บทที่ 36 ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างกำลังใจ
บทที่ 36 ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างกำลังใจ
หลังจากที่ออกมาจากห้อง หยานจิ้งรีบตรงดิ่งมายังซูเถาทันที “เขายังไม่ตายใช่มั้ย ?”
มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะถอนหายใจ “เป็นเด็กผู้หญิง , ตอนนี้เธออยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมืองต๋งอันของมลฑลหยูโจว ชื่อของเธอคือ หัวหยาน ปีนี้อายุ 10 ขวบ”
ด้วยข้อมูลมากมายเหล่านี้ เราสามารถตามหาลูกสาวของเธอได้แล้ว เธอพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะสั่งการ “เสี่ยวหง , รีบส่งคนไปรับเธอกลับมาเดี๋ยวนี้”
เสี่ยวหงพยักหน้าตอบรับคำสั่ง “จะรีบดำเนินการทันที ท่านประธานหยาน”
เสี่ยวหงรู้ว่าสิ่งนี้นั้นสำคัญกับเจ้านายของเธอมากแค่ไหน หยานจิ้งต้องการที่จะไปด้วยตนเองด้วยซ้ำ แต่หลังจากพิจารณาปัจจัยหลายๆอย่างแล้ว เธอจำเป็นต้องทำให้มันมีความเสี่ยงน้อยที่สุด มันจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงถ้าเธอไปด้วยตัวเอง
เธอรู้สึกมั่นใจถ้าเสี่ยวหงจะไปเองเป็นการส่วนตัว
หลังจากที่เสี่ยวหงออกไป หยานจิ้งมองมายังซูเถา “ชั้นประหลาดใจจริงๆ ชั้นใช้ไปตั้งหลายวิธีแต่เว่ยถิงก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย ถึงขนาดใช้วิธีการสอบสวนแบบพิเศษแล้วก็ยังไม่ช่วยอะไรเลย”
ซูเถายิ้ม “หมอน่ะนะ มันก็คล้ายๆกับยมทูตนั่นแหละ ชั้นมีหลายวิธีเลยล่ะที่แม้แต่ยมทูตตัวจริงยังกลัว มันง่ายมากเลยสำหรับการทำให้เว่ยถิงเปิดปากพูดได้”
หยานจิ้งรู้ดีว่าพวกเข็มที่ซูเถาฝังบนหน้าของเว่ยถิงนั้นดูทรมานแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก “ถ้าพาลูกสาวชั้นกลับมาได้ ชั้นคงติดหนี้นายแล้วล่ะ”
ซูเถาส่ายหัว “ชั้นแค่สัญญากับเว่ยถิงไว้ว่าจะรับประกันชีวิตของเขาหากเธอได้ลูกสาวกลับคืนมาก็เท่านั้นเอง”
หยานจิ้งพยักหน้า “เว่ยถิงมันก็เป็นแค่เบี้ยตัวนึงเท่านั้น , ถ้าลูกสาวชั้นปลอดภัยดี ชั้นก็จะปล่อยมันไป”
ซูเถาถอนหายใจ “เธอนี่เป็นคนที่คุยง่ายเหมือนที่ชั้นจินตนาการเอาไว้เลยนะ”
หยานจิ้งยิ้ม “นายเป็นคนแรกนะเนี่ยที่เห็นชั้นเป็นแบบนั้น , ในสายตาชั้นตอนนี้มีเพียงแค่ความเกลียดชังเท่านั้นแหละ”
ซูเถายักไหล่ “ความเกลียดชังมันก็เป็นแค่หนึ่งในอารมณ์ความรู้สึกเท่านั้นแหละ พอลูกสาวเธอกลับมาแล้วมันก็จะเปลี่ยนชีวิตของเธอเอง พอเธอตื่นมาในตอนเช้า จะก็จะรับรู้ได้ว่าโลกนี้มันวิเศษแค่ไหน”
หยานจิ้งจ้องซูเถาอยู่พักใหญ่ “ชั้นชักอยากรู้เรื่องของนายซะแล้วสิ , นายมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังมีประสบการณ์มากมายในการจัดการเรื่องต่างๆด้วย”
ซูเถายิ้ม “เธอคงไม่ได้สงสัยว่าชั้นมาจากองค์กรอะไรซักอย่างหรอกเหรอ ? งั้นก็ทำเหมือนชั้นมาจากไอ้องค์กรอะไรนั่นก็แล้วกัน”
หยานจิ้งตอบ “ฉลาดแกมโกงจริงๆนะนายเนี่ย”
ซูเถารู้ดีว่าเธอนั้นไม่สามารถสงบใจได้จนกว่าเธอจะพาลูกสาวกลับมาได้อย่างปลอดภัย
พวกเขาทั้งสองลงมานั่งดื่มชากันที่ชั้นหนึ่ง ถึงแม้จะใช้เครื่องบินส่วนตัว การไปกลับหยูโจวนั้นก็ใช้เวลาราวๆ 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
หยานจิ้งหยิบแฟ้มเอกสารมาดูก่อนจะส่งให้ซูเถา “นี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับตระกูลเนี่ยและพวกแพทยศาสตร์แห่งหุบเขาราชันย์ เอาไปดูสิ”
หลังจากหยานจิ้งส่งข้อมูลเอกสารให้เขา มันหมายความว่าทัศนคติของเธอที่มีต่อซูเถานั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เขามองแฟ้มเอกสารนั้นผ่านๆก่อนจะถอนหายใจ “ไคซงพูเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอะไรหล่ะเนี่ย ? มันยากมั้ยถ้าหากจะช่วยเขา ?”
