บทที่ 43 แม่ยายที่กำลังมองดูลูกเขย
บทที่ 43 แม่ยายที่กำลังมองดูลูกเขย
สาวสวยนั่งอยู่บนโซฟาหรูสีขาว กำลังนั่งหมุนแก้วไวน์ในมือ ในขณะที่ความสนใจของเธอจับจ้องไปยังโทรทัศน์ในห้อง น่าแปลกนิดหน่อยที่มันไม่ใช่ช่องรายการต่างประเทศ แต่เป็นช่องการศึกษาของมลฑลหูหนานแทน
เลขาหลี่ซึ่งกำลังยืนกอดอก สายตาจ้องมองไปยังเวร่า เขาหยายามที่จะไม่มองไปที่นายจ้างของเขาให้มากนัก ด้วยความสวยงามของเธอมันทำให้เขาว่อกแว่กมากทีเดียว
เวร่าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์เหลือล้น และยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าเดิมหัลงจากเหตุการร์ในโรงพยาบาลเจียงหัว ทำให้เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีกว่าเดิม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอนั้นเปรียบได้ดังเทพธิดาของชายหลายๆคน
เวร่านั่งจิบไวน์บนโซฟาก่อนจะเปลี่ยนท่านั่ง “เสี่ยวจิงจิงคนที่เป็นศิษย์ของซูเถาดูเหมือนจะทำได้ดีเลยนะ แต่ชั้นคิดว่ากรรมการคงจะกดคะแนนของเธอไปหน่อย...”
เลขาหลี่พยักหน้าเห็นด้วย “ขนาดคนธรรมดาอย่างพวกเรายังมองออกเลย ในรอบก่อนหน้านี้เธอรักษาผู้ป่วยโรคปอดบวมภายใน 5 นาทีด้วยการฝังเข็มเพื่อลดอาการเจ็บของผู้ป่วย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่เร็วที่สุดก็ตาม แต่ดูเหมือนกรรมการคิดว่าเธอใช้เวลาสนทนากับผู้ป่วยมากเกินไปจึงหักออก 5 คะแนน”
“นี่มันเป็นแค่ทัวร์นาเม้นท์ธรรมดาเท่านั้นเอง คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อ้อ จริงสิ , นายคิดไงเกี่ยวกับครีมเสริมความงามของซูเถาล่ะ ?”
ตาของเลขาหลี่ดูเป็นประกายทีเดียวเมื่อเวร่าพูดถึงเรื่องนี้ “ครีมนี้มันมหัศจรรย์มาก ผมแอบซื้อให้ภรรยาอันนึง ผลลัพธ์ของมันน่าทึ่งมากๆ”
เมื่อเห็นท่าทางของเลาหลี่ เวร่ากล่าวขึ้น “พวกผู้ชายนี่สนใจแค่รูปลักษณ์ภายนอกจริงๆนะ”
“เปล่า เปล่า ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่คุณไม่เคยมีประสบการณ์ที่เห็นภรรยาของตัวเองค่อยๆแก่ลงไป คุณอาจจะไม่เข้าในมันก็ได้” เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะพูดต่อ “มิสเวร่า ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าครีมนี่คุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน ถ้าได้รับการโปรโมทที่ดีหน่อย มันอาจจะกลายเป็นครีมชั้นนำของโลกได้เลย !”
เวร่ามองไปยังขวดสีขาวก่อนจะพูดต่อ “ไว้ชั้นจะลองคุยกับหมอนั่นดูเมื่อเขากลับมาแล้ว ชั้นเชื่อว่าเขาจะต้องมีสินค้าตัวอื่นอีกอย่างแน่นอน มันสามารถสร้างเป็นชุดสินค้าได้ด้วยซ้ำ”
เลขาหลี่ลังเล แต่ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “แต่ผู้ดูแลของคุณบอกผมว่าคุณไม่ได้รับอนุญาตให้พบซูเถานี่”
“ชาร่า ? จากเรื่องที่เธอทำกับชั้นน่ะเหรอ ?”
เลขาหลี่พูดต่อ “คุณต้องกลับไปที่รัสเซียเพื่อจัดการเรื่องานหมั้นซักพักนะ”
เวร่ากระพริบตาก่อนจะมองไปยังเลขาหลี่ “แล้วการที่ชั้นเจอกับซูเถามันเกี่ยวกับการหมั้นของชั้นยังไง ?”
