ตอนที่ 44 หนอนกลืนกำเนิด
ภายใต้สีหน้าตกตะลึงของศิษย์พี่ที่ถูกจับกุม เสวี่ยอิ่งส่งผ่านแรงเข้าไปเล็กน้อย พร้อมกับเสียงกระแทก ศิษย์พี่คนนั้นพลันหมุนตัวตีลังกาปากจุมพิตพื้นห้อง
ในขณะเดียวกัน ลูกน้องที่เหลืออีกสามคนรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดไป พวกมันพุ่งเข้ามาพร้อมเรียกหุ่นเชิดสำเร็จภายในช่วงสองย่างก้าว
แต่เสวี่ยอิ่งมีหรือจะให้เวลาพวกมันได้ใช้งานหุ่นเชิด ก่อนที่พวกมันจะทันได้ทำอะไร นางเคลื่อนตัวผ่านทั้งสามภายในชั่วพริบตาราวภูติผี ไม่นานนักพวกมันนั่งลงเข่าถึงพื้นมือกุมท้องน้อยกันถ้วนหน้า
เสวี่ยอิ่งแสดงความสามารถโดดเด่นที่นางได้สอนทุกคนในห้องเรียนคนเถื่อน ภายในพริบตานักเชิดหุ่นระดับสูงสี่คนได้พ่ายแพ้ไม่อาจทำอันใดได้อีก เหลือเพียงศิษย์พี่หน้ามืดหม่นคนนั้น
“เจ้าคงเป็นหัวหน้าพวกมัน? ข้าไม่สนว่าเจ้าคือใครแต่เจ้าได้ทำให้ข้าโกรธแล้ว!”
เสวี่ยอิ่งกำหมัดแน่นขยับเรือนร่างไร้ที่ติอีกครา เกือบจะในเวลาเดียวกันประกายแสงสีม่วงห่อหุ้มร่างของศิษย์พี่คนนั้นไว้ เขาพลันหายตัวไปจากเก้าอี้ในบัดดล ในยามที่เสวี่ยอิ่งตระหนักรู้ว่าสิ่งใดได้เกิดขึ้น เขาก็ปรากฎกายอยู่ข้างป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หุ่นเชิดระดับม่วง! เคลื่อนย้ายข้ามมิติ!
“ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ในฐานะอาจารย์เจ้าได้ทำผิดกฎของสถาบันโดยการลงมือกับศิษย์ จากอายุของเจ้า เจ้าคงเพิ่งเข้ามาในสถาบันได้ไม่นาน น่าเสียดายที่เจ้าคงต้องเก็บสัมภาระกลับบ้านในไม่ช้า”
ศิษย์พี่กล่าวอย่างมั่นใจหลังจากจับกุมป๋ายเสี่ยวเฟยได้สำเร็จ
“ปล่อยเขาไป มิเช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวลาออกจากสถาบันได้เลย!”
เสวี่ยอิ่งหันหลังกลับไม่สนใจคำขู่ของศิษย์พี่ นางปลดปล่อยรังสีสังหารออกมา
“เจ้าจะลองดูก็ได้ว่าระหว่างเราใครเร็วกว่า เจ้าคงไม่อยากให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้าหนุ่มลอกเลียนแบบนี่ ใช่หรือไม่?”
ศิษย์พี่ยิ้มเยาะ สีหน้าเผยให้เห็นความมืดมน เสวี่ยอิ่งสังเกตถึงความอิจฉาริษยาที่ลึกล้ำในใบหน้านี้
บางทีเขาอาจไม่ได้มาที่นี่เพราะอันดับค่าหัว แต่เป็นเพราะป๋ายเสี่ยวเฟยมีหุ่นเชิดลอกเลียนแบบในครอบครองต่างหาก!
ในใจของเสวี่ยอิ่งอดไม่ได้ที่จะสลดลงเมื่อรู้เช่นนี้ เพราะหากสิ่งที่นางคิดเป็นจริงเขาอาจทำตามที่พูดก็ได้
“ศิษย์พี่ ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับหนอนสายพันธ์พิเศษที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาไร้ขอบเขตหรือไม่?”
ป๋ายเสี่ยวเฟยพูดออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ยขณะที่ทั้งสองเผชิญหน้ากัน สุ้มเสียงสงบนิ่งประดุจโสตประสาทไม่รับรู้ถึงอันตรายใกล้ตัว
“ไอ้หนู เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดอันใดทั้งสิ้น หากเจ้าขยับตัวเล็กน้อยชั่วชีวิตของเจ้าจะไม่มีวันได้โคจรปราณกำเนิดอีก!”
ศิษย์พี่ไม่มีเจตนาจะฟังคำพูดไร้สาระของป๋ายเสี่ยวเฟย ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ตัวเสวี่ยอิ่ง
“ไม่เลยศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านควรจะฟังสิ่งที่ข้ากำลังจะพูดเพราะหนอนชนิดนี้มีชื่อว่าหนอนกลืนกำเนิด”
ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มเย็นพลางกล่าว บนใบหน้าของศิษย์พี่ปรากฏความตื่นตะลึง
หนอนกลืนกำเนิดเป็นหนอนที่เติบโตด้วยปราณกำเนิด ตัวของมันเล็กเท่าด้ายไหม ยากเย็นต่อการมองเห็นด้วยตายิ่งนัก หลังจากหนอนกลืนกำเนิดเข้าไปในตัวเหยื่อมันจะกลืนกินปราณกำเนิดภายในอย่างบ้าคลั่งแต่กระบวนการนี้สัมผัสรู้ได้ยากเอาการ ตัวเหยื่อจะรับรู้ก็ต่อเมื่อหนอนกำเนิดเติบโตเต็มที่ หลังจากนั้นมันจะออกไข่เพื่อที่ลูกหลานของมันจะได้กลืนกินปราณกำเนิดในร่างเหยื่อต่อไป
เมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างก็สายเกินไป!
“หนอนกลืนกำเนิดทั่วไปใช้เวลาเพียงสามวันเพื่อออกไข่ แต่หนอนกลืนกำเนิดที่ผ่านการฝึกฝนสามารถย่นระยะเวลานี้ได้...อย่างเช่นครึ่งชั่วโมง! ข้าใส่มันเข้าไปในตัวท่านตอนที่ท่านสัมผัสข้า”
สีหน้าของศิษย์พี่เปลี่ยนจากตกตะลึงไปเป็นหวาดกลัวอย่างล้ำลึก
“อย่าใช้ปราณกำเนิดเพื่อสำรวจข้างในร่างของท่านมิเช่นนั้นมันจะยิ่งเติบโตไวกว่าเดิม”
ด้วยคำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟย ปราณกำเนิดที่กระวนกระวายภายในร่างศิษย์พี่พลันสงบลงทันที ความเจ็บปวดทรมานจากการถูกหนอนกลืนกำเนิดกัดกินมีบันทึกไว้ในหนังสือ สามารถบรรยายได้เพียงสี่คำ
ตายดีกว่าอยู่!
“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ!? เจ้าจะไปเลี้ยงหนอนกำเนิดได้อย่างไร”
สุ้มเสียงเคลือบแคลงดังแว่วข้างหูเปรียบได้ดั่งป้อมปราการต่อต้านสุดท้ายของเขา
“ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน แม้แต่จะหักคอข้าท่านก็สามารถทำได้ แน่นอนว่าผลที่ตามมาคงไม่ต้องให้ข้าบอก”
ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มหยันพลางจับมือขวาของศิษย์พี่ที่กุมคอเขาอยู่ ศิษย์พี่ส่งผ่านแรงมากกว่าเดิมตามสัญชาตญาณทันที
“เชิญ ข้าไม่ต่อต้านท่านหรอก”
ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยจบก็เป็นศิษย์พี่ที่ยั้งมือเนื่องเพราะอิริยาบถของเขาสุขุมเยือกเย็นเกินไป เขาสงบนิ่งเสียจนศิษย์พี่ไม่อาจมองเห็นได้ว่าเขาโกหก
“บริเวณที่มือข้าสัมผัสคือจุดที่ปราณกำเนิดบรรจบกัน หนอนกลืนกำเนิดอยู่ตรงนี้ ท่านสามารถลองค้นดูได้”
ศิษย์พี่หันเหความสนใจไปยังข้างในกายตามที่ป๋ายเสี่ยวเฟยบอก ในใจเขาไร้ข้อสงสัยอีกต่อไปเหลือเพียงความหวาดกลัวอย่างล้ำลึก ความเร็วที่ปราณกำเนิดสะสมในบริเวณนี้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก!