สายตาของหยานจิ้งเต็มไปด้วยความตกใจก่อนจะตอบกลับ “โดยทั่วไปแล้ว หลายคนจะพยายามเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับพวกตระกูลเนี่ยหลังจากที่ได้รู้ว่าพวกนี้มีอำนาจมากขนาดไหน แต่นายก็ยังพยายามที่จะช่วยไคซงพูเนี่ยนะ ? ชั้นพูดได้เลยว่านายนั้นกล้าหาญและบ้าบิ่นมาก”
ซูเถายิ้ม “ประธานหยาน , ชั้นบอกได้เลยว่าเธอคงจะไม่ค่อยถูกกับพวกนี้เท่าไหร่เลยสินะ”
มีความเย็นชาปรากฎขึ้นที่ดวงตาของหยานจิ้ง “หัวหนานกับหัวเป่ยนั้นเป็นเมืองที่อยู่ติดกัน พวกตระกูลเนี่ยมันตั้งใจจะรวมทั้งสองที่เข้าไปอยู่ในตลาดหัวหนานของพวกมัน ซึ่งมันมีผลกระบทต่ออุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลของชั้น เนี่ยไฮ่เถียนเป็นคนที่ชั้นเกรงกลัว”
ด้วยคำอธิบายของเธอ ในที่สุดซูเถาก็รู้แล้วว่าทำไมหยานจิ้งถึงได้ปฏิเสธความต้องการของพวกตระกูลเนี่ย
หยานจิ้งถอนหายใจ “ถ้าพวกเราต้องการจะจัดการกับพวกตระกูลเนี่ย ต้องเริ่มจากสวนแห่งแพทยศาสตร์ราชันย์ของพวกมันก่อน”
“เธอมีแผนอะไรงั้นเหรอ ?” ซูเถาถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
หยานจิ้งตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “พวกตระกูลเนี่ยมักจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมของการแพทย์แผนจีนที่สวนแห่งแพทยศาสตร์ราชันย์ทุกๆปี”
ซูเถามองไปยังหยานจิ้งด้วยสายตาที่ซับซ้อน “พวกตระกูลเนี่ยจะเป็นประธานจัดงานในปีนี้ , พวกนี้มันคุ้นเคยกับเรื่องนี้อยู่แล้ว มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเราที่จะหาจุดอ่อน”
หยานจิ้งพูดต่อ “จุดอ่อนมันต้องมีแน่นอน , เพียงแค่เราต้องแทรกซึมเข้าไป”
“แล้วจะแทรกซึมเข้าไปยังไง ?” ซูเถาถามขึ้น
หยานจิ้งยิ้ม “ในงานการประชุมของแพทย์แผนจีนของพวกมันมักจะจัดทัวร์นาเม้นท์ค้นหาราชาแห่งหมอเพื่อตามหาหมอเก่งๆที่อายุน้อยที่สุด หากราชาแห่งหมอนั่นสามารถเปิดโปงได้ว่าพวกตระกูลเนี่ยวางแผนชั่วอะไรอยู่ได้ละก็ พวกมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”
อันที่จริง แผนของหยานจิ้งดูเสี่ยงมากทีเดียว เธอยิ้ม ซูเถาจึงถามขึ้นมา “เธอต้องการใช้ชั้นเข้าร่วมงานแข่งอะไรนั่นสินะ ?”
หยานจิ้งตอบกลับ “ด้วยความสามารถของนาย ชั้นคิดว่ามันคงไม่ยากหรอก หรือบางทีนายอาจจะกลัวว่าองค์กรเก่าของนายจะถูกเปิดโปงแล้วทำให้เกิดปัญหางั้นเหรอ ?”
ซูเถาอึ้ง ดูเหมือนว่าหยานจิ้งจะเข้าใจผิดไปใหญ่เลยทีเดียวว่าเขานั้นมีองค์กรอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังเขา เขาถอนหายใจ “สุดท้ายเธอก็ใช้งานชั้นอยู่ดี !”