เลขาหลี่ถอนหายใจ “พวกเขาแค่กลัวว่าจะมีใครทำให้เรื่องมันยุ่งยาก !”
เวร่าพยักหน้า “มีข่าวจากรัสเซียอีกไหม ?”
เลขาหลี่ตอบกลับ “มีข่าวลือว่าคุณมีคนรักที่ประเทศจีน คุณเลยปฏิเสธที่จะกลับไปรัสเซีย”
ได้ยินดังนั้น เวร่าทุ่มแก้วลงบนโต๊ะ “ไอ้พวกงี่เง่าเอ้ย !”
เลขาหลี่ถอนหายใจ “เธอเป็นทายาทลำกับหนึ่งของตระกูลเออร์มอนด์ เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะเป็นที่สนใจ คุณควรจะคิดเรื่องของซูเถาให้รอบคอบกว่านี้ มันจะเป็นดีถ้าคุณเลี่ยงการพบกับซูเถา”
เวร่าเหลือบไปทางเลขาหลี่ “ชั้นผิดหวังในตัวนายจริงๆ”
“สิ่งที่ผมพูดไปเป็นเพียงมุมมองของเลขาเท่านั้น แต่ถ้าในมุมมองส่วนตัวผม ผมหวังว่าคุณจะยังคงหนักแน่น แบบที่คุณเคยพบกับซูเถาเมื่อตอนอดีต”
“ชั้นเหนื่อยแล้ว ให้ชั้นอยู่คนเดียวเถอะ” เวร่าส่ายมือด้วยความรำคาญ
การถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ใกล้จะจบแล้ว ถึงแม้กรรมการจะเลือกเสี่ยวจิงจิง แต่เธอก็ยังเข้าป้ายเป็นอับดับสอง
เสี่ยวจิงจิงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อผลการแข่งขันถูกประกาศออกมา ถึงแม้ว่ากล้องจะจับไปที่เธอ แต่เธอก็ยังคงวิ่งไปกอดซูเถา
เวร่ามองไปยังซูเถาที่อยู่ในโทรทัศน์ สิ่งที่เลขาหลี่นั้นพูดถูก เธอยังไม่ได้ตัดสินใจ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาญาติของเธอที่รัสเซีย “มิเชล ชั้นมีเรื่องจะบอกเธอ ชั้นตัดสินใจแล้วว่าจะล้มเลิกงานหมั้น”
“อะไรนะ ? นี่ชั้นไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย ?” มิเชลตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจมาก “ข่าวลือนั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ ? ที่ว่าเธอดันไปตกหลุมรักไอ้คนจีนสกปรกนั่นน่ะ ?”
เวร่าขมวดคิ้ว “ทำไมเธอถึงมองเขาในแง่ร้ายจัง ? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษที่น่าสนใจทีเดียว”
หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะ มิเชลได้ถามขึ้น “เธอแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้กำลังหลอกตัวเองอยู่ ?”
“ชั้นแน่ใจ และคุณน่าจะเชื่อมั่นในตัวลูกสาวของคุณด้วย” เวร่าตอบกลับอย่างมั่นใจ
มิเชลถอนหายใจ “ก็ได้ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นจะบินไปหาเธอเพื่อเจอเขาด้วยตัวเองแล้วกัน”
“พรุ่งนี้ ? ไม่กระทันหันไปหน่อยเหรอ ?” เวร่าตกใจ
มิเชลตอบกลับ “เธอเคยได้ยินการลงมืออย่างฉับไวในสถานการณ์ที่ซัยซ้อนหรือเปล่าล่ะ ? ชั้นไม่ต้องการให้ลูกสาวชั้นใส่ใจกับเรื่องเพ้อฝันที่ไม่เป็นจริง เวลาขอเพวกเรานั้นมีค่ามาก”
เวร่าถอนหายใจ “ที่จริงแล้ว ชั้นยังไม่ได้สารภาพรักกับเขาเลย”
“พระเจ้าช่วย !” มิเชลหายใจเข้าลึกๆก่อนจะสรุป “นี่เธอจะบอกว่าเธอรักเขาข้างเดียวงั้นเหรอเนี่ย ?”
เวร่ายิ้ม “รักเขาข้างเดียวมันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกน่า”
มิเชลขมวดคิ้วพลางกัดเล็บอยู่เป็นเวลานานก่อนจะพูด “ชั้นให้เวลาเธอครึ่งเดือน ถ้าเธอยังไม่ได้คบกับเขา เธอต้องกลับรัสเซียไปกับชั้น”
“นี่คุณจะให้ชั้นเป็นฝ่ายรุกใส่เขาก่อนงั้นเหรอ” เวร่ายิ้มเพราะเธอไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้
มิเชลตอบกลับอย่างงุนงง “ทำไมล่ะ ? ก็ในเมื่อเธอชอบเขา งั้นก็รุกใส่เลยสิ เธอมีเวลาไม่มากนักหรอกนะ ถ้าเธอตกหลุมรักเขาจริง งั้นก็เอาเขามาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าความรู้สึกที่เธอชอบเขามันหายไปแล้ว ก็ทิ้งเขาไปซะ”
ดูเหมือนชุดความคิดของแม่เธอจะดู 'ไม่ค่อยปกติ' เท่าไหร่ “งั้น ชั้นจะลองดู !”
มิเชลพยักหน้า “ถึงแม้ชื่อเสียงของทายาทตระกูลเบลิสกี้ที่พ่อเธอได้เลือกมานั้นจะดีมาก แต่ชั้นก็ได้ตรวจสอบตระกูลนี้มาแล้ว พวกเขามีหนี้จำนวนมากที่เกิดจากการใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อการลงทุนหมุนเวียน ในขณะที่พ่อของเธอกำลังจับตามองแหล่งน้ำมันของเขาอยู่”
“นี่การแต่งงานของชั้นเพียงเพื่อแค่บ่อน้ำมันเท่านั้นเหรอ” เวร่าถอนหายใจ
มิเชลส่ายมือ “พูดให้ถูก การแต่งงานของเธอมีค่าเท่ากับแหล่งน้ำมัน หลังการหมั้นของเธอได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว พวกเขาค่อยยกเลิกมันอย่างลับๆ”
“แค่พอเป็นพิธีงั้นเหรอ ?” เวร่าขมวดคิ้ว
มิเชลพูดต่อ “เนื่องจากเธอยังไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อน ทำไมถึงได้สนใจการแต่งงานนักล่ะ ? มันไม่น่าสนใจเท่ากับลาภก้อนโตที่เราจะได้จากการหมั้นของเธอหรอกเหรอ ?”
“ความคิดเน่าเหม็นจริง...” เวร่าตอบกลับ
“ถ้าเธอตกหลุมรักใครซักคนจริงๆถึงขนาดที่ว่าจะแต่งงานเฉพาะกับเขาเท่านั้นแล้วละก็ ชั้นจะไปบอกพ่อให้เปลี่ยนใจเอง จริงๆแล้วมันก็เป็นแค่บ่อน้ำมันธรรมดาๆเท่านั้น พวกเราไม่ได้ขาดแคลนอะไรขนาดนั้น”
“ขอบคุณมาก มิเชล” เวร่าตอบกลับ
“งั้นก็แค่นี้นะ” มิเชลวางสาย
หลังจากวางสาย สายตาขอองมิเชลดูจะเครียดทีเดียว ก่อนจะโบกมือเรียกเลขาของเธอ “จองตั๋วเครื่องไปจีนให้ชั้นทันทีเลยนะ !”
“จะรีบจัดการทันทีครับ” เลขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว
มิเชลหยิบแฟ้มภาพที่มีรูปภาพอยู่หลายใบขึ้นมา เธอสวมแว่นตากรอบทองพลางมองดูที่รูปอยู่เป็นเวลานานก่อนจะพูดขึ้น “เขาดูดีมากเชียวล่ะ คล้ายพ่อมากเลย อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่าเจ้าจมูกโตนั่นหล่ะนะ ถึงยังไงคนจีนก็ยังดูดีกว่าอยู่ดี”
นี่เป็นเรื่องราวของแม่ยายที่กำลังมองดูลูกเขยของตนเอง ยิ่งเธอมอง เธอก็ยิ่งพึงพอใจมากขึ้น
ถึงแม้ว่าเสี่ยวจิงจิงจะได้แค่รางวัลรองชนะเลิศ แต่เธอก็รู้สึกดีใจมาก ซึ่งมันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการพยายามอย่างหนักของเธอนั้นไม่สูญเปล่า ทำให้เธอนั้นดูโดดเด่นท่ามกลางนักเรียนหมู่มากทีเดียว
ผลงานของสาขาฮั่นโจวในครั้งนี้นับได้ว่ายอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ผ่านในการแข่งขันกลุ่ม แต่หัวข้อทักษะพิเศษและความรู้ทั่วไปทำให้พวกเขาติดอยู่ในระดับท็อป
ถงเมิ่งูฉู่มองไปยังเสี่ยวจิงจิงอย่างมีความสุข “การฝังเข็มของเธออยู่อันดับหนึ่ง การเขียนใบสั่งยาที่สอง และความรู้ทั่วไปอยู่อันดับสาม เป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับสาขาฮั่นโจวของเรา ชั้นได้ปรึกษากับรองอาจารย์ใหญ่แล้วว่าจะมอบทุนการศึกษาให้เธอและให้เธอไปเรียนที่ศูนย์ใหญ่ เธอคิดว่าไงล่ะ ?”
เขาคิดว่าเสี่ยวจิงจิงจะรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ แต่เธอกลับส่ายหน้า “อาจารย์ใหญ่ถง ชั้นต้องขอโทษจริงๆแต่ ชั้นขอปฏิเสธค่ะ”
คำตอบของเธอทำให้ถงเมิ่งฉู่ตกใจ “ทำไมล่ะ ? ถ้าเธอได้ไปเรียนที่ศูนย์ใหญ่ เธอจะต้องได้เขาโรงพยาบาลดีๆแน่นอน อนาคตของเธอจะสดใสเลยนะ !”
เสี่ยงจิงจิงมองไปยังซูเถาก่อนจะตอบกลับ “ความสำเร็จของชั้นทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะการสอนของอาจารย์ซูเถา ชั้นจึงตัดสินใจที่จะเรียนที่ตำหนักต่อไปค่ะ”
“เสี่ยวจิงจิง เธอรู้ใช่มั้ยว่าเธอกำลังปฏิเสธอะไรอยู่ ?” ถงเมิ่งฉู่ถาม สายตาของเขาเปิดกว้าง
เสี่ยวจิงจิงพยักหน้า “ชั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว และชั้นรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ !”
ถงเมิ่งฉู่ส่ายหัว เขารู้สึกว่าเสี่ยวจิงจิงคงจะไม่รู้ว่าอะไรนั้นดีสำหรับเธอ
ถังหนานเจิ้งยืนถอนหายใจพลางหันไปกระซิบกับซูเถา “ศิษย์ของนายคนนี้คุ้มค่ากับที่พยายามมาจริงๆ”
ซูเถายิ้ม “ถ้าไม่ใช่เพราะลักษณะนิสัยนี้ของเธอ ผมคงไม่ให้เธอเป็นศิษย์เอกหรอก”
ถังหนานเจิ้งยิ้มก่อนจะมองไปยังตี้หยวน อันดับของเธอนั้นดีมาก การเขียนใบสั่งยาอยู่อันดับสาม การฝังเข็มอยู่อันดับสิบ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นี้ยังคงห่างไกลเมื่อเทียบกับเสี่ยวจิงจิง
ในทางกลับกัน ตี้หยวนรู้สึกเสียใจที่เธอออกมาจากตำหนักเสียก่อน ไม่อย่างงั้นเธอคงจะทำคะแนนได้ดีกว่านี้
นั่นก็เพราะว่าแม้แต่หวังเผิงยังได้ที่หนึ่งในการเขียนใบสั่งยาในขณะที่จ้าวเจี้ยนได้ที่หกในการฝังเข็ม ทั้งคู่ทำคะแนนได้ดีกว่าเธอ
ซูเถาเป็นคนที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ ทักษะของเขาไม่เพียงยากจะหยั่งถึงเท่านั้น แต่เขายังดูสงบ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำว่าการแข่งครั้งนี้มันไม่ยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ซูเถาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเนื่องนี่เป็นเพียงครั้งแรกของการโชว์ตัวศิษย์ของเขาในที่สาธารณะ หากพวกเขาเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้น นั้นแหละถึงจะน่าพอใจ
ลูกศิษย์ของเขายังอายุน้อย และพวกเขานี่แหละจะเป็นผู้ทำให้วงการแพทย์สั่นคลอนในอนาคต !