ตอนที่ 19 : ภูตผีบนหลังหมาป่า
เวลาประมาณสองทุ่ม เฉินซีหยูเริ่มจัดระเบียบของกองทัพของเขาในห้องพูดคุยของกิลด์ เพียงแค่ไม่นานก็มีผู้เล่นกว่า 200 คนอยู่ในระดับเลเวล 15 หรือสูงกว่า ที่มารวมตัวกันที่คฤหาสน์แห่งความตาย
“เคลื่อนพล!”
กองทัพกว่า 200 ชีวิตมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้วยคำสั่งของเฉินซีหยู
เขตหลิวลี่ทางทิศตะวันออกไม่ไกลมากจากคฤหาสน์แห่งความตาย นอกจากนี้ ด้วยสมรรถนะทางร่างกายของเกมเมอร์ที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้การเดินทางมันเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาปะทะเข้ากับเหล่าวิญญาณพเนจรหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆระหว่างทาง พวกเขาก็โค่นพวกมันลงได้อย่างง่ายดาย กองทัพเคลื่อนพลต่อไปอย่างขยันขันแข็งด้วยความคิดเพียงหนึ่งเดียวในหัวของพวกเขา นั่นก็คือการสังหารผู้นำแห่งภูตผีชานาให้สิ้นลง
จากแผนที่ เหล่าผู้เล่นของกิลด์เกรทดราก้อนใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่เขตแดนระหว่างเขตหลิวลี่กับคฤหาสน์แห่งความตาย
เมื่อย่ำเท้าเข้าสู่ดินแดนหลินลี่ เหล่าเกมเมอร์ก็ต้องตกตะลึงไปด้วยสีของท้องฟ้าที่ดูสว่างสดใส เมื่อครู่นี้ท้องฟ้านั้นยังดูเป็นสีเลือดอยู่เลย แต่ตอนนี้มันหายไปหมดสิ้น ก้อนหินบนพื้นที่มีสีสันหลากหลาย อีกทั้งในอากาศรอบๆที่มีจุดสีขาวเล็กๆเหมือนเกล็ดหิมะลอยอยู่เต็มไปหมด ภาพที่เห็นมันแตกต่างจากคฤหาสน์แห่งความตายอย่างสิ้นเชิง
ในระหว่างที่ตื่นตาตื่นใจกับความแตกต่างของทิวทัศน์นั้น เกมเมอร์ทั้งหลายก็เริ่มตื่นตัว
พวกเขารู้ดีว่าที่นี่มันคือฐานที่มั่นของชานา ผู้นำแห่งภูตผี แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันถึง 200 กว่าคน แต่พวกเขาก็เตรียมใจตายไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะออกเดินทางมาสำรวจพื้นที่นี้แล้ว ยิ่งกว่านั้น ลู่โม่เองก็ได้เตือนพวกเขาเอาไว้แล้วเกี่ยวกับกองทัพภูตผีที่แข็งแกร่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของชานา
“ระวังตัวกันด้วย เตือนกันถ้ามันมีอะไรที่ผิดปกติเกินขึ้น!”
กองทัพเดินหน้าต่อไปในขณะที่เฉินซีหยูโบกมือ
ในระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นได้สังเกตเห็นว่าภูตผีที่อยู่ในเขตหลินลี่ทั้งหมดนั้นอยู่ในรูปแบบของสัตว์ ไม่ใช่มนุษย์ พวกมันนั้นดุร้าย เหล่าผู้เล่นได้ปะทะกับกลุ่มของหมาป่าไปหลายกลุ่มระหว่างทาง และมันก็ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการกำจัดพวกมัน
การเดินทางหลายกิโล พวกเขาต้องเดินขึ้นทางลาดชันและพวกเขายังถูกดึงดูดไปด้วยทัศนียภาพที่ดูสวยงาม ทันใดนั้นเฉินซีหยูก็เตือนให้ทุกคนก้มลง
สิ่งที่ได้เห็นด้านล่างของเนินที่ลาดชันนั้นคือค่ายโกสไรเดอร์
“ระวังด้วย อย่าให้ถูกจับได้ ค่ายนี้มันใหญ่มาก!” เฉินซีหยูเตือนคนอื่นๆในห้องพูดคุยกิลด์
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เล่นต่างๆก็โผล่หัวขึ้นมาเพื่อที่จะตรวจสอบสถานการณ์ของค่ายนี้
มีหมาป่าผีดิบจำนวนมากมายที่มีดวงตาเป็นไฟสีเขียวมรกตเดินไปมารอบพื้นที่ค่ายและทหารผีจำนวนหนึ่งที่ดูเร่งรีบเหมือนกำลังเคลื่อนย้ายอะไรบางอย่าง
“ประมาณ 2,000... ที่นี่น่าจะเป็นด่านหน้า พวกมันมีจำนวนมากเกินไป เราไม่รอดแน่ เปลี่ยนแผนการโจมตีกันเถอะ!”
การที่ได้เห็นกองทัพของภูตผีที่มีจำนวนมากขนาดนี้ แม้แต่เฉินซีหยูเองก็ยังแอบกลัวอยู่ลึกๆ เขาเองก็ได้ตรวจสอบเส้นทางที่จะใช้เดินทางใหม่ ในขณะนั้นหมาป่าผีดิบตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้พวกเขามากที่สุด จมูกของมันขยับ ดมไปบนอากาศ และสายตาไฟมรกตของมันก็จ้องมองมาที่เนินเขาที่ซึ่งเฉินซีหยูและพรรคพวกของเขาหลบซ่อนอยู่
“ฮู้ววว!:
เสียงหอนของหมาป่า ทำให้พวกทหารผีเงยหน้าขึ้นมาและมองตรงไปที่ๆเฉินซีหยูและพรรคพวกของเขาซึ่งกำลังตรวจสอบพื้นที่อยู่
“ไอ้หมาโง่ หอนหาปู่เอ็งหรือไง!”
เมื่อตำแหน่งของเขาถูกเปิดเผย หวังต้าหมางโมโหจัดจากพวกหมาป่าซอมบี้ที่น่ารำคาญ เขาจึงหยิบก้อนหินขึ้นมา ขว้างตรงไปที่หมาป่าตัวนั้น หินก้อนนั้นพุ่งตรงเข้าไปที่กลางใบหน้าของมันอย่างจัง
ด้วยความไม่พอใจ หวังต้าหมางกำลังจะหยิบก้อนหินอีกก้อนหนึ่งขึ้นมา แต่เฉินซีหยูก็หยุดเขาเอาไว้ “ต้าหมาง หยุดเลย พวกมันกำลังเข้ามาหาเรา เราต้องหนีแล้ว!”
หวังต้าหมางเหลือบตาไปดูและเห็นพวกทหารผีจำนวนหนึ่งได้กระโดดขึ้นบนหลังของหมาป่าเรียบร้อยแล้ว และกำลังรวมพล เห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันกำลังจะตามล่าพวกเขา
“พรรคพวก วิ่ง!” ด้วยคำสั่งของเฉินซีหยู เหล่าผู้เล่นก็หันหน้าและวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
เมื่อทหารผีในค่ายรวมตัวกัน พร้อมด้วยเสียงคำรามก้องจากผู้นำระดับสูงสุดของภูตผี พวกมันก็พุ่งตรงมาที่เฉินซีหยู่และพรรคพวกของเขา
ในเรื่องของความเร็วนั้น ทหารผีที่อยู่บนหลังของหมาป่าซอมบี้นั้นเร็วกว่าพวกผู้เล่นอย่างชัดเจน ฝุ่นลอยฟุ้งไปทั่วในอากาศ พวกมันตามพวกผู้เล่นทันแล้ว
แสงที่ส่องประกายออกมาด้วยความกระหายเลือดพวกนั้น ในมุมมองของเหล่าภูตผีนั้น พวกเราต้องการเพียงสังหารหมู่
“บ้าเอ๊ย! ฉันจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว เรามาสู้กับไอ้พวกทรยศพวกนี้ให้ตายกันไปข้างนึงดีกว่า!” ในขณะนั้น หวังต้าหมางตะโกนขึ้นมาด้วยความโมโห เขาหันหลังกลับไปแล้วพุ่งไปที่พวกมัน
“ใช่ บุก!”
“บุก! มีอะไรต้องกลัว แค่สามชั่วโมงเราก็กลับมาได้แล้ว!”
เฉินซีหยูรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถหนีพวกหมาป่าได้ทัน เขาจึงหันหน้ากลับไปทางกองทัพผีด้วยใบหน้าที่ดุดัน “ฆ่ามัน!”
เมื่อเฉินซีหยูออกคำสั่ง เหล่าผู้เล่นก็หยุดวิ่งหนีโดยพร้อมเพรียงกัน พวกเขาหันหน้ากลับไปทางกองทัพผี
“บุก!”
“ฆ่ามัน!”
กองทัพผีช็อกจากการกลับมาสู้ของเหล่าผู้เล่น ดูเหมือนพวกมันจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้เล่นถึงไม่วิ่งหนีไป หรือพวกเขาจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกต่อไปแล้ว?
‘เสียงดังกึกก้อง’
เหล่าผู้เล่นเข้าปะทะกับกองทัพผีซึ่งๆหน้า ทหารและม้าล้มลงในทันที ทุกๆสิ่งมันโกลาหลไปหมด
การต่อสู้บางลงในทันที พวกเขาคือผู้เล่นที่มีระดับมากกว่า 10 นั่นจึงทำให้การต่อสู้กับพวกกองทัพผีนั้นดูจะมีความหวังอยู่บ้าง แต่ด้วยจำนวนที่เสียเปรียบ ผู้เล่นจำนวนมากถูกสังหารลงท่ามกลางความวุ่นวาย
แต่ถึงอย่างไร ความบ้าบิ่นของผู้เล่นก็ทำให้พวกผีต้องตกตะลึง พวกมันไม่สามารถเข้าใจความบ้าคลั่งของสิ่งมีชีวิตได้ รูปแบบการต่อสู้ที่ไม่กลัวตาย พวกเขาไม่สนใจที่จะป้องกันเลยแม้แต่น้อย กลับกัน พวกเขาเอาแต่บุกเข้าโจมตีโดยไม่คิดชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สายตาของเฉินซีหยูเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการที่ได้เห็นพวกพ้องล้มตายไปเรื่อยๆ เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปทางผีที่ขี่หมาป่า ด้วยก้าวเพียงก้าวเดียว เขาตัดกะโหลกของทหารผีบนหลังหมาป่าลงด้วยดาบใหญ่ของเขา
.....
ไม่ไกลจากการต่อสู้ เย่เสี่ยวเอ้อจ้องมองมาที่ความโกลาหลด้วยคำถามในดวงตาของเธอ “ที่นั่นมันเกิดอะไรขึ้น?”
“พี่เสี่ยวเอ้อ ดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น!”
เย่เสี่ยวเอ้ออยากรู้ทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ด้วยการกวัดแกว่งแขน กองทัพของเธอก็ก้าวไปข้างหน้า
เมื่อพวกเขามองเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าใครกำลังต่อสู้กัน การแสดงออกของเย่เสี่ยวเอ้อก็เข้มข้นขึ้น
“พี่เสี่ยวเอ้อ นั่นมันคือการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นกับกองทัพผี พวกเราต้องเข้าไปช่วย!”
“พี่น้อง บุกเข้าไปและฆ่าพวกที่ทรยศต่อเป่ยฉีให้หมด!”
กองทัพหลายร้อยคนของเย่เสี่ยวเอ้อบุกตรงเข้ามาในการต่อสู้
“หัวหน้า เรามีกำลังเสริม!”
เฉินซีหยูหันไปมองรอบๆเมื่อได้ยินข่าวนั้น เขาเห็นการบุกเข้ามาของเย่เสี่ยวเอ้อและกองทัพของเธอได้ในทันที
“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ!” เฉินซีหยูตะโกนขึ้นมาในขณะที่กำลังสับดาบลงบนล่างของทหารผีที่นอนอยู่บนพื้น
“ด้วยความยินดี!” เย่เสี่ยวเอ้อตอบกลับคำพูดของเฉินซีหยูในขณะกำลังมุงหน้าตรงไปที่ค่ายโกสไรเดอร์
กองกำลังเสริมของกองทัพจำนวนนับร้อยนายช่วยลดความกดดันของฝ่ายกิลด์เกรทดราก้อนลง แต่พละกำลังของกองทัพผีนั้นมันสูงมากจริงๆ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ยังเสียเปรียบ
เมื่อพวกเขาถูกต้อนจนจนมุม กองทัพอีกทัพหนึ่งก็บุกเข้ามาจากทางด้านข้างและพุ่งเข้าปะทะกับกองทัพผีอย่างรุงแรง
“กองทัพแห่งการล้างแค้นมาช่วยแล้ว พรรคพวก ฆ่ามัน!” ตามมาด้วยเสียงตะโกนของหวู่กิวอี้ กองทัพทหารนับร้อยนายอีกกองทัพหนึ่งปรากฏขึ้นและเข้าร่วมการต่อสู้
การต่อสู้ของสี่เหล่าทัพทำให้เกิดเสียงที่ดังสนั่นขึ้นทันที
หวู่กิวอี้ ชายผู้ที่อยู่ท่ามกลางการต่อสู้ บังเอิญไปชนเข้ากับเย่เสี่ยวเอ้อที่กำลังสังหารพวกทหารผีอยู่
“ฆ่าพวกฆัตรูก่อน แล้วเราค่อยมาตัดสินการล้างแค้นกันทีหลัง!” หวู่กิวอี้พูดขึ้นมา
“ได้เลย!” เย่เสี่ยวเอ้อตอบกลับอย่างเยือกเย็น