หยานจิ้งยักไหล่ “เปล่า เปล่า เปล่าเลย ดูเหมือนนายจะเข้าใจเจตนาชั้นผิดนะ ชั้นได้บอกไปตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งแรกแล้วว่าพวกเรานั้นเป็นหุ้นส่วนกัน ตำหนักของนายจะไม่ดังขึ้นเหรอถ้าเกิดนายได้ตำแหน่งราชาแห่งหมอมาน่ะ ?”
ซูเถาลังเล ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่ายิ่งเขาพูดกับเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตกอยู่ในแผนการของเธอ “พวกตระกูลเนี่ยมันมีความแค้นกับชั้นอยู่ แล้วมันจะให้ชั้นลงแข่งงั้นเหรอ ?”
“ขอแค่นายคิดจะลงแข่งเท่านั้น ที่เหลือชั้นจัดการเอง” หยานจิ้งยิ้ม
ซูเถาเอามือลูบคางก่อนจะมองไปที่หยานจิ้ง “แค่หวังว่าเธอคงไม่ทิ้งชั้นไปซะก่อนนะ ในตอนที่ชั้นไร้ประโยชน์ไปแล้วในอนาคตน่ะ”
หยานจิ้งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้ม “เจ้าหนู , พี่สาวคนนี้ตามใจนายอยู่เสมอนั่นแหละ จริงสิ , นายนี่ตรงสเป็คชั้นพอดีเลย ว่าไงล่ะ ? นายอยากได้อะไรเป็นรางวัลงั้นเหรอ ?”
ซูเถาไอ “สุภาพบุรุษอย่างชั้นจะไปหวังอะไรแบบนั้นได้ยังไง ? ชั้นพึ่งพาทักษะของชั้นในการหารายได้นะ และรูปร่างหน้าตาชั้นก็เป็นแค่รูปกายภายนอกเท่านั้น เคารพตัวเองหน่อย !”
หลังได้ยินดังนั้น หยานจิ้งรู้สึกว่าซูเถานั้นเป็นคนที่น่าสนใจขึ้นไปอีก “นายนี่น่าสนใจจริงๆ ! พี่สาวคนนี้อยากจะทำความรู้จักกับนายเป็นการส่วนตัวมากขึ้นไปอีกแฮะ”
เมื่อทั้งสองคุยกัน เธอมักจะหาเรื่องเย้าแหย่ซูเถาอยู่ตลอด แต่ซูเถามักจะไม่ค่อยเล่นด้วยเท่าไหร่
ด้วยการพูดคุยธรรมดาๆเหล่านี้ทำให้หยานจิ้งนั้นคาดไม่ถึงเกี่ยวกับตัวซูเถามากขึ้น ซูเถานั้นไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งประสบกาณร์และความรู้ที่เขามีนั้นมากกว่าคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันซะอีก
เสี่ยวหงถึงที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว ก่อนจะโทรมาหาหยานจิ้ง “ท่านประธาน , เราพบลูกสาวของคุณแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ดวงตาของหยานจิ้งเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความตื่นเต้นเอาไว้ “เธอต้องพาเขากลับมาอย่างปลอดภัยนะ”
“วางใจได้เลย , เราจะพาเธอกลับไปอย่างปลอดภัย” เสี่ยงหงตอบกลับ
หลังจากวางสาย เธอเห็นซูเถาส่งทิชชู่มาให้ เธอรู้สึกประหลาดใจก่อนจะยิ้ม “ดูเหมือนว่าสวรรค์จะยังไม่ได้ทอดทิ้งชั้นสินะ”
ซูเถายิ้ม “ถ้าสวรรค์เป็นคน ป่านนี้ก็คงเป็นตาแก่ไปแล้วล่ะ มันไม่เกี่ยวกับสวรรค์อะไรนั่นหรอก เป็นเพราะเธอเข้มแข็งต่างหาก ถ้าเธอไม่เข็มแข็งและอดทน เธอจะพบกับความหวังหลังจากนั้นได้ไงกันล่ะ ?”
“แน่ล่ะ ชั้นเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ ถ้าชั้นฆ่าตัวตายไปวันนั้นก็คงจะไม่มีวันนี้ ดูเหมือนนายจะปลอบใจและทำให้คนอื่นสบายใจเก่งทีเดียว” หยานจิ้งเงยหน้า
ซูเถาตอบกลับ “หมอที่ไม่รู้วิธีสร้างกำลังใจน่ะ ไม่ใช่หมอที่ดีหรอก”
“หืม ? นี่ชั้นกลายเป็นคนไข้ของนายแล้วเหรอเนี่ย ?” หยานจิ้งถอนหายใจ
ซูเถาถามกลับ “แล้วไม่ใช่เหรอไง ?”
