เธอจึงรีบไปไปตรอกเล็กๆใกล้กับคฤหาสน์ตระกูลกู่
เกือบๆจะ 18.00 น. เธอก็ได้ยินเสียงของรถที่มาจอดใกล้ๆตรอกที่เธอกำลังยืนอยู่ เมื่อซินเจียหันไปก็เจอกับรถของกู่หยู่เซิงกำลังจอดอยู่ตรงริมถนนพร้อมทั้งเปิดไฟฉุกเฉิน
ซินเจียเดินไปที่รถ ตอนนั้นเธอถึงเห็นว่าคนขับรถวันนี้เป็นตัวกู่หยูเซิงเอง ไม่ใช่คนขับรถของเขา