ตอนที่ 4 : ความมหัศจรรย์ของสวน
สองสามวันต่อมาของที่ฟ่านหลินสั่งก็มาถึง ฟ่านหลินหอบมันมาที่สวนหลังบ้านน่าแปลกใจที่ไม่มีแม้แต่โรงนาหรือสถานที่ไว้ให้เก็บของเลย ฟ่านหลินเคยถามถึงเรื่องระบบกระเป๋าที่มีแต่เจ้าระบบก็ตอบมาอย่างกวนๆ
[ มันสามารถเก็บของได้เกือบทุกชนิดแล้วเหตุใดนายท่านถึงไม่ใช้มันใช่ของพวกนั้นกันละ ? ท่านจะได้ไม่ต้องแบกของหนัก ]
ฟ่านหลินที่ได้อ่านก็ถึงขมวดคิ้วเล็กน้อยและอยากจะทุบเจ้าระบบนี่สักทีแต่ฟ่านหลินกลับทำอย่างงั้นไม่ได้ ฟ่านหลินหยิบเจ้าหัวมันออกมาสี่สิบหัวก่อนจะนำมันมาตัดแบ่งหัวพันธุ์ออกมาและนำฝังลงดินก่อนจะกลบมัน
หัวมันที่ฟ่านหลินสั่งซื้อนั้นเป็นมันเทศญี่ปุ่นมีคนญี่ปุ่นชอบกินกันซึ่งมันจะมีรสหวาน ถูกปากคนสมัยนี้ที่มักจะชอบกินหวานกันด้วย
สองวันก่อนฟ่านหลินได้ทำการขุดแปลงผักเป็นขนาด 50x50 เมตรซึ่งเป็นแปลงขนาดกลางๆ ไม่ได้ใหญ่มากหากเทียบกับพื้นที่มหาศาลที่เขามีตอนนี้ ฟ่านหลินปวดหัวเล็กน้อยกับการศึกษาเรื่องการทำสวนเพราะตลอดชีวิตเขาจมอยู่กับตัวเลขและการเขียนโปรแกรม
แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้เขามีเจ้าระบบคอยช่วยแนะนำทำให้ฟ่านหลินรู้สึกดีขึ้นเยอะ จากนั้นฟ่านหลินก็จัดการปลูกอย่างอื่นด้วยก็คือ ผักกาก กล่ำดอก จากนั้นฟ่านหลินก็เดินตรงไปยังแปลงใหญ่ที่เขาเตรียมเอาไว้ปลูกสตรอเบอร์รี่กับองุ่น
สำหรับสตรอเบอร์รี่นั้นไม่ได้มีอะไรยุ่งยากนักแต่สำหรับองุ่นนั้นไม่ใช่เพราะจากที่เขาศึกษามานั้นองุ่นมีลักษณะต้นเป็นไม้พุ่มเลื้อยซึ่งฟ่านหลินจำเป็นจะต้องทำเสาและโครงเพื่อให้ลำต้นขององุ่น เขาใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อทำมันดังนั้นฟ่านหลินจึงคาดหวังกับองุ่นไว้สูงกว่าพืชผลอย่างอื่น
ในขณะที่ฟ่านหลินกำลังง่วนอยู่กับองุ่นเขาก็สังเกตุเห็นเงาขนาดใหญ่กำลังพาดผ่านสวนของเขา เมื่อเขามองขึ้นไปเขาถึงกับต้องอ้าปากค้างฟ่านหลินตกตะลึงจนถึงกับขาสั่นร่างกายสั่นไม่รู้ว่าเพราะความกลัวหรือความดีใจที่ฟ่านหลินได้เห็นมัน
สิ่งที่ฟ่านหลินเห็นอยู่ด้านบนก็คือสัตว์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในตำนานของยุโรป ร่างกายที่ใหญ่โตกว่าเครื่องบินโบอิงประมาณเท่าตัวปีกขนาดยักษ์ที่กะจากสายตาก็กว้างมากกว่า 100 เมตรเกล็ดสีแดงเพลิงตามลำตัวของมันทำให้มันดูเหมือนกับถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงอันร้อนระอุ ทันทีที่มันบินผ่านหัวของฟ่านหลินไป มันทำเอาเขาแทบอยากจะฉี่แตกออกมา
มันไปทางเหนือของแอ่งกระทะซึ่งนั่นเป็นทางไปของเหมืองฟ่านหลินหัวเราะแห้งๆ ออกมาอย่างช่วยไม่ได้
''นั่นมันมังกรจริงๆ ใช่ไหม ?''
ทันทีที่คำถามนี้ออกมาจากปากของฟ่านหลินเจ้าระบบก็ตอบกลับมาทันที
[ ใช่แล้วนายท่าน นั่นคือมังกรเพลิงอิกนัซที่อาศัยในอยู่ใต้ภูเขาไฟตรงเหมืองทางเหนือ ]
ทันทีที่ฟ่านหลินได้ยินเขาก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะถามออกมาด้วยความกังวล
''นี่แกบอกว่ามันอาศัยอยู่ในเมืองงั้นเหรอ ?!''
[ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ มันอาศัยอยู่ข้างใต้เหมืองนะนายท่าน ]
''งั้นถ้าฉันจำเป็นจะต้องไปขุดเหมือง ฉันก็มีโอกาสจะต้องสู้กับมันงั้นเหรอ ?''
[ ผิดแล้วนายท่านมังกรนั้นเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานของเหมืองเสียมากกว่า เมื่อตัวเหมืองได้รับพลังงานมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากตัวมังกรแร่ธาตุต่างๆ ก็เกิดขึ้นและจับตัวกันเป็นแร่ และมังกรนั้นจะไม่โจมตีนายท่านอย่างแน่นอนหากไม่มีเหตุการณ์พิเศษ ]
ฟ่านหลินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์พิเศษที่เจ้าระบบพูดถึง แต่ถึงอย่างงั้นฟ่านหลินก็ไม่กังวลจนเกินไปเพราะถ้าหากเขาจำเป็นจะต้องสู้กับมังกรนั่นจริงๆ เขาคงตายอย่างแน่นอนเพราะต่อให้ฟ่านหลินมีนิวเคลียร์ก็คงทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดี ฉะนั้นฟ่านหลินจึงเลิกคิดถึงเรื่องที่จะต้องสู้กับเจ้ามังกรนั่น เพราะบางทีในใจลึกๆ ของเขาก็หวังว่าเจ้าระบบอาจช่วยอะไรเขาบ้างเมื่อถึงเวลานั้น
หลังจากที่คิดถึงมังกรอยู่สักพักฟ่านหลินก็ถามกับเจ้าระบบ
''แล้วนอกจากมังกรที่ใช้เหมืองเป็นบ้านแล้วมีอะไรอีกไหมที่ฉันต้องรู้ ?''
[ อืม... นอกจากมังกรแล้วก็ยังมีภูติอีกด้วยนะนายท่าน ]
''ภูติ ? นายหมายถึงนางฟ้าตัวเล็กๆ ในหนังสือนิทานงั้นเหรอ ?''
[ ถูกต้องแล้วนายท่าน แต่คงจะเป็นการยากที่จะได้เจอกับภูติ ]
''ทำไมละ ?''
[ เพราะภูติเหล่านั้นขี้อาย และไม่ค่อยชอบผู้คนมากนักแต่พวกเธอมักจะชอบมาคอยช่วยเหลือดูแลพืชผลในสวนอยู่เสมอ ]
ฟ่านหลินพยักหน้าหงึกๆ ขณะจัดการกับองุ่นไปทีละต้น หลังจากใช้เวลาทั้งวันจัดการปลูกพืชผักผลไม้ต่างๆ จนเสร็จเขาก็กลับเข้ามาในบ้านก่อนจะถามกับเจ้าระบบ
''นี่เจ้าระบบ ทะเลสาบตรงกลางนั้นสามารถเลี้ยงปลาได้รึเปล่า ?''
[ ได้แน่นอนนายท่าน เพราะน้ำในทะเลสาบได้รับพรมาจากเทพธิดาเทียน่า ]
''เทพธิดเทียน่า ? ใครกัน ?''
[ อืม... เธอเป็นหนึ่งในเทพธิดาทั้ง 9 ที่มอบพรให้กับสวนหลังบ้านแห่งนี้นายท่าน นางมีอีกชื่อหนึ่งก็คือเทพสมุทรเป็นเทพที่คอยดูแลความเรียบร้อยของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ และเมื่อทะเลสาบแห่งนั้นได้รับพรจากนางก็จะทำให้ท่านสามารถใช้น้ำในทะเลสาบใช้การทำสิ่งต่างๆ ได้แต่ข้าขอแนะนำให้ท่านสร้างบ่อปลาแยกเสียดีกว่า ]
''ทำไมละ ?''
[ แม้ทะเลสาบนั่นจะไม่มีวันเหือดแห้งหรือป้นเปื้อนแต่การเลี้ยงปลานั้นมีอะไรมากกว่าการปล่อยปลาอยู่ในทะเลสาบและคอยให้อาหารมันเฉยๆ หรอกนะท่าน ]
''นั่นก็ถูกของนาย''
ฟ่านหลินคิดเกี่ยวกับสวนหลังบ้านของเขาที่ตอนนี้กำลังฉีกตรรกะความเป็นจริงของเขาออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับความแฟนตาซีโครตๆ ของมันไม่ว่าจะเป็น มังกร ภูติ หรือแม้แต่เทพธิดาเขาไม่รู้จะทำตัวยังไงดีกับเรื่องเหล่านี้ เขาจำเป็นจะต้องสร้างศาลบูชาเทพธิดาเหมือนในหนังหรือนิยายรึเปล่า ? หรือจำเป็นจะต้องหาของมาบูชามังกรไหม ? ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดทั้งคืน ทำเอาฟ่านหลินแทบจะหลับไม่ลงเลยทีเดียว
...........................................................................................................
เช้าวันต่อมาฟ่านหลินตื่นด้วยความงุนงงเล็กน้อยจากการนอนไม่พอ เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาในสวนก็พบว่ามันเทศญี่ปุ่นนั้นโตเกือบจะเต็มที่แล้วจากที่ดูฟ่านหลินคิดว่าจะประมาณอีก 1-2 วันมันถึงจะสามารถเก็บได้ รวมอย่างอื่นด้วยเช่นกันที่มีระยะเวลาเกือบโตใกล้เคียงกับมันเทศญี่ปุ่น แต่ที่ฟ่านหลินตื่นตาที่สุดก็คงเป็นต้นองุ่นที่ตอนนี้ลำต้นของมันเริ่มที่พันเสาไม้ขึ้นมาแล้ว ฟ่านหลินตกใจเล็กน้อยกับความเร็วในการเติบโตของมัน
จากที่ฟ่านหลินดูในอินเตอร์เน็ตโดยปกติแล้วองุ่นใช้เวลาเติบโตประมาณ 3-4 เดือน แต่ด้วยผลของการเติบโต 3 เท่าทำให้เขาอาจใช้ไม่เวลาถึงเดือนในการเก็บผลผลิตรอบแรกขององุ่น
ฟ่านหลินไล่รดน้ำไปทีละแปลงก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า
''หากฉันต้องทำอย่างงี้ทุกวัน ฉันคงเหนื่อยตายเป็นแน่''
เมื่อได้ยินแบบนั้นเจ้าระบบก็พูดออกมา
[ เช่นนั้นนายท่านก็ต้องรีบอัพเลเวลระบบของข้าเพื่อที่นายท่านจะได้สะดวกสบายมากขึ้น ]
''นั่นสินะ''
ฟ่านหลินถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน
-----------------------------------------------------------------------------------------
- หลังจากเริ่มเขียนเรื่องนี้ ผมนี่กลับไปเล่น Stardew เลยทีเดียว