หยานจิ้งรู้สึกผ่อนคลายแล้วยิ้มออกมา ตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอไว้ที่ Aqua Brook เธอก็ได้กลายเป็นคนไข้ของเขาแล้ว แถมเขาได้ใช้วิธีการของตัวเองรักษาเธอซะด้วย
เธอทรมารมามากในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซูเถาไม่เพียงแค่รักษาเธอเท่านั้น เขายังให้กำลังใจเธออีกด้วย ทักษะทางด้านการแพทย์ของเขานั้นเรียกได้ว่าอัจฉริยะจนเธออดที่จะเชื่อใจเขาไม่ได้
หยานจิ้งยิ้ม “ไว้ในอนาคตถ้าชั้นไม่สบายชั้นจะไปหานายก็แล้วกัน”
ซูเถาเอามือถูกันก่อนจะพูดขึ้น “ถ้างั้นก็ช่วยจ่ายค่ารักษาของสองครั้งก่อนแล้วกัน !”
หยานจิ้งตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของซูเถา “นายนี่เปลี่ยนท่าทีไวจังนะ , เมื่อกี้นายยังเคลมตัวเองว่าเป็นหมอชั้นยอดอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ? ไหงเปลี่ยนไปเป็นนักธุรกิจซะล่ะ ? ตอนนี้ชั้นไม่ได้พกเงินติดตัวไว้หน่ะสิ เดี๋ยวชั้นจะให้เสี่ยงหงส่งเงินไปให้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“ชั้นไม่คิดตังค์เธอหรอกถ้าเธอเป็นคนจนน่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอรวยจะตาย รู้จักโรบินฮู้ดไหม ? นี่เรียกว่าการปล้นคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจนยังไงล่ะ” ซูเถายิ้มก่อนจะพูดต่อ “แล้วก็นะ นักบุญก็เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่พระเจ้า ยังไงก็ต้องกินต้องใช้”
เธอรู้สึกสบายใจเมื่อได้พูดคุยกับซูเถา เธออยู่ในโลกธุรกิจและวงการใต้ดินมาหลายปี ดังนั้นเธอจึงเลือกจะเก็บอารมณ์ของเธอไว้ แต่ซูเถานั้นทำให้เธอรู้สึกสงบ
หยานจิ้งได้จัดให้คนของเธอไปส่งซูเถาที่ตำหนัก ในขณะที่เธอรอคอยการกลับมาของลูกสาว
ก่อนที่เขาจะไป ซูเถาเห็นรอยยิ้มปรากฎขึ้นที่มุมปากของหยานจิ้ง รอยยิ้มนั้นมันต่างออกไปจากที่ผ่านๆมา มันเป็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
ณ มลฑลหัวเป่ย , สวนแห่งแพทยศาสตร์ราชันย์ , ตระกูลเนี่ย
มิสฉียิ้มพลางเอากระดาษห่อสิ่งของที่ดูสกปรกบางอย่างก่อนจะมองไปยังเนี่ยไฮ่เถียน “ใช้ได้ไหม ?”
เนี่ยไฮ่เถียนนอนอยู่บนเตียงด้วยความพึงพอใจก่อนจะยิ้ม “เธอเก่งขึ้นนะเนี่ย”
มิสฉีกลับขึ้นไปบนเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังรักษารูปร่างเอาไว้ได้อย่างดีด้วยทักษะเรื่องบนเตียงที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น เธอจึงสามารถปรณนิบัติสามีของเธอ เนี่ยไฮ่เถียนได้ดีจนเขานั้นต้องการเธออยู่ทุกวันก็มิปาน
เธอถอนหายใจ “ดูเหมือนแม่ม่ายพิษจะได้ประกาศออกมาแล้วว่าเธอเลือกที่จะปกป้องซูเถาและไคหยาน”
เนี่ยไฮ่เถียนเอามือลูบคาง “ตามที่คาดเอาไว้ นี่มันไม่ใช้การต่อสู้ด้วยอำนาจแบบธรรมดาๆอีกต่อไปแล้ว”
“แล้วเรื่องน้องชายของนายล่ะ...”
“เดี๋ยวชั้นจะให้คนไปเตือนเขาเอง ถึงยังไงเขาก็เป็นคนของตระกูลเนี่ย มันจะแย่เอาหากเกิดเรื่องขึ้น” เนี่ยไฮ่เถียนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
มิสฉีตอบกลับ “ชั้นแค่กลัวว่าเขาจะทำอะไรงี่เง่าเท่านั้นเอง”
เนี่ยไฮ่เถียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สายตาของเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง