56 อันดับหนึ่ง!
56 อันดับหนึ่ง!
ในจุดเก็บเสบียงจุดที่สอง เขาโชคไม่ค่อยดีนัก เพราะมีผู้เข้าแข่งขันบางคนได้เดินทางมาถึงที่นี่ก่อน และเอาของไปแล้วบางส่วน
กล่องอาวุธก็ได้ถูกเปิดออกแล้ว และชิ้นส่วนอาร์ติเฟ็กซ์ก็ถูกใช้โดยผู้เข้าแข่งขันคนอื่นไปแล้วบางส่วน แต่กล่องเก็บชิ้นส่วนอาร์ติเฟ็กซ์ก็ยังคงไม่ได้รับความเสียหายอะไร
เพราะเมื่อเทียบกับความสามารถในการต่อสู้แล้ว มีผู้เข้าแข่งขันอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะมีพรสวรรค์ในเรื่องของอาร์ติเฟ็กซ์
ถึงแม้ว่านักเรียนส่วนใหญ่จะได้เรียนเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับอาร์ติเฟ็กซ์ แต่ความรู้เหล่านั้น ครอบคลุมอยู่แค่ในเรื่องของส่วนประกอบและการประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น พวกเขาไม่ได้มีประสบการณ์ในการลงมือทำเหมือนกับหลี่เย้า
อาร์ติเฟ็กซ์ในยุคปัจจุบันนั้นต่างไปจากอาร์ติเฟ็กซ์ในอดีต แม้แต่ชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบอาวุธเย็นขึ้นมา ก็มีมากถึงหนึ่งร้อยกว่าชิ้นส่วนแล้ว
เมื่อมันถูกประกอบขึ้นมาจากคนที่เป็นมือใหม่ นอกจากการประกอบจะเชื่องช้ามากแล้ว หากติดตั้งชิ้นส่วนเข้าไปโดยไม่ระวัง มันก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นในระหว่างการต่อสู้ได้ ในสถานการณ์ที่ดีที่สุด อาร์ติเฟ็กซ์ชิ้นนั้นก็จะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ถ้าในสถานการณ์ที่เลวร้าย มันก็อาจจะระเบิดขึ้นมา ทำให้พลังงานวิญญาณเผาไหม้จากภายใน และทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม!
ดังนั้นแล้ว ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญในการประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ ก็มักจะเลือกใช้ดาบธรรมดาในการต่อสู้แทน
หลี่เย้าเริ่มกระบวนการการผลิต และเริ่มต้นการประกอบอาร์ติเฟ็กซ์อย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง!
ในช่วงแรก การแลกเปลี่ยนในจุดเก็บเสบียงเป็นไปได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากที่ขายอาร์ติเฟ็กซ์ชิ้นที่ 20 หลี่เย้าก็เจอกับของแข็งเข้า
“ถ้านายอยากได้เงิน ฉันไม่มี ถ้านายอยากได้ชีวิต ฉันมีอยู่หนึ่ง ฉันจะเอาขวานเบิร์นนิ่งสกายด้ามนี้ไป เอาเลย จุดระเบิดได้เลย อย่างแย่ที่สุดก็แพ้ไปด้วยกันนี่แหละ!”
เขาเป็นชายหนุ่มผิวดำ สูงเท่ากับวัว และมีขนาดตัวพอๆกับม้า เมื่อเขาพูดออกมา เขาก็ดูราวกับปีศาจตัวหนึ่ง
หลี่เย้ารู้สึกปวดฟันขึ้นมาตุบๆ
“เพื่อนนักเรียน อย่าทำตัวดันทุรังแบบนี้เลย ฉันให้ส่วนลดนายตั้ง 10% แล้ว นายสามารถซื้อขวานด้ามนี้ได้ด้วยคะแนนแค่ 270 เท่านั้น! มันเป็นราคาที่ฉันต้องเฉือนเนื้อตัวเองให้นายเลยนะ! หรือว่านายไม่เชื่อจริงๆ ว่าฉันจะจุดระเบิดน่ะ?”
“นายพูดถูก ฉันมันพวกดันทุรังมาตั้งแต่เกิดแล้ว คนในโรงเรียนต่างก็เรียกฉันว่า ‘กระทิงหัวแข็ง’ ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้านายแน่จริง นายก็จุดระเบิดได้เลย!”
ชายผิวแทนหัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง เขายกขวานเบิร์นนิ่งสกายขึ้นมาและหันหลังเดินจากไป โดยไม่มีการหันกลับมามอง
หลี่เย้ายิ้มเยาะตามหลังชายคนนั้น ดวงตาของเขาเกิดประกายดุร้ายพาดผ่าน
ก่อนที่ชายผิวแทนจะสามารถเดินออกไปจากจุดเก็บเสบียงได้ อยู่ๆก็มีแรงระเบิดของลมพุ่งเข้ามาทางด้านหลังของเขา โดยไม่ทันได้มีเวลาให้เขาได้ตั้งตัว ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยเจลสีชมพู
ชายผิวแทนถูกหุ้มด้วยเจลสีชมพูดจนมิดด้วยใบหน้าที่ยังคงตกใจไม่หาย และเขาต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเศร้า!
“อย่างที่ผมได้เคยพูดเอาไว้ เด็กคนนี้เหมาะที่จะเป็นนักฆ่ามาก ลองคิดดูสิ ในตอนที่เขาซ่อนตัวอยู่ภายในแดนของศัตรู เขาไม่จำเป็นต้องพกอาวุธอะไรไปด้วยเลย เพราะเขาสามารถประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ขึ้นมาได้ด้วยตัวเขาเอง ไม่ว่าเด็กคนนี้จะไปที่ไหน เขาจะต้องกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับศัตรูของเขาอย่างแน่นอน!”
ผู้ฝึกตนต่างพากันพูดคุยกันอย่างออกรสอยู่ภายในศูนย์มอนิเตอร์
“เขาทั้งไร้ความปราณีและโหดร้ายมาก มันเป็นความจริงที่ว่า ไม่มีการห้ามไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันโจมตีกันเองในการแข่งขันรอบแรก แต่การใช้วิธีการโจมตีเข้าที่ด้านหลังศีรษะอย่างรวดเร็ว ก็หมายความได้ว่า เขามีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก จิตใจที่แข็งกล้าแบบนี้ไม่ใช่นักเรียนมัธยมทั่วไปจะมีกันได้ เขาเยี่ยม เขาเยี่ยมมากจริงๆ!”
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่มีผิวยับย่น ร่างกายที่ผอมแห้งและดวงตาที่แข็งแระด้าง หัวเราะออกมา พร้อมกับพยักหน้าซ้ำๆ
ผู้เข้าแข่งขันแบบกระทิงหัวแข็ง ที่มีนิสัยดื้อรั้นต้องออกไปจากการแข่งขัน ถือเป็นเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้น เพราะผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ต่างเลือกที่จะใช้คะแนนแลกเปลี่ยนอาวุธ หลังจากที่พวกเขาชั่งน้ำหนักของข้อดีข้อเสียแล้ว
ในขณะที่การแข่งขันดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จำนวนของสัตว์อสูรที่ถูกฆ่าไปก็มีเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้น ผู้เข้าแข่งขันที่มีความแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆต่างก็มีคะแนนกว่าหนึ่งพันคะแนนขึ้นไป
ถึงแม้ว่าหลี่เย้าจะแอบขึ้นราคาในการแลกเปลี่ยนอาร์ติเฟ็กซ์ แต่ราคาที่เขาตั้งเอาไว้ก็ถือว่ายุติธรรมดี ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ต่างก็ไม่อยากจะมีปัญหา และการมีอาวุธที่ดีกว่าในการฆ่าสัตว์อสูร ก็จะทำให้เรื่องมันงานขึ้นและเป็นเรื่องที่น่าพอใจสำหรับพวกเขาเองด้วย
จุดเก็บเสบียงที่สองถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน และเป็นอีกครั้ง ที่หลี่เย้าเดินทางตรงไปยังจุดเก็บเสบียงจุดที่สาม
เขาใช้เวลาทั้งหมดสองวัน ในการจัดการกับจุดเก็บเสบียงทั้งหมดบนเกาะมังกรปีศาจ เขาได้ประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ขึ้นมาหลายร้อยชิ้น และทำการแลกเปลี่ยนอาร์ติเฟ็กซ์กับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้เป็นผลสำเร็จ
หลังจากนั้น เขายังได้ส่งข้อความผ่านทางปุจิเข้าไปในช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน เพื่อเป็นการโฆษณา
“ดาบโซ่, ดาบสายฟ้า และขวานเบิร์นนิ่งสกายจำนวนมากมีวางขายแล้ว อาร์ติเฟ็กซ์ทุกชิ้นนั้นทรงพลังและมีอานุภาพสูง คุณภาพของอาร์ติเฟ็กซ์ทุกชิ้นเชื่อถือได้ ราคาถูก พวกมันคือสมบัติเพื่อใช้ในการฆ่าสัตว์อสูรและเพื่อให้คุณได้รับคะแนนจำนวนมากมา หากคุณต้องการซื้อ โปรดรีบมาที่จุดเก็บเสบียงได้เลย”
หลี่เย้าฆ่าสัตว์อสูรไปทั้งหมดสี่ตัวด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือลิงสามตาที่เขาฆ่าไปในตอนเริ่มต้นการแข่งขัน ส่วนสัตว์อสูรตัวอื่นๆ คือสัตว์อสูรที่เขาบังเอิญเผยที่ซ่อนในขณะเคลื่อนที่ไปยังจุดอื่น ดังนั้น เขาจึงจำเป็นต้องฆ่าพวกมันทั้งสามตัว
แต่เมื่อการแข่งขันเข้าสู่ชั่วโมงที่ 49 ชื่อของหลี่เย้าก็ขึ้นสู่อันดับหนึ่งอย่างน่าเหลือเชื่อ และชื่อของเขาก็ยังอยู่เหนือชื่อของเฮ่อเหลียนเลี่ยอีกด้วย!
นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ในการแข่งขันท้าทายขีดจำกัด
แต่อันดับสูงสุดนั้นยังไม่แน่นอน และเป็นไปได้ยากที่จะรักษาอันดับเอาไว้
นั่นเป็นเพราะคะแนนทั้งหมดที่ได้จากการฆ่าสัตว์อสูรบนเกาะมังกรปีศาจ จะถูกล้างจนหมดในตอนจบวันที่สองของการแข่งขัน
คะแนนที่เขาได้มานั้น ส่วนใหญ่แล้วคือคะแนนที่ได้มาจากการประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ขึ้นมาจากชิ้นส่วนอาร์ติเฟ็กซ์มากมายที่มีอยู่
แต่ถึงยังไง ก็ยังมีผู้เข้าแข่งขันจำนวนหนึ่ง ที่สามารถประกอบอาร์ติเฟ็กซ์ขึ้นมาได้เอง ดังนั้น ในจุดเก็บเสบียงหลังๆ ชิ้นส่วนที่มีไว้สำหรับประกอบอาร์ติเฟ็กซ์จึงถูกใช้ไปและเหลืออยู่ไม่มาก
นอกจากนี้ ยังมีผู้เข้าแข่งขันจำนวนหนึ่งที่ซื้ออาร์ติเฟ็กซ์จากหลี่เย้าไป และถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนถูกบังคับให้ออกจากการแข่งขัน อาร์ติเฟ็กซ์ของพวกเขาจึงสูญหายอยู่ภายในป่าและถูกผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆพบเข้า...นี่เป็นเรื่องที่หลี่เย้าไม่อาจควบคุมได้
เมื่อจบวันที่สองของการแข่งขัน ธุรกิจของหลี่เย้าก็แย่ลง
แต่หลี่เย้าก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาได้เลือกจุดเก็บเสบียงที่ค่อนข้างอุ่นและแห้ง จากนั้นก็...หลับไป!
ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆกำลังต่อสู้อยู่ภายในป่าอย่างไม่มีวันจบสิ้น ร่างกายของแต่ละคนชุ่มโชกไปด้วยเลือด มีบาดแผลมากมายตามตัว และใช้พลังงานในร่างกายไปจนหมด หลี่เย้าก็กำลังหลับไหล เขาได้เก็บรักษาพลังงานที่ล้ำค่าของเขาเอาไว้
ชื่อของเขาร่วงลงไปจากอันดับหนึ่ง ในตอนเที่ยงของวันที่สาม ชื่อของเขาก็หลุดไปจาก 100 อันดับแรก
เมื่อจบการแข่งขันของวันที่สาม ชื่อของเขาก็ร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 293
หลี่เย้ายังคงไม่ใส่ใจกับมัน...ขอแค่อันดับของเขายังอยู่ใน 600 อันดับแรก เขาก็ยังสามารถเข้าสู่การแข่งขันในรอบสุดท้ายได้
เขากำลังเฝ้ารอให้ถึงรอบตัดสิน เพื่อแสดงความสามารถออกมา!
“ป๊อบ!”
หลี่เย้าเปิดกระป๋องอยู่ในจุดเก็บเสบียง แล้วเคี้ยวอาหารที่เต็มปาก
“ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!”
เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเกาะมังกรปีศาจ วงแหวนที่ทำการยับยั้งถูกกระตุ้น สัตว์อสูรที่ดุร้ายและน่ากลัวถูกหยุดอยู่กับที่ราวกับรูปปั้น พวกมันทั้งหมดมีร่างกายที่แข็งทื่อและไร้การเคลื่อนไหว
“ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนหลี่เย้า คุณได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันท้าทายขีดจำกัด!”
“คุณมีเวลาพักสามชั่วโมง ในระหว่างนี้ สัตว์อสูรทั้งหมดจะถูกพันธนาการเอาไว้ และพวกมันจะไปโจมตีคุณ”
“รอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นในอีกสามชั่วโมงข้างหน้า ในระหว่างการแข่งขัน จะมีการปล่อยสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งขึ้นออกมา ในเวลาเดียวกัน คุณก็จะมีผู้เข้าแข่งขันที่เป็นศัตรูอยู่ 300 คน และผู้เข้าแข่งขันที่เป็นพันธมิตรกับคุณ 299 คน ขอให้โชคดี!”
ปุจิตัวสีขาวได้เต้นไปรอบๆศีรษะของหลี่เย้าอย่างน่าดู มันดูคล้ายกับกำลังแสดงความยินดีให้กับหลี่เย้า
เกิดลำแสงนับพันลอยออกจากเกาะมังกรปีศาจ และบินตรงขึ้นไปยังเรือธงเหลียวหยวนฮ่าว
หลี่เย้ารู้ดีว่า ลำแสงเหล่านั้นก็คือผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดที่มีอันดับอยู่ต่ำกว่า 600 คนเหล่านี้คือผู้ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน
ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ 600 คนบนเกาะมังกรปีศาจ คือเหล่าผู้แข็งแกร่งที่สามารถอยู่รอดมาได้สามวัน และจัดการสัตว์อสูรไปเป็นจำนวนมาก!
การแข่งขันที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้แล้ว!
หลี่เย้าหัวเราะออกมาและก้มหน้าก้มตากินต่อ โดยไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
ในเวลานั้นเอง หนวดสีชมพูบนศีรษะของปุจิส่ายเล็กน้อย และฉ่ายภาพร่าง 3D ขึ้นต่อหน้าหลี่เย้า มันเป็นใครบางคนที่หลี่เย้านั้นคุ้นเคย
“ครูใหญ่จ้าว!”
หลี่เย้าได้แต่อึ้ง ภาพของคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขานั้น ก็คือครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สอง จ้าวซู่เต๋อ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแกนหลักของนิกายซื่อเซียว และเป็นผู้ฝึกตนในระดับรากฐานวิญญาณ
ครูใหญ่ผู้เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งได้แสดงสีหน้าใจดีออกมา เขาผงกหัวอยู่หลายครั้ง แล้วพูดออกมาว่า “นักเรียนหลี่เย้า ผลงานของเธอในครั้งนี้โดดเด่นมาก พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอมีความคิดที่จะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยไหนเหรอ?”
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยครับครูใหญ่จ้าว ผมได้ตัดสินใจเลือกเอาไว้แล้ว ผมต้องการที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเชินห่าย และกลายเป็นผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์ครับ!” หลี่เย้าตบหน้าอกของตัวเอง
“มหาวิทยาลัยเชินห่ายนั้นถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี แต่มหาวิทยาลัยชิงหยุนก็มีคณะอาร์ติเฟ็กซ์ที่ดีเหมือนกันนะ เธอสนใจไหม? ถ้าเธอต้องการ ฉันสามารถเป็นตัวแทนของนิกายซื่อเซียวในการเซ็นสัญญากับเธอ และเธอไม่จำเป็นต้องสอบข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกต่อไป เธอสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชิงหยุนได้เลย!”
จ้าวซู่เต๋อได้พูดคำพูดที่น่าประหลาดใจออกมา