เซียนเหนือวิถี บาทที่ 108 (ฟรี)
บาทที่ 108
หงเซียวพาคุณชายทั้งสามไปนั่งโต๊ะ ซึ่งตอนนี้มีคุณชายซีหลงนั่งอยู่ เขาทำการแนะนำให้คุณชายทั้งสามรู้จักกับคุณชายซีหลง พร้อมกับไปลากฉงฮุ้ยจินกับจินซื่อมาด้วย แน่นอนว่าเพื่อนเก่าย่อมเข้าขากันได้ดี ไม่นานทั้งโต๊ะก็สนิทสนมกลมเกลียว
“เพื่อนหงเซียว ปราณเทพสุราของข้าร้ายกาจนัก ข้าหลงไหลอยู่แต่ในสุราทั้งวันจนไม่ได้ไปร่วมงานแข่งขัน นี่ถ้าเจ้าสองคนนี่ไม่ลากข้ามา ข้าก็คงไม่ได้ไปไหน อ้อนี่ ข้าเอาสุราที่ข้าปรุงมาด้วยนะ ลองดูๆ” ลู่ฮวงกล่าวน้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อย
เขาหยิบเอาไหสุราออกมาจากแหวนมิติ ไหสุราของเขาปิดปากด้วยผ้าบางและใช้สมุนไพรพอกทับด้านนอกอีกชั้นจนไม่มีกลิ่นอะไรออกมาแม้แต่น้อย
ลู่ฮวงค่อยแกะปากไหอย่างระมัดระวังไม่ให้สมุนไพรตกลงไปในไห กลิ่นหอมของสุรารุนแรงกระจายไปทั่วบริเวณงานจนคนหลายคนต่างสอดส่ายหาว่ากลิ่นสุรานี้มาจากไหนกัน
ในกลิ่นหอมหวานของสุรา ทำให้ผู้คนถึงกับจินตนาการคลับคล้ายคลับคลาว่ามีเทพนารีมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆกลิ่นตัวของเธอหอมหวนชวนเมามาย
“หอมมาก” แทบทุกคนบนโต๊ะต่างลอบกลืนน้ำลาย สายตาปรากฏภาพเพ้อฝัน ยกเว้นลู่ฮวงและหงเซียว
ลู่ฮวงดื่มจนชินแล้วทั้งยังเข้าใจถึงคุณสมบัติของสุรานี้เป็นอย่างดี ส่วนหงเซียวเขามาจากยุคที่สุรานั้นมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากนัก และเขาคุ้นเคยกับสุรายุคนั้นพอสมควร อีกทั้งเขาเป็นเจ้าของวิชาปราณเทพสุรา ย่อมล่วงรู้ถึงฤทธิ์ของมันเป็นอย่างดี
“เจ้าฮวงไม่ไหวเลย พวกข้าเข้าไปลากตัวมายังเมากลิ่นสุราที่เจ้านี่หมักจนเกือบพามาไม่ได้แล้ว” เซียหลานส่ายหน้า ขณะเดียวกันมือของเขาที่อยู่ใต้โต๊ะก็ขยับเขยื้อนทำให้จอกสุราของเขาเลื่อนไปกระทบกับไหสุราทำให้สุรากระเซ็นออกมาจากไห เข้าไปในจอกอย่างพอดีโดยไม่กระฉอกออกไปแม้หยดเดียว ก่อนจะไถลไปที่ขอบโต๊ะแล้วกระดอนขึ้นไปที่ปากของเขา เทสุราเข้าไปในปากจนหมดสิ้น
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม” ทุกคนต่างปรบมือแปะๆ
“เจ้านี่หลอกดื่มก่อนคนอื่น” จูหยางกล่าวเปิดโปง ทำให้คนอื่นคิดได้ว่านี่เป็นการเบนความสนใจ
จูหยางประกบนิ้วแล้วชี้ไปที่ไหสุรา พลันสุราภายในนั้นพลันฉีดออกมาเป็นหลายสาย ต่างเป็นสายยาวราวกระบี่ใสแวววาวพร้อมกลิ่นอันอบอวล กระบี่สุรานั้นวนรอบโต๊ะหนึ่งรอบก่อนที่จะลงไปในจอกของทุกคนบนโต๊ะยกเว้นของเซียหลาน โดยไม่กระฉอกออกไปแม้แต่น้อย
“ฝีมือบังคับกระบี่อันยอดเยี่ยม” ทุกคนพากันปรบมือชมเชย ขณะเดียวกันกลิ่นสุราก็อบอวลจนทุกคนทั้งงานอดพากันรู้สึกคลับคล้ายว่าเห็นเทพธิดามาคลอกายไม่ได้
“ดื่ม” จูหยางกล่าวอย่างภาคภูมิใจขณะพยายามยับยั้งใจไม่ให้เมามายไปกับกลิ่นสุราเสียก่อน
ทุกคนยกจอกขึ้นดึ่ม เมื่อสุราเข้าปากไป พวกเขาต่างพากันตกอยู่ในห้วงฝันอันรัญจวนใจกับการได้ดื่มสุราเคล้าเทพธิดาดื่มด่ำจนเคลิบเคลิ้ม ไม่เว้นแม้กระทั่งหงเซียวและลู่ฮวงเอง
ด้วยมาตรฐานการหมัก การกลั่นและการบ่มที่เทียบเท่ากับยุคทองของสุรา พร้อมด้วยสมุนไพรที่คัดสรรจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อผลเฉพาะด้านกลิ่นอันหอมหวานและสร้างภาพมายา อีกทั้งวิชาปราณอันพิสดารสามารถขยายผลของสุรามากมายกว่าเดิม ทำให้เกิดผลเกินกว่าใครจะครองจิตไหว
พวกเขาต่างพากันนั่งดื่มด่ำไปกับความฝันอันเหลือเชื่ออยู่ตรงนั้น ขณะที่คนรอบข้างต่างก็พากันเคลิบเคลิ้มและมองหาต้นตอของสุรา ซึ่งก็มีหลายคนที่ได้พบเห็นแล้ว
“ลูกเซียว เหล้านี้มีชื่อว่าอะไร และมาจากไหน” หงหมิงเป็นคนแรกที่เข้ามาถาม
หงเซียวค่อยคืนสติจากความดื่มด่ำ เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นบิดา กล่าวว่า “ท่านพ่อ สุรานี้ชื่อว่า เคียงเทพนารี เป็นสุราที่คุณชายลู่ฮวงปรุงกลั่นขึ้น”
“ลูกเซียวพอที่จะขอแบ่งสุรานี้จากคุณชายลู่ให้แขกเหรื่อคนอื่นๆได้หรือไม่” หงหมิงขอให้หงเซียวช่วย
“มิมีปัญหาท่านพ่อ” หงเซียวหัวเราะ
เขาเอามือเคาะไหล่คุณชายลู่ฮวงที่นั่งข้างๆ กล่าวว่า “เพื่อนฮวง ถึงเวลาที่เจ้าจะสร้างชื่อเสียงแล้ว เอาสุราที่เหลืออยู่มาแจกให้แขกเหรื่อได้ลิ้มลองเดี๋ยวนี้เลย เพื่อเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับสุราของเจ้า”
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ายังมีเหลืออยู่” ลู่ฮวงลืมตาโต ถามอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าซื้อสมุนไพรปรุงสุราที่ไหน” หงเซียวย้อนถาม
“ข้าซื้อจากตระกูลหง… อย่าบอกนะว่าเจ้าคอยสืบเรื่องข้าอยู่” ลู่ฮวงตาโตกว่าเดิม
“เจ้าเก่งมาก” หงเซียวหัวเราะ
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเก็บไว้กับตัว” ลู่ฮวงถาม
“เจ้าคิดว่าใครเป็นคนเขียนคัมภีร์เทพสุรา หือ” หงเซียวย้อนถาม แต่เขาไม่ได้รอคำตอบ กล่าวต่อว่า “ข้ายังรู้อีกว่า สุราแบบอื่นๆของเจ้าจะพร้อมดื่มเมื่อไหร่ด้วย”
“เจ้า...” ลู่ฮวงพูดไม่ออก
“จะเอาออกมาได้หรือยัง” หงเซียวกล่าว