“ข้าไม่ได้หลอกท่าน ใช่หรือไม่?”
ป๋ายเสี่ยวเฟยหัวเราะในลำคอก่อนจะรู้สึกถึงแรงบีบที่รุนแรงอีกครา
“เอามันออกไป!!!!”
ศิษย์พี่เอ่ยตะโกนดังลั่น ไม่ว่าคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด เมื่ออยู่ต่อหน้าหนอนกลืนกำเนิดก็ไม่ต่างอะไรไปจากสารอาหารให้แก่มัน
ป๋ายเสี่ยวเฟยขาดอากาศหายใจใบหน้าแดงก่ำ เขาเอ่ยคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“ปล่อย...ข้า!”
เขาไม่มีความคิดจะยอมแพ้
ยิ่งเวลาผ่านพ้นไปป๋ายเสี่ยวเฟยยิ่งหายใจลำบากขึ้น เสวี่ยอิ่งที่อยู่ด้านหน้าเขาเตรียมกระทำการทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือป๋ายเสี่ยวเฟย เป็นเวลานี้เองที่สีหน้ามืดมนของศิษย์พี่จางหายไป
เขาถอนกำลังจากฝ่ามือช้าๆ พลางกล่าวเสียงต่ำลึก
“เอามันออก ไม่งั้นเจ้าตาย!”
คำขู่ของศิษย์พี่ล้ำเส้นเกินไปมาก แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่สนใจสักนิดเพราะเขารู้ว่าศิษย์พี่ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
แน่นอนว่าครู่ต่อมาศิษย์พี่ก็ปล่อยตัวป๋ายเสี่ยวเฟย
“เอามันออก!”
เขายื่นแขนไปทางป๋ายเสี่ยวเฟยพลางเอ่ยเน้นย้ำ น่าแปลกที่ป๋ายเสี่ยวเฟยยังนิ่ง
“จะว่าไป ข้ายังไม่รู้ชื่อท่านเลย”
ป๋ายเสี่ยวเฟยเปลี่ยนเรื่องคุย เมื่อศิษย์พี่ได้ยินเขาหวังเพียงอยากจะฉีกกระชากป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นชิ้นๆ แต่เขากลับทำได้เพียงอดกลั้นไว้เพราะหวาดกลัวต่อหนอนกลืนกำเนิด
“เหอเมิ่ง”
ศิษย์พี่กัดฟันแน่นกรอดพลางกล่าวออกมาสองคำ เขาเตรียมตัวพร้อมลากป๋ายเสี่ยวเฟยลงไปด้วยแล้ว
“โอ ศิษย์พี่เหอเมิ่งไม่ต้องเป็นกังวล ข้าป๋ายเสี่ยวเฟยเป็นคนน่าเชื่อถือไม่กลับคำพูดแน่นอน”
เหอเมิ่งผ่อนคลายเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
“แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมีบางสิ่งที่ต้องทำเสียก่อน”
ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มกริ่มก่อนจะขยับตัวไปด้านข้างเปิดทางให้เสวี่ยอิ่งที่ยืนกำหมัดแน่น เหอเมิ่งสังหรณ์ใจไม่ดีทันใด
“อย่าลืมว่าท่านห้ามขัดขืนเพราะการใช้ปราณกำเนิดจะกระตุ้นให้หนอนกลืนกำเนิดเติบโตไวขึ้น”
ก่อนที่เหอเมิ่งจะทันได้ตอบกลับ กำปั้นที่สยบคนมากมายก็พลันง้างขึ้น...
หากมีแค้นแล้วไม่ชำระ เจ้าก็ไม่ใช่ผู้ชาย...เอ่อ ผู้หญิง!