บทที่ 73 การประชุมอันดุเดือด!
บทที่ 73 การประชุมอันดุเดือด!
ผู้แปล loop
ข้อเสนอแนะของปางปินไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเลย และห้องประชุมก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
คนต่อไปที่พูดคือรองหัวหน้าสำนักสำนัก โจวจี้จิง เขาเป็นผู้ติดตามผู้ซื่อสัตย์ของผู้ว่าการทางการเมืองโจว เขาจะทำทุกอย่างที่ผู้ว่าทางการเมืองโจวขอให้เขาทำ “หัวหน้าปางกล่าวว่าเราต้องดูประสบการณ์ของผู้สมัคร ผมก็เห็นด้วยกับเขาเช่นกัน แต่หัวหน้าปางดูเหมือนจะลืมไปว่าฉางจี้ และเกาแพนเหว่ยก็เข้ามาในสำนักในเวลาเดียวกัน มันห่างกันแค่ 6 เดือนเท่านั้น เกาแพนเหว่ยดูจะมีประสบการณ์มากกว่าฉางจี้ได้อย่างไร คุณใช้เหตุผลอะไรมาตัดสิน?”
ปางปินมองหน้าเขา “ประสบการณ์ที่ฉันพูดถึงไม่ใช่แค่ระยะเวลาในการอยู่ที่สำนัก ฉันยังดูที่คุณูปการที่ทำให้กับสำนักงานด้วย!”
โจวจี้จิงมียิ้มบนใบหน้าที่มีรอยย่นจากอายุของเขา “ฉางจี้เองก็ทุ่มเทหัวใจของเขาในการทำงานและทุ่มเทให้กับสำนักของเรา โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าฉางจี้ มีความเหมาะสมกว่าที่จะดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป คุณคงไม่คิดว่าเกาแพนเหว่ยก็เป็นแค่พวกปลาสิวปลาสร้อยของคุณสินะ หรือว่าเป็น? แล้วบุคคลเช่นนี้จะเป็นรองหัวหน้าได้อย่างไร? นี้ถือเป็นการที่ไม่รับผิดชอบต่อบุคคลากรที่ทำงานในสำนักงานกิจการทั่วไปถูกต้องรึไหม!”
ปางปินเขาโมโหมากๆ “ปลาซิวปลาสร้อย ? นายจะใช้คำที่ดูถูกเช่นนี้กับคนของฉันได้อย่างไร? รองหัวหน้าโจว โปรดพิจารณาดูคำพูดของนายดีๆด้วย เกาแพนเหว่ยนั้นมีทักษะการประสานงานติดต่อและรู้จักคนเยอะ คนประเภทนี้เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นรองหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป!” ตอนนี้ปางปินโมโหมาก เขาไม่ได้กล่าวถึงโจวจี้จิง ในฐานะหัวหน้าโจว แต่เขาตั้งใจเพิ่มคำว่า "รอง" ไว้ข้างหน้า
โจวจี้จิง และ ปางปิงนั้นเริ่มทะเลาะกัน
หยานเหลียงจึงเคาะบนโต๊ะแล้วตะโกนว่า“หยุด! นี่เป็นการประชุมนะ! รักษามารยาทหน่อย!”
โจวเกาแอบมองไปที่ทิศทางของ เฉิงไห่เหม่ย
เฉิงไห่เหม่ยไม่ได้พูดอะไรมาก เธอพูดเพียงว่า:“ดิฉันสนับสนุนกัวฉางจี้”
ปางปินเขาเหมือนโดนหักหน้ากลางที่ประชุม เพราะนี้คงเป็นผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาแล้ว ไม่มีข้อโต้แย้งอีกต่อไป เขาก้มหัวลงแล้วเทน้ำใส่แก้วของเขา
“ผมก็สนับสนุนฉางจี้ ด้วย” รองผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองหลี่หมิงหวู่ในวัยห้าสิบปี ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ว่าการทางเมืองโจวเกา เขาเห็นว่าหยานเหลียงไม่แสดงการสนับสนุนหรือคัดค้าน เขาก็รู้ว่าหยานเหลียงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงพูดต่อไปว่า:“ผมไม่ได้มองว่าเกาแพนเหว่ยนั้นแย่ แต่ผมรู้สึกว่าฉางจี้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่า เพราะอายุพนักงานส่วนใหญ่ในสำนักงานกิจการก็ยังอายุน้อยกันและยังมีข้าราชการใหม่ที่เข้ามาทำงานในสำนักงานนี้อีกหลายคน นั่นเป็นสาเหตุที่ฝ่ายกิจการทั่วไปต้องการคนที่เป็นผู้ใหญ่อย่างฉางจี้ที่จะมาเป็นผู้นำพวกเขา!”
หลังจากได้ยินเรื่องนั้นเสี่ยวหยานก็รู้สึกไม่สบายใจ ‘คุณเป็นใครกันจึงเข้าไปยุ่งกับฝ่ายธกิจการทั่วไปของฉันได้ หากเป็นหัวหน้าผู้ว่าการทางการเมืองหรือหัวหน้าฝ่ายการเมืองฉันยังคงเข้าใจได้ แต่คุณไม่ได้ให้ความเคารพและให้เกียรติฉันในตอนนี้เลยและกล้าที่จะพูดนู้นนี้นั้นเหมือนเคยทำงานกับพวกเขาอย่างไงอย่างงั้น!
หยานเหลียงยังคงมีท่าทางที่สงบนิ่ง เขารู้ว่าผู้ว่าการทางการเมืองโจววางแผนทุกสิ่งเหล่านี้ไว้แล้ว และนี่ควรจะเป็นผลลัพธ์สุดท้าย ได้เวลาสิ้นสุดหัวข้อนี้แล้วไปต่อมันควรใช้เวลาสั้นๆและไม่ยืดเยื่อมาก
แต่ในขณะนี้เสี่ยวหยานพูด เธอก็วางถ้วยน้ำชาของเธอบนโต๊ะด้วยเสียงที่ดัง “สำนักงานกิจการทั่วไปอยู่ภายใต้เขตอำนาจของฉัน ฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดคุยเกี่ยวกับผู้สมัครเหล่านี้” จากนั้นเธอก็เบิ่งตากว้างและมองไปที่ หลี่หมิงหวู่และโจวจี้จี“ฉันรู้จักเกาแพนเหว่ย และ ฉางจี้ ดีกว่าคนอื่นในที่นี่เสียอีก ทั้งสองคนดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ในหลายๆด้าน แต่ขาดอะไรบางอย่าง! คุณรู้ไหมพวกเขาขาดอะไร! มันไม่ใช่ประสบการณ์หรือท่าทาง! มันคือความกล้า!”
หลี่หมิงหวู่กำลังตกตะลึงและไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยวหยานกำลังพูดถึง
เสี่ยวหยานก็เริ่มพูดบางที่น่าตกใจขึ้นมา “ฉันเสนอดงซูบิน! เหตุผลง่ายๆ! ชายหนุ่มคนนี้มีความน่าดึงดูดและเต็มไปด้วยพลังที่มหาศาล!”
โจวจี้จิง หัวเราะขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังลั่น “ดงซูบินอย่างงั้น? เขาอยู่กับสำนักมานานเท่าไหร่แล้ว? หนึ่งเดือนหรือสองเดือน เขาอายุน้อยเกินไป! เขาจะเป็นรองหัวหน้าได้อย่างไร”
เสี่ยวหยานตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ “ฉันอยากจะบอกว่าประสบการณ์ไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถเลย สิ่งที่เราต้องการคือผลลัพธ์และการมีส่วนร่วมกับสำนักงานเขตของเรา คุณยังจำเหตุการณ์ไฟไหมที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการลี่ได้ไหม? ซูบินเป็นคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาเพื่อนำเอกสารสำคัญนั้นออกมา ฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนต้องเคยได้ยินเหตุการณ์นี้ อีกทั้งหัวหน้าหยานเองใช้การอนุมัติพิเศษสำหรับดงซูบิน เพื่อให้เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิส พวกคุณทุกคนควรรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ไว้ด้วย ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาซูบินเป็นผู้ช่วยให้สาขาของเราหลีกเลี่ยงการแพ้ทุกนัดในการลงแข่งในครั้งนั้น ฉันแน่ใจว่าคุณทุกคนตระหนักถึงเรื่องนี้ดี หากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สำคัญและสิ่งไหนจะสำคัญได้อีก?”
หยานเหลียงขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดหวังว่า เสี่ยวหยานจะพยายามผลักชายหนุ่มคนนี้ขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าสำนักงานกิจการจริงๆ
ซองโฉจือที่เลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัย “ฉันเห็นด้วยกับหัวหน้าเสี่ยว แม้ว่าซูบินจะใหม่สำหรับเขตของเรา แต่เราทุกคนสามารถเห็นสิ่งที่เขาทำเพื่อสำนักงานได้ หัวหน้าสำนักงานและเพื่อนร่วมงานหลายคนรับทราบเรื่องของดงซูบินดี เขาถือเป็นคนที่หายากมากในตอนนี้”
หลี่หมิงหวู่ส่ายหัวของเขา “แต่เขายังเด็กเกินไป เขาอายุเพียง 23 ปี และเขาก็ไม่ได้ผ่านการทดสอบใดๆมาเลยด้วย!”