“ก็ได้ กี่ไหรึ” ลู่ฮวงถาม รู้สึกสร่างเมาอย่างรวดเร็ว
“คนละจอก เช่นนั้นห้าไหก็พอแล้ว แต่เพื่อเป็นของขวัญให้ตระกูลข้า เจ้าควรเอาออกมามากกว่านั้น” หงเซียวกล่าว
“เจ็ดไหเป็นอย่างไร” ลู่ฮวงรู้สึกเหมือนกับถูกปล้น สติแจ่มใสขึ้นในทันใด
“ตกลงเพื่อนฮวง อย่าลืมว่านี่ข้าช่วยเจ้านะ นี่เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับเจ้า อีกเจ็ดวันให้หลังก็นำสุราที่เหลือไปประมูลที่โรงประมูลตระกูลจู รับรองว่าสุราของเจ้าต้องได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแน่นอน” หงเซียวกล่าว
สุราเจ็ดไหถูกนำออกมาจากแหวนมิติ มอบให้กับคนรับใช้ที่มายืนรอ พวกเขาเดินตามหงหมิงไปเพื่อทำการรินแจกจ่ายให้กับแขกเหรื่อในงาน
“พี่ใหญ่ ข้าลองดื่มได้หรือไม่” จินหลินแอบเข้ามากระซิบถามหงเซียว
“เจ้ายังมิบรรลุนิติภาวะ ยังดื่มไม่ได้” หงเซียวมองหน้าเธอครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น
“บรรลุนิติภาวะคืออะไรรึ” จินหลินงุนงง เธอเพิ่งเคยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วการดื่มสุราจะมีความเกี่ยวข้องกับภาวะพวกนี้ตรงไหน
“บรรลุนิติภาวะ แปลว่าเป็นผู้ใหญ่ มีความพร้อมที่จะรับผิดชอบตัวเองได้ ซึ่งปกติจะถือว่ามีความพร้อมเมื่อมีอายุถึงสิบหกปี” หงเซียวอธิบายด้วยท่าทางที่เป็นเหมือนครูสอนนักเรียน
“อา ข้าเข้าใจละ ก็เหมือนพิธีฉลองอายุของพวกผู้ชาย” จินหลินกล่าว “แต่ทำไมพวกเด็กผู้ชายจึงดื่มสุรากันก่อนฉลองอายุได้ล่ะ”
“ที่บ้านของข้าแล้ว คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องเชื่อฟังพ่อแม่หรือพี่ ถ้าหากพวกเด็กผู้ชายทำอย่างนั้นได้ ก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่หรือพี่”
“เช่นนี้หมายความว่าตอนนี้ข้าอยู่ในความรับผิดชอบของพี่ใหญ่เช่นนั้นสิ หรือว่าข้าอยู่ในความรับผิดชอบของพี่จินซื่อ” เธอถาม
“ตอนนี้เจ้าอยู่ในความรับผิดชอบของข้า เพราะว่าเจ้าอยู่กับข้าในตอนนี้ และห่างจากพี่ชายของเจ้า การที่เจ้าจะทำอะไรก็จะต้องปรึกษาข้าก่อน” หงเซียวตอบ
“เช่นนั้นถ้าข้าอายุครบสิบหกปี ข้าก็สามารถตัดสินใจสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเองใช่ไหม” จินหลินถาม
“ใช่แล้ว เจ้าเข้าใจได้ถูกต้องแล้ว” หงเซียวรับรองคำพูดของเธอ
“พี่ใหญ่ ข้าได้ยินว่า ผู้หญิงถ้าแต่งงานกับใคร ก็จะอยู่ในความปกครองของคนคนนั้นใช่ไหมล่ะ” เธอถามอีก
“ใช่ ที่นี่ถือว่าเป็นเช่นนั้น” หงเซียวตอบ
“พี่ใหญ่ ท่านสัญญากับข้าสักข้อได้ไหม” เธอกล่าวเสียงเบา