ตอนที่แล้วบทที่ 303 - ลิลิธ (3) [30-12-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 305 - ลิลิธ (5) [03-01-2021]

บทที่ 304 - ลิลิธ (4) [01-01-2021]


บทที่ 304 - ลิลิธ (4)

[คุณ... คุณทนมันได้จริงๆ]

ฉันสามารถจะบอกได้ทันทีที่ได้ยินเสียงของเธอว่าเธอกำลังโกรธ ฉันได้มองเธอยิ้มๆ

"นักสะสมความตาย"

หมอกสีดำได้ออกมาจากร่างฉันในทันที ลิลิธที่ใส่ชุดบางที่สามารถจะมองทะลุไปได้ดูจะขาดได้ง่ายแต่ว่าเธอก็แค่มองดูอาวุธที่โผล่ออกมาจากอย่างอย่างสนใจ ริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอได้ค่อยๆเปิดขึ้นมาและน้ำเสียงหวานๆของเธอก็เข้ามาใหูฉันอีกครั้งหนึ่ง

[คุณจะมาชี้อาวุธใส่ฉันจริงๆหรอ?]

"ตายซะ!"

[ข้าดอร์ตู เสริมพลังให้กับอาวุธทั้งหมด]

ดอร์ตูได้ส่งพลังของเขาลงไปในอาวุธทั้งหมดที่ออกมาจากหอกและอาวุธพวกนี้ก็พุ่งเข้าไปหาลิลิธด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่ากระสุนในทันที อาวุธจำนวนมหศาลนี้ได้ตัดผ่านอากาศออกไปเพียงแค่เพื่อจัดการผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง

[คุณจะแทงฉันจริงๆ?]

เธอได้ตะโกนออกมาโดยที่ไม่คิดจะหลบ ฉันได้สบถออกมา ฉันสามารถจะโจมตีเธอได้ไม่ว่าเสน่ห์ของเธอมันจะสูงกว่าฉันมากแค่ไหน ด้วยวิญญาณสัมบูรณ์และวงจรเพรูต้าได้เสริมพลังในการแก้มันให้กับฉัน เธอไม่สามารถจะจัดการกับจิตใจที่แข็งแกร่งของฉัน ไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนฉันมากแค่ไหน มันก็ไม่มีทาง... ไม่มีทาง...

[หุหุ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดเลย]

"นี่มัน... อะไร...?"

ฉันได้พึมพัมออกมาอย่างตกตะลึง ไม่ว่าใครก็จะต้องเป็นแบบฉัน ฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็ฯเลย

[นี่ไง นี่ไง คุณก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ]

อาวุธของนักสะสมความตายที่สร้างขึ้นมาจากความโกรธแค้นและอาฆาตที่มีเป้าหมายแค่การฆ่าเป้าหมายของมันได้หยุดอยู่กลางอากาศทีละอัน อาวุธพวกนี้กระทั่งได้เริ่มหมุนอยู่รอบๆลิลิธเหมือนกับทำตัวเป็นผู้ป้องกัน

ฉันได้พึมพัมออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

"นี่เธอ... คุณใช้เสน่ห์ได้แม้แต่กับวัตถุที่ไม่มีชีวิตงั้นหรอ?"

[หุหุ ฉลาดมาก ฉันชอบคุณจริงๆ]

ลิลิธได้ส่งรอยยิ้มหวานมาให้กับฉัน ดูเหมือนเธอจะคาดหวังกับการแสดงออกของฉันเอาไว้แล้ว

[ข้าดอร์ตู กำลังปกป้องนายท่าน]

เสียงของดอร์ตูดูรีบร้อนมาก อาวุธส่วนใหญ่ที่ปรากฏออกมาจากหมอกได้หนัเป้าหมายมาทางตรงกันข้ามและเริ่มพุ่งเข้ามาหาฉันในทันที ดอร์ตูได้ยอมแพ้ที่จะควบคุมพวกมันและเริ่มที่จะควบคุมในอาวุธที่ไม่ได้รับผลจากลิลิธแทน

"อ๊าาา ฉันได้ใช่ทักษะนี่ครั้งแรกและในตอนนี้ฉันก็กำลังถูกทักษะนี้โจมตีเอง!? บ้าอะไรกันเนี่ย!?"

[ข้าดอร์ตู ปกป้องความรู้สึกของนายท่าน]

พลังของดอร์ตูมีมากมายมหาศาล ดอร์ตูได้ควบคุมอาวุธทั้งหมดสวนกลับไปและโจมตีในอาวุธที่เข้ามาโจมตีฉันโดยที่ฉันไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย ในตอนที่อาวุธได้พังลงมันจะกลายเป็นบางอย่างที่เหมือนกับของเหลวและหายไปในหมอก ยังไงก็ตามอาวุธของดอร์ตูก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันฉันเอาไว้ด้วยการหมุนรอบตัวฉัน อาวุธพวกนี้ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปโจมตีลิลิธอีกครั้งเลย

มันดูเหมือนว่าลิลิธจะรู้ได้ถึงบางอย่างเมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวของอาวุธ

[โอ้ พลังนั่นมันคือของคุณหีอ? หรือว่า... จะมีภูติธาตุตนอื่นที่ฉันไม่รู้ล่ะ?]

"เธอล่อลวงวัตถุได้ยังไงกัน?"

ฉันอดที่จะถามออกไปไม่ได้ ฉันรู้ดีว่าในตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแต่ว่านี่มันน่าตกใจมาก ไม่ว่าเสน่ห์ของเธอจะมากแค่ไหนมันก็น่าจะส่งผลแค่กับคนอื่นๆสิ มันน่าจะได้ผลกับแค่สิ่งมีชิวิตสิ

แต่แล้วลิลิธได้ล่อลวงอาวุธที่ซึ่งมีเป้าหมายแค่ฆ่าศัตรูของมันเท่านั้น ฉันเข้าใจในพลังของเธอไม่ได้เลยซักนิด

[ที่รัก คุณรู้ไหมว่าชื่อของฉันมันหมายถึงอะไร?]

"ชื่อของเธอ?"

บนโลกลิลิธคือภรรยาคนแรกของอดัมที่เป็นผู้ปฏิเสธแม้แต่เทพเจ้าและเข้าไปมีความสัมพันธ์กับปีศาจ

มันไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ว่าเรื่องราวมันก็ยิ่งเปลื่ยนแปลงไปเมื่อนานปีเข้า ในตอนนี้ลิลิธเป็นที่รู้ด้วยกันว่าคือปีศาจที่คล้ายกับซัคคิวบัส

ลิลิธได้พูดออกมา

[หุหุ ลิลิธหมายถึงผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลก]

"นั่นมันคือในโลกของเธอ"

[ใช่แล้วนี่มันอยู่ในโลกของฉัน ลิลิธมันไม่ใช่ชื่อแต่เป็นฉายา ฉายาที่มีเกียรติที่จะมอบให้กับหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโลก]

เธอได้ยื่นมือมาให้ฉันด้วยรอยยิ้มหวาน

[ฉันเป็นคนที่สวยงามและมีเสน่ห์มากที่สุดในโลกโลกอีเนซิส คุณรู้ไหมว่าคำว่า 'ที่สุด' มันหมายถึงอะไรในหมู่ของปีศาจ?]

"มันดูเหมือนฉันรู้หรอ?"

[หุหุ คุณนี่ตลกจริงๆ]

ฉันได้ตอบกลับไปอย้่างห้วนๆและถามกับดอร์ตูถึงจำนวนของอุปกรณ์ที่ดอร์ตูสามารถจะควบคุมป้องกันจากผลของเธอได้

ดอร์ตูได้ตอบกลับมา

[ข้าดอร์ตู ระหว่างเกราะกับหอกของนายท่าน จะต้องมีหนึ่งอย่างที่ทิ้งไว้]

ฉันได้เปลื่ยนเกราะของฉันกลับไปในรูปแบบกำไลในทันที เมื่อเห็นจู่ๆฉันเปลื่ยนเสื้อไปเหลือแต่เสื้อข้างในทันให้รอยยิ้มของลิลิธกว้างขึ้นมา

[ตอนนี้มันดูดีมาก คุณเปลื่ยนใจแล้วหรอ? เยี่ยมเลย มานี่สิ พวกเราไม่จำเป็นต้องสู้กันหรอก เรามาทำสิ่งที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ดีกว่า เก็บหอกลงไปด้วยสิ หุหุ... คุณมีอาวุธอันอื่นที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว]

"ขอร้องล่ะ เธอก็น่าจะรู้ว่าทำไมฉันถึงถอดเกราะออกไปนี่"

ฉันได้บ่นขึ้นและดึงพลังเทพสายฟ้าเข้ามาในหอกโกลาหล ไพก้าได้ฮัมเพลงขึ้นอย่างยินดีและเพิ่มพลังของมันขึ้นไปสายฟ้าได้ผสานเข้าไปด้วยกันส่งประกายสายฟ้าออกมา

[หุหุ คุณพูดแบบนั้นสินะแต่ว่าในท้ายที่สุดคุณก็จะหนีไปจากเสน่ห์ของฉันไม่ได้ ฉันลิลิธ ฉันมีพลังในการล่อลวงทุกๆสิ่งในโลก ทุกๆสิ่ง... ยกเว้นผู้หญิงไม่กี่คนเท่านั้น]

"ฮีโร่ที่เอาชนะเธอ..."

[ใช่แล้ว ฮีโร่ที่เป็นผู้หญิง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเธอ เธอก็ยังลังเลที่จะฆ่าฉันและในท้ายที่สุดฉันก็ถูกจับและมาจบลงที่นี่]

"อะไรของเจ้าฮีโร่งี่เง่านั่น"

[คุณพูดถูก แต่ว่าเธอพยายามที่สุดแล้ว บางทีนักรบคนอื่นๆทั้งหมดอาจจะส่งความกล้าทั้งหมดมาให้เธอแล้วก็ได้เพราะว่านอกไปจากเธอแล้วไม่มีใครที่จะทำอะไรฉันได้เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบเพศชาย]

ลิลิธได้เริ่มบ่นออกมา เธอได้เอื้อมมือเข้ามาหาฉันและพูดขึ้น

[คนที่พยายามจะฆ่าฉัน... ในตอนที่มือของฉันสัมผัสพวกเขา...]

มือของเธอที่นุ่มนวลได้ผ่านอากาศออกมา มันดูเหมือนกับว่าเธอกำลังลูบหน้าของฉัน การเคลื่อนไหวที่ทรงเสน่ห์นี้มันดูเหมือนว่าต้องการที่จะทำให้ฉันเป็นของเธอ

[พวกนั้นต่างยินดีที่จะมอบชีวิตให้กับฉัน อ๊าาา พวกนั่นน่าเบื่อ น่าเบื่อมากจริงๆ]

"แต่ว่าไม่ใช่พวกนั้นฆ่าซัคคิวบิและอินคิวบิที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเธอหรอกหรอ?"

[หุหุ นั่นมันก็เป็นเพราะว่าฉันต้องรอนานมากกว่าที่เส้นทางการบุกรุกไปจะเปิดกว้างพอ แต่ว่าคุณรู้เรื่องนี้... โอ้ บางทีคุณน่าจะมีราชินีซัคคิวบัสอยู่กับคุณสินะ?]

หัวใจของฉันได้เต้นรัวขึ้น ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะอ่านฉันออกมาขนาดนั้น แต่ว่าบางทีนี่มันอาจจะเป็นการแกล้งก็ได้ ท่าทางของลิลิธได้เปลื่ยนไปกลายเป็นรุนแรงขึ้น นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นใบหน้าของเธอเป็นแบบนี้นับตั้งแต่ที่เจอเธอ

[คุณมีเจ้าเลวทรามอยู่กับคุณที่มีนมีผมสีชมพูอยู่ด้วยสินะ นี่มันใช่เลย ในตอนที่ฉันพ่ายและติดกับอยู่ที่นี่มาหลายปีเธอคนนั้นได้เจอเจ้านายใหม่ของตัวเองและไปที่โลกอื่นสินะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!]

ลิลิธได้หัวเราะออกมาดังๆ เสียงหัวเราะของเธอได้เต็มไปด้วยความโกรธ ไม่นานหลังจากที่เธอได้เริ่มหัวเราะจู่ๆเธอก็หยุดลงและมองตรงมาทางฉันและพูดขึ้น

[ลูกรักอยู่กับฉัน ตัดพันธะสัญญากับเธอ และมาอยู่กับฉันตลอดไปเถอะ ที่นี่มันจะไม่มีใครมารบกวนเราได้]

เธอได้พูดต่อไป ดวงตาของเธอได้ส่องแสงออกมาเหมือนกับอัญมณีล่อลวงตัวฉัน

[ฉันจะให้ทุกๆอย่างกับคุณนอกเหนือไปจากอิสระ คุณรู้ไหวว่าร่างกายของผู้หญิงจะมอบความยินดีอะไรให้กับคุณได้บ้าง? ถ้าหากคุณกอดฉันจะไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะทำให้คุณพอใจได้อีก อาหาร? นี่ ฉันไม่ได้ต่างไปจากพระเจ้าที่สรรสร้างเลย สิ่งที่คุณต้องการจะกิน สิ่งที่คุณต้องการจะดื่ม ฉันสามารถจะทำมันได้ทั้งหมด การต่อสู้หรอ? ศัตรูของโลกหรอ? มันไม่มีอะไรที่สำคัญแล้ว ฉันจริงจังนะ]

กลิ่นของเธอได้รุนแรงมากขึ้น ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอยังไม่ได้ถึงจีดจัดกัด พลังในการล่อลวงของเธอที่ฉันเชื่อว่าฉันป้องกันได้ได้กลายมาเป็นแข็งแกร่งมากกว่าเดิม นี่มันไม่ต้องสงสัยเลย นี่มันคือเธอจริงๆ ลิลิธจริงๆ

[มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขแล้ว อยู่กับฉันสิ ฉันสามารถจะให้ความสุขที่เทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆไม่ได้เลย]

"ที่นี่ กับเธอตลอดไปงั้นหรอ...?"

[ใช่แล้ว อยู่กับฉันตลอดไป]

คำพูดของเธอทำให้ฉันหวั่นไหว เธอไม่ได้มีพลังในการต่อสู้ที่เหนือขีดสุดหรือพลังเวทย์ที่ไม่สิ้นสุด ทั้งหมดที่เธอมีเลยก็คือเสน่ห์ที่น่าสะพรึงกลัว ด้วยพลังเสน่ห์นี้ของเธอ เธอสามารถจะล่อลวงวัตถุที่ไม่มีชีวิตและสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้

บ้ามาก บ้าเกินไปแล้ว! เชอริฟิน่า... เธอคิดอะไรกันถึงได้มาวางกับดักไว้ในบียอนชั้นที่ 35 นี้!? ระดับของเธอคนนี้แตกต่างไปอย่างนรกสีชาดอย่างสิ้นเชิง นรกสีชาดสามารถต้านทานฉันทางกายภาพได้ แต่ว่าลิลิธ

[ติดคริติคอล]

[กรี๊ดดดดดดดดดดด!]

เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวได้ดังไปทั่วทั้งพระราชวังนี้ ในเวลาเดียวกันเก้าอี้โซ่ที่ลิลิธนั่งอยู่ก็ได้พังลงมาในที่สุดจากการที่เพลิงโกลาหลเผาไหม้และเก้าอี้ก็ได้ตกลงมาบนพื้น

ลิลิธได้ร้องออกมาพร้อมกับเอามือกุมหน้าของเธอในขณะที่ตกลงมาบนพื้นอย่างทำอะไรไม่ได้ ฉันได้ปาหอกเข้าไปใส่เธอทันที แต่ว่าน่าทึ่งที่โซ่บนเก้าอี้ได้เข้ามมาป้องกันหอกของฉันไว้

สำหรับโซ่เฉยๆนี้มันทนทานอย่างมาก มันได้หยุดการโจมตีของฉันเอาไว้และป้องกันฉันไม่ให้ทำร้ายลิลิธได้ จริงๆแล้วส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะฉันใช้พลังเต็มที่ไม่ได้ด้วยเช่นกันเนื่องจากฉันมีปัญหาในการเคลื่อนไหว

[ได้ยังไง... ได้ยังไงกัน...!]

ลิลิธได้ฝืนลุกขึ้นมา ใบหน้าของเธอได้ปกคลุมได้ด้วยเลือด มือข้างหนึ่งของเธอได้ปิดหน้าไว้ส่วนหนึ่งและฉันก็รู้ดีว่าทำไม

"นรกสีชาดสามารถจะป้องกันการโจมตีทางกายภาพของฉันได้..."

ฉันแทบจะหยุดการสั่นจากเสน่ห์ของเธอและเรียกหอกที่ปาใส่หน้าของเธอกลับมา ในท้ายที่สุดแล้วคมหอกก็บาดดึงดวงตา

"แต่ถึงมันจะลดลงไปแล้วแต่เสน่ห์ของเธอก็ยังมากจริงๆ"

ฉันได้ดึงตาของเธอออกมาและบีบมันทิ้ง ดวงตาอัญมณีได้ระเบิดขึ้นและพลังของมันก็เริ่มไหลเข้ามาในตัวฉัน

[คุณ... ได้ยังไงกัน คุณเป็นผู้ชายนะ! คุณเป็นผู้ชาย!]

"อืมม ในตอนนี้เธอก็เหลือตาเดียวแล้วสินะ เธอที่เหลือครึ่งเดียวไม่ได้แย่นะ"

ฉันได้ยิ้มหวานขึ้นมา เป็นเพราะการที่ฉันได้ขโมยพลังเสน่ห์มาจากเธอบางส่วนทำให้ลิลิธไม่ได้ดูน่ากลัวและน่ารักอีกต่อไปแล้ว

จริงๆเมื่อมองไปที่ลิลิธพลังเวทย์ที่รั่วไหลออกมาก็ทำให้จิตวิญญษณการต่อสู้ของฉันพุ่งทะยานขึ้นไป

[ถ้าหากว่าคุณต้องการแบบนี้ ฉันจะฆ่าคุณ...! ฉันจะฆ่าคุณและลบผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วยเหมือนกัน!]

"ไม่ใช่ว่าฉันบอกแต่แรกแล้วหรอกหรอ? มาสู้กัน"

ฉันได้ตอบกลับไปสั้นๆ ลิลิธได้ดึงพลังของเธอขึ้นมาและกระจายพลังเวทย์ของเธอไปทั่วทั้งพระราชวังและรูปปั้นทองคำที่ดูเหมือนของตกแต่งก็ได้เริ่มเคลื่อนไหว เสน่ห์ในระดับเทพของเธอส่งผลได้แม้แต่วัตถุที่ไม่มีชีวิต รูปปั้นทองคำเหล่านี้เหมือนกับเป็นทหารที่ภักดีของเธอ

"เยี่ยม ตอนนี้มาสู้กันให้สนุกเลย"

ตัวฉันที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากชุดชั้นใน ฉันได้ถือหอกขึ้นและยิ้มอย่างมันใจ

จากนั้นฉันก็พุ่งออกไปด้านหน้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด