ตอนที่ 39 : ตระกูลอู่ที่แน่นขนัด (I)
ตอนที่ 39 : ตระกูลอู่ที่แน่นขนัด (I)
" ขาดทุน!" อู่เฉินลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ไม่ใช่พวกนั้น แต่เป็นท่านต่างหากที่ขาดทุน!" เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า "เคล็ดวิชาที่เป็นที่นิยมในตลาด ราคาของมันก็ยิ่งแพง เพราะมีผู้บ่มเพาะเป็นจำนวนมากอยากจะฝึกฝนมัน เมื่ออุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ราคาของมันจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เคล็ดวิชาดรรชนีและเคล็ดวิชาประเภทอาวุธเย็นนั้น ไม่ได้รวมอยู่ในสินค้าที่เป็นที่นิยม เนื่องจากเคล็ดวิชาดรรชนีมีเงื่อนไขอยู่ที่ความเหนียวของเส้นชีพจร ทำให้มีผู้บ่มเพาะไม่มากที่ฝึกฝนมัน สำหรับนักสู้ส่วนใหญ่แล้ว มันก็คือซี่โครงไก่ที่ไร้รสชาติ เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูง ถึงแม้จะเป็น 'ระดับธรรดาขั้นสูง' แต่ก็ยังไร้ค่าในสายตาของพวกนักสู้อยู่ดี" สุดท้าย อู่เฉินก็สรุปสั้นๆว่า "สำหรับข้าแล้ว ยาขั้นที่ 1 หนึ่งเม็ด สามารถแลกเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงได้ 3-5 เล่ม หรืออาจจะมากกว่านั้น! ที่สำคัญที่สุดคือ ยาทั้งหมดที่เจ้าสำนักทำขึ้นมานั้นมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ราคาของมันจึงสูงกว่าเม็ดยาที่วางขายอยู่ตามตลาดหลายเท่า ถ้าหากนำมันมาใช้แลกกับเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูง เกรงว่าจะเป็นการเสียของ!" ในใจของเขาคิดว่าจางหยูคงไม่รู้ว่ามันไม่คุ้ม! "ขาดทุนรึ ? ข้าไม่คิดแบบนั้นนะ" จางหยูยิ้มน้อยๆออกมา ไม่มีใครรู้ว่าการปรุงยาสำหรับเขานั้นมันทำขึ้นมาได้ง่ายมาก ยกเว้นแค่ อู่โม่ สิ่งที่ได้มาง่ายๆ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะมองไม่เห็นค่าของมัน "ขาดทุนก็ขาดทุนไปสิ เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงหนึ่งเล่ม แลกกับยา 1 เม็ด เอาแบบนี้แหละ !" สำหรับจางหยูแล้ว เขายอมแลกยาหนึ่งร้อยเม็ดกับเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงหนึ่งร้อยเล่ม ขณะเดียวกัน สำหรับตระกูลและสำนักต่างๆแล้ว การแลกเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงหนึ่งร้อยเล่มกับยาหนึ่งร้อยเม็ด นับว่าเป็นราคาที่ถูกมาก มีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า ใครกันแน่ที่ได้กำไรและใครกันแน่ที่ขาดทุน อู่เฉินอ้าปากค้างและเงียบไป "เรื่องนี้ หลังจากที่เจ้ากลับไปแล้วก็ให้ลงมือได้ทันที" จางหยูโบกมือ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่อ แต่สักพักเขาก็นึกอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ "โอ้ ใช่แล้ว ถ้าเจ้ายังมีเวลา งั้นก็ช่วยข้าหาสมุนไพรให้ด้วยสิ" ระหว่างที่พูดนั้น จางหยูก็เดินเข้าไปที่ห้องเรียนและหยิบปากกาขึ้นมาจดรายชื่อสมุนไพรลงบนกระดาษ ก่อนจะส่งให้กับอู่เฉิน "นี่คือรายชื่อ เจ้าเอากลับไปดูแล้วค่อยหาซื้อมันมา" สมุนไพรเหล่านี้มีไว้ทำยาขั้น 2 และราคาของมันก็แพงเป็นอย่างมาก แต่สำหรับตระกูลอู่ที่ร่ำรวยแล้ว มันก็แค่เงินจำนวนน้อยนิด ไม่ต่างอะไรกับขนเส้นเดียวบนวัวเก้าตัว อู่เฉินมองรับกระดาษมา แล้วตอบกลับอย่างเคารพ "ข้าจะรีบจัดการให้ขอรับ" "ดีมาก เรื่องพวกนี้เจ้าก็ไปจัดการให้เรียบร้อยซะ ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว" จางหยูมองไปที่อู่โม่ที่กำลังปรุงยาอยู่ด้านหลังด้วยความตั้งใจ แล้วหันกลับมาพูดกับอู่เฉินอีกรอบ "เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็กลับไปได้" หลังจากที่เงียบไปสักพัก อู่เฉินก็หันกลับและเตรียมที่จะเดินออกไป แต่ก่อนที่จะก้าวออกไปนั้น อู่เฉินก็ชะงักเล็กน้อย แล้วถามอย่างสงสัยว่า "ท่านต้องการแลกแค่เคล็ดวิชาดรรชนีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ? แล้วเคล็ดวิชาอื่นๆล่ะ?" ตระกูลอู่อาจจะไม่มีเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงให้แลก แต่ก็ยังมีเคล็ดวิชาอื่นอยู่ ถ้าหากสามารถแลกได้ เขาจะรีบกลับไปที่จวนแล้วคัดลอกมันออกมาเพื่อแลกกับยาทั้งหมด "เคล็ดวิชาอื่นเหรอ?" จางหยูครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะส่ายหน้า "ไม่จำเป็น เคล็ดวิชาอื่น หากมีโอกาสข้าจะแลกเปลี่ยนมันในภายหลัง แต่ครั้งนี้ ข้าอยากแลกเปลี่ยนแค่เคล็ดวิชาดรรชนีก่อน" อู่เฉินผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรโอกาสอื่นยังมี! ในเมื่อจางหยูพูดแบบนี้ แสดงว่าเขายังมีโอกาสอยู่! อู่เฉินพยักหน้าอย่างจนใจ จากงนั้นก็ถือถุงผ้าเดินออกจากสำนักไป หลังจากที่อู่เฉินกลับไปแล้ว จางหยูก็หยิบถุงผ้าอีกอันออกมาจากแขนเสื้อ แล้วหัวเราะออกมา "ถึงแม้ว่าสำนักคังเฉียงของข้าจะไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยข้าก็ไม่ขาดแคลนถุงผ้า" ถุงผ้าพวกนี้ กลายเป็นที่ใส่ขนมขบเคี้ยวของเขา แม้ว่าจะมีของที่ดีกว่าถุงผ้ามากมาย แต่มันก็ไม่สะดวกเท่าถุงผ้า แถมยังพกพาได้ง่ายอีกด้วย....ในตอนบ่าย หลังจากที่อู่เฉินทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบจัดการธุระของจางหยูทันที อย่างแรกเขาได้ส่งคนไปเชิญผู้นำตระกูลหลิน, ตระกูลเหมา, ตระกูลเหยา และผู้นำตระกูลอื่นๆมา คำเชิญของเขา ผู้นำตระกูลเหล่านั้นย่อมไม่กล้าปฏิเสธ เรียกได้ว่าแทบจะวิ่งมาที่จวนตระกูลอู่ทันที เดิมที หลินจ้าน ผู้นำตระกูลหลินก็คิดว่าอู่เฉินคงเรียกเขามาแค่คนเดียว แต่เมื่อมาถึง เขากลับพบว่ามีคนมากกว่า 10 คนกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง แต่ละคนล้วนมีฐานะเท่าเทียมกับตน ในหมู่ 10 กว่าคนนี้ มีไม่กี่คนที่ไม่ค่อยได้ออกมาพบปะกับผู้คน อย่างผู้นำตระกูลเติ้ง, ผู้นำตระกูลสวี่และผู้นำตระกูลฮั้ว "พี่เหมา พี่เหยา ท่านรู้มั้ยว่าทำไมผู้นำตระกูลอู่ถึงได้เชิญพวกเรามา?" หลินจ้านที่เพิ่งนั่งลง ก็อดถามเพื่อนรุ่นเดียวกันทั้งสองคนไม่ได้ ทั้งสองคนนี้ก็คือ เหมายี่ ผู้นำตระกูลตระกูลเหมา และเหยาหยงฉ๋ายผู้นำตระกูลเหยา เมื่อได้ยินคำถามนั้น เหมายี่ก็ส่ายหน้า "ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าก็นึกว่าเจ้าจะรู้ซะอีก?" "ใช่ ผู้นำตระกูลอู่ส่งคนไปเชิญข้า บอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะแจ้งให้พวกเราทราบ ทันทีที่ได้ข่าว ข้าก็รีบมาเลย" เหยาหยงฉ๋ายส่ายหน้าและยิ้มแห้งๆออกมา ยังไงซะ ผู้นำตระกูลอู่ก็เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองทะเลทราย หากเขาบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ มันจะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่ อีกด้านของห้องโถง เติ้งเป่ยเซียว ผู้นำตระกูลเติ้ง, สวี่หยาง ผู้นำตระกูลสวี่ และ ฮั้วคุน ผู้นำตระกูลฮั้วก็นั่งอยู่ด้วยกัน เติ้งเป่ยเซียวคิ้วขมวดเล็กน้อยและกระซิบขึ้นมาว่า "เจ้ารู้รึไม่ว่าทำไมผู้นำตระกูลอู่ ถึงได้เรียกพวกเรามา?" สวี่หยางและฮั้วคุนส่ายหน้า "ผู้นำตระกูลชั้น 2 อย่างพวกเราและชั้น 3 เกือบจะทั้งหมด ล้วนมาที่นี่" ใบหน้าของเติ้งเป่ยเซียวดูเคร่งขรึมขึ้นมา "เห็นได้ชัดว่าผู้นำตระกูลอู่มีเรื่องสำคัญจะแจ้ง ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกคนมาเยอะแบบนี้หรอก" เมื่อพูดจบ ทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเติ้งเป่ยเซียว ก็มีสีหน้ากังวลขึ้นมา ยิ่งอู่เฉินทำตัวลึกลับมากเท่าไหร่ เรื่องนี้มันก็ดูใหญ่ขึ้นไปเท่านั้น และยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกกังวลมากขึ้น "ตอนนี้เดาไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อีกสักพักผู้นำตระกูลอู่ก็จะออกมาบอกเอง เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็จะรู้เองว่าเป็นเรื่องอะไรกัน" ผ่านไปสักพัก ฮั้วคุนก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น "ยังไงซะพวกเราก็มาที่นี่แล้ว และก็คงจะออกไปตอนนี้ไม่ได้ด้วยนิ?" เมื่อนึกถึงหน้าอู่เฉิน พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น ! ผ่านไปสักพัก หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันหมดแล้ว อู่เฉินก็ปรากฏตัวขึ้น ตอนที่พวกเขาเห็นอู่เฉิน ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนและทักทายขึ้นมาพร้อมกันว่า "ผู้นำตระกูลอู่!" "ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่งลงเถอะ" อู่เฉินโบกมือด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปที่ใจกลางห้อง และมองดูทุกคนที่นั่งอยู่รอบๆ จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างช้าๆว่า "ตอนนี้ทุกท่านอาจจะสงสัยว่า สิ่งที่เรียกว่าเรื่องสำคัญนั้น มันคืออะไรกันแน่สินะ" เมื่อได้ยินอู่เฉินพูดแบบนั้น ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง "ใช่แล้ว ผู้นำตระกูลอู่ทำไมท่านถึงได้เรียกผู้คนมาที่นี่มากมาย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" "ผู้นำตระกูลอู่ ท่านรีบบอกมาเถอะ พวกเราอยากรู้จะแย่แล้ว!" อู่เฉินมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างก็พากันสงสัยและวิตกกังวล ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและโบกมือขึ้นมาอีกครั้ง "นั่งลง นั่งลงก่อน ทุกท่านไม่ต้องกังวลไป ข้าจะบอกเดี๋ยวนี้แหละ" เมื่อได้ยินอู่เฉินพูดแบบนี้ ทุกคนก็เริ่มสงบสติอารมณ์ลง และนั่งลงกับที่ "ทุกคนไม่ต้องกังวล อันที่จริงแล้ว ที่ข้าเชิญทุกคนมาที่นี่ ก็เพราะมีข่าวดีที่อยากแจ้งให้พวกท่านทราบ" รอยยิ้มลึกลับปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของอู่เฉิน "ข้ารับปากว่ามันคือข่าวดีที่พวกเจ้าไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต !" เมื่อได้ยินว่าเป็นข่าวดี เติ้งเป่ยเซียว, สวี่หยาง, ฮั้วคุน และคนอื่นๆก็พากันโล่งใจขึ้นมา ตราบเท่าที่ไม่ใช่ข่าวร้ายทุกอย่างล้วนดีหมด แต่ถึงจะบอกว่าเป็นข่าวดี.....แต่พวกเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แล้วข่าวดีที่ว่ามันคืออะไรล่ะ มันจะคุ้มกับการที่อู่เฉินเชิญพวกเขามาหรือไม่? อย่าลืมนะว่าอู่เฉินเชิญผู้นำตระกูลแทบทุกคนในเมืองทะเลทรายมารวมตัวกันที่นี่ ท่ามกลางสายตาสงสัยของทุกคน อู่เฉินก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดขึ้นอย่างช้าๆว่า "ข่าวดีก็คือ...เคล็ดวิชาแลกยา !" เคล็ดวิชาแลกยา? ทุกคนในห้องต่างก็พากันนิ่งอึ้ง พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนี้เลย หรือบางทีอาจจะเข้าใจ แต่ไม่อยากจะเชื่อ "ผู้นำตระกูลอู่ ท่านช่วยอธิบายให้ละเอียดกว่านี้หน่อย" หลินจ้านตาเป็นประกายขึ้นมา ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก เขาแทบจะข่มความตื่นเต้นไว้ไม่ไหว แล้วโพล่งถามออกมา อู่เฉินยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า "ทุกท่านคงเคยได้ยินเรื่อง 'ยาฉีซวน' มาก่อนใช่ไหม? ตอนนี้พวกท่านมีโอกาสได้รับ 'ยาฉีซวน' แล้ว ตราบใดที่มีเคล็ดวิชาดรรชนีธรรมดาขั้นสูง แม้ว่าจะมีแค่หนึ่งเล่มก็สามารถแลกได้ หรือจะพูดสั้นๆว่าพวกเจ้ามีเท่าไหร่ ก็สามารถแลก 'ยาฉีซวน' ได้เท่านั้น ไม่สิ ไม่ใช่แค่ 'ยาฉีซวน' แต่ยังรวมไปถึงยาฟื้นฟูและยาปราณ ขอแค่พวกเจ้านำเคล็ดวิชาดรรชนีธรรมดาขั้นสูงมาแลก ก็สามารถแลกเป็นเม็ดยาเหล่านี้ได้" หลังจากที่พูดจบ อู่เฉินก็ยิ้มออกและมองไปรอบๆ ตอนนั้นเองทั่วทั้งห้องก็นิ่งเงียบไป ทุกคนต่างมองไปที่อู่เฉินด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าของพวกเขาแสดงความแปลกใจออกมา "เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงหนึ่งเล่ม สามารถแลกเม็ดยาได้หนึ่งเม็ด?" ทุกคนต่างก็พากันหายใจผิดจังหวะ ผ่านไปสักพัก ทุกคนก็เหมือนตื่นจากความฝัน ดวงตาของพวกเขาฉายแววตื่นเต้นขึ้นมา " จริงรึ ? มีเรื่องดีๆแบบนี้ในโลกด้วยรึ ?" "ผู้นำตระกูลอู่ ท่านไม่ได้ล้อพวกเราหรอกนะ? เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงหนึ่งเล่ม สามารถแลกเม็ดยาขั้นที่ 1 ได้หนึ่งเม็ดจริงหรือ?" "มันเป็นไปได้ด้วยรึที่จะแลกมันกับเม็ดยาได้? แถมยังสามารถแลกกับยฟื้นฟูและยาปราณได้อีกด้วย?" ตอนนั้นเอง แม้แต่เติ้งเป่ยเซียวที่มักจะใจเย็นก็ยังลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เขาสั่นไปทั่วทั้งตัว เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงแลกกับยาหนึ่งเม็ด ! นี่มันบ้ามาก ! ทุกคนต่างพากันคึกคักขึ้นมา ทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยราวกับเป็นตลาดสด เมื่อเห็นท่าทางคึกคักของทุกคน อู่เฉินก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เขาเข้าใจอารมณ์ของทุกคนดี เพราะตอนที่เขาได้ยินมันจากจางหยู สภาพของเขาก็ไม่ต่างจากทุกคนเท่าไหร่ "เงียบก่อน ทุกคนโปรดใจเย็นๆ" เมื่อเสียงในห้องเริ่มดังโหวกเหวกขึ้นเรื่อยๆ อู่เฉินก็ตบโต๊ะอย่างแรง และรอให้ทุกคนเงียบลง จึงกล่าวต่อไปว่า "เรื่องแบบนี้ ข้าไม่พูดเล่นออกมาหรอก หากทุกท่านไม่เชื่อ งั้นก็เชิญดูของพวกนี้...." พูดจบ อู่เฉินก็ปรบมือ เพื่อส่งสัญญาณให้สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกเข้ามา " เข้ามา !" เมื่อเห็นกลุ่มสาวใช้เดินถือถาดเข้ามาในห้องอย่างสง่างาม แต่ละคนถือถาดที่มีกล่องไม้วางซ้อนกันสูงนับ 20-30 กล่อง พวกนางทั้งสิบกว่าคนต่างยืนเรียงแถวอวดกล่องไม้ที่แน่นขนัด ฉับพลันพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่เล็ดรอดออกมาจากกล่องไม้ ตอนที่กลับมาที่จวน อู่เฉินก็สั่งให้คนไปเตรียมกล่องไม้ดีๆ และนำยาเหล่านั้นไปจัดไว้ในกล่องไม้แต่ละใบ อู่เฉินรับไม่ได้กับการที่ต้องมาถือถุงยาเป็นร้อยเม็ดในถุงเดียวกัน นอกจากจางหยูแล้ว เกรงว่าทั่วทั้งทวีปป่าคงไม่มีใครทำแบบนี้! หลินจ้าน ผู้นำตระกูลหลินถึงกลับกลืนน้ำลาย และพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่นเทาว่า " ในกล่องพวกนั้น คงไม่ใช่ว่ามันมีเม็ดยาหรอกนะ?"