โจวจี้จิง ไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเช่นกัน เขาได้แต่หัวเราะ “ฉันรู้เกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอล แต่นั่นเป็นเพียงเกมกระชับมิตรที่จัดทำโดยสำนักงานเมืองเท่านั้น มันเกี่ยวข้องอะไรกับงานของสำนักงานสาขาเขตตะวันตก? เธอไม่สามารถใช้สิ่งนี้ตัดสินเขาได้ เรากำลังเลือกรองหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไปไม่ใช่นักกีฬา!”
เสี่ยงหยานหันหน้าไปที่เขา “สิ่งที่ฉันเน้นคือไม่ใช่ทักษะฟุตบอลของดงซูบิน แต่มันเป็นท่าทีของเขาในยามที่พวกเราต้องการความช่วยเหลือหรือเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก เขากล้าที่จะก้าวขึ้นในสถานการณ์ที่ยากลำบากนั้น! นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นผู้นำ! ฉันไม่สามารถยอมรับท่าที่ของฉางจี้ในระหว่างการแข่งขันนั้นได้ เขาเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังทุกคนเมื่อมีปัญหา คนที่มีท่าที่เช่นนี้หรอที่เหมาะที่จะเป็นผู้นำในสำนักกิจการทั่วไปได้อย่างไรกัน”
โจวจี้จิง กล่าว “หัวหน้าเสี่ยว! ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดในตัวของฉางจี้แล้ว ฉันมั่นใจว่าฉางจี้ ไม่ได้เป็นอย่างเช่นที่คุณพูด”
ในตอนนั้นหยางจินหงษ์จึงพูดแทรกขึ้นมาทันที เนื่องจากเขาเป็นคนตรงไปตรงมาและคำพูดของเขานั้นเหมือนขวานผ่าซาก “ผมไม่ชอบฉางจี้คนนั้นเช่น เขาดูหยิ่งพยองเกินไป……” หยางจินหงษ์กำลังค้นหาคำที่เหมาะสมเพื่อจะมาอธิบาย เนื่องจากระดับการศึกษาของเขาอยู่ในระดับที่ต่ำและเขาจึงคิดว่าไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะได้คำอะไรดี “……ไร้น้ำยา” จากนั้นเขาพูดต่อ:“ดงซูบินนั้นดูเป็นคนดี ฉลาดและไว้วางใจได้!”
เสี่ยวหยาน และซองโฉจือมองหน้ากัน พวกเขาแปลกใจที่หยางจินหงษ์ที่พึงย้ายมาใหม่ เขาเลือกที่จะเห็นด้วยกับกลุ่มของเธอ จริงๆแล้ว หยางจินหงษ์เป็นคนประเภทที่ไม่เข้าข้างใคร เขามองปัญหาอย่างเป็นกลางและถูกมองว่าเป็นพวกชอบอิสระในคณะกรรมการพรรค เขาจะพูดความคิดของเขาและไม่คิดจะร่วมกลุ่มกับใคร
ผู้ว่าการทางการเมืองโจวซึ่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาขณะที่รู้สึกถึงความตึงเครียด เขาขมวดคิ้วในขณะที่เขาไม่เคยคาดหวังว่าผู้สมัครดงซูบินจะมีผู้สนับสนุนมากขนาดนี้
แต่ผู้ว่าการทางการเมืองโจวยังคงนิ่งเฉยอยู่ มันเป็นแค่ 3 คะแนนโหวตเท่านั้น แม้ว่าดงซูบินจะได้รับคะแนนโหวต 4 คะแนนแต่เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ตำแหน่งนี้ไปครอบครองอย่างแน่นอน
การเลือกรองหัวหน้าสำนักกิจการทั่วไปในครั้งนี้ได้ถูกนัดหมายกันไว้แล้วระหว่างการสนทนาก่อนหน้านี้ของโจวเกาและหยานเหลียง
ไม่ว่าจะมีการพูดคุยอะไรในระหว่างการประชุม หยานเหลียงจะสนับสนุนฉางจี้อย่างแน่นอน!