ตอนที่แล้วบทที่ 40 เปลี่ยนเป็นผีเสื้อ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42 ไอ้หื่นกามติดกับ 

บทที่ 41 ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้หมดแล้ว 


บทที่ 41 ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้หมดแล้ว

ซูเถานั่งถอนหายใจในรถบัส เป้าหมายของเขาในการแข่งขันครั้งนี้มีไว้สำหรับลูกศิย์ทั้ง 3 คนของเขา เขาหวังว่าพวกลูกศิษย์จะผ่านการทดสอบเพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น

เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องของสาขาฮั่นโจวมากนัก เนื่องจากเขาไม่ค่อยชอบถงเมิ่งฉู่ซักเท่าไหร่ อาจารย์ใหญ่ที่ใช้วิธีขี้โกงแบบนั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ?

ทัวร์นาเม้นท์นี้ดูจะใหญ่กว่าที่เขาคาดเอาไว้ มีผู้ร่วมเข้าแข่งขัน 53 คนโดยรวมคนของศูนย์ใหญ่ และอีก 7 สาขาย่อย ซึ่งแต่ละสาขาเสนอชื่อมา 5 คน ในขณะที่ศูนย์ใหญ่มี 18 คน การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือแข่งแบบกลุ่ม , แข่งในหัวข้อพิเศษ , แข่งความรู้ทั่วไป

การแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในหัวหนาน โดยมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ผ่านช่องการศึกษาอีกด้วย

ถังหนานเจิ้งมองไปยังตารางขั้นตอนการแข่งขันก่อนจะพูดขึ้น “ทุกสนามแข่งขันจะแบ่งเป็นการสอบข้อเขียนและการปฏิบัติจริง และการแข่งขันแบบกลุ่มนั้นแข่งกันในรูปแบบทีม 3 คน ชั้นขอแนะนำให้เติ้งหมิง ตี้หยวน และเสี่ยวจิงจิงร่วมทีมกัน และสำหรับการแข่งหัวข้อพิเศษและหัวข้อทั่วไปก็ขึ้นอยู่กับคะแนนของพวกเขา”

นี่เป็นบทสนทนาระหว่างซูเถาและถังหนานเจิ้งในการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ถังหนานเจิ้งเชื่อมั่นในตัวซูเถาซึ่งมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาสนับสนุนซูเถาอยู่

ถงเมิ่งูฉู่พยักหน้า “เติ้งหมิง ตี้หยวน และเสี่ยวจิงจิงนั้นมีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาสำหรับข้อเขียน แต่เสี่ยวจิงจิงไม่เคยซ้อมภาคปฏิบัติเลย เธอจะไหวหรือเปล่านะ ?”

“วางใจเถอะ ผมรับประกันความสามารถของเธอ” ถังหนานเชงยิ้ม

ถงเมิ่งฉู่ถอนหายใจ “คุณถัง ผมเห็นด้วยกับคุณในการเข้าร่วมของหวังเผิงกับจ้าวเจี้ยนในชื่อของคุณเท่านั้น ผมเคยเห็นคะแนนของพวกเขามาก่อน ซึ่งมันดูค่อนข้างแย่ทีเดียว โดยเฉพาะจ้าวเจี้ยน ถ้าเขาไม่ใช่นักกีฬาแล้วละก็ เขาได้ซ้ำชั้นอีกปีไปแล้ว”

ถังหนานเจิ้งนั้นรู้ดีว่าถงเมิ่งจูไม่พอใจซูเถาที่เขาไม่เข้าร่วมแข่งขัน เขายังมั่นใจอีกว่า “ผมเคยเห็นนักเรียนทั้งสองคนมาก่อน พวกเขาอาจจะทำคะแนนได้ดีก็ได้ในการแข่งขันหัวข้อพิเศษ”

ในตอนนี้มันไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากจะฝากความหวังไว้ทั้งหมดกับถังหนานเจิ้ง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ถงเมิ่งจูได้รับข้อความบางอย่าง ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี

“ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้รับการร้องเรียนมาว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันปลอม 2 คน สาขาหยินโจวได้ให้ศิษย์เก่ามาเข้าร่วมแข่ง ทั้งสองคนถูกตัดสิทธิ์และผู้อำนวยการของสาขาหยินโจวจะถูกลงโทษหลังการแข่งขันจบลง”

ถงเมิ่งฉู่ตกใจมาก ก่อนที่จะมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าของเขา ได้มีการเปลี่ยนกฎในอดีต เขาไม่คิดเลยว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเข้มงวดขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการจัดการแข่งขันตั้งแต่ที่รองประธานหนุ่ม หวังเกาเฟิงได้เข้าร่วมในฐานะผู้จัดการแข่งขัน

เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ซูเถาเคยพูดไว้จะเป็นความจริง มันทำให้ในใจของถงเมิ่งฉู่สับสนมากทีเดียว

ทัวร์นาเม้นท์จะเริ่มแข่งกันตอนบ่าย 3 โมง ถังหนานเชงได้จัดกระดานหมากรุกเอาไว้และนั่งเล่นกับซูเถา

หลังผ่านไปไม่กี่ตา ถังหนานเจิ้งขมวดคิ้ว วิธีการเดินหมากของซูเถานั้นแปลกมาก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่มือใหม่ แต่รูปแบบหมากนั้มไม่เหมือนใครเลย ซึ่งเขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อนด้วย

หลังผ่านไป 10 ตา ถังหนานเจิ้งจ้องไปที่กระดานก่อนจะยิ้มเล็กน้อย “ชั้นยอมแพ้ ไม่คิดเลยว่านายจะเล่นหมากรุกเก่งขนาดนี้ ถ้านายเข้าวงการหมากรุก นายอาจจะถึงขั้นเทิร์นโปรเป็นตัวแทนระดับประเทศได้เลย”

ซูเถาน้อมรับด้วยท่าทางเรียบร้อย “ผมไม่เคยเล่นกับใครมากกว่า 3 เกมเลย เพราะว่าหากผ่านไปนานๆ พวกเขาก็จะจับทางหมากผมได้ และก็ไม่มีใครติดกับผมอีกต่อไป”

“งั้นมาต่อกันอีก 2 รอบ !” ถังหนานเจิ้งยิ้ม

หลังผ่านไป 2 เกม ถังหนานเจิ้งนั่งลูบคางของเขาอยู่นาน ท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ก่อนจะท้าซูเถาอีกครั้ง “มาอีกตา !”

ซูเถาส่ายมือ “ลืมมันซะเถอะ ให้ผมได้เก็บไต๋เอาไว้บ้าง”

ถังหนานเจิ้งเข้าใจลักษณะนิสัยของซูเถา เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง เขาไม่ต้องการให้ถังหนานเจิ้งแพ้อย่างหมดรูป ถังหนานเจิ้งถอนหายใจ  “ก็ได้ ไว้ค่อยมาเล่นกันอีกก็แล้วกัน ถ้ายังมีโอกาสหล่ะนะ” อย่างไรก็ตาม เขาสาบานเอาไว้ในใจแล้วว่าจะไม่เล่นกับซูเถาอีก

หลังพวกเขาคุยกันจบออดก็ดังขึ้น ซูเถาเปิดประตูและเห็นถงเมิ่งูฉู่พร้อมกับผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 คนที่กลับมาจากการแข่งขัน

“สอบข้อเขียนเป็นไงบ้าง ?” ถังหนานเจิ้งถามอย่างกระตือรือร้น

เติ้งหมิงตอบอย่างมั่นใจก่อนจะยิ้ม “ศาสตราจารย์ถัง คำถามที่ออกสอบเป็นคำภามที่คุณมักจะย้ำบ่อยๆในชั้นเรียน ผมตอบได้อย่างเพอร์เฟ็ค ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ผมคงจะผ่านเข้าไปแข่งในรอบรองฯได้ทั้งสามสนาม”

ตี้หยวนยังคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยหลังมองไปยังซูก่อนที่จะหันไปรายงานถังหนานเชง “ชั้นมั่นใจมากในหัวข้อทักษะพิเศษ”

ถังหานเจิ้งพยักหน้าก่อนจะมองไปยังเสี่ยวจิงจิง หวังเผิง และจ้าวเจี้ยน

สีหน้าของเสี่ยวจิงจิงค่อนข้างเคร่งขรึม “ถึงแม้นี่จะเป็นการแข่งขันรอบแรกๆ แต่มันก็ยากมากแถมมีกับดักมากมายอีก ชั้นไม่ค่อยมั่นใจเลย”

“ชั้นเดาข้อสอบด้วยล่ะ !” หวังเผิงหาว

จ้าวเจิ้ยนยักไหล่ “ชั้นก็ลืมข้อสอบไปแล้วด้วย !”

ถงเมิ่งฉู่ยิ้ม เขาคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีเรื่องมีแบบนี้เกิดขึ้น ดูเหมือนในการแข่งขันครั้งนี้เขาคงจะหวังพึ่งได้แค่เติ้งหมิง ตี้หยวน และเสี่ยวจิงจิงเท่านั้น

ถังหนานเจิ้งไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบพวกนั้นเท่าไหร่ ก่อนที่เขาจะยิ้มขึ้นมา “ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยก่อนที่จะประกาศผล ทั้งผลสอบและอันดับจะเริ่มประกาศตอน 4 ทุ่มวันนี้ และรอบรองฯจะเริ่มแข่งกันพรุ่งนี้เช้า รอบรองฯจะเป็นการแข่งในภาคปฏิบัติ มันไม่ยากเท่าไหร่หรอก ไปโชว์ให้เหล่าผู้คนได้ดูหน่อยว่าพวกนายเรียนอะไรกันมาบ้าง”

