ตอนที่ 1 : มรดกจากปู่ !?
''นายถูกไล่ออก !!''
เสียงดังออกมาจากห้องทำงานของผู้จัดการแสดงถึงความโกรธของเขาที่มีต่อพนักงานตรงหน้า ฟ่านหลิน ชายหนุ่มอายุ 23 ที่พึ่งเรียนจบมหาลัยมาได้ไม่นานเขาได้เข้ามาทำงานกับบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งของจีน แต่ในขณะที่เขากำลังตรวจสอบซอฟต์แวร์ของบริษัทอยู่เขาก็พบเข้ากับบัญชีลับที่เป็นต้นเหตุของการยักยอกเงินของบริษัท
ฟ่านหลินจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับเจ้านายของเขาซึ่งผลที่ได้คืนเขาถูกเด้งออกจากบริษัทโดยไร้สาเหตุ ฟ่านหลินเดินคอตกกลับบ้านหลังจากรับเงินชดเชยแล้วเขาถอนหายใจออกมาก่อนจะมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง
เมื่อฟ่านหลินเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอกับซองจดหมายซองหนึ่งที่จ่าหน้าถึงเขา ฟ่านหลินหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าถูกส่งมาจากปู่ของเขาฟ่านหลินเลยไม่รีรอที่จะแกะมันอ่านทันที
เนื้อความในจดหมายนั้นกล่าวเพียงสั้น ๆ ถึงไร่ของปู่ของเขา
-ฟ่านหลิน หากเจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ก็แสดงว่าปู่ได้จากไปแล้ว แต่เจ้าไม่ต้องเศร้าเสียใจไปปู่รู้ว่าเจ้าเป็นคนเข้มแข็ง บางทีเจ้าอาจจะเหนื่อยอ่อนจากเรื่องในเมืองปู่ขอแนะนำว่าให้เจ้าไปพักผ่อนที่บ้านของปู่ที่อยู่ด้านในภูเขาจือหยวน บางทีเจ้าอาจจะพบเรื่องดี ๆ ที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของเจ้าได้
ปล. ปู่ได้แนบโฉนดที่ดินของบ้านมาด้วยซึ่งได้โอนเป็นชื่อของเจ้าแล้ว พร้อมกับเม็ดยาที่ช่วยรักษาความเหนื่อยล้าของเจ้าได้ปู่แนะนำให้เจ้าทานมัน
เมื่อฟ่านหลินอ่านจบก็ลองดูสิ่งของด้านในจดหมายซึ่งก็มีโฉนดที่ดินที่ว่านั้นจริง ๆ โดยชื่อเจ้าของนั้นเป็นชื่อของเขาพร้อมกับซองยาสีน้ำตาลอ่อนซึ่งด้านในมียาอยู่เม็ดหนึ่ง
''ปู่บอกว่ามันจะช่วยขจัดความเหนื่อยล้าได้สินะ''
ฟ่านหลินโยนเม็ดยานั่นเข้าปากทันทีโดยไม่มีข้อสงสัย เพราะปู่ของเขาไม่มีทางที่จะโกหกตนอย่างแน่นอนแต่ทันทีที่เม็ดยานั้นไหลลงขอสติของฟ่านหลินก็ค่อย ๆ เลือนลางและหมดสติไปทันที
......................................................................................
หลังจากนั้นไม่นานฟ่านหลินก็ตื่นขึ้นเขาเวียนหัวเล็กน้อยก่อนจะบ่นออกมา
''นี่ปู่เอายาอะไรให้ฉันกินกันนะ''
ฟ่านหลินกุมหัวตัวเองก่อนจะลุกขึ้น เมื่อลุกขึ้นเขาก็พบว่าร่างกายของเขาเบากว่าเมื่อก่อน ฟ่านหลินลองกระโดดอยู่กับที่สองสามครั้งพบว่าร่างกายของตัวเองกระโดดสูงกว่าเดิมเล็กน้อย สายตาของเขาชัดเจนขึ้น
''หรือยามันจะได้ผล ?''
ฟ่านหลินงุนงงเล็กน้อยก่อนจะคิดเล็กน้อยถึงเรื่องในจดหมายก่อนจะตัดสินใจ
''เอาวะไหน ๆ ก็ถูกไล่ออกมาแล้วหนีไปอยู่บ้านนอกสักพักจะเป็นอะไรไป''
......................................................................................
เช้าวันต่อมาฟ่านหลินขึ้นรถไฟไปนอนเมืองก่อนจะต่อรถเมล์ประจำทางแถวนั้นไปลงที่ตีดเขา บทสรุปเวลาทั้งหมดฟ่านหลินเดินทางกว่า 5 ชั่วโมง เมื่อฟ่านหลินลงมาจากรถเขามองภูเขาที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะมองไปที่ป้ายข้าง ๆ มันเขียนว่าภูเขาจือหยวน
ฟ่านหลินจำได้ว่าจะไปบ้านปู่ต้องเดินขึ้นเขาอีก 3 ชั่วโมงและจะพบกับรูปสลักสิงโตซึ่งนั่นก็คือทางเข้าหุบเขาจือหยวนที่แท้จริง ฟ่านหลินถอนหายใจก่อนจะเดินขึ้นไปตามทาง
ไม่นานนักฟ่านหลินก็มาถึงรูปสลักสิงโตแต่ตอนนี้มันดูต่างไปเล็กน้อย เพราะมันดูเหมือนจะใหญ่กว่าแต่ก่อนแถมมันยังมีตั้งสองตัว ฟ่านหลินเดินไปตามทางเข้าสวนในขณะที่ฟ่านหลินกำลังเดินอยู่นั้นเขาก็รู้สึกว่ารอบตัวของเขานั้นเริ่มที่จะมีหมอกลง ยิ่งฟ่านหลินเดินเข้าไปหมอกก็ยิ่งหนาขึ้น
ฟ่านหลินเดินฝ่าหมอกไปอีกราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก็พ้นออกมาจากเขตป่าเสียที และภาพตรงหน้าของเขาก็ทำให้ฟ่านหลินถึงกับตกตะลึง
ภาพตรงหน้าของฟ่านหลินคือสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานา ๆ พรรณต้นไม้ที่ดูอุดมสมบูรณ์ และไม่ไกลออกไปมีบ้านสไตล์จีนโบราณอยู่หลังหนึ่งถึงแม้จะมองเห็นจากที่ไกล ๆ แต่ก็รู้ได้เลยมันดูออกแบบและสร้างมาอย่างดี
ฟ่านหลินเดินผ่านสวนดอกไม้ไปจนถึงหน้าบ้านแม้ความทรงจำของฟ่านหลินจะไม่ได้ดีเลิศมากนักแต่เขาก็พอจะจำบ้านของปู่ตัวเองได้ แม้มันจะดูเหมือนบ้านของปู่ของเขาแต่มันดูเหมือนจะแตกต่างไปเล็กน้อย และดูเหมือนจะถูกต่อเติมเพิ่มด้วยซ้ำ
ฟ่านหลินเดินสำรวจหน้าบ้านเล็กน้อยก่อนจะพบว่าถูกดูแลเป็นอย่างดีจนเมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากสำรวจหน้าบ้านเสร็จฟ่านหลินก็เปิดประตูบ้านก็พบว่าด้านในถูกตกแต่งอย่างสวยงามและถูกดูแลอย่างดีไม่ต่างจากด้านนอก ทันทีที่ฟ่านหลินก้าวเท้าเข้ามาในบ้านก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขา
[ ขอต้อนรับนายท่านคนใหม่ ]
''นี่มัน... อะไรกันวะ ?''