หวังเผิงเกาหัว “ภาคปฏิบัตินี่ของถนัดผมเลย”

“ถ้านายสอบไม่ผ่านข้อเขียน ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้แข่งภาคปฏิบัติ” เติ้งหมิงยิ้มเยาะเย้ย

หวังเผิงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเติ้งหมิงเท่าไหร่ เขาจึงพูดขึ้น “พนันกันมั้ยล่ะ ถึงแม้ว่าชั้นจะเดาข้อสอบข้อเขียนมา แต่ชั้นก็เข้าแข่งภาคปฏิบัติได้เหมือนกันล่ะน่า”

ใบหน้าของเติ้งหมิงเต็มไปด้วยความสงสัย “นายจะอ่อนแอมันก็เรื่องของนาย แต่ถ้าอ่อนแอแล้วยังขี้โม้อีก ชั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดกับนาย”

“อย่าสู้กันเองน่า พวกนายต้องรวมพลังกันนะ ไปพักผ่อนเถอะ” ถังหนานเจิ้งโบกมือ

หลังส่งพวกเขาทั้ง 5 คนแล้ว ถังหนานเชงหันมาพูดกับซูเถาหลังจากที่เขาเห็นสีหน้าของซูเถา “นี่นายเป็นห่วงกับเขาด้วยเหรอ ?”

ซูเถาถอนหายใจก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ “มันเกินความคาดหมายของผมไปหน่อย ถ้าเป็นอย่างที่ผมคาดเอาไว้ พวกเราคงไม่ผ่านไปแข่งแบบกลุ่มในรอบรองฯแน่ๆ ตอนนี้เราต้องโฟกัสไปที่สองคนนั่นเท่านั้น”

“เสี่ยวจิงจิงตกรอบงั้นเหรอ ?” ถงเมิ่งฉู่ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

ซูเถาส่ายหน้าก่อนจะถอนหายใจ “ประกาศเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้”

ประกาศผลเป็นทางการได้ออกมาแล้วตอน 3 ทุ่มครึ่ง ซึ่งมันนอกเหนือความคาดหมายของทุกคน เติ้งหมิงซึ่งรู้สึกมั่นใจมากได้เพียง 45 คะแนนในการแข่งขันแบบกลุ่ม ขาดอีก 15 แต้มถึงจะเข้ารอบ ส่วนอีกสองคนนที่เหลือคะแนนแย่มาก ไม่มีใครผ่านเข้าไปแข่งรอบรองฯได้เลย

ตี้หยวนได้ 75 คะแนน ผ่านเข้าไปแข่งในหัวข้อยาและการฝังเข็ม

หวังเผิงได้ 68 คะแนน เป็นคะแนนที่น่าทึ่งมากสำหรับการสอบเขียนใบสั่งยา

จ้าวเจี้ยนได้ 63 คะแนน ผ่านเข้าไปแข่งในหัวข้อการฝังเข็ม

และคนสุดท้าย เสี่ยวจิงจิง เธอคว้าไปถึง 98 คะแนน ผ่านเข้าไปแข่งขันได้ทุกหัวข้อ เข้าป้ายเป็นอันดับ 1

จากผลคะแนนของเสี่ยวจิงจิง พร้อมกับตี้หยวนและหวังเผิง รวมกันแล้วพวกเขาผ่านโซนคะแนนขั้นต่ำสำหรับการเข้าไปแข่งขันในรอบรองฯเพียง 2 คะแนนเท่านั้นสำหรับการแข่งขันแบบทีม

ถงเมงจูมองไปยังซูเถา ในที่สุดเขาก็รู้ว่าซูเถานั้นเป็นห่วงอะไร เติ้งหมิงเป็นคนที่ถ่วงทุกคนเอาไว้นี่เอง

เติ้งหมิงยืนหน้าแดงอยู่ที่มุมห้อง

ถงเมิ่งฉู่มองไปยังเติ้งหมิงก่อนจะถอนหายใจ “ในฐานะที่นายยังเด็ก พื้นฐานเป็นอะไรที่สำคัญที่สุด และอย่าได้โอ้อวดทำอะไรเกินตัว”

จากเหตุการณ์นี้ ความคิดของถงเมิ่งฉู่ต่อซูเถาก็ได้เปลี่ยนไป เขาดีใจที่สาขาฮั่นโจวนั้นเข้าป้ายอันดับที่ 1 ในการประกาศผลแบบเป็นทางการ

ตอนนี้เติ้งหมิงรู้สึกว่าเขาควรจะหาหลุมเพื่อหลบซ่อนตัวได้แล้ว

“45 คะแนน แม้เจ้า นายทำ แบบนั้น ได้ไงน่ะ ? ขนาดชั้นเดาส่งๆไปยังได้คะแนนเยอะกว่าอีก” หวังเผิงหัวเราะเยาะ

แววตาของเติ้งหมิงเต็มไปด้วยความโกรธ คำพูดของหวังเผิงนั้นเป็นการตบหน้าเขาอย่างแรง ไม่คิดว่าก่อนเลยว่าจะแพ้แม้กระทั่งหวังเผิงและจ้าวเจี้ยน !

เหตุผลที่ซูเถาคิดว่าเติ้งหมิงน่าจะได้คะแนนน้อยเป็นเพราะเขาวิเคราะห์จากคำพูดของเสี่ยวจิงจิง ถึงเธอจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเรียนระดับท็อป แต่เธอยังรู้สึกว่าการสอบนั้นยาก นั่นแปลว่าฝ่ายจัดการแข่งขันกำลังคัดนักเรียนเพื่อเข้าไปแข่งขัน การที่เติ้งหมิงรู้สึกว่าข้อสอบนั้นง่าย เป็นเพราะเขาติดกับที่พวกฝ่ายจัดการแข่งขันวางเอาไว้

ตึกอาจารย์ของมหาลัยเจียงหนานเปิดไฟสว่างไสวในขณะที่ทุกคนดูจะเหนื่อยล้าจากการจัดอันดับผู้เข้าแข่งขัน

หวังเกาเฟิงขมวดคิ้วหลังจากได้เห็นกระดาษคำตอบของเสี่ยวจิงจิง ลายมือของเธอนั้นดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมไม่มีร่องรอยการแก้ไขด้วย ทุกคำตอบเธอเขียนตอบอย่างมั่นใจ

ขนาดนักเรียนที่ดีที่สุดจากศูนย์ใหญ่ยังได้แค่ 92 คะแนน ความต่าง 6 คะแนนแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่มของเสี่ยวจิงจิงว่าเธอเก่งขนาดไหน

หวังเกาเฟิงขมวดคิ้วอีกครั้ง พี่ชายของเขาจางฉิงซ่งได้โทรมาเมื่อวานเพื่อให้เขาตรวจสอบซูเถาซึ่งเป็นอาจารย์ของสาขาฮั่นโจว ลูกศิษย์ของซูเถาได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ด้วย และเขาได้ถามไปยังถงเมิ่งฉู่เพื่อยืนยันว่าเสี่ยวจิงจิงนั้นเป็นลูกศิษย์ของซูเถา

เขาสนใจเพียงแค่สองอย่างเท่านั้นในสาขาฮั่นโจวนี้ หนึ่งคือถังหนานเจิ้ง สองคือคนที่เข้าไปเทคโอเวอร์คาบเรียนของถังหนานเจิ้ง

เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนที่เก่งกาจอย่างซูเถาด้วย มันทำให้มุมมองของเขาต่อสาขาฮั่นโจวนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ในตอนแรก เขาตั้งใจจะมาหาลูกศิษย์จากการแข่งขันครั้งนี้ เสี่ยวจิงจิงนั้นเป็นลูกศิษย์ของซูเถาอยู่ มันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าเขาแย่งเธอมา

ทันใดนั้น หวังเกาเฟิงได้โทรศัพท์ไปหาหูเสี่ยวเฟิง “นายคิดไงกับเสี่ยวจิงจิงที่มาจากฮั่นโจวในการแข่งขันพรุ่งนี้ ?”

หูเสี่ยวเฟงตอบกลับ “ชั้นได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เพื่อที่จะแบนเธอไม่ให้เธอได้แข่ง”

หวังเกาเฟิงคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นคำสั่งจากแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์ “ชั้นไม่คิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีเท่าไหร่ เราต้องมีความยุติธรรม”

หูเสี่ยวเฟิงยิ้ม เนื่องจากหวังเกาเฟิงไม่ได้พูดให้มันชัดเจน แปลว่าเขาแค่แสดงความคิดเห็นออกมาเท่านั้น “วางใจเถอะ พวกเรามันมืออาชีพ ไม่ทิ้งร่องรอยไว้แน่ !”

หลังจากวางสาย หวังเกาเฟิงได้ดูกระดาษคำตอบของเสี่ยวจิงจิงอีกครั้ง เขาสนใจกับคำตอบข้อสุดท้าย ถึงแม้ว่าเธอจะทำเครื่องหมายหายไป 2 ข้อ แต่ดวงตาของเขาก็เป็นประกายเพราะไม่มีใครสามารถตอบได้ดีแบบนี้ถ้าหากไม่มีประสบการณ์

เป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆที่เขาจะต้องสูญเสียคนมีพรสวรรค์เช่นนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด